ต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 119 ราชาจอมเผด็จการ

" ทุกคนเงียบ! "

ราชายืนขึ้นแล้วตะโกนเสียงแข็ง

ใส่พวกขุนนางที่กำลังซุบซิบกันอยู่ หลังจากที่ปล่อยให้พวกขุนนางพูดจานินทาซิคแน็คไปสักพัก เมื่อราชาพูดออกมา พวกขุนนางทั่วห้องต่างก็หยุดลง เพราะน้ำเสียงของราชาที่พูดออกมา ด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป

จากนั้นราชาก็หันหน้าไปทางเซลล์ที่ยืนอยู่ด้านหน้าที่สุดแล้วพูดว่า " เจ้าก็เดินกลับเข้าไปในตำแหน่งของตัวเองสะ!!! "

พูดจบเซลล์ที่กำลังทำท่าทางไม่พอใจก็เปลี่ยนเป็นเกร็งทันที และเดินกลับข้าไปในที่ของตัวเองตามคำสั่งของราชาที่ได้สั่งตน ทำให้ตอนนี้บรรยกาศภายในห้องเวลานี้เต็มไปด้วยควาตรึงเครียดของเหล่าขุนนางแทน เพราะในอดีต ราชาเคยได้รับฉายาว่า ราชาจอมเผด็กการ ในช่วงเวลานั้นไม่มีใครกล้าต่อต้านเลยสักคน เพราะถ้ามีการต่อต้านสิ่งที่ราชาของจักรวรรดิจะทำก็มีเพียงแค่กวาดล้างตระกูลเท่านั้น ไม่มีการเจรจาหรือการต่อรองอย่างเด็ดขาด

แต่เมื่อเวลาผ่านไป

ราชาก็กลายเป็นคนปกติแบบขุนนางทั่วไป เมื่อมีลูกอย่างองค์ชายซิคฟรีสเกิดออกมาบนโลก นับจากวันนัั้นฉายาราชาจอมเผด็จการก็เริ่มเลื่อนหายไปจากความจำของผู้คนและขุนนาง

ด้วยเหตุนี้ ก็เลยทำให้ขุนนางทุกคนเมื่อได้ยินน้ำเสียงแข็งของราชาที่พูดออกมาพากันเงียบสงัด

" ถ้างั้นข้าจะพูดให้เข้าใจเลยก็แล้วกัน สำหรับเรื่องการแต่งตั้งองค์รัชทายาาทข้าจะให้ซิคแน็คเป็นคนรับตำแหน่งราชาคนต่อไปของประเทศ เพราะความรู้ ความสามารถและความคิดของซิคแน็คเหนือกว่าพี่น้องคนอื่นมาก ยังมีใครที่ไม่พอใจอะไรไหม? "

ราชาเริ่มพูดโดยอธิบายเหตุผลให้เหล่าขุนนางฟัง

ขณะที่กำลังพูดราชาก็ได้กวาดสายตาไปมาใส่เหล่าขุนนางที่อยู่ด้านหน้าไปด้วย แต่ถึงจะถามออกไปเวลานี้พวกขุนนางกลับพากันก้มหน้าลงเพื่อพยามหลบตา ต่างจากเมื่อครู่ที่ซุบซิบกันด้วยความไม่พอใจ

" แล้วกฏตลอดระยะเวลา 1,000 ปี ของจักรวรรดิละครับ ท่านจะทำลายมันเหรอ... "

เซลล์ที่กลับไปยืนตำแหน่งของตัวเองพูดขึ้นมา ถึงแม้ว่าตอนนี้จะกลัวอยู่ก็ตาม

ถึงแม้ว่าตอนนี้ตัวของเซลล์จะรู้สึกถึงบรรยกาศกดดันจากราชาตอนนี้ก็ตาม แต่ความคิดก็ยังไม่ได้เปลี่ยนไปในเรื่องกฏของจักรวรรดิทั้งสองข้อ ที่ผู้สืบทอดต้องมีครบ ถ้าไม่อย่างนั้นก็ไม่สามารถขึ้นเป็นราชาได้ ' เราจะยอมให้ลูกของคนนอกมาเป็นราชาไม่ได้เด็ดขาด เพราะยังไงมันก็มีเลือดของคนราชอาณาจักรอยู่ในตัว มันจะทรยศต่อประเทศของเราเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ' เซลล์คิดด้วยความหวาดระแวง

" กฏนั่นข้าจะทำลายมันเอง แล้วใครจะทำไม " ราชาตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง โดยมองหน้าเซลล์ไปด้วย

