King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 263 เสาวัดพลัง
ตอนที่ 263 เสาวัดพลัง
เครื่องอะไรสักอย่าง!
ใช่แล้ว! ที่ผมกำลังเห็นตอนนี้มันเป็นเครื่องอะไรสักอย่างที่อยู่ข้างจุดรับสมัคร รูปร่างของมันเป็นเหมือนเสา ส่องแสงสีแดงแล้วก็มีจุดให้พวกรับสมัครเดินไปสัมผัสที่วงเอาไว้เป็นรูปมือ
มันเครื่องอะไร???
“ดรารอน์”
เสียงเอรีน่าดังขึ้นมาระหว่างที่ผมกำลังสงสัยอยู่
“ครับ”
“แม่กับเอ็ดน่จะไปนั่งดูการต่อสู้ของลูกในจุดชมพิเศษนะ ฝากด้วยละ~”
“เอาเจ้านั่นมาให้หนูให้ได้นะพี่ชาย!!!”
เอ็ดเน่พูดต่อด้วยท่าทางจริงจังเอามากๆ ระหว่างพูดแววตาที่เต็มไปด้วยความหวังของเธอก็จ้องมาที่ผมพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่กำเอาไว้แน่น เห็นแบบนั้นผมก็ตอบไปว่า
“แน่นอน”
หลังตอบไปทั้งสองคนก็เริ่มออกเดินไปทันที ส่วนทางผมก็เดินไปต่อแถมรับสมัครแบบคนอื่นและในระหว่างที่กำลังต่อแถว
“อ่าว! ทะ ท่าน… ไม่สิ! องค์ชายดรารอน์ท่านมาต่อแถวทำไมกันครับ”
เสียงก็ดังขึ้นจากด้านหลังของผม ซึ่งพอหันกลับไปก็เห็นเทเลอร์ที่ยืนอยู่ด้านหลัง
ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอกันในที่แบบนี้
“ข้ามาต่อแถมไม่ได้หรือไง?”
“กะ ก็ไม่ใช่แบบนั้นครับ”
“แล้วมันแบบไหนกันละ”
“คือว่า… อันที่จริงคนที่เป็นตัวแทนของพวกขุนนางประเทศเมซัสของเราไม่ต้องมาสมัครแบบนี้หรอกนะครับ แค่เดินไปบอกชื่อก็ลงแข่งได้แล้ว”
เอ่ะ?!?!?! แล้วทำไม่สองแม่ลูกนั่นต้องให้เรามาเสียเวลาแบบนี้
ระหว่างคิดผมก็นึกถึงท่าทางของเอ็ดเน่กับเอรีน่าที่กำลังหัวเราะกันอยู่ขึ้นมาได้ ก็ว่าอยู่ทำไมมันแปลกๆ ที่บอกว่าจะไปที่รอในจุดที่นั่งพิเศษ ทั้งๆ ที่พาเดินมาจนถึงจุดรับสมัครแบบนี้
ชิ!
“หะ ให้ข้าพาไปเลยไหมครับ?”
เทเลอร์ถามเสียงอ่อนๆ เหมือนกับว่าน่าจะรู้อารมณ์ของผมอยู่
“อ่า เอาแบบนั้นแหละ”
…
…..
……
หลังจากการสมัครที่แสนจะง่ายที่แค่พูดชื่อผมก็ได้ลงแข็ง โดยได้หมายเลขที่ 23 เป็นหมายเลขนักสู้ในสนามที่เป็นป้ายไม่อยู่ในมือ แต่ก็สังเกตเห็นความผิดปกติอีกนั่นแหละ
“นี่เทเลอร์”
“ครับ?”
“ข้ามีเรื่องแปลกใจว่าทำไมข้าถึงได้หมายเลข 30 กันละ ตั้งแต่ที่ข้าเดินเข้ามาพลังของพวกนักสู้ที่สัมผัสได้มันมีเกือบพันคนได้เลยนะ คิดยังไงข้าได้หมายเลข 30 มันก็แปลกไม่ใช่หรือไง”
“ออ!”
