ต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 135 มันตรงเกินไป
ตอนที่ 135 ตรงเกินไป
“เจ้ากำลังหมายความว่ายังไงทินเนอร์ เกี่ยวกับเรื่องที่พูดออกมาเมื่อครู่เวลามันตรงกับอะไร?” เดลล์เริ่มหันไปถามทินเนอร์ที่พูดออกมาด้วยความสงสัยทันที พร้อมกับพรางคิดไปด้วย ‘ปกติแล้วหมอนี่มันไม่ค่อยพูดอะไรออกมาถ้าเป็นเรื่องที่ผ่านการคิดมาดีแล้ว เพราะงั้นสิ่งที่มันกำลังจะพูดออกมาต้องสามารถเชื่อได้แน่นอน’ เดลล์รู้สึกมั่นใจกับคำพูดของทินเนอร์อย่างมาก
เพราะทินเนอร์ที่นั่งอยู่ถ้าก็คือมือขวาของเดลล์ที่ไม่ว่าจะไปสนามรบไหนก็ไปด้วยกัน ถ้าเปรียบให้เห็นภาพก็คือถ้าเดลล์เป็นดาบที่จะเอาแต่พุ่งโจมตีทินเนอร์ก็เหมือนโล่ที่ทำทุกอย่างเพื่อป้องกันให้
ด้วยเหตุนี้
จึงได้รับควมเชื่อใจจากเดลล์สูงมาก
“ท่านลองคิดดูสิครับเมื่อเช้าท่านได้รับรายงานเรื่องของแลนด์เนอร์แพ้สงครามใช่ไหม”
“อ่า”
“นั่นแหละครับที่ข้าว่ามันตรงเวลาเกินไป เพราะทางนั้นเองก็คงได้รีบรายงานเวลาประมาณท่าน และพอได้รับรายงานพวกมันก็ให้ทูตของทางเราเข้าไปเจรจาทันทีท่านไม่คิดว่าเวลามันตรงกันเกินไปเหรอ” ทินเนอร์เริ่มอธิบายออกมาถึงสิ่งที่ตัวเองคิดได้ เพราะเมื่อลองมาคิดดูเรื่องทั้งหมดมันก็ลงล็อคพอดี
‘อื้ม! ที่ทินเนอร์มันพูดออกมาก็ถูกของมันเวลามันตรงกันมาก’ เดลล์เริ่มคิดตามโดยเอามือเท้าค้างตัวเองแบบกำลังใช้ความคิด เพราะหลังจากที่ได้ยินความคิดของทินเนอร์เดลล์ก็เริ่มเข้าใจว่าเรื่องทั้งหมดมันตรงกันมาก
โดยระยะเวลาที่เดลล์ได้รับข่าวก็ช่วงกำลังเดินทางมาที่ค่ายประมาณ 2 ชั่วโมง และพอมาถึงก็ได้รู้ว่าทูตพึ่งได้เดินทางออกจากค่ายไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง และด้วยการติดต่อสื่อสารแบบนี้ข่าวเรื่องความพ่ายแพ้ของแลนด์เนอร์พวกจักรวรรดิจะรู้พร้อมกับเดลล์ก็ไม่ได้แปลกอะไร
ระหว่างที่เดลล์กำลังคิด
พวกทหารที่กำลังนั่งอยู่ก็พากันพูดขึ้นมา
“-ข้าเองก็คิดเหมือนกับท่านทินเนอร์เหมือนกัน เพราะมาคิดดูแล้วว่ามันตรงเวลากินไป พวกมันต้องมีแผนอะไรแน่!”
“-ท่านทินเนอร์พูดถูกแล้ว ระยะเวลาทั้งหมดมันลงตัวเกินไปราวกับว่ามันรอเวลาแบบนี้แล้วให้ทูตของพวกเราเข้าไปเจรจากันเลย”
“-แบบนี้มันเป็นแผนของพวกมันชัดๆ”
พวกทหารที่นั่งอยู่ต่างพากันพูดออกมาในทางเห็นด้วยกับทินเนอร์ที่พูดออกมาทั้งหมด เพราะพอทินเนอร์พูดออกมาทุกคนต่างก็คิดไปในทางเดียวกันหมดว่ามันเป็นเรื่องจริง ในตอนแรกก็มีทหารหลายคนคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าเรื่องแบบนี้ระยะเวลามันตรงเกินไป
แต่ด้วยสถานการณ์ไม่สู้ดี
ก็เลยไม่มีใครกล้าพูดหรือเสนอความคิดออกมา แต่หลังจากมีทินเนอร์พูดมาพวกทหารต่างก็พากันพูดออกมาตามถึงความคิดของตนทั้งหมด ทำให้ในห้องตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงพูดของทหารคุยกันไปคุยกันมา
ตุ๊บ!
