ต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 143 ณ ป้อมรักษาการณ์ชั้นนอก
ตอนที่ 143 ณ ป้อมรักษาการณ์ชั้นนอก
สามวันต่อมา
ณ ป้อมรักษาการณ์ชั้นนอกของอาณาเขตทางเหนือ
สำหรับป้อมที่ถูกเรียกว่าป้อมรักษาการณ์ชั้นนอกก็ตรงตามชื่อของมัน เพราะก่อนที่กองทัพที่บุกเข้ามาในเมืองหลวงของอาณาจักรไม่ว่าจะทางไหนก็ตามทั้งสี่ทิศทางจะมีป้อมป้องกันเอาไว้ เพื่อป้องกันเมืองหลวงเมื่อโดนบุก
แต่ก็โดนทางสหราชอาณาจักรบุกเข้ามาได้
ตัวป้อมจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ชั้น 1.ป้อมรักษาการณ์ชั้นนอก 2.ป้อมรักษาการณ์ชั้นกลาง 3.ป้อมรักษาการณ์ชั้นใน หลังจากที่สามารถทำลายป้อมทั้งสามเข้าไปได้ก็จะถึงเมืองหลวงของอาณาจักร
ตามจริงการที่จะอ้อมไปมันก็สามารถทำได้ แต่ถ้าอ้อมเส้นทางมันก็เต็มไปด้วยหุบเข้าและมอนเตอร์มากมาย ร่วมถึงการขนส่งเองก็ทำได้แบบยากลำบาก ด้วยเหตุผลแบบนี้การที่ทำลายป้อมรักษาการณ์และบุกเข้าไปมันเลยง่ายกว่ากันเยอะ
ในตอนนี้เอง
ไมล์ก็ได้เดินทางมาถึงที่ด้านหน้าของป้อมแล้วเช่นกัน โดยกำลังจอดรถไฟเอาไว้ที่ด้านหน้าป้อมรักษาการณ์ชั้นนอก และกำลังยืนมองป้อมอยู่ภายในห้องควบคุมรถไฟส่วนหน้าด้วยใบหน้ายิ้มอ่อนๆ
‘ไม่คิดเลยว่าจะเดินทางมาถึงที่ได้ภายในเวลาสามวันแบบนี้ ก็ไม่รู้หรอกนะว่าไคเซอร์มันทำยังไงถึงพวกทหารได้ยอมมาทำงานสร้างรางรถไฟด้วยท่าทางเต็มใจกันแบบนี้ แต่ก็ต้องยกความสำเร็จครั้งนี้ให้มันจริงๆ’
ไมล์ยืนคิดด้วยความรู้สึกชอบใจระหว่างที่มองป้อมด้านหน้าอยู่
เพราะหลังจากที่คุยกับไคเซอร์จบไมล์ก็เริ่มเดินทางออกมาจากป้อมดีแลนด์เลยทันที แล้วเพียงเวลาไม่ถึงวันทหารกว่า 800,000 คน ของไคเซอร์ก็เดินทางมาสมทบในการช่วยสร้างรางรถไฟจนสามารถสำเร็จได้อย่างที่เห็น และเดินทางมาถึงป้อมรักษาการณ์ชั้นนอกเร็วกว่ากำหนดเกือบอาทิตย์เพราะพวกทหารทำงานกับแบบ 24 ชั่วโมง โดยแบ่งตามเวลาพักของแต่ละคนเป็น 3 กะ
ทำให้ทุกคนทำงานวันละ 8 ชั่วโมง การทำงานแบบนี้เลยทำให้พวกทหารมีประสิทธิภาพในการทำงานแบบเต็มที่เพราะมีเวลาพัก โดระยะเวลาการทำงานไมล์เอามาจากร้านบางร้านที่เปิด 24 ชั่วโมง โดยยึดเวลาทำงานตามร้านที่ว่าเลยสามารถจัดเวลาและระบบให้กับพวกทหารได้อย่างรวดเร็ว
“ท่านไมล์ทูตเตรียมพร้อมออกไปเจรจาแล้วครับ!”
ดัสพูดขึ้นมาจากทางด้านหลังของไมล์
ซึ่งทูตที่กำลังพูดถึงก็เป็นเรื่องที่ไมล์สั่งเอาไว้เมื่อก่อนหน้าที่จะเดินทางมาถึง เพราะไม่ว่ายังไงการที่จะยึดป้อมรักษาการณ์ชั้นนอกมันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรถ้ามีพวกจอมเวทย์และทหารเอลฟ์ของไมล์อยู่
แต่ทว่า
ไมล์ก็เลือกที่จะทำการเจรจาด้วยเหตุผลแบบเดิมเหมือนกับทางป้อมดีแลนด์ที่สามารถเข้ายึดได้ เพราะถ้าทำลายป้อมเพื่อบุกเข้าไปมันก็ต้องกลับมาซ่อมต้องเสียทั้งเงินเสียทั้งเวลาเสียทั้งแรงงานอีก ด้วยแบบนี้การเจรจาเพื่อขอเข้าไปไมล์ก็เลยให้ความสำคัญกับมันมากกว่า
“ให้ทูตเดินทางไปเลยไหมครับ?”
