ตอนที่ 441+442 ปรนเปรอ
ตอนที่ 441 ปรนเปรอ
ในตอนนั้น เครื่องประดับผมกำลังถูกประมูล มันไม่ใช้ของโบราณแต่เป็นสินค้าที่ถูกออกแบบจากนักอัญมณีระดับปรมาจารย์ การออกแบบได้อย่างสวยงามไร้ที่ติ ลวดลายแมลงปอคล้ายกับมีชีวิตชีวาเกาะอยู่บนดอกบัวสีชมพู ปีกของมันราวกับปลิวไปตามสายลมได้เสียอย่างนั้น
ผู้ทำไม่ได้เข้าร่วมในการประมูลแต่ได้ส่งเครื่องประดับชิ้นนี้เข้าประมูล ทันทีที่มันถูกยกขึ้นมาวางบนโต๊ะประมูล ความวุ่นวายก็เริ่มปะทุขึ้นในกลุ่มคน เหมือนจะได้รับความนิยมมากโดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง
ลู่ชิงสีมองไปที่เจียงเหยา มือเล็ก ๆ ของเธอเหมือนจะสั่นไหวเล็กน้อย
“คุณชอบมันไหม?” ลู่ชิงสีกระซิบ เธอมองเขาอย่างจริงจังและพยักหน้าเหมือนเด็กที่ขอขนม ทำให้หัวใจของเขาอ่อนลงในทันที “ชอบก็ประมูลสิ คุณเป็นคนดูแลกระเป๋าเงินนี่ จะใช้เงินเท่าไหร่ก็ได้ ถ้ามันไม่พอก็หายความว่าผมมีความสามารถไม่พอ”
เจียงเหยาชอบกิ๊บติดผมมาก เพียงได้เจอครั้งแรกก็เหมือนถูกมันดึงดูดความสนใจในทันที ดอกบัวสีชมพูและแมลงปอที่คล้ายจะมีชีวิตจริง ทุกอย่างดูน่ารักมาก
“ถ้าแพงเกินไป ก็ไม่คุ้มค่ะ” แม้ว่ามันจะดูน่าทึ่งและเป็นผลงานจากผู้ผลิตระดับปรมาจารย์ แต่คุณค่าของมันก็เทียบไม่ได้กับของโบราณจริง ๆ
ลู่ชิงสีบีบมือของเจียงเหยาเบา ๆ และยกป้ายหมายเลขขึ้น
ผู้เสนอราคาที่เหลือจับจ้องสายตาไปยังคู่แข่งรายใหม่ของพวกเขาและตระหนักว่านั่นคือลู่ชิงสี กลุ่มหญิงสาวมองไปยังผู้หญิงที่นั่งข้างเขาด้วยความอิจฉา
บางทีลู่ชิงสีอาจจะประมูลของชิ้นนี้เพื่อเธอ ในบรรดาคุณชายของเมืองจินโด ลู่ชิงสีถือเป็นคนที่ไม่ค่อยมีรายละเอียด เขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในกองทัพ ไม่ได้พบปะสังสรรค์มากเท่ากับคนอื่น ๆ ในเมืองจินโด มีเพียงไม่กี่คนในเมืองจินโดที่เคยเห็นเขาเป็นการส่วนตัว ถึงกระนั้น ข่าวลือของเขาก็มีมากมาย พอ ๆ กับคนอื่น ๆ ในกลุ่มของเขา
ระหว่างคุณชายทั้งห้าของเมืองจินโด คุณชายเหลียงเพิ่งแต่งงานกับลูกสาวของตระกูลหลัว คุณชายกู้ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศตลอด ชีวิตของเขาเป็นความลับมากกว่าคุณชายลู่ คุณชายโจวเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ เปลี่ยนคู่ครองเป็นว่าเล่น ในขณะที่คุณชายเฉินเพิ่งจะควงผู้หญิงสองสามคนในไม่กี่ปีที่ผ่านมา
มีเพียงคุณชายลู่เท่านั้นที่ไม่เคยมีข่าวกับผู้หญิง มักจะเห็นว่าเขาอยู่ตามลำพัง ไม่เข้าร่วมกิจกรรมใด ๆ เพราะเพื่อน ๆ ของเขามักจะควงคู่ของตัวเองออกงาน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าหญิงสาวที่เป็นประเด็นจับจ้องอยู่ในตอนนี้โชคดีเสียเหลือเกินที่ถูกคุณชายลู่เอาใจ
