ต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่่ 127 เชือดไก่ให้ลิงดู
" ก็เรื่องที่ท่านกำลังเป็นห่วงอยู่ตอนนี้ไงองค์ชาย... ไม่สิ! ก่อนที่จะไปพูดถึงเรื่องที่ท่านบอกมาข้า ข้าน่าจะบอกเรื่องทางเลือกที่ข้าบอกให้แลนด์เนอร์มันเลือกก่อน "
' ทางเลือก? ไม่ใช่ข้อเสนอเหรอการเจรจามันต้องข้อเสนอสิ ทางเลือกมันคือหลังจากที่ผู้ชนะสงครามมอบให้ผู้แพ้ไมใช่หรือไง??? ' ไคเซอร์รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยหลังจากที่ได้ยินไมล์บอกมา ถึงเรื่องที่ไมล์ไปคุยกับแลนด์เนอร์ว่าที่ให้ไปไม่ใช่ข้อเสนอ แต่เป็นทางเลือกแทน
เพราะโลกใบนี้มันมีกฎหลายอย่างมากกว่าที่จะเข้าใจได้ง่ายๆ ก็เลยต้องกำหนดเรื่องหลายเรื่องให้มันเป็นรูปอธรรมออกมา อย่างเรื่องของการเจรจากันที่ไมล์ทำกับแลนด์เนอร์ ต้องเสนอข้อเสนอ แต่ถ้าชนะสงครามหรือกองทัพเป็นฝ่ายชนะก็สามารถบอกทางเลือกได้
แล้ว
" ท่านบารอนท่านไม่ได้ให้ข้อเสนอแต่เป็นทางเลือกงั้นเหรอ? "
" ใช่! ‘’
ไมล์ตอบโดยพยักหน้าขึ้นลงเล็กน้อย
" ถ้างั้นท่านช่วยบอกมมาหน่อยว่าท่านให้ทางเลือกอะไรกับมันไป เรื่องทั้งหมดมันถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้ "
ถึงแม้ว่าตอนนี้ไคเซอร์จะรู้สึกขัดใจกับการกระทำของไมล์ที่มันผิดขึ้นตอน แต่เมื่อเทียบผลลัพธ์ที่ได้ ไคเซอร์ก็เข้าใจและยอมรับมันได้เ พราะไม่ว่ายังไงเรื่องการยึดประเทศคืนจากการทรยศของพวกขุนนางก็ต้องมาก่อน การที่จะมาทำตัวตามกฏเวลานี้มันไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นหรอก
ส่วนทางไมล์เองก็ได้เล่าเรื่องทั้งหมดที่คุยกับแลนด์เนอร์ให้ฟังโดยเริ่มตั้งแต่ทางเลือกทั้งสองทาง เรื่องที่แลนด์เนอร์อ้างถึงความจงรักภัคดีของตระกูล ร่วมถึงเรื่องที่สั่งให้แลนด์เนอร์ตัดแขนของตัวเองทิ้งก่อนกลับไปด้วยด้วย!
' ให้ตายสิ! เรื่องทางเลือกระหว่าง รอดหรือตาย ก็พอเข้าใจอยู่หรอก ร่วมถึงเรื่องที่แลนด์เนอร์มันจะทวงความภัคดีของตระกูลของมันก็คิดเอาไว้อยู่แล้ว แต่เรื่องตัดแขนนี้มัน... เหอะๆ โหดเป็นบ้า! ' ไคเซอร์คิดในใจหลังจากที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมดที่ไมล์เล่าให้ฟัง และในบางเรื่องที่ได้ยินไมล์เล่ามาไคเซอร์เองก็คิดเอาไว้แล้วเช่นกันว่ามันต้องกิดขึ้น
แต่ทว่า
เรื่องของการตัดแขนเองแบบที่ไมล์เล่าให้ฟังไคเซอร์ไม่มีความคิดเอาไว้เลยแม้แต่น้อย เพราะตัวไคเซอร์นั้นเข้าใจดีว่าแขนสำหรับขุนนางนั้นมันสำคัญขนาดไหน ยิ่งเป็นแขนข้างถนัดด้วยแล้วยิ่งแล้วใหญ่
แต่ถึงจะรู้สึกไม่ดีก็ไม่ได้พูดอะไรที่เป็นการต่อว่าไมล์ เพราะทางไคเซอร์เองก็กลัวเหมือนกันหลังจากที่ได้ยินเรื่องทั้งหมดที่ไมล์ได้เล่ามา
จากนั้น
" งั้นพวกเรากลับมาเข้าเรื่องกันท่านบารอน เกี่ยวกับเรื่องที่ท่านถามข้าเมื่อครู่ "
ไคเซอร์ก็เริ่มถามคำถามอีกครั้ง เพราะถึงแม้ว่าจะได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าตัวเองคิดหรือพูดอะไรผิดไปเมื่อครู่ ถึงได้ทำให้ไมล์เสียงแข็งใส่ตนด้วยท่าทางไม่พอใจ
