41 - บางที... ก็แค่บางที
41 - บางที... ก็แค่บางที
ตอนดึก.
เด็กหญิงตัวเล็กๆ หลับไปภายใต้ดวงตาอันอบอุ่นของหลินฟ่าน
จากนั้นหลินฟ่านก็มองไปที่จางหงหมินด้วยรอยยิ้ม จางหงหมิน รู้ว่าผู้ป่วยทางจิตคนนี้เป็นคนดี ดังนั้นเขาจึงไม่ได้หวาดกลัวต่อสายตาของหลินฟ่านอีก
แม้จะบอกกับตัวเองอย่างนั้นแต่เขาก็ยังรู้สึกอึดอัดใจมากที่ถูกสายตาของหลินฟ่านจ้องมอง
ผ่านไปไม่นานหลินฟ่านก็ก้มลงไปที่ใต้เตียงเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง เขาหยิบลวดเส้นหนึ่งออกมาแล้ววางมันลงบนเตียงเบาๆ
เมื่อชายตาเดียวเห็นลวดเหล็กเรียวม้วนขึ้น คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย เขาอยากรู้ว่าสิ่งนี้มีไว้เพื่ออะไร
“มองผมทำไม” หลินฟ่านถาม
ชายตาเดียวไม่พูดอะไรและเสมองไปทางอื่น หลังจากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือเพื่ออ่านข้อความในกลุ่ม
[กลุ่มเหมาซาน: การเก็บเกี่ยวในวันนี้เต็มแล้ว พวกเราสามารถฆ่าสิ่งชั่วร้ายได้ 6 ตัว และนี่คือเกียรติของเหมาซาน 】
[กลุ่มวิทยาลัยพุทธ : อามิตตาพุทธ! 】
[กลุ่มวิทยาลัยลัทธิเต๋า: เล่าจื๊อคุ้มครอง! 】
[กลุ่มวิทยาลัยแพทย์ : ช่วยชีวิตคนตาย รักษาผู้บาดเจ็บ! 】
เมื่อดูข่าวในกลุ่ม ชายตาเดียวอยากจะปิดโทรศัพท์ แต่จู่ๆก็มีใครบางคนแท็กเขา
[สัตว์ประหลาดตาเดียว คุยกับผู้ป่วยทางจิตว่ายังไงบ้าง? 】
【วิทยาลัยแพทย์: หากคุณต้องการอยู่กับคนพิเศษ คุณต้องเปลี่ยนตัวเองให้เป็นกลุ่มคนพิเศษ 】
[ชายตาเดียว: คุณหมายถึงผมต้องทำตัวให้เป็นผู้ป่วยทางจิตเหมือนพวกเขา? 】
【วิทยาลัยแพทย์ : ก็ตามนั้นแหละ 】
ชายตาเดียวปิดมือถือ คนในกลุ่มนี้ไม่น่าไว้ใจเลย พวกเขามักจะให้เกียรติที่สำนักงานใหญ่ในนามเท่านั้น แต่เบื้องหลังพวกเขาล้วนเห็นแก่ตัวทั้งสิ้น
ผู้เฒ่าจางมองดูนาฬิกาบนข้อมืออย่างตั้งใจ ในสายตาของเขานี่คือนาฬิกา Rolex ล้ำค่าซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคนชั้นสูง ต่อให้เขามองมันทั้งวันเขาก็ไม่เบื่อ
โรงพยาบาลเงียบมาก พยาบาลนั่งปฏิบัติหน้าที่ที่บาร์ ดูโทรศัพท์และเหลือบมองพวกเขาในบางครั้ง
ทั้งวอร์ดเงียบและผู้ป่วยทุกคนต่างก็หลับสนิท
ในบางครั้งจะมีผู้ป่วยส่งเสียงครวญครางออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น
ภายในห้องผู้ป่วยจิตเวช
หลินฟ่านและผู้เฒ่าจางเปิดตากว้าง พวกเขานอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลและมองหน้ากัน แสงจางๆ ทำให้พวกเขาเห็นหน้าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน และใบหน้าของพวกเขาก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้น
มันเป็นรอยยิ้มที่มีแต่พวกเขาเท่านั้นที่เข้าใจ
เมื่อได้ยินเสียงในวอร์ด ชายตาเดียวก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะนอนหลับสนิทแต่ประสบการณ์หลายปีก็ทำให้เขามีความตื่นตัวสูง
พวกเขากำลังทำอะไร?
