ตอนที่ 445+446 ตราบเท่าที่รู้
ตอนที่ 445 ตราบเท่าที่รู้
สิ่งที่รอโจวเหวยฉีอยู่ที่ตระกูลโจวนั้น เจียงเหยาเข้าใจดี
เฉินซวีเหยาตรงไปยังบ้านตระกูลเหลียง ในขณะที่เจียงเหยาและลู่ชิงสีกลับไปที่เมืองจิน หลังจากออกจากโรงแรมด้วยกัน ระหว่างทางลู่ชิงสีได้โทรออก ทำให้เมื่อพวกเขามาถึงเมืองจิน ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำพร้อมกับเนกไท ก็รออยู่ที่บ้าน พร้อมกับถึงกระดาษสองสามใบในมือ
ลู่ชิงสีหยิบกระเป๋าจากเขา กล่าวขอบคุณและขับรถเข้าไปข้างใน ของในถุงนั้นเป็นเสื้อผ้าที่ลู่ชิงสีสั่งมาให้กับเจียงเหยา
เจียงเหยาออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าลู่ชิงสีได้วางทุกอย่างไว้บนเตียงแล้ว รวมทั้งผ้าพันคอ ถุงมืออีกคู่หนึ่ง เธอสวมเสื้อแจ็กเกต ลู่ชิงสีเดินเข้ามาหยิบผ้าพันคอขนสัตว์พันรอบคอให้กับเธอ เขาพันอีกสองรอบ แล้วหยุดดูเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะทำให้เธออุ่นดีแล้ว
“นี่ไม่แน่นไปหน่อยเหรอคะ?” แม้เธอแข็งแรง แต่การอาศัยอยู่ในเมืองทางใต้เป็นเวลานาน บ่งบอกว่าเธอไม่ชอบอากาศหนาว
“ส่งมือมาสิ” ลู่ชิงสีไม่สนใจว่าเธอจะดูเป็นอย่างไร เขาห่วงใยเธอมาก อยากทำทุกวิถีทางให้เธอไม่รู้สึกหนาวในอากาศที่หนาวเย็นเช่นนี้ หลังจากสวมถุงมือที่ทำด้วยผ้าขนสัตว์แล้ว เขามองไปที่หมวกขนสัตว์ เข้าชุดกับเสื้อผ้าและหยิบมันออกมาหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
“ไม่เอา!ฉันไม่อยากสวมหมวก!” เจียงเหยาถอยหลังสองสามก้าวและปฏิเสธ “ไม่ได้หนาวขนาดนั้น! ฉันต้องถูกหัวเราะเยาะแน่ ถ้าฉันสวมหมวกไปด้วย”
บางคนยังสวมกระโปรงสั้นอยู่บนท้องถนนเลย ในขณะที่เธอห่อตัวเสียราวกับหมีขั้วโลก
“มานี่สิ” ลู่ชิงสีไม่สนกับการปฏิเสธของเจียงเหยา เขาใช้มือข้างหนึ่งกดศีรษะของเธอกับหน้าอกของเขา และใช้มืออีกข้างสวมหมวกขนสัตว์สีชมพูให้กับเธออย่างว่องไว ดูพอใจหลังจากปรับแต่งอยู่พักหนึ่ง
เขาดีใจที่ได้เห็นภรรยาของเขาสวมเสื้อผ้าเช่นนี้ เพราะเขาไม่ชอบให้เธอเปิดเผยส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเธอ เมื่อเธอออกไปข้างนอก มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถมองเห็นผิวใสและนุ่มนวลของภรรยาของเขาได้
เจียงเหยามองเข้าไปในกระจกและรู้สึกท้อแท้เล็กน้อย เมื่อเห็นชุดของเธอ เธอแต่งกายด้วยชุดสีชมพูตั้งแต่หัวจรดเท้า หมวกสีชมพู ผ้าพันคอสีชมพู และถึงมือสีชมพู
ผ้าพันคอพันรอบคอถึงสองสามชั้น มันปิดทั้งจมูกและปากของเธอ เมื่อเธอก้มศีรษะลง เมื่อมองเข้าไปในกระจก จะเห็นเพียงดวงตาของเธอเท่านั้นที่ถูกเปิดเผย เพราะเพิ่งจะออกมาจากห้องอาบน้ำ ทำให้ดวงตามีน้ำตาคลออยู่เล็กน้อย
“คุณไม่คิดว่าฉันเหมือนเด็กมัธยมไปหน่อยเหรอคะ?” เจียงเหยาสวมรองเท้าแตะขนยาวเตะเข้าไปที่หน้าแข้งของลู่ชิงสีที่กำลังแต่งตัวอยู่ เขาสวมแจ็กเกตที่มีโทนสีเดียวกับชุดของเธอ
“ตราบใดที่ผมรู้ว่าคุณไม่ใช่ ผมก็ไม่สนใจเรื่องอื่นหรอก” ลู่ชิงสีไม่ได้กังวล เขารู้ว่าภรรยาของเขาบรรลุนิติภาวะหรือไม่ หากคนอื่นจะพูดยังไงก็ไม่สำคัญสำหรับเขา
หัวใจของลู่ชิงสีอ่อนลงเมื่อเห็นดวงตาที่เป็นประกายของเธอ เขาดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขนและจูบลงที่หน้าผากของหญิงสาว ทำให้หัวใจของอีกฝ่ายพองโต ก่อนจะเจียงเหยาเดินออกจากประตูไปอย่างมีความสุข
ในการไปบ้านตระกูลเหลียงครั้งนี้ เจียงเหยาเป็นคนขับรถ หลังจากที่ลู่ชิงสีรู้ว่าโจวเหวยฉีได้มอบใบขับขี่ให้เธอ เขาก็อยากรู้ว่าทักษะการขับรถของเธอเป็นอย่างไร ให้ไม่ดีพอ เขาจะต้องยึดใบขับขี่นั่นคืน