" องค์ราชาท่านทำแบบนี้มันก็เหมือนกับว่าเปิดทางให้ประเทศอื่นเข้ามาแทรกแซงประเทศของเราได้นะครับ หมอนนั่นยังไงสะก็มีเลือดของคนราชอาณาจักร จะทำอะไรกับประเทศหลังจากขึ้นปกครองบ้างก็ไม่รู้ " ขณะที่พูด เซลล์ก็ได้ชื่อนิ้วไปทางซิคแน็คด้วยหน้าตาไม่พอใจเหมือนตอนแรก

" สรุปเจ้าจะไม่ยอมใช่ไหม? "

" ใช่ครับ! ได้โปรดท่านช่วนพิจารณามะ- "

" งั้นก็ออกไป "

ราชาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่ชอบใจแล้วชี้นิ้วไปยังประตูทางออกของห้อง ระหว่างที่เซลล์กำลังพูดอยู่

นะ... นี่ถึงกับไล่เราแบบนี้เลยงั้นเหรอ แบบนี้ทางเราเองก็ไม่มีความจำเป็นอะไรกับราชาที่คิดจะทำลายประเทศแล้ว ' เซลล์รู้สึกตกใจอย่างมากกับคำสั่งของราชา แล้วก็ได้ตัดสิ้นใจด้วยว่าจะไม่ยอมรับใช้ราชาในตอนนี้อีกแล้ว

จากนั้นเซลล์ก็ได้เดินออกจากห้องทันที!

แล้ว

" ถ้าใครไม่พอใจก็ออกตามมันไปเลย แต่ก็ขอให้เข้าใจด้วยว่า ถ้าใครออกจากห้องโถงตอนนี้ ก็เท่ากับว่าทำตัวเป็นกบฏต่อจักรวรรดิที่ไม่ยอมรับการตัดสินใจของข้า เพราะงั้นก็เตรียมโดยกวาดล้างตระกูลได้เลย... " ราชาพูดต่อขณะที่เซลล์กำลังเดินออกไป ระหว่างที่พูดก็กวาดสายตามองพวกขุนนางด้านหน้าไปด้วย

เวลานี้พวกขุนนางต่างก็พากันก้มหน้าไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา เพราะทุกคนต่างเข้าใจดีว่าสิ่งที่ราชากำลังพูดอยู่ตอนนี้เป็นเรื่องจริง ถึงแม้ว่าจะมีความไม่พอใจในเรื่องที่ราชาจะเปลี่ยนกฏของจักรวรรดิและให้ซิคแน็คขึ้นเป็นรัชทายาท แต่ก็ไม่มีใครสักคนที่กล้าพูดต่อต้าน หรือเดินตามเซลล์ออกไป

จนกระทั้ง

" ข้าเองก็ขอออกเหมือนกัน "

มีเสียงของชายรูปร่างผอม ตัวเล็กเหมือนกับผู้หญิงพูดขึ้น แล้วก็เดินออกจากห้องทันทีแบบที่เซลล์เดินออกไป

ซึ่งชายที่พูดออกมาตอนนี้ก็คือ ดยุคดิวคอน เป็น 1 ใน 4 ดยุค ที่มีเขตปกครองเยอะที่สุดในในจักรวรรดิแบบเดียวกับเซลล์ ซึ่งตัวของดิวคอนเองก็ไม่พอใจในการตัดสินใจของราชาเหมือนกัน

' ให้ตายสิ! ดิวครอนมันก็เอาด้วยเหรอเนี่ย ' ราชารู้สึกร้อนใจเล็กน้อยหลังจากที่ดิวคอนเสนอตัวออกมาว่าจะเดินออกไป เพราะเวลานี้จักรวรรดิได้ทำให้ดยุคใหญ่ทั้งสองไม่พอใจไปแล้ว และกำลังรบของทั้งสองคนถ้าร่วมมือกันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากำลังรบหลักของเมืองหลวงเลย

บวกกับตอนนี้ทหารเหลือน้อยเพราะให้แจนด์ลาสนำไปโจมตีสหราชอาณาจักรอีก

เมื่อต้องเกิดการสู้กันจริงๆ

ช่วงเวลานี้ราชากับกำลังรบหลักของเมืองหลวงต้องตรึงมือแน่นอร ถ้าดยุคใหญ่ทั้งสองร่วมกำลังรบแล้วเริ่มบุกเข้ามาพร้อมกัน

แต่ทว่า

เรื่องที่ราชาต้องกังวลใจไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เพราะหลังจากที่ดิวคอนเสนอตัวแล้วเดินออกไป ก็เท่ากับว่าประกาศตัวเป็นศัตรูด้วยเช่นกันมันก็เลยทำให้พวกขุนนางพากันแสดงสีหน้าลังเลออกมา