MDB ตอนที่ 27 วิวาทะ
พวกเขาได้บอกว่าอาหารจานนี้ทำจากปลามังกรแต่กลับเสิร์ฟปลาคาร์พแทน ดังนั้น หลินจินจึงพูดถูกว่ามีสิ่งผิดปกติในจาน อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ตั้งใจก่อความวุ่นวาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงอาหารกลางวัน ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องการก็คือให้พวกเขาทำจานใหม่มาให้เท่านั้น
แน่นอนว่า เขาไม่สามารถยอมรับจานปลาคาร์พนี้ได้ เพราะเมนูที่หลินจินสั่งเพื่อการควบคุมพลังจิตวิญญาณของเขา หากไม่มีปลามังกร ความสมดุลของการควบคุมพลังจิตวิญญาณนี้จะหยุดชะงักและสุดท้าย มันก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อเขาหลังทานเสร็จ
หลินจินไม่มีเจตนาร้ายใด ๆ เลย แต่ไม่ใช่กับจางไป่หลี่
การแอบเปลี่ยนจานเป็นสิ่งผิดจรรยาบรรณสำหรับร้านอาหาร เนื่องจากเขาทำไปแล้ว สิ่งที่เขาทำได้ตอนนี้คือพยายามเก็บเรื่องนี้ไว้ให้เงียบที่สุด แน่นอนว่า ถ้าพวกเขามีปลามังกรอีกตัว เขาจะแทนที่จานนี้โดยไม่ต้องคิดมากเลย แต่ปัญหาคือมีปลามังกรตัวเดียวและต้องเสิร์ฟให้ลูกค้าในห้องส่วนตัว ดังนั้นการแทนที่ที่นี่จึงไม่ใช่ทางเลือกของเขา
ถ้าเขาให้อาหารจานเดิมคืน เขาก็ยังมีความชอบธรรมอยู่บ้างแต่เขาทำมันไม่ได้ ดังนั้น ทางเลือกที่ดีที่สุดที่เขามีคือการปฏิเสธคำกล่าวอ้างของหลินจินต่อไป
“ร้านอาหารซิมโฟนีเป็นร้านเก่าแก่ที่มีอายุนับร้อยปี เป็นไปไม่ได้ที่เราจะเสิร์ฟผิดจาน คุณลูกค้า นี่คือปลามังกรน้ำส้มพรีเมียมที่ท่านสั่งไว้ ได้โปรดหยุดก่อความวุ่นวายได้แล้ว!” จางไป่หลี่กล่าวอย่างเย็นชา
ผู้ชายคนนี้ไม่เคยพูดแบบนี้กับลูกค้าคนใด แต่เมื่อลูกค้าคือหลินจิน เขาจึงกล้าพูด
ร้านอาหารซิมโฟนีอยู่ห่างจากสมาคมสัตว์วิเศษเพียงไม่กี่ก้าว ลูกค้าจำนวนมากจึงมาจากที่นั่น
ด้วยเหตุทำให้จางไป่หลี่รู้จักกับผู้จัดการของทั้งฝ่ายกิจการทั่วไปและแผนกพลาธิการเป็นอย่างดี ดงเฮอก็มาทานอาหารที่นี่เป็นประจำอีกด้วย
และดงเฮอเป็นที่มาของข่าวลือของหลินจินสำหรับจางไป่หลี่
ความผิดพลาดในการประเมินของหลินจิน มันกำลังทำให้เขาถูกไล่ออก เนื่องจากเรื่องนี้รู้ได้โดยทั่วไป มีใครหลายคนจึงรอช่วงเวลาที่เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งพร้อมกับคุณสมบัติของเขา เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น เขาอาจจะไม่สามารถรับงานประเมินสัตว์วิเศษที่เมืองนี้ได้อีกเลย
แล้วทำไมเขาต้องเคารพคนอย่างหลินจินด้วย?