__
ตอนที่ 446 พวกเราจะมีลูกสาว
ตั้งแต่เล่าเรื่องของเธอให้ลู่ชิงสีฟัง เจียงเหยารู้สึกสบายใจขึ้นมาก เธอรับกุญแจรถมาจากลู่ชิงสีและขับรถออกไปยังท้องถนน
“ชิงสี คุณคิดว่าพ่อของเหวยฉีจะอะไรบ้าง ถ้ารู้ว่าคุณนายโจวและโจวหนิงหลอกตัวเองอยู่และทำให้ชื่อเสียงของตระกูลโจวอับอาย” เจียงเหยาสงบมากในขณะขับรถ แม้ว่าลู่ชิงสีจะสังเกตเธอจากที่นั่งด้านข้าง เธอก็ไม่ได้วิตกกังวลและสามารถสนทนาไปกับเขาด้วยได้
“ไม่รู้เหมือนกัน เหวยฉีต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง เรื่องนี้ไม่มีใครช่วยเขาได้” ลู่ชิงสีตอบ
คนอื่น ๆ ในกลุ่มมีความหวังดีมากมายให้กับโจวเหวยฉี
ดูเหมือนเขาจะเป็นคนไร้ความกังวล ไม่ค่อยจะคิดอะไรมาก แต่แท้จริงแล้ว เขาเป็นคนที่น่าเชื่อถือที่สุดในบรรดาทั้งห้าคน
พูดกันตามตรง ทั้งสี่คนต่างก็คิดว่าโจวเหวยฉีทึ่ม
โจวเหวยฉีเติบโตขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ไม่สมบูรณ์แบบ ครอบครัวโจวไม่ได้มอบความรักและความเสน่หาให้กับเขา แต่เขาก็เป็นส่วนหนึ่งของสายเลือดตระกูลโจวและยึดมั่นในคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ผู้ล่วงลับของเขา
ก่อนที่จะพบกับลู่ชิงสีและคนอื่น ๆ แม่ของโจวเหวยฉีอาจเป็นคนเดียวที่ปฏิบัติต่อเขาอย่างดีและรักเขา
แม้แต่คนที่เอาแต่พูดว่าเขาต้องชดใช้ความผิดพลาดของเขาก็ยังดูเหมือนเป็นเรื่องตลกสำหรับลู่ชิงสีและเพื่อน ๆ
ยิ่งโจวเหวยฉีรักแม่ของเขามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งยากที่จะตัดตระกูลโจวออกได้
คนที่เติบโตมาโดยปราศจากความรักและความเอาใส่อย่างเพียงพอนั้นเป็นยังไง ลู่ชิงสีไม่เข้าใจและไม่สามารถรับรู้ได้ เพราะตัวเขาเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่เต็มไปด้วยความรัก
เหนื่อยกับการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของโจวเหวยฉีแล้ว
ลู่ชิงสีจ้องไปที่เจียงเหยา อากาศร้อนอบอุ่นไหลเวียนอยู่ภายในรถและผ้าพันคอของเธอที่ห้อยอยู่รอบคออย่างหลวม ๆ คงทำให้เธอร้อนและคลายมันออก ถุงมือขนสัตว์ของเธอถูกวางไว้บนตักของลู่ชิงสี โดยตั้งใจวางเลียนแบบมือของเธอ
ไม่ว่าลู่ชิงสีจะมองเธออย่างไร เธอดูเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ แก้มแดงระเรื่อ พันผ้าพันคอขนยาวและสวมหมวก
เขาสะบัดจุกปอมปอมบนหมวกของเธอแล้วถามทันทีว่า “เราเคยมีลูกสาวด้วยกันดีไหม”
เจียงเหยารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ไม่ได้รับการตอบกลับใด ๆ เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาลู่ชิงสีก็พูดขึ้น “งั้นลูกชายล่ะ” เขารู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อยกับความคิดนั้น
“ไม่มีค่ะ” เจียงเหยาตอบ เธอไม่รู้จะบอกลู่ชิงสีอย่างไรก่อนที่เธอจะกลับมาเกิดใหม่ พวกเขาไม่ค่อยได้เจอกันหลังจากแต่งงาน
ลู่ชิงสีไม่ได้คาดหวังคำตอบนั้น เขาคิดว่าเธอกำลังโกหก แต่ดูเหมือนไม่เป็นเช่นนั้น หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็ถามอีกครั้งว่า “คุณไม่สามารถมีลูกได้เหรอ?”
เจียงเหยาโต้กลับ “ทำไมคุณไม่คิดว่าตัวเองบ้างล่ะที่เป็นคนมีลูกยาก”
ลู่ชิงสีโล่งใจเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเธอ ร่างกายของเธอปกติดี
ส่วนเขา...
“คุณรู้ดีที่สุดไม่ใช่เหรอ?” ลู่ชิงสีหัวเราะคิกคัก เขาจะต้องเข้ารับการตรวจร่างกายทุกปีในกองทัพ ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าถ้าเขาต้องการ เขาสามารถทำให้เธอท้องได้