เทเลอร์อุทานขึ้นแล้วชี้นิ้วไปทางจุดรับสมัคร ที่เป็นเสาที่ผมสงสัยเมื่อครู่
แล้วก็เริ่มพูดต่อ
“เป็นเพราะเสาวัดพลังนั่นไงครับ”
“เสาวัดพลัง? ประเทศเราไปมีของแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ฮาฮาฮา ท่านก็พูดเป็นเล่นไปท่านดรารอน์ ประเทศของเรามันจะไปมีของแบบนั้นได้ยังไงละครับ ของนั่นเป็นของที่ประเทศทาซัสส่งมาให้ต่างหากเพื่อจะได้คัดคนได้เร็วขึ้นในการประลอง”
เทเลอร์พูดออกมาด้วยใบหน้ายิ้มอย่างชอบใจ แต่มันถูกแล้วเหรอที่ดูถูกประเทศตัวเองขนาดนั้น เฮ้อ~ แต่จะว่าไปแล้วก็เป็นแบบที่เทเลอร์พูดออกมาจริงๆ ประเทศเมซัสจะไปมีคนที่สร้างของแบบนั้นได้ยังไง ถึงไม่อยากยอมรับแต่ก็ต้องยอมรับเท่านั้น
ระหว่างที่กำลังคุยกับเทเลอร์ผมก็มองการทำงานของเสาที่ว่านั่นไปด้วย แล้วเหมือนกับว่าตัวเสามันไม่ได้วัดแค่พลังเวทย์อย่างเดียวเพราะระหว่างมองคนที่มีพลังเวทย์ขั้นสูงแต่ไม่ผ่านก็มีหลายคนแล้ว แต่ขณะเดียวกันพวกพลังไม่ได้ต่างกันมากแต่ผ่านก็มีสองคนตั้งแต่ที่ผมมอง
และพอเอาข้อมูลที่เห็นคำนวณออกมาได้ก็เป็นแบบที่ผมเข้าใจว่าเครื่องนั้นไม่ได้วัดแค่พลังเวทย์เท่านั้น แต่มันวัดความแข็งแกร่งทางกายภาพด้วย ส่วนสิ่งที่ยืนยันก็คือทั้งสองคนที่ผ่านมีร่างกายที่แข็งแรง และเหมือนกับว่าเป็นพวกมีฝีมือพอสมควร
อื้ม!
เป็นเครื่องวัดที่สุดยอดจริงๆ
“ทะ ท่านดรารอน์…”
ระหว่างที่กำลังมองการทำงานของเครื่องวัดพลังและชื่นชมมันอยู่เสียงของชไนน์เดอร์ก็ดังขึ้นมา ผมเลยหันไปตอบทันที
“มีอะไร”
“คือว่า….”
ท่าทางของเทเลอร์เหมือนกับว่าหนักใจมากกับการที่จะพูดออกมา
“มีอะไรก็รับพูดออกมาได้เลย”
“ตอนนี้ลาฟเชียร์อายุครบ 15 ปี แล้วนะครับ…”
ออ! หมอนี่เองก็คงจะพูดเรื่องนั้นอีกแล้วสินะ แต่มันก็ไม่ได้แปลกอะไรหรอกที่พี่ชายจะเป็นห่วงน้องสาวของตัวเองแบบนั้น ขนาดผมเองเมื่อคิดว่าลาฟเชียร์ไปโดนพวกขุนนางมองด้วยสายตาหื่นกามก็แทบทนไม่ไหวเหมือนกัน
เมื่อเทียบกันแล้วเทเลอร์ที่เป็นพี่ชายของเธอคงรู้สึกอารมณ์เสียยิ่งกว่าผมแน่ อีกอย่าง ถ้าปล่อยเอาไว้แบบนี้ลาฟเชียร์ก็ต้องเลือกคู่หมั่นยิ่งตัวเธอพลังมีไม่ค่อยเท่าไหร่แล้วด้วยถ้าแต่งงานไปก็มีหน้าที่แค่ให้กำเนิดทายาทเท่านั้น แล้วหลังจากนั้นก็เป็นเพียงของไร้ค่าในสายตาพวกขุนนาง
ถึงจะรู้ว่าเรื่องแบบนี้มันไม่ดีแต่นี่แหละคือความจริง ไม่ว่าเธอจะสวยขนาดไหนก็ตามแต่วันเวลาผ่านไปความสวยของเธอก็ร่วงโรย เมื่อถึงตอนนี้ขุนนางที่ต้องการเพียงความสวยหรือแต่งงานเพื่อเพิ่มอำนาจก็จะเบื่อผู้หญิงมันเป็นเรื่องปกติ
แต่ทางผมวางแผนเอาไว้แล้ว ไม่ปล่อยให้เป็นแบบนั้นหรอก หึหึ!
“เรื่องของลาฟเชียร์ไม่ต้องห่วงข้าจะรับผิดชอบเอง”
“ทะ ท่านพูดจริงใช่ไหมครับ”
หน้าตาเทเลอร์เต็มไปด้วยอารมณ์ดีใจ ต่างจากเมื่อกี้ลิบลับ
“แน่นอนเจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยให้ลาฟเชียร์โดนบังคับหรือไง”
“ไม่แน่นอนครับ!”
“ดีมากๆ”
ผมพยักหน้าขึ้นลงระหว่างตอบ
แล้วก็พูดต่อ
“งั้นเรื่องลาฟเชียร์จบแล้วเรามาเข้าเรื่องต่อไปกันเลยแล้วกัน”
“เรื่องต่อไป??? ท่านหมายถึงเรื่องอะไร???”
หลังได้รับคำถามที่เต็มไปด้วยความสงสัยจากเทเลอร์ ผมก็ยิ้มที่มุมปากก่อนจะออกตอบคำถามไปว่า…