' เฮ้อ~ สมแล้วที่เป็นไคเซอร์ ขนาดเราพยามจะสื่อขนาดนั้นแล้วแท้ๆ ยังไม่เข้าใจอีก นี่มันไม่เข้าใจเลยหรือไงว่าหน้าที่ตอนนี้ของมันคืออะไร ทำไมต้องมาเป็นห่วงลูกขุนนางคนเดียวแบบนี้ด้วย ความตั้งใจและความโกรธเมื่อไม่กี่วันก่อนมันหายไปไหนหมด ' หลังจากที่ได้ยินไคเซอร์ถามออกมาอีกครั้งไมล์ก็คิดด้วยความเหนื่อยใจกับความตั้งใจของไคเซอร์ แต่ถึงยังไงไคเซอร์ก็ยังเป็นองค์ชายการจะตะโกนด่าว่า [ ไม่ได้เรื่อง ] มันก็เป็นไปไม่ได้ ถึงแม้ว่าในใจของไมล์อยากจะตะโกนด่าขนาดไหนก็ตาม
จากนั้น
" ที่ข้ากำลังจะบอกก็คือท่านอย่าไปใส่ใจเรื่องของแลนด์ดรอฟมันเลย เพราะยังไงถึงมันจะเป็นจะตายผลลัพธ์มันก็ไม่ได้ต่างจากเดิมที่มันเป็นอยู่ตอนนี้หรอก "
ไมล์เริ่มอธิบายถึงสิ่งที่ตัวเองจะสื่อ
' อื้ม! ถ้าคิดแบบนี้มันก็ได้อยู่หรอกเพราะยังไงถึงใครในตระกูลของแลนด์เนอร์จะขึ้นมาปกครองประเทศมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราเพราะยังไงก็ต้องยอมก้มหัวให้ในสถาณการณ์แบบนี้ แต่ว่า... แบบนั้นก็เหมือนกับเราผิดนะสิ ที่ปล่อยให้คนในปกครองโดนแย่งชิงอำนาจทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้ว เฮ้อ~ ' ไคเซอร์ที่คิดตามรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าคนในการปกครองของตัวเองต้องโดนแย่งอำนาจแน่ถ้าปล่อยเอาไว้ แต่ตัวเองก็ไม่ทำอะไร เพราะโดยปกติแล้วหน้าที่นี้มันก็เป็นหน้าที่ของราชาเช่นกันที่ต้องหยุดเรื่องเช่นนี้ก่อนที่มันจะเกิดขึ้นถ้ารู้เรื่องก่อน
แต่ด้วยสถาณการณ์บังคับ
การที่ไคเซอร์จะเข้าข้างแลนด์ดรอฟและเข้าช่วยเหลือมันก็เป็นไปไม่ได้ ยิ่งแลนด์เนอร์ผู้เป็นพ่อเคยทรยศต่อประเทศแบบนี้อีก การให้ท้ายมากจนเกินไปมันก็จะกลายเป็นขุนนางคนอื่นคิดว่าบทลงโทษของไคเซอร์มันไม่มีอะไร แล้วการทรยศมันก็จะเกิดขึ้นต่อไปเพราะพวกขุนนางรู้ดีว่าถ้าแพ้ตระกูลก็ยังไม่จบสิ้น
อย่างเช่นเรื่องของแลนด์เนอร์ที่เป็นอยู่ตอนนี้
ตามจริงมันก็ต้องจัดการแบบถอนลากถอนโคลนนั่นแหละ แต่ตอนนี้การที่จะฆ่าแบบนั้นมันส่งผลเสียมากเกินไป ไมล์ก็เลยหาวิธีที่มันง่ายที่สุดให้ เพราะถ้าฆ่าทั้งตระกูลตอนนี้มันก็จะมีปัญหาอย่างเอาลูกนอกสมรสมาอ้างสิทธิ์อยู่ดี เพราะตระกูลนี้เป็นถึงตระกูลดยุคต้องมีครหวังอำนาจมากมาย
" ข้าเข้าใจแล้วท่านบารอน "
ไคเซอร์พูดออกมาหลังจากคิดเรื่องทั้งหมด
" ครับ! ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็เดินทางเข้าป้อมกนเถอะเพรามันยังมีอีกหลายเรื่องที่พวกเราต้องทำ " ' หลังจากจัดการปลาตัวใหญ่ได้แล้วต่อไปก้พวกปลาซิวปลาสร้อยที่อยู่ในป้อมละนะ หึหึ! ไมล์คิดในใจพร้อมกับยิ้มที่มุมปากออกมาด้วยใบหน้าแบบสะใจ เพราะเรื่องนี้เองมันก็อยู่ในแผนของไมล์เช่นกัน
ตัวไมล์นั้นคิดเอาไว้เรียบร้อยหมดแล้ว ว่าถ้าปล่อยแลน์เนอร์ไปพวกขุนนางที่ทรยศอยู่พวกมันต้องร้องขอสิ่งเดียวกันแน่ เมื่อกองทัพของไคเซอร์เดินทางไปถึงแล้วพวกมันรู้ตัวว่าไม่สามารถสู้ได้
เพราะแบบนี้เพื่อป้องกันพวกขุนนางที่เหลือมีความคิดอย่างที่บอกไป การเชือดไก่ให้ลิงดูจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด!