เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่ 16: สนิมสำริดที่น่าหวั่นเกรง!!
ตอนที่ 16: สนิมสำริดที่น่าหวั่นเกรง!!
หลังกล่าวรับคำสั่งเรียบร้อย ผู้นำสกุลหวังก็ถอยหลังกลับไปด้วยความยำเกรง เขาควรรีบเร่งรักษาตัวให้หายดีโดยเร็วก่อนจะเลือกผู้บ่มเพาะระดับสูงสักคนเพื่อตามเขาไปยังที่ตั้งตระกูลหลินด้วยกัน เมื่อบรรพชนของตนบัญชามาเช่นนี้ เขาก็มีทางเลือกแค่ทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วงเท่านั้น
…..
ตอนนี้ ตระกูลหลินล้วนปกคลุมไปด้วยความเคร่งเครียดถึงขีดสุด
เขตตระกูลหลิน จวนของหลินเฮ่า
“นางปลอดภัยหรือยัง? อายู่ของข้าเป็นเช่นใดบ้าง?”
เพียงแพทย์ประจำตระกูลก้าวเท้าออกมาจากประตู หลินเฮ่าที่กำลังร้อนรนก็เร่งรีบตรงเข้าไปถามไถ่อาการของภรรยารักทันที สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมเป็นอย่างยิ่ง
หลินซวนก็ได้ใช้สัมผัสวิญญาณของเขาเพื่อตรวจสอบหมอผู้นี้ด้วยเช่นกัน
หากจะกล่าวถึงท่านหมอผู้นี้ นับว่านางเป็นแพทย์ที่เก่งกาจที่สุดของสกุลหลิน ผ่านการช่วยชีวิตผู้คนมานับไม่ถ้วน แต่ถึงกระนั้น ในเวลานี้ เมื่อพบกับหลินเฮ่าผู้ลนลาน นางทำได้เพียงขมวดคิ้วแน่นเท่านั้น แม้ทำท่าทางราวกับจะกล่าวอะไรบางอย่าง หากแต่สุดท้ายก็เลือกที่จะไม่พูดสิ่งใดออกมา
หัวใจของหลินซวนดิ่งลงเหว คล้ายว่าหมอท่านนี้กำลังพบปัญหาอะไรบางอย่าง เพียงเห็นท่าทางของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นเช่นนี้ ดวงตาของหลินเฮ่าก็แดงก่ำราวกับเลือด
“หลินเฮ่า ข้ารู้สึกอับจนปัญญายิ่ง….” หมอชราผู้นี้ทำได้เพียงก้มหน้าลง ไม่กล้าสบตาหลินเฮ่าระหว่างพูดออกมา
เพียงเท่านั้น หลินเฮ่าที่ในอ้อมอกยังอุ้มหลินซวนอยู่ก็วิ่งเข้าไปในขวนราวกับคนเสียสติ เพียงพบเมียรักของตนที่นอนอยู่บนเตียง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ชายผู้พิชิตมาทั่วหล้า เก่งกล้าสามารถเหนือผู้ใดในรุ่นเดียวกัน บัดนี้ทำได้เพียงยืนนิ่งกายสั่นสะท้าน กล้ำกลืนฝืนน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา
เมื่อหลินซวนเห็นภาพเช่นนี้ของมารดา ใจของเขาก็รวดร้าวเช่นกัน นางถึงกับทรุดโทรมลงกว่าเดิมภายในระยะเวลาเพียงชั่วจิบชา! สัมผัสวิญญาณของเขาบอกให้รู้ว่าตอนนี้นางอ่อนแอเพียงใด ลมหายใจโรยริน พลังชีวิตริบหรี่เหมือนแสงเทียนกลางสายลมแรง ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้หลินซวนก็มองเห็นกลิ่นอายของคำสาปที่อยู่บนร่างกายของมารดา!!
