ต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 103 แอบคิด
2 วันต่อมาหลังจากการเดินทางกลับไปของซิคนัส
ภายในห้องทำงานของไมล์
ภายในห้องตอนนี้มีผมที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน พร้อมกับกองเอกสารขนาดใหญ่ด้านหน้าเกี่ยวกับการบุกโจมตียึดเมืองหลวงคืน เพราะคิดเอาไว้แล้วพวกมันคงไม่ยอมง่ายๆ และที่ด้านหน้าโต๊ะทำงานของผมก็มีเมคัสกำลังยืนอยู่ด้วยใบหนน้าจริงจัง ส่วนสาเหตุที่มันมายืนอยู่แบบนี้ก็เพราะบอกว่ามีเรื่องการตอบกลับของสหราชอณาจักรมารายงาน แต่ผมก็พอจะเดาคำตอบได้อยู่หรอกว่าพวกมันไม่มีทางยอมกลับแต่โดยดี หรือถ้ามันยอมกลับก็ต้องมีอะไรแน่ ก็เลยเลือกที่นั่งวางแผนหารยึดเมืองหลวงคืนแบบตอนนี้
" พวกมันตอบกลับมาว่าอะไร "
ผมเริ่มเอ่ยถามก่อน เพราะตั้งแต่ที่เมคัสเดินเข้ามามันก็ยืนนิ่งไม่ได้พูดอะไรเพราะผมไม่ได้สนใจมันและตั้งหน้าตั้งตาอ่านแผนที่วางเอาไว้อยู่ คงเพราะแบบนี้เมคัสมันก็เลยไม่กล้าพูดออกมาสักที แต่ถึงแบบนั้นเมื่อดูจากสีหน้าที่เมคัสมันแสดงออกมาก็พอเดาได้อยู่หรอกว่ามันไม่ใช่การตอบรับที่ดีเท่าไหร่นัก
" พวกมันเลือกที่จะถอนกำลังออกจากเมืองหลวงกันครับ แต่ว่า... "
เจอไอคำแต่ว่าตามหลังทีไรรู้สึกไม่ดีทุกครั้งเลยแหะ เชื่อว่ารอบนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องดี สีหน้าที่เมคัสแสดงออกมาตอนนี้เต็มไปด้วยความลำบากใจที่จะพูดออกมา อันที่จริงได้ยินว่าพวกมันถอนกำลังรบออกจากเมืองหลวงมันก็เป็นเรื่องดีอยู่หรอก แต่ลางสังหรณ์ของผมมันกลับบอกว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีนี่สิ
" ข้ารอฟังอยู "
ผมเร่งเอาคำตอบ
" พวกนั้นบอกว่าจะแค่ถอนกำลังรบออกไปเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนเรื่องของสงครามระหว่างพวกขุนนางที่อยู่ฝ่ายเดียวกับมันอยู่ทั้งเรื่องเงินทุนและอาวุธในการทำสงคราม เพื่อต่อสู้กับองค์ชายเฮเลอร์ครับ "
หึหึ! เป็นแบบที่คิดเอาไว้พวกมันยอมถอยก็จริงแต่มันก็ไม่ได้จะยอมถอยกันง่ายๆ แต่นี้ผมก็คิดเอาไว้แล้วเหมือนกัน คิดเอาไว้แล้วเรื่องแบบนี้มันต้องเกิดขึ้นพวกมันไม่มีทางยอมปล่อยเนื้อก้อนโตอย่างอณาจักรที่จะสูบทรัพยกรกันหรอก เล่นแบบนี้ก็สนุกนะสิ !
" แล้วเรื่องข้อเสนอเงินที่ข้าเรียกไปละ? "
" เรื่องนั้นมันไม่ได้พูดถึง คนที่ติดต่อมาพูดเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียวพอข้าพยามถามไปทางนั้นก็บอกว่าตัวเองมีหน้าที่แค่นั้น แล้วปฏิเสธที่จะตอบมาอย่างเดียว "
" อ่า! "
แบบนี้แสดงว่าพวกมันปฏิเสธผมชัดๆ แต่ก็ไม่เป็นอะไรเดี๋ยวไปรวบหัวรวบห่างพวกมันเอาครั้งเดียวเลยก็แล้วกัน จากนั้นผมก็เริ่มพูดกับเมคัสที่กำลังยืนอยู่อีกว่า " เจ้าช่วยไปตามองค์ชายไคเซอร์มาหาข้าที่ห้องหน่อย ข้ามีเรื่องต้องคุยก่อนออกเดินทัพ "
"ครับ"
...
....
......