หลินจินส่ายหัวกับสิ่งที่จางไป่หลี่กล่าวและตอบอย่างตรงไปตรงมา “ท่านเป็นผู้จัดการ ดังนั้นท่านควรรับผิดชอบต่อคำพูดของท่าน”
"อะไรนะ? นี่เจ้ากำลังพยายามขู่ข้างั้นเหรอ? ข้าจะบอกอะไรให้เจ้ารู้ไว้นะ ร้านอาหารซิมโฟนีเจอลูกค้าทุกประเภทตั้งแต่เปิดร้าน หากเจ้ามาทานอาหารที่นี่ เรายินดีต้อนรับเจ้าแต่ถ้าเจ้ามาที่นี่เพื่อก่อเรื่อง ข้าต้องเสียใจด้วยเพราะที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับการแสดงตลกของเจ้า+” ด้วยทัศนคติของจางไป่หลี่ที่มั่นคงจึงเรียกเสียงฮือฮาของร้านอาหารในขณะที่เขาพูด
การเปิดร้านอาหารคือการพบปะผู้คนที่รับประทานอาหารและเจอพวกสร้างปัญหาแต่พวกเขาก็เตรียมการรับมือคนพวกนี้ไว้แล้ว
จากนั้น พวกยามก็เข้ามาตรงที่ที่หลินจินกับจางไป่หลี่อยู่
หลู่เสี่ยวหยุนและจ้าวหยิงไม่สามารถทนฟังได้อีกต่อไป
“ทำไมท่านถึงเปิดร้านอาหารอย่างกับพวกนอกกฎหมาย? เราแค่บอกว่าพวกท่านเสิร์ฟผิดจานเท่านั้นแต่นี่คือวิธีปฏิบัติต่อลูกค้าของท่านหรือ? ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี!”
ประกายในแววตาของจางไป่หลี่ฉายชัดขึ้นมา “ยัยหนูระวังปากของพวกเจ้าให้ดี หากเขาไม่กวนรังแตน สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้น อย่าทำเหมือนว่าข่าวลือเกี่ยวกับผู้ประเมินหลินเป็นความลับ ข้าได้ยินมาว่าเขากำลังจะถูกไล่ออกแล้ว อาหารพวกนี้ราคากว่า 20 เหรียญ เขาจะมีปัญญาจ่ายมันได้อย่างไร? เขาคงจะไม่หาข้ออ้างเพื่อกินฟรีหรอกใช่มั้ย?”
สีหน้าของหลินจินมืดลงในที่สุด
ในระหว่างนั้นเอง มีปลามังกรน้ำส้มพรีเมียมอีกตัวถูกถือไปยังห้องส่วนตัว
หลินจินเห็นมันจากหางตาและเดินไปหยุดพนักงานเสิร์ฟไว้
"เจ้ากำลังทำอะไรน่ะ?" หัวใจของจางไป่หลี่ตกลงไปถึงตาตุ่ม เมื่อเห็นสิ่งนี้
ยามได้ก้าวไปข้างหน้าเพื่อขวางทางหลินจินไว้
หลินจินเป็นคนไม่ยอมคน เขาไม่ใช่คนขี้ขลาดเหมือนเจ้าของร่างคนก่อน
'ถ้าพูดดี ๆ ฉันก็ไม่ว่าอะไรแต่ในเมื่อแกรนหาที่เอง อย่าหาว่าฉันเล่นแรงเกินไปล่ะกัน'
“จ้าวหยิง!” หลินจินเรียกเธอและหญิงสาวก็กระแทกโต๊ะทันที เสียงดังมาจากข้างนอกและตัวนิ่มยาว 2 เมตรก็วิ่งตรงเข้ามา
เมื่อรับประทานอาหารในร้านอาหาร สัตว์เลี้ยงจะถูกเก็บไว้ในคอกสัตว์พิเศษที่ชั้นหนึ่ง หลังจากที่เธอร่ายเวทย์เรียก ตัวนิ่มของเธอก็มาทันที
ไม่เพียงแค่เธอเท่านั้น แม้แต่จิ้งจอกแดงของหลู่เสี่ยวหยุนก็ปรากฏตัวขึ้นเช่นกัน ตัวมันห่อหุ้มด้วยพลังงานธาตุไฟ แม้ว่าขนาดของมันจะเทียบไม่ได้กับตัวนิ่มแต่กรงเล็บและเขี้ยวของมันก็อันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย
ส่วนเสี่ยวฮั่ว มันยังอยู่ที่สมาคมและฝึกฝนส่วนแรกของรูปแบบพลังงานอสูรอย่างสงบ
พวกยามถอยห่างออกไปและมองอย่างช่วยไม่ได้และยอมให้หลินจินไปที่จานขของปลามังกรน้ำส้มพรีเมียม
หลินจินลดนิ้วลงที่ตัวปลาอ่อนโยนและเข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
จางไป่หลี่โพล่งขึ้นมาทันที “มีคนก่อความวุ่นวาย ไปรายงานกับเจ้าหน้าที่เดี๋ยวนี้ หลินจินอย่าคิดหนีนะ!!!”