“เงียบได้แล้วไปพวกไม่ได้เรื่อง”
เดลล์ใช้มือขวาทุบลงไปที่โต๊ะด้านหน้า จากนั้นก็ตะโกนไปยังพวกทหารที่กำลังคุยกันอยู่ เมื่อเดลล์ตะโกนออกมาเสียงของพวกทหารที่กำลังคุยกันก็เงียบทันที
ทำให้บรรยากาศในห้องที่ตอนแรกมีเสียงคุยกันจนบรรยากาศเลิกกดดันมาก็กลับมากดดันอีกครั้ง แถมครั้งนี้ยังเครียดกว่าเดิมอีก
“ท่านแม่ทัพท่านต้องใจ-”
“ข้าบอกให้เจ้าพูดแล้วหรือไงทินเนอร์” เดลล์หันไปพูดด้วยเสียงแข็งใส่ทินเนอร์ที่กำลังพูดกับตนระหว่างที่ทินเนอร์พยามห้ามอยู่
ทางทินเนอร์เมื่อได้ยินก็เงียบทันทีตามคำสั่ง เพราะถึงแม้ว่าทินเนอร์จะโดนทหารมองว่าเป็นมือขวาของเดลล์ แต่ทว่าสำหรับเดลล์แล้วทินเนอร์ก็เป็นทหารเพียงคนเดียวที่ฉลาดกว่าคนอื่นเท่านั้น
ไม่ได้มีอะไรมากกว่านี้เลยแม้แต่น้อย แล้วตัวของทินเนอร์ก็เข้าใจเรื่องนี้ดี ทำให้เมื่อโดนเสียงแข็งของเดลล์พูดใส่ก็เลยเงียบทันที พร้อมกับพรางติดไปด้วย ‘ตอนนี้เราอย่าพึ่งพูดอะไรดีกว่า ดีไม่ดีอารมณ์โมโหของท่านเดลล์ตอนนี้อาจจะเอามาลงกับเราก็ได้เอาไว้ใจเย็นลงค่อยคุยเรื่องแผนต่อไปแล้วกัน’ ถึงแม้ว่าตอนนี้ทินเนอร์จะมีแผนรับมือกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วก็ตาม แต่เมื่อประเมินสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นก็เลือกที่จะเงียบมากกว่า
ส่วนทางเดลล์
หลังจากที่พูดกับทินเนอร์จบ ก็ได้กลับมาคิดอีกครั้งว่า ‘พวกมันต้องการอะไรกันแน่ทำไมถึงได้มาให้เจรจาเวลาแบบนี้ ชิ! รู้งี้ให้เวลี่มาแทนสะก็ดี ตัวเราไม่มีความรู้ในการเจรจาสะด้วย ตอนแรกคิดว่ามาแล้วรอสู้กับพวกมันเท่านั้นทำไมเรื่องมันถึงได้กลายเป็นเรื่องปวดหัวแบบนี้ได้’
เดลล์สถบด้วยความไม่พอใจในหัวของตัวเองเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังเกิดอยู่ตอนนี้เพราะทางทางเดลล์ที่อาสาเดินทางมาเป็นแม่ทัพป้องกกันประเทศจากทางจักรวรรดิก็เพื่อสู้เท่านั้น ไม่ได้คิดว่าจะเกิดการเจรจาแบบนี้ขึ้นมาเพราะการเจรจาถ้าทำอะไรผิดพลาดก็หมายความว่าความผิดจะตกอยู่ที่ตัวเองทั้งหมด และตำแหน่งหนึ่งในสามแม่ทัพของสหราชอาณาจักรของเดลล์อาจสั่นครอนได้ ถ้าตัดสินใจอะไรผิดพลาดไปในการเจรจาครั้งนี้
แต่เรื่องที่เดลล์ปวดหัวไม่ได้มีเพียงเรื่องเดียว
เพราะยังมีเรื่องที่ไคเซอร์ชนะสงครามกับแลนด์เนอร์ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว และได้รับทหารนับแสนของแลนด์เนอร์เสริมทัพอีก ทำให้เกิดความกังวลในใจตั้งแต่เช้า เพราะถ้าทางสหราชอาณาจักรต้องทำสงครามพร้อมกับทั้งสองทางโอกาสชนะแทบไม่มีเลย ด้วยเรื่องพวกนี้มันเหมือนความเครียดสะสมเลยทำให้เดลล์อารมณ์เสียตลอดเวลาเหมือนอย่างตอนนี้
จากนั้น
“พวกเจ้าทุกคนออกไปให้หมด ข้าต้องการคิดเรื่องพวกนี้คนเดียว และเมื่อทูตที่ส่งตัวไปเจรจาเดินทางกลับมาก็รีบพามันกลับมาหาข้าด้วยเลย”
“ครับ!!!” พวกทหารตอบออกมาพร้อมกัน
จากนั้นพวกทหารก็พากันเดินออกจากห้องตามคำสั่งทันที จนเวลาผ่านไปสักพัหห้องที่เต็มไปด้วยทหารก็ว่างป่าวเหลือเพียงแค่กำลังนั่งอยู่คนเดียวด้วยท่าทางกำลังเคร่งเครียด “แบบนี้ทางเราเองก็คงต้องหาหลักประกันเอาไว้บ้างแล้วละ สถานการณ์ตอนนี้มันไม่สู้ดีแล้ว” เดลล์พรึมพรำออกมาแบบคนพูดคนเดียว เมื่อพวกทหารเดินออกไปจากห้องทันหมดเหมือนกับว่าคนตัดสินใจอะไรบางอย่างได้