ต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 140 ทุจริต
ตอนที่ 140 ทุจริต
ณ ป้อมดีแลนด์
ภายในโกดังสักแห่งในป้อมดีแลนด์
ขณะนี้ไมล์กำลังยืนตรวจวัตถุดิบและพวกอุปกรณ์การสร้างทางรถไฟภายในโกดังขนาดใหญ่ของป้อมดีแลนด์ และมีบิวครอกผู้ดูแลของที่นี้ที่รู้ทุกอย่างกำลังยืนปั้นยิ้มอยู่ด้านข้าง โดยในมือถือกระดาษเอาไว้หนึ่งแผน ตัวของโกดังก็เป็นเหมือนกับโกดังทั่วไปไม่มืดมากเพราะมีแสงสว่างจากครกไฟให้แสงสว่างอยู่ และมีผู้คนกำลังเดินขนของออกกันแบบไม่ขาดสาย
‘ไม่คิดเลยว่าแลนด์เนอร์มันจะสะสมเหล็กเอาไว้ขนาดนี้ แบบนี้มันเข้าทางของเราสุดๆ ไปเลยไม่ใช่หรือไง หึหึ!’ ไมล์ที่ยืนมองพวกคนงานกำลังขนของคิดด้วยความลูกรู้สึกชอบใจ เพราะหลังจากตรวจสอบก็พบว่าที่โกดังแห่งนี้มีเหล็กกว่าที่ไมล์มีอยู่สะอีก แล้วก็สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด ทั้งเรื่องสร้างรางรถไฟและสร้างอาวุธ มันก็เลยทำให้ไมล์รู้สึกชอบใจมากกับจำนวนเหล็กมหาศาลในโกดังตอนนี้
ที่มีเหล็กขนาดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
เพราะทางแลนด์เนอร์ต้องเตรียมตัวทำสงครามอย่างเรื่องการยึดอณาเขตทางเหนือเพื่อแยกตัวกับอาณาจักร การที่เตรียมตัวเอาไว้โดยมีเหล็กขนาดนี้มันเป็นเรื่องปกติในระยะเวลาที่สะสมมาหลายปี แต่ว่าตอนนี้มันกับกำลังสร้างประโยชน์ให้กับไมล์อย่างมากแทน
“ท่านบารอนข้าขอถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ” บิวครอกพูดขึ้นมา
“ถามอะไร”
“ข้าอยากถามเกี่ยวกับเรื่องของเหล็กพวกนี้นะครับท่านจะเอาพวกมันไปทำอะไรงั้นเหรอ” หลังถามออกมาบิวครองก็พรางคิดไปด้วย ‘ถ้ามันเอาเหล็กพวกนี้ออกไปหมดเมืองนี้จะทำยังไงต่อละ ชิ!’