หลินจินไม่สะทกสะท้าน “ข้าจะไม่จากไปแม้ว่าเจ้าต้องการให้ข้าไปก็ตาม เจ้าเป็นถึงพ่อค้าแต่กลับไม่ซื่อสัตย์ เราสั่งปลามังกรน้ำส้มพรีเมียม เจ้ากลับเสิร์ฟปลาคาร์พและไม่ยอมรับความจริง ในขณะเดียวกัน เจ้าเสิร์ฟปลามังกรน้ำส้มพรีเมี่ยมอีกโต๊ะหนึ่งซึ่งเป็นปลามังกรจริง ๆ งั้นหรือ? นี่เป็นวิธีที่เจ้าหลอกลวงลูกค้าหรือไร? หรือนี่คือการจัดฉาก? ก่อนหน้าข้ายังสามารถให้อภัยได้แต่ตอนนี้สายน้ำมิอาจหวนคืนได้อีกแล้ว!”
หัวใจของจางไป่หลี่เต้นรัว เขาเป็นคนเดียวที่รู้เหตุการณ์ทุกอย่างเหมือนอยู่หลังมือของเขาและหย่ามใจว่าอีกฝ่ายจะไม่มีวันรู้เรื่องนี้ แต่นี่คืออะไร ทำไมอีกฝ่ายถึงรู้ได้?
จางไป่หลี่ตื่นตระหนกทันที
การเปิดเผยเหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่จะทำลายชื่อเสียงของร้านอาหารซิมโฟนีเท่านั้น แต่สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่พิเศษของเจ้าของร้าน เขาจะไม่มีทางยกโทษให้จางไป่หลี่แน่นอน จางไป่หลี่ตัดสินใจว่าเขาจะไม่ยอมให้เรื่องนี้ถูกเปิดเผยเด็ดขาด
“หลินจิน เจ้ากำลังใส่ร้ายข้า! เจ้าเป็นเพียงผู้ประเมินที่เลวทรามต่ำช้า เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นเจ้าของร้านอาหารนี้เหรอ? วันนี้ เจ้าได้ทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่ด้วยการล่วงเกินคนที่เจ้าไม่ควรยุ่ง ยอมรับโทษซะตอนนี้ มิฉะนั้น…”
“ถ้าไม่ แล้วจะทำไม?”
หลินจินพยายามให้อีกฝ่ายยอมรับผิดแต่อีกฝ่ายยังไม่ยอมรับแถมยังกล่าวหาว่าเขาใส่ร้ายอีกด้วย
'ก็ได้ ในเมื่อมาไม้นี้ ฉันจะทำให้เห็นเองว่า ใครจะหัวเราะในตอนท้าย’
การโต้เถียงของพวกเขาทำให้ลูกค้าจำนวนมากในบริเวณใกล้เคียงสนใจ ทุกคนเหลือบมองไปทางพวกเขาและซุบซิบนินทาขณะเฝ้าดู แม้แต่แขกในห้องส่วนตัวก็ยังตกใจกับความโกลาหล
จางเฮอเป็นคนแรกที่รีบออกไปเห็นว่าหลินจินเป็นคนก่อความวุ่นวาย หลังจากที่รู้ว่าหลินจินกำลังสร้างเรื่อง เขาก็ตะโกนว่า
“หลินจิน เจ้าบ้าหรือเปล่า? เรากำลังดูแลแขกผู้มีเกียรติของหัวหน้าหวังอยู่แต่ดูเจ้าสิ เจ้าเรียกตัวเองว่าผู้ประเมินทางการแท้ ๆ แต่ทำตัวอย่างกับอันธพาลเยี่ยงนี้!”