ดัสถามต่อหลังจากที่ไมล์ยังเงียบอยู่ โดยการถามครั้งที่สองก็คิดในใจไปด้วยว่า ‘ท่านไมล์เป็นอะไรไปอีก ทำไมถึงได้ทำหน้าแบบนั้นเมื่อกี้ยังยิ้มอยู่เลย???’
ใบหน้าของไมล์ตอนนี้เต็มไปด้วยความหนักใจ เหมือนกับว่ากำลังคิดหรือตัดสินใจอะไรบางอย่างอยู่ ทางดัสที่เห็นก็เลยคิดด้วยความกังวลเหมือนเห็นท่าทางของไมล์ที่กำลังแสดงออกมา
จากนั้น
“อย่าพึ่งส่งไป”
ไมล์ก็เริ่มตอบ
“เอ่ะ”
ดัสที่ได้ยินไมล์พูดอุทานเพระความสงสัยทันที ‘อะไร??? เมื่อกี้ก็บอกให้เราไปเตรียมทูตเอาไว้แต่ครั้งนี้กลับมาบอกว่าอย่าพึ่งไป’
ดัสเริ่มมีความสงสัยมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้ถามอะไร
ส่วนทางไมล์ก็กำลังใช้สายตามองไปยังป้อมด้านหน้าอีกครั้ง พร้อมกับพรางคิดไปด้วยความสงสัย ‘ตามจริงก็อยากส่งทูตไปตอนนี้อยู่หรอก แต่ถ้ายังยืนยันพลังเวทย์รอบป้อมแบบที่เอลฟ์รายงานมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนไม่ได้มันอันตรายเกินไป’
ตอนนี้
ไมล์กำลังคิดถึงเรื่องก่อนหน้านี้ได้ไม่นาน เพราะหัวหน้าทหารเอลฟ์ที่อยู่ในการดูแลของไมล์พึ่งมาเข้าพบได้ไม่นาน แล้วก็บอกเอาไว้ว่า [รอบป้อมรักษาการณ์มีพลังเวทย์จำนวนมากเคลือบเอาไว้อยู่ เหมือนกับว่าทำหน้าที่คล้ายเกราะป้องกันของพวกเราเผ่าเอลฟ์ แต่นั่นไม่ใช่แบบของพวกเราแน่นอน] เพราะคำพูดที่ยังยืนยันอะไรไม่ได้ของเอลฟ์ที่พูดด้วย มันก็เลยทำให้ไมล์เกิดความลังเลกับสิ่งที่เคลือบป้อมเวลานี้อยู่
ผ่านไปไม่นาน
“ท่านไมล์ข้าขอเสียมารยาทหน่อยนะครับ ทำไมท่านถึงยังไม่ให้ทูตเดินทางเข้าไปละครับเพราะยังไงพวกเราก็ต้องรีบจะ-”
“สั่งหน่วยปืนใหญ่พลังเวทย์โจมตีพลังระดับต่ำสุดเข้าไป”
ระหว่างที่ดัสกำลังถามเพราะมีความสงสัยตั้งแต่เมื่อครู่ ไมล์ก็หันไปพูดกับทหารที่ยืนอยู่ตรงท่อสื่อสารด้วยน้ำเสียงตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ ทำให้ตอนนี้ภายในห้องควบคุมที่มีทหารนับสิบคนยืนอยู่แสดงสีหน้าแปลกใจออกมากัน
‘-ท่านไมล์เป็นอะไรไปเนี่ย ไหนบอกไม่อยากทำลาย???’
‘-คำสั่งแบบนี้มันอะไร แล้วจะให้เตรียมทูตเพื่ออะไร???’
‘-เกิดอะไรขึ้นกับท่านไมล์กัน ปกติไม่เคยโจมตีก่อนแท้ๆ???’
เหล่าทหารต่างก็เกิดความสงสัยขึ้นมาเพราะคำสั่งที่ผิดปกติของไมล์ที่พูดออกมาเมื่อครู่ เพราะโดยปกติแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่ไมล์จะเริ่มโจมตีก่อนแล้วการสั่งโจมตียังเป็นการโจมตีแบบยังไม่ได้เจรจาอะไรกับผู้ดูแลป้อมเลยด้วย
“เจ้ายืนนิ่งทำไมไม่ได้ยินที่สั่งหรือไง”
“คะ- ครับ”
ไมล์เสียงแข็งใส่ทหารสื่อสารที่ยืนแปลกใจ ตัวของทหารเมื่อโดนไมล์สั่งอีกรอบก็รีบเปิดท่อเพื่อเริ่มการติดต่อทันที
“ท่านไมล์นี่ท่านจะไม่เจรจากับพวกมันแล้วงั้นเหรอ???”
ดัสเริ่มถามพร้อมกับคิดในใจไปด้วย ‘ท่านไมล์เป็นอะไรไป หรือะเป็นเพราะเรื่องที่พวกเอลฟ์มันพูดกับเกี่ยวกับเวทย์ป้องกันกับป้อม… ไม่สิ! ถึงมันจะมีเวทย์ป้องกันก็เถอะ แต่พลังขึ้นต่ำสุดของปืนใหญ่พลังเวทย์กำแพงมันต้องพังแน่นอนนี่ท่านไมล์คิดอะไรอยู่กันแน่???’