“ข้าจะเอาไปสร้างทางรถไฟ”
“มะ… มันต้องใช้เยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ” บิวครอกถามออกมาทั้งๆ ที่ตัวของมันเองรู้คำตอบอยู่แล้ว เพราะอย่างที่รู้กันเกี่ยวกับรถไฟของไมล์มันเป็นของที่ต้องใช้งบประมาณในการสร้างอย่างมาก
แต่รถไฟมันก็เป็นแค่ช่วงต้น
เพราะสิ่งที่มันเปลืองจริงก็คือรางรถไฟต่างหาก โดยการจะสร้างรางรถไฟเป็นระยะทางยาวขนาด 1 กิโลเมตร เมื่อรวบค่าใช่จ่ายเรื่องของวัตถุดับทั้งหมดอย่างเรื่องของแรงงานหรือขั้นตอนการก่อสร้างทั้งหมดก็ต้องใช้เงินกว่า 100 เหรียญทอง ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่เยอะพอตัวสำหรับไมล์ เพราะกว่าจะเดินทางไปถึงเมืองหลวงก็เล่นหมดเงินไม่น้อยหลักล้านหรือร้อยล้านเหรียญทองแน่ เพราะยังมีค่าใช่จ่ายบานปลายอย่างจ่ายค่าอาหารกับพวกทหารระหว่างเดินทางอีก
แต่ตอนนี้รายจ่ายมันลดลงไปเยอะ
เมื่อได้มาเจอกับขุมทรัพย์เหล็กขนาดนี้
‘นี่มันคิดจะเอาเหล็กออกไปทั้งหมดจริงๆ สินะ ถ้าเรายอมให้มันเอาไปหมดมีหวังเราโดนพวกพ่อค้าต่อว่าทีหลังแน่ ต้องหาทางหยุดเอาไว้ให้ได้’ บิวครอกเมื่อได้ยินคำตอบของไมล์ก็คิดด้วยความรู้สึกร้อนใจ
สาเหตุที่บิวครอกเป็นแบบนี้ก็เป็นเพราะว่า ตัวของมันนั้นได้ทำสัญญาการซื้อขายกับพวกพ่อค้าเอาไว้ซึ่งเป็นการโกงเอาเหล็กไปขายและเอาเงินเข้ากระเป้าของตัวเอง โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามันก็ทำแบบนี้ตลอดในช่วงที่แลนด์เนอร์ยังปกครองป้อมดีแลนด์อยู่ แต่ตอนนี้แผนของมันทั้งหมดกำลังจะโดนทำลายเพราะไมล์กำลังขนเหล็กทั้งหมดออกไปใช้งาน เลยมีความร้อนใจอย่างมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น
‘มันคงคิดว่าเราไม่รู้แผนของมันสินะ หึหึ!’ ไมล์ยืนยิ้มอ่อนๆ ขณะที่กำลังมองบิวครอกด้านข้างของตนกำลังทำท่าร้อนใจให้เห็น
ถึงแม้ว่ามันจะร้อนใจก็จริงแต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไร แต่ยังคงมองซ้ายมองขวาเหมือนกับว่าหาอะไรบางอย่างอยู่ ในส่วนของเรื่องมันแอบขายเหล็กให้พวกพ่อค้าไมล์นั้นสามารถรู้ได้ตั้งแต่ดูใบตรวจเช็คของในโกดังก่อนเข้ามาแล้วแต่ยังไม่ได้พูดอะไร เพราะถึงพูดอะไรไปตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ทางไมล์จึงเลือกที่จะเอาเหล็กออกจากคลังให้หมดเพื่อทำลายแผนที่บิวครอกได้วางเอาไว้
เมื่อทำสัญญาไปแล้วไม่มีเหล็กให้มันก็จะไม่ได้ซื้อขายกับทางสมาคมพ่อค้าอีกเลยไม่ว่าจะเป็นสมาคมไหนก็ตาม เพราะเรื่องการผิดคำพูดของขุนนางถ้าผิดไปแล้วมันซื้อคืนกลับมาไม่ได้ เมื่อถึงเวลานั้นบิครอกมันก็จะได้รับการลงโทษเองจากพวกพ่อค้าที่มันผิดสัญญาถึงได้ทำสีหน้าร้อนรนออกม เพราะอาจจะถึงกับโดนสั่งเก็บเลยก็ได้ถ้าทำให้เงินจำนวนขนาดนี้เสียหาย