จางเฮอได้รับคำตอบไปอีกฝ่ายว่า “ไสหัวไป!”
จางเฮอโมโหแต่เขาก็ตระหนักว่านี่เป็นโอกาส หลินจินกำลังสร้างปัญหา ในขณะที่อยู่ในสายตาของอาจารย์กู่
อาจารย์กู่เมียงจง เขาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในอาณาจักร แม้แต่คนอย่างหัวหน้าหวังก็ต้องให้เกียรติ ใครก็ตามที่ทำให้เขาขุ่นเคืองคงปรารถนาเพียงแต่ความตาย
“ดูเหมือนว่าวันนี้จะเป็นวันที่เจ้าถูกไล่ออกจากสมาคม” เมื่อรู้หลินจินเป็นคนก่อเรื่อง จางเฮอก็กลับเข้าไปข้างในทันทีและอธิบายสถานการณ์พร้อมกับใส่ไข่แต่งเรื่องเพิ่มเติมไปด้วย
ในไม่ช้า อาจารย์กู่เมียงจงก็ออกมาพร้อมกับเจียนเฉียน เจียเฉียนไม่สามารถปกปิดความรังเกียจของเธอได้ขณะที่เธอมองไปที่หลินจินได้ เธอมีอคติต่อชายผู้นี้แล้วและมองว่าเขาเป็นอุปสรรคต่อเธอ ตอนนี้หลินจินกำลังสร้างปัญหา นอกจากจะดูถูกแล้ว เธอยังรู้สึกโกรธด้วย
ทำไมเธอไม่ยืนกรานที่จะสอบในตอนนั้น? เธอจะปล่อยให้เจ้าขยะชิ้นนี้ปีนป่ายขึ้นไปเหนือเธอได้อย่างไร? คนอย่างเขาควรถูกไล่ออกจากสมาคม ไม่ เขาต้องถูกไล่ออกจากชุมชนประเมินสัตว์วิเศษ
“อาจารย์กู่ นี่คือผู้ประเมินจากสมาคมของเรา น่าเสียดายที่นิสัยของเขาแย่มาก ท่านเห็นไหมว่าการที่เขาก่อเรื่องแบบนี้มันน่าเกลียดขนาดไหน? เขายังไร้ความสามารถและทำผิดพลาดระหว่างการประเมิน” เจียเฉียนกระซิบที่หูของกู่เมียงจง
ทางด้านกู่เมียงจง เขาขมวดคิ้วและรู้สึกไม่พอใจที่ถูกรบกวน
หลังจากประสบความสำเร็จในการทำให้กู่เมียงจงอารมณ์เสีย ทั้งเจียเฉียนและจางเฮอก็มีความสุข เพราะหากมีข่าวว่าหลินจินทำให้อาจารย์กู่ไม่พอใจ หัวหน้าหวังจีจะขับไล่เขาโดยเร็วที่สุด
จางไป่หลี่รีบไปและขอโทษสำหรับสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์นี้ที่รบกวนแขกผู้มีเกียรติของเขา
ในขณะนั้นเงาขึ้นบันไดปรากฏขึ้น
เมื่อร่างนี้เดินเข้ามา พนักงานเสิร์ฟก็วิ่งเข้ามาหาเขา “พ่อครัวใหญ่เหลียว ท่านมาทำอะไรที่นี่!?”