คำสาปนี้ดูโบราณและดำมืด เต็มไปด้วยความรู้สึกของการกัดกร่อนราวกับสนิมที่กำลังกัดกินเหล็กกล้า ก่อตัวเป็นใบหน้าของปิศาจร้ายที่กำลังดูดกลืนพลังชีวิตของซวนยู่ในขณะนี้ เพียงช่วงข้ามคืน ผมเผ้าก็ขาวโพลน
หลินซวนกำลังกระวนกระวายมากขึ้นทุกที แต่ช่างน่าเศร้าที่ตอนนี้เขากลับไม่สามารถกระทำสิ่งใดได้เลย
“หลินเฮ่า เจ้าหลบไปก่อน ให้ข้าได้ดูอาการของนาง” เสียงลุ่มลึกแฝงความโกรธเคืองสายหนึ่งดังขึ้น ผู้พูดคือหลินเปา หนึ่งในอาวุโสของตระกูลหลิน
หลินเปาเป็นชายชราร่างกายผอมแห้งราวกับผี เขาคือในเหล่าอาวุโสที่มอบของขวัญให้หลินเฮ่าก่อนหน้านี้
“ท่านผู้เฒ่าเปา!”
หลินเฮ่ารีบอุ้มหลินซวนขึ้นมาแล้วหลีกทางให้หลินเปาทันที
ผู้เฒ่าเปาเร่งเดินมาข้างเตียงพร้อมใช้นิ้วกดจุดที่อยู่ระหว่างกลางคิ้วของซวนยู่
ฟุ่บ!
แสงสว่างส่องออกมาจากอุ้งมือของเขา หากแต่ใบหน้ากลับดำทะมึน หลังจากการเฉลิมฉลองให้กับการกำเนิดของอัจฉริยะน้อยแซ่หลินเมื่อวาน ในคราแรก เขากำลังจะกลับไปกักตัวเพื่อบ่มเพาะลมปราณต่อ แต่กลับได้ยินข่าวเกี่ยวกับซวนยู่เข้าเสียก่อน
ซวนยู่เป็นถึงมารดาของอัจฉริยะที่ตระกูลหลินฝากความหวังไว้ และหลินเปาก็เอ็นดูนางเป็นอย่างมาก หญิงสาวตัวเล็กๆที่ตั้งท้องนานถึงหนึ่งร้อยปีและสุดท้ายก็คลอดเอาเซียนน้อยนามหลินซวนให้กับสกุลหลิน เพียงแค่ช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นก็นับว่าเป็นการวางความกดดันไว้กับนางอย่างถึงที่สุดแล้วแท้ๆ
หลังได้ยินว่านางล้มป่วยกะทันหันจึงทำให้เขาเร่งมาดูอาการของนางทันที
“อาวุโสเปา ข้าไม่เคยพบเจอคำสาปใดเป็นเช่นนี้มาก่อน”
“ยิ่งกว่านั้น คำสาปนี้เก่าแก่และซับซ้อนเกินไป ราวกับว่าเป็นสิ่งที่หลงเหลือมาจากยุคบรรพกาล” ท่านหมอหญิงผู้นั้นเดินเข้ามาพลางกล่าวบอกด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น
“ข้า…ไม่สามารถหาจุดเริ่มต้นการรักษาได้ เพราะไม่สามารถสัมผัสสิ่งใดได้เลยจากรอยคล้ายสนิมบนกายนางเท่านั้น”
“ยิ่งกว่านั้น ดูเหมือนว่าคำสาปนี้ นางจะได้รับมานานถึงร้อยปีแล้ว”
“ในระยะเวลานานถึงร้อยปี คำสาปย่อมกรีดแทงและแพร่กระจายไปทั่วทุกส่วนในร่างกายนาง”
เพียงได้ยินประโยคนี้ของหมอเฒ่า หัวใจของหลินซวนก็มืดมนลงไปอีกขั้น หนึ่งร้อยปี? นี่มิใช่ว่าเป็นเวลาที่เขากำเนิดขึ้นในกายนางหรอกหรือ?