“ท่านบารอนข้าเกรงว่าถ้าท่านเอาเหล็กออกไปหมดเมืองแห่งนี้จะแย่เอานะครับ เพราะโรงตีเหล็กเองก็พึ่งพา-”
“เรื่องนั่นไม่ต้องเป็นห่วงข้าเอาช่างตีเหล็กทั้งหมดเข้ากองทัพแล้ว” ไมล์ขัดคำพูดของบิวครอกก่อนที่จะพูดจบด้วยใบหน้ายิ้มอ่อนๆ
‘นะ… นี่หรือว่ามันรู้แผนของเราหมดแล้วเหรอ???’ บิวครอกทันทีที่เห็นใบหน้าของไมล์แสยะยิ้มมองมาที่ตัวเองก็คิดขึ้นมาทันที จากนั้นก็เริ่มพูดต่อ “ถ้าท่านทำแบบนั้นผู้คนในเมืองจะไม่มีงานทำกันนะครับ”
‘มันยังแถไม่เลิกแหะ! งั้นก็ได้เวลาจบแล้วละ’ ไมล์เข้าใจเป้าหมายของบิวครอกดีแก่ใจอยู่แล้ว แต่ที่กำลังทนฟังอยู่ก็เป็นเพราะอยากรู้ว่าบิวครอกมันจะแถอะไรออกมาได้บ้างจนในที่สุดตอนนี้ก็เริ่มหมดความอดทน
จึงพูดว่า
“แกกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ นี่ไม่คิดเลยหรือไงว่าข้ายังปล่อยแกเอาไว้เพราะว่าแกยังสามารถทำประโยชน์ให้อยู่ ก่อนที่จะห่วงเรื่องเงินจากการขายเหล็กแกควรห่วงชีวิตของตัวเองก่อนดีกว่าไหม เหอะ!”
น้ำเสียงและท่าทางของไมล์ตอนนี้เหมือนกับคนกำลังโกรธพูดออกมา ส่วนทางด้านของบิวครอกก็สีหน้าสลดลงทันทีเพราะคามกลัว พร้อมกับคิดในใจไปด้วยว่า ‘มันรู้เรื่องอยู่แล้วจริงด้วย ชิ!’
บิวครอกตอนนี้ถึงแม้ว่าอยากจะสวนกลับเท่าไหร่แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะตัวของบิวครอกรู้ดีว่าเรื่องที่ไมล์กำลังพูดออกมาไมล์เอาจริงแน่นอน ส่วนทางไมล์ก็กำลังยิ้มด้วยใบหน้าสะใจมองบิวครอกด้านหน้าด้วยความรู้สึกสะใจ แล้วได้คิดไปด้วยว่า ‘มันคิดว่าจะมีปิดเรื่องทุจริตกับเราคนนี้ได้อย่างงั้นเหรอ หึหึ! ยังเร็วไปร้อยปีที่คนอย่างมีความรู้เท่านี้อย่างแกจะมีปิดเรื่องทุจริตพ้นสายตาของฉันคนนี้’
สาเหตุที่ไมล์มั่นใจแบบนี้ก็เป็นเพราะว่า ในสมัยก่อนช่วงที่ทำงานอยู่ไมล์ได้รับทำเรื่องทุจริต และเห็นพวกนักการเมืองทำมันมากมายทำให้เพียงได้ยินคำพูดหรือเห็นใบหน้าก็สามารถเข้าใจได้แล้วว่าใครกำลังมีความคิดในการทุจริต ร่วมถึงเรื่องข้อมูลของคลังตั้งแต่ต้นเมื่อเห็นด้วยเช่นกันเพราะสำหรับที่ไหนที่มีการทุจริตอยู่ตัวเลขมันจะบ่งบอกด้วยตัวของมันเอง ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบอะไร
ระหว่างที่ไมล์กำลังยิ้มแบบสะใจไปที่บิวครอกอยู่ ก็ได้มีทหารสวมชุดเกราะเดินเข้ามาหาไมล์จากทางเข้าของประตูช้าๆ และเมื่อเดินถึงด้านหน้าของไมล์ก็เริ่มพูดว่า….
จากนักเขียน. ตอนต่อจากนี้จะไม่ค่อยมีน้ำแล้วนะครับ เพราะผมกลับมาอ่านอีกรอบช่วงหลายตอนมานี้น้ำเยอะมาก เฮ้อ~ ขอโทษทุกคนด้วยครับ ^_^