บทที่ 359 แม้แต่เด็กหญิงตัวน้อยก็ไม่รอด❗️(ฟรี)
ผ่านไปสักพัก กล้องก็ตัดภาพไปยังเซียวยางที่กำลังนอนอยู่บนเตียงกับลูกชาย เขาอุ้มเด็กชายตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนและถามว่า "พรุ่งนี้เราต้องกลับบ้านแล้ว นายมีความสุขไหม❓"
เซียวเว่ยไม่มีท่าทีมีความสุขใดๆ ขนตายาวหนากดต่ำลง เขาพึมพำเสียงเบาว่า "มีความสุขและไม่มีความสุข"
เซียวยางรู้ว่าเขามีช่วงเวลาที่ดีกับเด็กคนอื่นๆ แต่นี่เป็นตอนสุดท้ายของรายการแล้ว เป็นเรื่องปกติที่เขาจะเกิดความลังเล ดังนั้นเขาจึงปลอบโยนลูกชาย "เราจะได้พบกันอีกในอนาคต ไม่ต้องกังวล พ่อต้องไปทำงานมากมายที่เมืองหลวง ดังนั้นพ่อคิดที่จะย้ายไปที่นั้น นายจะได้เจอเสี่ยวจิ่วและซือเหย่บ่อยๆ"
เมื่อได้ยินดังนั้นเซียวเว่ยเงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง "จริงเหรอ❓"
"อือ นายอยากย้ายบ้านไหม❓"
เซียวเว่ยพยักหน้า
เขาชอบเพื่อนตัวน้อยพวกนี้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้องสาวเสี่ยวจิ่ว สิ่งที่ทำให้เขาลังเลคือเธอ หากสามารถย้ายไปยังในเมืองที่เธออยู่ได้เขาก็ไม่ต้องกังวล
"โอเค ฉันจะกลับไปปรึกษากับแม่ของนายอีกที“เซียวยางยิ้มมองใบหน้าเล็กที่ขาวและอ่อนโยนของลูกชายของเขา และอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือออกไปบีบมัน”ถ้ามีโอกาสนายยังอยากออกมาเล่นกับพ่ออีกไหม❓"
เซียวเว่ยพยักหน้าอีกครั้ง
พ่อและลูกชายเข้ากันได้ดีไม่มีความเย่อหยิ่งมีแต่ความอบอุ่น ผู้ชมก็รับชมอย่างเพลิดเพลิน และดื่มด่ำกับรูปลักษณ์ที่งดงามของพ่อและลูกชาย
ทางด้านของเฉินซีซี เฉินเคอชงนมผงให้กับลูกสาว เขาเขย่าขวดนมให้เข้ากันแล้วยื่นให้เธอ เด็กหญิงตัวน้อยนั่งอยู่บนเตียงและดื่มมันอย่างเชื่อฟังทําให้เฉินเคออดที่จะหลงใหลในตัวลูกสาวไม่ได้
เขายังนั่งลงข้างเตียง คุยกับเด็กหญิงตัวน้อยเกี่ยวกับวันนี้ว่า "ลูกมีความสุขไหม❓"
เด็กหญิงตัวน้อยพูดเสียงเบา "มีความสุข"
"พรุ่งนี้จะกลับบ้านแล้ว คงไม่เจอเด็กๆ คนอื่นอีกนานเลย ลูกจะเสียใจไหม❓"
จะกลับไปพรุ่งนี้เหรอ❓
ทําไมเร็วจัง❓
ทันทีที่เฉินซีซีได้ยิน ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที เธอเบ้ปากและพูดว่า "เสียใจ"
เฉินเคอรู้สึกหมดหนทางเล็กน้อยเกี่ยวกับถุงร้องไห้เล็กๆ ใบนี้ ทําได้แค่ปลอบโยนเธอด้วยเสียงนุ่มนวล "ไม่เป็นไร ถ้ามีโอกาสพ่อจะยอมรับรายการนี้อีก และให้ลูกเล่นกับเด็กคนอื่นๆ อีกโอเคไหม❓"
เฉินซีซีมองเขาด้วยดวงตาที่กระตือรือร้น "แล้วครั้งหน้าจะมีน้องสาวเสี่ยวจิ่วไหม❓"
เฉินเคอ "..."
