ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 61 บุกห้องหญิงสาวยามราตรี (ฟรี)
ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 61 บุกห้องหญิงสาวยามราตรี
เสียงหอนที่น่าสะพรึงกลัวนั้นทำเอาหนังศีรษะชาวาบ
ทั้งหว่านเอ๋อและคงหนิงที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดนั้นสั่นสะท้านไปทั้งตัว เกือบจะสูญเสียความสงบไปเพราะความตกใจ
เสียงร้องโหยหวนอันน่าสะพรึงกลัวภายในบ้าน หากมนุษย์มาได้ยินอาจจะฟังดูเหมือนแค่สัตว์ร้ายเห่าหอน
แต่หากเป็นหูของผู้ฝึกตนอย่างคงหนิงและหว่านเอ๋อแล้วล่ะก็ เสียงนี้ช่างเต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาท น่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก มันดูชั่วร้ายมาก
ความรู้สึกเช่นนี้ก็เหมือนกับเอาตัวไปนอนอยู่หน้าปีศาจน่าสะพรึงตัวสูงเสียดฟ้า อีกฝ่ายสามารถทุบเจ้าให้กลายเป็นฝุ่นธุลีได้ด้วยนิ้วเดียว
พลังอันยิ่งใหญ่ที่ข่มขู่จิตใจเช่นนี้ทำให้คงหนิงและหว่านเอ๋อตัวสั่นพูดอะไรไม่ออกอยู่พักหนึ่ง
ส่วนหญิงที่ออกมาพร้อมถังไม้ เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องจากในบ้านก็รีบหันหลังกลับเข้าไปในห้อง ราวกับว่านางกำลังจะเข้าไปหาปีศาจที่กำลังกรีดร้องตนนั้น
คงหนิงและหว่านเอ๋อเมื่อเห็นดังนั้น ก็รู้ดีว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะติดตามไป
อย่างไรก็ตาม พลังข่มขู่เมื่อครู่ก็ทำให้ทั้งคู่แข็งทื่อและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
หลังจากผ่านไปนับสิบลมหายใจ ร่างแข็งทื่อของทั้งสองก็ฟื้นคืนกลับมา สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
ประตูของห้องหอหลังนี้ไม่ได้ปิด
ขณะที่หญิงนางนั้นวิ่งเข้าไป นางรีบจนไม่มีเวลาปิดประตู
คงหนิงและหว่านเอ๋อมองหน้ากัน ต่างก็เห็นถึงแววตาของกันและกัน
ปีศาจภายในห้องนั้นคือตัวอะไรกัน?
ทำไมกลิ่นอายของมันช่างกดขี่ข่มเหงเช่นนี้?
ในเวลานี้คงหนิงรู้สึกอยากจะหันหลังหนี เขาไม่ได้หมดสิ้นศรัทธาในไหดำลึกลับ แต่กระนั้นจิตใจก็ไม่สามารถสงบลงได้เลย
สุดท้ายแล้ว การค้นหาหลายครั้งก่อนของไหดำลึกลับก็พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถว่ามันน่าเชื่อถือเพียงใด
ในที่สุด คงหนิงก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และยกมือให้หญิงสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามสื่อความหมายว่าจงรออยู่ข้างนอก และตัวเขาจะเข้าไปด้านในเอง
หว่านเอ๋อส่ายหัวอย่างเต็มที่ด้วยสีหน้ากังวล ขอให้คงหนิงออกไปพร้อมกันกับนาง
ปีศาจภายในห้องหอแห่งนี้ข่มขู่เสียจนหญิงสาวหมดความมั่นใจ และคิดว่าตัวนางเองควรหนีจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
แต่คงหนิงได้ปฏิเสธอย่างรวดเร็ว ต่อหน้าสายตาที่ทั้งกังวลและตกใจของหญิงสาว ร่างของชายหนุ่มก็เคลื่อนเข้าไปในห้องหอ
แสงสีเหลืองดูอบอุ่น ส่องสว่างไปทั่วชั้นหนึ่ง
ห้องของหญิงผู้นี้มีทั้งสิ้นสองชั้น
พื้นที่ชั้นล่างนี้แต่เดิมควรจะเป็นที่อยู่อาศัยของสาวใช้ และเป็นห้องที่ใช้เก็บของเล็กๆ น้อยๆ
แต่เวลานี้ชั้นแรกนั้นว่างเปล่า ไม่มีสาวใช้ มีเพียงแสงสว่างแค่ดวงเดียวส่องสว่างอยู่อย่างเงียบๆ
เพียงแต่ว่ามันไม่ใช่ตะเกียงน้ำมันหรือเทียน กลับเป็นลูกปัดขนาดเท่ากำปั้นทารก ลูกปัดนี้เปล่งแสงออกมาจางๆ และปลดปล่อยพลังงานปีศาจ
ดูเหมือนว่ามันควรจะเป็นบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ประหลาด ซึ่งบัดนี้มันถูกทิ้งไว้ที่นี่ประหนึ่งไข่มุกราตรี
คงหนิงเชื่อมั่นมากขึ้นว่าหญิงที่อยู่ในห้องหอแห่งนี้ต้องมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับปีศาจ
และตรงทางเชื่อมเข้าหาบันไดที่นำไปสู่ชั้นสองก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งเล็ดลอดออกมา
โสตประสาทของคงหนิงทำงานอย่างเต็มที่ สามารถได้ยินคำพูดของหญิงสาวทุกคำ
นางดูเหมือน......จะปลอบโยนเด็กอยู่?
จู่ๆ ก็มีการคาดเดาแปลกๆ เกิดขึ้นในใจของคงหนิง......
เดินไปที่บันไดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ คงหนิงค่อยๆ เดินขึ้นบันไดไปทีละขั้น พร้อมกับกระบี่ปราบวิญญาณที่ลอยอยู่ด้านหลัง
เสียงของหญิงสาวบนชั้นสองก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุด คงหนิงก็ผลักประตูห้องให้เปิดออก และเห็นสถานการณ์ภายในห้องส่วนตัวของหญิงสาวจากตระกูลสวีผู้นี้
ทั่วทั้งห้องบนชั้นสอง ตกแต่งประดับประดาไปด้วยชั้นหนังสือและข้าวของของเด็กผู้หญิง
กลิ่นหอมจางๆ ลอยฟุ้งในอากาศ
ผ้าปูเตียงเป็นสีชมพู ทั้งห้องสะอาดหมดจด ที่ผนังมีภาพวาดและภาพลายอักขระแขวนเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีการจัดแจกัน มีชั้นหนังสือ ชุดกาน้ำชา ตู้เสื้อผ้าแกะสลัก และเก้าอี้โยกข้างหน้าต่างที่มองออกไปเห็นคฤหาสน์ตระกูลสวี มีหนังสือที่อ่านไปได้ครึ่งเล่มมีที่คั่นหนังสือกั้นกลางหน้ากระดาษ
มองอย่างไรนี่ก็คือห้องส่วนตัวของหญิงสาวผู้มีความรู้และบ้าหนังสือ
ไข่มุกราตรีสามดวงเปล่งแสงจางๆ ออกมาทำให้ห้องนี้สว่างไสวราวกับกลางวัน
ถ้าไม่ใช่เพราะกรงเหล็กขนาดมหึมาตรงมุมห้อง และร่างมหึมาที่อยู่ด้านใน คงไม่มีทางจินตนาการได้เลยว่ามีอันตรายซ่อนอยู่ในที่แห่งนี้
ขณะที่คงหนิงปรากฏตัว หญิงที่อยู่หน้ากรงเหล็กก็ตกใจ หยุดอยู่หน้ากรงเหล็ก ปิดบังร่างอันน่าสะพรึงกลัวภายในกรงและพูดกับคงหนิงด้วยความโกรธ
“เจ้าเป็นใคร? กล้าดีอย่างไรบุกรุกเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลสวี?”
คิ้วที่ขมวดเป็นปมของหญิงสาวไม่ได้ส่งผลให้ความงามของนางลดลง
แต่เป็นอีกแนวที่ต่างออกไป
นี่เป็นความงามที่หาได้ยากโดยแท้ แม้จะนำไปเปรียบเทียบกับปีศาจแมงป่องภายในบ้านก็คงไม่ต่างกันมากนัก
คงหนิงมองไปที่นาง ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “คุณหนูสาม? เจ้าคือคุณหนูสามที่ล่วงลับไปแล้วใช่หรือไม่?”
กระบี่ปราบวิญญาณสีดำสนิทที่ลอยอยู่ด้านหลังคงหนิงเตรียมพร้อมที่จะพุ่งออกไป
เพราะคงหนิงรู้สึกได้ถึงพลังปีศาจเล็กน้อยมาจากผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขา!
ผู้หญิงคนนี้ก็อาจจะเป็นปีศาจด้วยหรือไม่?
แต่การสอบถามของคงหนิงไม่ได้รับคำตอบ
หญิงสาวผู้โกรธเคืองกล่าวว่า “ไอ้ขโมยแกมาจากไหน! ออกไปให้พ้นหน้าข้า!”
หญิงสาวคนนั้นโบกแขนเสื้อของนาง และพลังปีศาจก็พุ่งออกมา กลายเป็นพลังฝ่ามือไร้ลักษณ์กระแทกเข้าใส่คงหนิง
อย่างไรเสีย ถึงจะเป็นพลังปีศาจที่อ่อนแอก็สามารถจัดการกับมนุษย์ธรรมดาได้
ความคิดของคงหนิงขยับวูบ กระบี่ปราบวิญญาณสีดำสนิทก็โผล่ออกมา
ประกายแสงจากกระบี่กระทบเข้ากับไอปีศาจที่ถูกปล่อยออกมาจากหญิงสาว
คงหนิงมองไปที่หญิงตรงหน้าด้วยท่าทางสงบ “คุณหนูสามเข้าใจผิดแล้ว ข้าหาใช่ขโมยไม่”
แต่ในเวลานี้ คงหนิงไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรแล้ว
หญิงสาวเบิกตากว้างทันทีที่เห็นกระบี่ปราบวิญญาณลอยออกมาจากด้านหลังของคงหนิง
สีหน้าของนางก็ดูประหลาดใจ
“ผู้ฝึกตน?” หญิงสาวก้าวไปข้างหน้าด้วยความตื่นเต้นแล้วกล่าวว่า “เจ้าคือผู้ฝึกตนผู้ยิ่งใหญ่ในตำนานที่คอยกำจัดปีศาจพิชิตมารร้าย?”
หลังจากพูดจบก็ไม่ได้รอให้คงหนิงตอบกลับ หญิงสาวคุกเข่าลงกับพื้นทันที เปล่งเสียงสะอื้นออกมา
“ขอผู้ฝึกตนโปรดช่วย!”
“มีปีศาจในเขตชานหลานกักขังเมี่ยวอีเอาไว้ที่นี่มาแปดปี ไม่ยอมปล่อยให้ข้าก้าวออกจากห้องส่วนตัว”
“ตลอดแปดปีที่ผ่านมา เมี่ยวอีสามารถอยู่ได้เพียงแค่ห้องของตนเองเท่านั้น และไม่สามารถแม้แต่จะพบครอบครัวของตน”
“ปีศาจตนนั้นใช้คาถาที่ทำให้ทุกคนคิดว่าเมี่ยวอีตายแล้ว แม้จะยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็ไม่สามารถเห็นหน้าพ่อแม่ได้แม้แต่น้อย มันไม่ต่างไปจากความตายเลยด้วยซ้ำ!”
“วอนขอให้ผู้ฝึกตนช่วยด้วย!”
คุณหนูสามตระกูลสวีที่ชื่อว่าสวีเมี่ยวอีร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า
ความโศกเศร้าครั้งใหญ่และความปีติยินดีมาบรรจบกันทำให้นางหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา น้ำตาและน้ำมูกไหลย้อยลงมาบนพื้น ไม่อาจเห็นความสวยงามได้อีกต่อไป
คงหนิงเคยสัมผัสความรู้สึกเช่นนี้มาก่อน แต่ไม่ได้รุนแรงมากเท่านาง
---เมื่อตอนที่หว่านเอ๋อปรากฏตัวเป็นครั้งแรก คงหนิงก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน คิดว่าเขาพบผู้ช่วยให้รอดชีวิตแล้ว
น่าเสียดายที่หว่านเอ๋อไม่ใช่ผู้ที่จะช่วยให้คงหนิงรอดชีวิตไปได้
และคงหนิงเองก็อาจจะไม่ใช่ผู้ที่สามารถช่วยเหลือคุณหนูสามผู้นี้
มองไปยังหญิงสาวที่กำลังหัวเราะสลับกับร้องไห้ สูญเสียความสงบของนางไปสิ้น จากนั้นคงหนิงก็มองไปที่กรงเหล็กด้านหลังนางอีกครั้ง
ภายในกรงเหล็กขนาดใหญ่ แขนขาของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งถูกล่ามเอาไว้ด้วยโซ่เหล็ก ทำได้เพียงนอนหงายอยู่ในกรง ร่างกายแข็งทื่อ
ปราณปีศาจที่แข็งแกร่งและน่าสะพรึงกลัวลอยออกมาจากร่างของเด็กสาว
จากรูปลักษณ์ของนางนั้น แม้ว่าจะมีหน้าตาเหมือนกับเด็กผู้หญิงก็ตาม แต่ก็มีเล็บที่แหลมคมมาก หูสัตว์ร้ายสีดำโผล่ออกมาจากผม ปากเต็มไปด้วยเขี้ยวแหลมคม และขนแมวสีดำหนาขึ้นไปทั่วทั้งตัว
มองอย่างไรก็ดูเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวที่รวมเอามนุษย์และปีศาจมารวมเข้าไว้ด้วยกัน
คนก็ไม่ใช่ ปีศาจก็ไม่เชิง
เป็นสิ่งมีชีวิตที่ก้ำกึ่งอยู่ระหว่างกลาง
การคาดเดาของคงหนิงตอนที่เข้ามาภายในห้องหอแห่งนี้ได้รับการยืนยันแล้ว
“เด็กผู้หญิงคนนี้......คือลูกของเจ้างั้นหรือ?”