หลังจากการประมูลไปสองสามรอบ ราคาของเครื่องประดับผมชั้นนั้นก็สูงกว่าราคาตลาด หลายคนยอมแพ้ในทันที เหลือเพียงสตรีผู้มั่งคั่งสองสามคนในสงครามประมูลที่แข่งกับลู่ชิงสี เขายังคงสู้ราคาและเพิ่มราคาขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งผู้เสนอราคาคนสุดหยุดยกป้ายของเธอ
และในที่สุดลู่ชิงสีก็ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ
“บีบโชคซะแห้งเลยนะ เพื่อให้ได้เห็นรอยยิ้มของเจียงเหยาสินะ!” เฉินซวีเหยากลับเข้ามาหลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จและล้อเลียนลู่ชิงสี เครื่องประดับผมชิ้นนั้นถูกประมูลในราคาที่สูงกว่าตลอดถึงสองเท่า แต่ลู่ชิงสีก็ยอมที่จะซื้อเพราะเจียงเหยาชอบมัน
ลู่ชิงสีใบหน้าไร้อารมณ์ เขาตอบว่า “ฝืด? หึ”
เจียงเหยาหัวเราะ พลางยกมือขึ้นปิดปากของเธอ “ก็ใช่น่ะสิ พี่ลู่มีเงินมากกว่านั้นนี่” เธอไม่คุ้นเคยกับทรัพย์สินของลู่ชิงสี แต่เธอแน่ใจว่าเขาต้องมีเงินในบัญชีธนาคารมากกว่าที่เขาใช้ไปในวันนี้
__
ตอนที่ 442 ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว
เครื่องประดับผมชิ้นนี้มีราคาแพง แต่ราคาไม่ได้มีความหมายอะไรหากเทียบกับความสามารถทางการเงินของลู่ชิงสี
เจียงเหยาอดไม่ได้ที่จะตีไปที่ข้อมือของลู่ชิงสี เมื่อเธอนึกไปถึงราคาหลายหมื่นที่เสียให้กับเครื่องประดับผมชิ้นนี้ “คนสุรุ่ยสุร่าย!”
ถ้าเธอรู้ว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้ เธอจะไม่พูดว่าเธอชอบมัน
ก็แค่กิ๊บติดผม แต่ไม่ใช่ของที่จะใช้งานได้ในชีวิตประจำวันทั่วไป แม้มันจะดูสวย แต่ก็คงมีไม่กี่โอกาสเท่านั้นที่จะได้สวมใส่
“ไม่ชอบเหรอ?” ลู่ชิงสีจริงจัง “ไม่บ่อยนี่ที่จะเห็นของที่คุณชอบ จะปล่อยให้คนอื่นได้ไปได้ยังไง?”
เจียงเหยารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ยินแบบนั้น เธอชอบมันอย่างแน่นอน!
“พี่ลู่ แล้วของที่พี่ชอบล่ะ?” โจวเหวยฉีเดินเข้ามาหาพวกเขาอย่างร่าเริงและชี้ไปบนเวที “มีคนเอารถมาประมูลด้วยล่ะ!”
“พ่อนายล่ะอยู่ไหน? ขอให้เขาซื้อให้สิ!” เฉินซวีเหยากลอกตาไปที่โจวเหวยฉี
โจวเหวยฉีไม่ได้คาดหวังการโต้กลับของเฉินซวีเหยา เฉกเช่นลูกโป่งที่ถูกเจาะรู เขากลับไปนั่งอย่างหดหู่และเริ่มคร่ำครวญ
เจียงเหยามองไปที่ลู่ชิงสี เธอเริ่มชอบความน่าทึ่งของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ ท่าทางมั่นใจและแน่วแน่ของเขาดึงดูดใจดวงน้อย ๆ ของเธอ
ในชีวิตก่อนหน้านี้ เธอหลีกเลี่ยงลู่ชิงสีราวกับเขาเป็นโรคระบาด ความเย่อหยิ่งของเธอทำให้เธอไม่ยอมใช้เงินของตระกูลลู่แม้แต่แดงเดียว บ่อยครั้งที่เธอตกอยู่ในสภาพชักหน้าไม่ถึงหลัง
เธอต้องการที่จะประสบความสำเร็จและมีรายได้มหาศาล! หากเมื่อใดที่ลู่ชิงสีมีของบางอย่างที่เขาต้องการ เธอจะซื้อให้เขาโดยไม่มีคำถาม!