ผู้ชมปัดหน้าจออีกครั้ง และกล่าวว่าเสี่ยวจิ่วเป็นที่ดึงดูดทั้งชายและหญิง แม้แต่เด็กหญิงตัวน้อยก็ไม่รอด❗️
สองพ่อลูกหลี่นั่วเอ่อร์ทั้งหล่อทั้งเท่ และสองพ่อลูกมักไม่ค่อยพูดอะไร หลังจากกลับมาที่ห้อง หลี่นั่วเอ่อร์ที่วันนี้เล่นจนเหนื่อยก็ผล็อยหลับไป หลีข่ายเหวินจึงต้องคุยกับตัวเองหน้ากล้องเกี่ยวกับประสบการณ์ในครั้งนี้
เมื่อถึงคิวซูเชิ่งจิ่ง เขายังไม่ได้กล่อมเด็กหญิงตัวน้อยให้หลับ
มันดึกแล้ว แต่เด็กหญิงตัวน้อยดูเหมือนจะยังไม่ง่วงนอน เธออยู่บนเตียงและกำลังดื่มนมของหวังไจ๋ในขณะที่เล่นกับเท้าเล็กๆ ที่อวบอ้วนของตัวเอง
ซูเชิ่งจิ่งนั่งอยู่หน้ากล้อง เหลือบมองไปด้านข้างและพูดอย่างลังเลว่า "จริงๆแล้วมีหลายสิ่งที่ผมอยากจะพูด… แต่เกือบทั้งหมดที่ผมอยากจะพูด ผมอยากจะพูดมันกับลูกสาวของผม"
เด็กหญิงตัวน้อยมีหูที่แหลมคม เมื่อได้ยินคําพูดของเขา เธอก็หันไปมองเขาทันที และกระพริบตาปริบๆ อย่างอยากรู้อยากเห็น "ป๊ะป๋า อยากพูดอะไรกับเสี่ยวจิ่วเหรอ❓"
ซูเชิ่งจิ่งยิ้มให้เธอด้วยรอยยิ้มที่อ่อยโยนเป็นพิเศษ "มีหลายสิ่งที่อยากจะพูด ตัวอย่างเช่น ครั้งนี้ที่เราได้บันทึกรายการด้วยกัน ป๊ะป๋ามีความสุขมาก"
เด็กหญิงตัวน้อยยิ้มและพูดด้วยเสียงหวานว่า "เสี่ยวจิ่วก็มีความสุขมากเช่นเดียวกัน❗️ตราบใดที่ได้อยู่กับป๊ะป๋าหนูมีความสุขมาก❗️"
ซูเชิ่งจิ่งยิ้มกว้าง "มีความสุขแค่ไหน❓"
บทที่ 360 อย่าลืมเสี่ยวจิ่ว
ผู้ชมสงสัยว่าเด็กหญิงตัวน้อยจะตอบยังไง เมื่อเห็นเธอครุ่นคิดอยู่สักพัก เธออ้าแขนกว้าง ยิ้มและพูดว่า "เท่านี้เลย มีความสุขมาก❗️ป๊ะป๋าคือโลกแห่งความสุขทั้งใบของเสี่ยวจิ่ว❗️"
"..." ซูเชิ่งจิ่งตกตะลึง
โลกแห่งความสุขทั้งใบ❓
เกี๊ยวตัวน้อยคิดว่าป๊ะป๋าคือโลกแห่งความสุขทั้งใบของเธองั้นเหรอ ❓
ทันใดนั้น ดวงตาของซูเชิ่งจิ่งก็แดงก่ำเล็กน้อย แต่เขายังคงรักษารอยยิ้มไว้ "ลูกรักก็เป็นโลกแห่งความสุขทั้งใบของป๊ะป๋าเหมือนกัน"
"ฮิฮิ" เด็กหญิงตัวน้อยยิ้มซุกซน
ซูเชิ่งจิ่งหัวเราะ ไม่นานรอยยิ้มบนใบหน้าก็ค่อยๆ หายไป "แม้ว่าป๊ะป๋าจะมีความสุขแต่ก็กลัว"
เด็กหญิงตัวน้อยไม่รู้ว่าทำไม "ป๊ะป๋ากลัวอะไร❓"
ซูเชิ่งจิ่งมองเธออย่างแน่วแน่ ขมวดริ้วอย่างขมขื่น "ป๊ะป๋ากลัวว่าเวลาจะเดินเร็วเกินไป จู่ๆ ลูกก็โตขึ้นและทิ้งป๊ะป๋าไว้ แต่ก็กลัวว่าเวลาจะเดินช้าเกินไป ทำให้ลูกเหนื่อยและไม่ต้องการอยู่กับป๊ะป๋าอีกต่อไปเหมือนกัน"
เมื่อเธอได้ยินป๊ะป๋าพูดแบบนั้น จมูกซูจิ่วก็เปรี้ยวขึ้นมาทันที เธอลุกจากเตียงอย่างรวดเร็วและวิ่งไปหาเขา พร้อมกับเอื้อมมือเล็กๆ ออกไปเพื่อกอดเขาและสาบานว่า "ไม่ ป๊ะป๋า เสี่ยวจิ่วจะไม่ทิ้งป๊ะป๋า หนูสัญญา❗️"