ชายตาเดียวไม่ได้สอบถามออกไปโดยตรง เขาต้องการดูว่าไอ้บ้าทั้งสองคนนี้กำลังทำอะไรอยู่
ในไม่ช้า เขาพบว่าเขาป่วยทางจิตกำลังพูดคุยกันเบาๆ เสียงของทั้งสองคนนั้นเขาได้ยินอย่างชัดเจน
“เขาเป็นคนดี ผมหวังว่าคุณจะทำให้ดวงตาของเขากลับมาหายเป็นปกติได้อีกครั้ง”
“แม้ว่าเขาจะทำลายเนื้องูที่หอมกรุ่นไป แต่เขาก็ยังเป็นคนดี และผมก็ยินดีที่จะช่วยเหลือเขา”
"ถ้าอย่างนั้นเรามาลงมือกันเถอะ"
พฤติกรรมลับๆล่อๆของหลินฟ่านและ ผู้เฒ่าจางทำให้ชายตาเดียวตกใจ! พวกเขาอยากจะฝังเข็มให้ฉันอีก?
ชายตาเดียวต้องการสั่งสอนให้ไอ้บ้าทั้งสองคนนี้รู้สำนึก แต่แล้วก็มีความคิดบางอย่างตีกันในหัวของเขา
พวกเขาเป็นคนบ้าจริงๆเหรอ?
แต่ความสามารถในการฆ่าสัตว์ร้ายระดับสองสองตัวนั้นเป็นความจริงอย่างแน่นอน
หรือว่าพวกเขาแค่แกล้งเป็นบ้าในตอนกลางวัน พอถึงกลางคืนพวกเขาจะแสดงความสามารถที่แท้จริงของตัวเองออกมา?
ความคิดของชายตาเดียวได้รับการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง แต่เขาไม่ได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้เอง บางทีทั้งสองคนอาจจะมีโอกาสรักษาหายก็ได้
ตามคำกล่าวที่ว่า ต้องทดสอบถึง 3 ครั้งและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดถึงจะปรากฏขึ้น
ตอนนี้เพิ่งผ่านมาเพียง 2 ครั้งเอง
บางทีครั้งสุดท้ายอาจจะสำเร็จก็ได้
จิตใจของชายตาเดียวมีการต่อสู้อยู่ภายใน
ฉันควรเชื่อพวกเขาไหม
ลืมมันไปเถอะ
มันมาถึงจุดนี้แล้ว ทำไมไม่ลองดูล่ะ?
ถ้ามันเป็นอย่างที่ฉันคิด มันคงไม่ใช่การค้นพบที่ยิ่งใหญ่หรอก
ผู้เฒ่าจางยืนอยู่บนเตียง หยิบกล่องเข็มออกมา
แม้ว่าแสงจาง ๆ จะทำให้เขามองไม่เห็นตำแหน่งของศีรษะชายตาเดียว แต่เขาได้ศึกษาการฝังเข็มมาเป็นเวลานานต่อให้เขาตาบอดไปจริงๆเขาก็สามารถฝังเข็มได้อย่างแม่นยำ
เขาค้นหาตำแหน่งและวางเข็มอย่างรวดเร็ว
เข็มแรก!
ชายตาเดียวจับผ้าปูที่นอนเบาๆด้วยสิบนิ้วของเขา แม้แต่ผู้ชายที่แข็งแกร่งอย่างเขาเองก็ยังมีช่วงเวลาแห่งความตึงเครียด ซึ่งเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ
เขามีความสงสัยอยู่ในใจเสมอ
ตำแหน่งการฝังเข็มของผู้เฒ่าคนนี้ไม่เหมือนเดิม เขารู้ได้อย่างไรแม้จะมองไม่เห็นตำแหน่งการฝังเข็ม!