เว้นไปช่วงครู่หนึ่ง แพทย์หญิงท่านนั้นก็เอ่ยบางอย่างต่อ “เหตุผลที่หลินซวนต้องใช้เวลานานถึงขนาดนี้กว่าจะคลอดออกมา ข้าเกรงว่าจะเป็นเพราะคำสาปนี้เช่นกัน”
“กล่าวตามตรง ข้าไม่สามารถรู้ได้เลยว่าต้องใช้ความอดทนถึงเพียงใดเพื่อที่จะยังคงมีชีวิตมาได้ถึงบัดนี้…”
สิ้นประโยคนี้ ดวงตาของหลินเฮ่ายิ่งแดงก่ำกว่าเดิม หัวใจเขาราวกับถูกกรีดด้วยมีดแหลม ส่วนหลินซวนนั้นประกายตามีเพียงความเยียบเย็บที่มากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ใดบังอาจถึงเพียงนี้ มันผู้นั้นมิรู้จักคำว่าอยู่ไม่สู้ตายเสียแล้ว!!
หญิงชราเพียงกล่าวต่อ “หากจะให้ฝืนเอาส่วนที่สนิมออกจากร่างนาง รังแต่จะทำให้อาการแย่ลงไปเท่านั้น…คำสาปนี้ไร้ทางแก้”
“ข้าคงต้องบอกข่าวร้าย นางคงมิสามารถอยู่ได้เกินหนึ่งอาทิตย์”
“อาทิตย์เดียว?” หลินเปาแค่นเสียงออกมา
“ไม่มีทางแก้ไข? ไม่มีคำสาปใดในโลกไร้หนทางถอดถอน!”
ตูม!!
แสงสว่างบางอย่างระเบิดขึ้น ดูราวกับพระอาทิตย์กลางฤดูใบไม้ผลิ กระแสพลังชีวิตนับไม่ถ้วนไหลหลากออกจากร่างหลินเปา เหมือนคลื่นยักษ์ถาโถม พลังชีวิตไร้ที่สิ้นสุดท่วมท้นไปทั่วทั้งห้อง
วูบ วูบ วูบ!
ขณะนี้ พืชพันธ์รอบจวนกลับงอกงามเหมือนได้รับฝนยามหน้าแล้ง แม้กระทั้งแผ่นไม้ที่ถูกตัดมาทำอาคารและเครื่องเรือนก็เริ่มแตกกิ่งก้านสาขาออกมาเพราะถูกกระตุ้นด้วยพลังชีวิตอันเข้มข้นนี้ และนี่ยังนับได้ว่าเป็นแค่เพียงผลข้างเคียงจากพลังของตาแก่เปาเท่านั้น!
แกนหลักของพลังทั้งหมดถูกผู้เฒ่าเปาควบแน่นและส่งมันเข้าสู่ร่างกายของซวนยู่เพื่อที่จะขับไล่คำสาปออกไป!
แต่แล้วสิ่งไม่คาดคิดก็บังเกิดขึ้น ร่องรอยคำสาปหาได้เลือนหายไปจากพลังชีวิตเข้มข้นที่ถูกส่งมาไม่ ราวกับภูผากลางสายนที เพียงกระทบแต่ไร้ผลตอบสนองใดๆ! อย่าได้กล่าวถึงการลบล้างคำสาป แม้เพียงปฏิกิริยาตอบสนองก็ไม่มีปรากฏให้เห็น!
ตาเฒ่าผู้นี้เริ่มขมวดคิ้วแน่นและสูดหายใจเข้าลึกยาว ร่างกายผ่ายผอมดูไร้กำลังของเขากำลังเปลี่ยนไป! กล้ามเนื้อลีบแห้งเริ่มขยายขนาดหนาตัวขึ้น ผมที่เคยขาวกลับกลายเป็นสีดำเงางาม!
เพียงชั่วลมหายใจ เขาก็กลับมาสู่ช่วงที่ร่างกายสมบูรณ์พร้อมที่สุด! จากชายแก่หนังเหี่ยวตัวลีบบาง กลายเป็นตาลุงนักกล้ามตัวหนาเตอะ!!