ซูเชิ่งจิ่งยิ้มออกมาทันมี "จริงเหรอ❓"
"อือ❗️" เด็กหญิงตัวน้อยพยักหน้าอย่างแรง ยืนนิ้วก้อยไปให้เขา "เกี่ยวก้อยสัญญา❗️"
"โอเค” ซูเชิ่งจิ่งชูนิ้วก้อยและเกี่ยวเข้ากับนิ้วก้อยของเธอ
จากนั้นเขาก็หันกลับไปมองกล้องตรงหน้า เขายิ้มและพูดว่า "ก่อนจากกันไปผมและเสี่ยวจิ่วขอร้องเพลงให้กับทุกคนฟัง ขอบคุณสําหรับการสนับสนุน ผมและเสี่ยวจิ่วจะจดจํามันไว้ในในใจ ขอบคุณทุกคนมากจริงๆ"
ซูเชิ่งจิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงใจ เขาเอื้อมมือออกไปอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยมานั่งบนตัก มองลงไปที่เธอและยิ้มอย่างอ่อนโยน "ลูกรัก เรามาร้องเพลงให้ทุกคนฟังดีไหม❓"
เด็กหญิงตัวน้อยพยักหน้าเชื่อฟังและพูดว่า "ดี~"
“ถ้าอย่างนั้น มาเริ่มกันเลย” ซูเชิ่งจิ่งพูด และมองดูดวงตาที่มีเสน่ห์ของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ น้ำเสียงที่ไพเราะและมีเสน่ห์ของเขาก็ขับร้องเพลงออกมา “ตอนที่ฉันกอดคุณครั้งแรก ความสุขและความวิตกกังวลอยู่รอบตัวฉัน สำหรับชีวิตที่กำลังจะเปลี่ยนไป ฉันรู้ว่าฉันต้องทำงานให้หนัก...”
เห็นได้ชัดว่าสองพ่อลูกได้ซ้อมเพลงนี้มาก่อน เด็กหญิงตัวน้อยก็ร้องเพลงนี้ต่อขึ้นมาทันที "ตอนที่ฉันเห็นคุณครั้งแรก เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เมื่อคุณจูบหน้าผากของฉันเบาๆ ฉันก็รู้ว่าคุณคือตํานานของฉัน~"
"ระยิบระยับเป็นประกาย ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดาวดวงน้อย~"
เสียงที่ยังไม่หย่านมของเธอขับร้องเพลงออกมาได้อย่างน่ารัก จนผู้ชมได้กล่าวว่านี่เป็นรายการที่ผู้ชายควรดู ไม่ว่าพวกเขาจะดุร้ายแค่ไหนก็คงทนไม่ได้❗️
ผู้ชมดื่มด่ำกับบรรยากาศที่สงบและมีความสุขนี้ เมื่อเพลงจบลงซูเชิ่งจิ่งลูบหัวของเกี๊ยวน้อย ยิ้มและพูดกับกล้องว่า "เอาล่ะ ได้เวลาบอกลาแล้ว"
ซูจิ่วเข้าใกล้กล้องอีกนิด มือเล็กๆ ป้องปากกล่าวอย่างลึกลับว่า "ก่อนที่จะกล่าวคําอําลา หนูจะบอกความลับกับลุงหยาง นั่นก็คือ… ที่จริงแล้วเสี่ยวจิ่วชอบลุงมากและขอบคุณลุงมากๆ❗️"
พูดจบแล้ว เธอโบกมือเล็กๆ ไปทางกล้องอย่างร่าเริง "ลุงหยาง ทุกคนลาก่อน❗️อย่าลืมเสี่ยวจิ่วและป๊ะป๋านะ❗️"
หยางฟางผิงที่นั่งอยู่หน้าเครื่องและดูภาพจากกล้อง เขาได้ยินประโยคนี้โดยไม่ทันตั้งตัว จู่ๆ น้ำตาของเขาก็ไหลออกมา เขาลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและเดินไปด้านข้างเพื่อระงับอารมณ์ของตัวเอง