หลินฟ่านหยิบลวดขึ้นมาพันรอบนิ้วเท้าของชายตาเดียว จากนั้นจึงนั่งยองๆเพื่อดึงลวดให้แน่น
ชายตาเดียวมองไม่เห็นสถานการณ์ของหลินฟ่านแต่สามารถรู้สึกได้ถึงบางสิ่งพันรอบนิ้วเท้าของเขา
เขาต้องการที่จะลุกขึ้นและดูว่าหลินฟ่านกำลังทำอะไรอยู่?
แต่จิตใจของเขาต่อต้าน
ในเวลานี้ผู้เฒ่าจางกำลังถือเข็มเงินและสัมผัสค้างของตัวเองเพื่อครุ่นคิด เขามองไปทางซ้ายและขวาและไม่พบตำแหน่งที่ไม่พึงประสงค์ เขาครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะลูบศีรษะของชายตาเดียวและฝังเข็มที่ 2 ลงไป
เขาได้ศึกษาการฝังเข็มมานาน และเขามั่นใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดอะไรเกิดขึ้น
เข็มที่สิบสองตกลงมา
ผู้เฒ่าจางถือเข็มเงินเล่มสุดท้าย เข็มที่สิบสามเป็นเข็มสุดท้ายแล้ว เขามองไปที่หลินฟ่านทั้งสองมองหน้ากันในความมืดมิดและพยักหน้าโดยปริยาย
ปัก!
เข็มที่สิบสามปักลงบนศีรษะของชายตาเดียว
นิ้วของชายตาเดียวจับผ้าปูที่นอนแน่น ชายตาเดียวสัมผัสได้ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน เขารู้สึกว่าเข็มที่ปักลงมานั้นเบาสบายกว่า 2 ครั้งก่อนหน้านี้มาก
หรือว่ามันจะ…!
เมื่อเขาต้องการจะพูดอะไร
หลินฟ่านก็เสียบลวดเข้าไปในซ็อกเก็ต
กระแสไฟวิ่งตามเส้นลวดไปถึงร่างของชายตาเดียวในเสี้ยววินาที
ชายตาเดียวรู้สึกถึงการโจมตีของกระแสไฟฟ้าในขณะที่เขากำลังจะหมดสติ
บูม!
บูม!
ร่างกายของเขาชักกระตุกอย่างน่ากลัวอยู่บนเตียงแม้แต่กระแสไฟที่อยู่ในทางเดินของวอร์ดก็ยังหรี่ลง
จางหงหมินตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงง
เขามองเห็นใครบางคนยืนอยู่ใกล้ๆเตียงของชายตาเดียว ในขณะที่ชายตาเดียวกระเด้งกระดอนไปมา
การแสดงออกของจางหงหมินค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นความกลัว
"อะไร หมอ!!!!"
เสียงที่น่าสังเวชดังก้องไปทั่วทางเดินของโรงพยาบาล
พยาบาลได้ยินเสียงดังเธอรีบวิ่งมาที่ห้องของพวกเขา ทันทีที่เห็นเหตุการณ์สายตาของเธอก็ดำมืดคล้ายกับว่าเรี่ยวแรงของเธอถูกดึงออกจากร่าง
“หมอ……ช่วยด้วย!!!”
ห้องทำงานของหมอ
หัวหน้าแพทย์ที่ช่วยชีวิตหลินฟ่านอยู่เป็นประจำก็ตื่นขึ้นทันที เขาปาดเหงื่อออกจากใบหน้าแล้วพูดด้วยความดีใจว่า
“โชคดีที่มันเป็นแค่ความฝัน มันทำให้ฉันกลัวแทบตาย”
ติ๊ด ติ๊ด!
เสียงมาจากอินเตอร์คอม
“คุณหมอรีบมาที่ห้องฉุกเฉินด่วน ผู้ป่วยทางจิตที่มีดวงตาข้างเดียวได้รับบาดเจ็บสาหัส เราต้องกู้ชีพเขาโดยด่วน”
หัวหน้าแพทย์ตกใจมากแต่เขายังพยายามพูดอย่างใจเย็น:
"ผมเข้าใจแล้ว"
‘ไอ้สาระเลวเอ้ย ที่แท้มันไม่ใช่ฝัน!’ หัวหน้าหมอสาปแช่งอยู่ในใจ