“นายอยากได้รถคันนั้นเหรอ?” ลู่ชิงสีเคาะโต๊ะหน้าโจวเหวยฉีและพูดต่อ “ออกจากตระกูลโจวซะสิ แล้วฉันจะซื้อให้นาย”
รถมีขนาดใหญ่เกินกว่าจะนำเข้ามาในห้องประมูล จึงมีเฉพาะรูปและข้อมูลบางอย่างของรถเท่านั้นที่แสดงอยู่บนเวที
มันเป็นรถโบราณที่สร้างความรู้สึกย้อนยุค มันได้รับการดูแลอย่างดี และลู่ชิงสีก็รู้จักกับเจ้าของรถ รถคันนี้จะถูกคืนให้กับเจ้าของรถโดยคนที่ซื้อได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว การประมูลเป็นเพียงพิธีการบังหน้าเท่านั้น
“อย่ากดดันฉันนักสิ!” โจวเหวยฉีหายใจออกมาเสียงดังและหันหน้าหนี เขานั่งอยู่ที่นั่นอย่างเคร่งเครียดโดยไม่สนใจคนรอบข้าง
อย่างไรก็ตาม ความปรารถนาในรถยนต์ของเขานั้น ฉายออกมาทางสายตาทั้งหมดแล้ว
โจวเหวยฉีมีงานอดิเรกคือการสะสมรถ เขาเป็นคนจู้จี้จุกจิกอยู่บ้าง มักจะเลือกที่จะสะสมรถยนต์ที่ได้รับการออกแบบและผลิตโดยผู้ผลิตที่เขาชื่นชอบเท่านั้น
บังเอิญว่ารถที่นำมาประมูลในวันนี้ ผลิตโดยผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันที่เขาชอบมาก
เขามีวีธีการทางการเงินและความสามารถในการซื้อมันด้วยตัวเอง แต่เขาก็ไม่ทำ ตราบใดที่เขายังเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลโจว เขาก็ทำได้เพียงเป็นเพลย์บอยที่ไร้ประโยชน์และไม่มีเงินพอของเขาเอง
ทั้งลู่ชิงสีและเฉินซวีเหยาไม่พร้อมที่จะช่วยเขา
เจียงเหยาสังเกตเห็นความโกรธของโจวเหวยฉี เธอดึงแขนเสื้อของลู่ชิงสีอย่างเงียบ ๆ
“ปล่อยเขาไปเถอะ” ลู่ชิงสีตอบกลับแบบส่ง ๆ ทำให้โจวเหวยฉีที่เงี่ยหูฟังอยู่รู้สึกตกใจกับคำตอบ เขาคิดว่าลู่ชิงสีจะเปลี่ยนใจเสียอีก
หลังจากนั้นงานภาพศิลปะของลู่ชิงสีก็ถูกยกมาวางบนเวที กลุ่มคนในห้องโถงฮือฮากันใหญ่ เจียงเหยาไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง แต่เธอสังเกตว่ารายการที่ลู่ชิงสีส่งเข้าประมูลนั้นไม่เหมือนงานศิลปะทั่ว ๆ ไป
แม้แต่นายพลเหลียงและนายพลเฉินก็ยังยกป้ายขึ้นประมูลสู้กับคนอื่น เพื่อนสนิททั้งสองต่างแย่งกันประมูลเพื่อให้ได้ครอบครองผลงานศิลปะชิ้นนั้น จนเฉินซวีเหยาไม่สามารถกลั้นหัวเราะของเขาได้อีกต่อไป
“ถ้านายพลเหลียงแพ้นะ พี่ลู่ พี่ไม่รอดจากเรื่องนี้แน่!” นายพลเหลียงจับตางานศิลปะนี้มาระยะหนึ่งแล้ว แต่ลู่ชิงสีไม่เต็มใจที่จะปล่อยมือจากมัน