“จงหายไป!”
พลังที่เข้มข้นของชีวิตระเบิดออกมาจากร่างหลินเปาเข้มข้นหนาแน่นมากขึ้นไปอีกระดับ และในครานี้ คำสาปเริ่มมีการตอบสนอง!
ภายใต้พลังยิ่งใหญ่ที่พลังลบล้างคำสาปนี้ คำสาปเริ่มตอบสนอง หากแต่ยังคงไม่หายไปไหน มีเพียงการต่อต้านอย่างคลุ้มคลั่งกลับมา เพียงพริบตา คำสาปนี้ถึงขั้นกระจายออกมาครอบคลุมทั้งแขนของตาเฒ่าเปาอย่างรวดเร็ว!!
แค่สัมผัสกับคำสาปที่พุ่งเข้ามา ใบหน้าของชายแก่ก็เปลี่ยนสีไป เขาถอยหลังออกไปหลายก้าว ก่อนตันสินใจใช้ลมปราณกรีดเลาะผิวหนังส่วนที่โดนคำสาปทั้งหมดออกไปในทันทีโดยไม่ลังเล! เนื้อหนังเหล่านั้นยังไม่ทันจะตกลงก็กลายเป็นกลุ่มควันสีเขียวซีด!
ฟุ่บ…
กลุ่มควันนั้นเริ่มบิดวนอย่างรุนแรงและสับสน ราวกับปิศาจกำลังปลดปล่อยกลิ่นอายชั่วร้ายออกมา!
ก่อนจะเริ่มกระจายตัวหลังผ่านเวลาไปชั่วระยะหนึ่ง แต่มันกลับไม่ได้หายไป แค่เปลี่ยนสภาพเป็นลำแสงแล้วพุ่งกลับเข้าไปในร่างของซวนยู่อีกครั้ง! จุดที่ลำแสงพุ่งใส่ปรากฏเป็นใบหน้าของผีร้ายแสยะยิ้มใส่ผู้คน!
เมื่อมองเห็นเหตุการณ์นี้ คนสกุลหลินทั้งหลายกลืนน้ำลายอย่างยากเย็นและสีหน้าย่ำแย่ลงไปกว่าเดิม นี่มันคำสาปร้ายแรงประเภทใดกัน!
อันที่จริงแล้ว ผลของคำสาปเช่นนี้นับว่าสามัญยิ่ง!
วัตถุต้องสาปนี้เป็นหวังเถิงเฟยที่ค้นพบมันโดยบังเอิญ กระบี่สำริดที่ดูเก่าแก่ผ่านเวลามาเนิ่นนานเกินจะนับได้ ด้ามจับของมันเต็มไปด้วยสนิมเกาะกรัง
เมื่อทำความสะอาดและขัดเอาสนิมรอบๆออกไป ตัวกระบี่เล่มนี้นับว่างดงามจับใจเป็นอย่างยิ่ง! หากแต่คำสาปของมันนั้นไร้หนทางแก้ไข สามารถแทรกซึมเข้าสู่เหยื่อโดยที่อีกฝ่ายไม่สามารถรับรู้ได้เลย หากจะให้กล่าวตามตรง สิ่งดูราวกับปรสิตร้ายที่เกาะกินชีวิตคนมากกว่าคำสาปเสียด้วยซ้ำ!
ความจริงแล้ว เมื่อตอนที่ซวนยู่โดนคำสาปนี้ หากมิใช่เพราะหลินซวนอยู่ภายในครรภ์ของนางแล้ว เกรงว่าผลของมันจะแสดงออกมาแทบจะในทัน หาใช่เป็นร้อยปีหลังแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้!
เพราะการคลอดหลินซวนออกมา ทำให้ไม่มีสิ่งใดคอยยับยั้งคำสาปอีกไป มันจึงแสดงอานุภาพออกมาในที่สุด!!
*ขออภัยที่ลงตอนล่าช้าครับ เมื่อวานผมเพิ่งกลับจากต่างจังหวัดเลยไม่ได้ลงครับ*