ในเวลาต่อมา
หลังจากที่ผมให้เมคัสไปตามสักพักไคเซอร์ก็เดินเข้ามาในห้องทำงานของผมด้วยใบหน้าเร่งรีบแบบร้อนใจ
เมื่อถึงด้านหน้าของผม
" พวกมันตอบกลับมายังไงบ้างท่านบารอน? "
ไคเซอร์ก็เริ่มถามออกมาทันทีแบบไม่รอช้าอะไร จากนั้นผมก็เริ่ม้เล่าเรื่องทั้งหมดที่่รู้มาจากเมคัสให้ฟังไปเล็กน้อยและที่เหลือก็ใส่สีเต็มไข่ไปในแบบที่มันต้องได้ยินโดยการเพิ่มอะไรเล็กน้อย... ไม่สิ! จะเรียกว่าเล็กน้อยก็ไม่ได้ เพราะที่เล่าให้มันฟังไปมีความจริงที่ผมคุยกับเมคัสประมาณ 30% ส่วนอีก 70% เป็นสิ่งที่ผมคิดเองทั้งนั้น ถึงการกระทำต่อไปของพวกมันว่าต้องการอะไรกันแน่เลยเล่าล่วงหน้าไปเลยเอาแบบดราก์ๆ
แต่ถึงจะใส่สีเติมไข่ไปมันก็ยังใจเย็นอยู่ได้อยู่อีก นับว่ารอบนี้เป็นเรื่องที่แปลกใจมากที่มันสามารถใจเย็นได้ขนาดนี้ ราวกับว่ามันเป็นไคเซอร์อีกคนที่หลุดมาจากมิติอื่นเลย ก็ไม่รู้หรอกนะว่านายไปทำอะไรมาแต่ท่าทางแบบนี้แหละเหมาะกับที่เป็นราชาแล้ว ผมเผลอคิดแบบนี้ไปชั่ววูบขณะก่อนที่เริ่มอธิบายเรื่องทั้งหมดให้มันฟัง แต่พอพูดว่า [ มันต้องการให้เวโรนิก้าแต่งงานกับคนที่ชนะสงคราม ] ไคเซอร์ก็
ตุ๊บ!
ใช้กำปั้นทั้งสองข้างของทุบลงที่โต๊ะด้านหน้าของผมด้วยสีหน้าที่มีความโกรธออกมาได้อย่างชัดเจน แล้วก็พูดออกมา " พวกมันคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงได้ทำกับท่านพี่ของข้าเป็นสิ่งของแบบนั้น "
จบกัน! เมื่อกี้ก็แอบคิดว่าหมอนี่เหมาะกับตำแหน่งราชาไป แต่แบบนี้ยังไงก็ไม่ไหวถ้าขืนมันเป็นราชาขุนนางคนไหนคุยกับเวโรนิก้าหรือเข้าหาเธอมันได้สั่งฆ่าหมดแน่ พวกติดพี่นี่มันน่ากลัวจริงๆ เฮ้อ~
" ท่านบารอนสิ่งที่ท่านกำลังจะบอกก็คือ มันมีขุนนางบางกลุ่มที่ต้องการเปลี่ยนประเทศให้มีระบบการปกครองแบบสหราชอณาจักรสินะ แล้วพวกมันก็เลยให้การสนับสนุนขุนนางพวกนั้นโดยอ้างเหตุผลเรื่องสิทธิ์ของมนุษย์ "
" อะ... อ่า "
ทำไมมันถึงได้เข้าใจไปแบบนั้นได้ หรือว่าเราปั่นมากเกินไปจนเข้าใจผิดขนาดนั้น ไม่หรอกมั้ง??? แต่ก็ช่างเถอะ ถึงคำพูดจะต่างออกไปที่จะสื่อแต่ความหมายที่พวกขุนนางทรยศได้รับการสนับสนุนจากสหราชอณาจักรก็ยังเหมือนเดิม เพราะงั้นก็แสดงว่ามันเข้าใจถูกต้องนั่นแหละยังไม่ออกทะเลไปไหน
" ถูกต้องแล้วองค์ชาย! และที่ข้าเรียกท่านมาในวันนี้ก็จะคุยเรื่องเกี่ยวกับพวกขุนนางที่อยากเปลี่ยนระบบที่ไม่อยากให้มีราชวงศ์ในประเทศนี่แหละ "
ไม่รู้จะเรียกมันว่าอะไรเรียกพวกทรยศก็แล้วกันจะได้เข้าใจง่าย เหอะๆ
" ท่านอยากจะคุยเรื่องอะไรกับข้า? "