ตอนที่แล้วข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 60 ห้องของหญิงสาวที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 62 แค่ฟังก็รู้แล้ว

ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 61 บุกห้องหญิงสาวยามราตรี (ฟรี)


กำลังโหลดไฟล์

ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 61 บุกห้องหญิงสาวยามราตรี

เสียงหอนที่น่าสะพรึงกลัวนั้นทำเอาหนังศีรษะชาวาบ

ทั้งหว่านเอ๋อและคงหนิงที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดนั้นสั่นสะท้านไปทั้งตัว เกือบจะสูญเสียความสงบไปเพราะความตกใจ

เสียงร้องโหยหวนอันน่าสะพรึงกลัวภายในบ้าน หากมนุษย์มาได้ยินอาจจะฟังดูเหมือนแค่สัตว์ร้ายเห่าหอน

แต่หากเป็นหูของผู้ฝึกตนอย่างคงหนิงและหว่านเอ๋อแล้วล่ะก็ เสียงนี้ช่างเต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาท น่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก มันดูชั่วร้ายมาก

ความรู้สึกเช่นนี้ก็เหมือนกับเอาตัวไปนอนอยู่หน้าปีศาจน่าสะพรึงตัวสูงเสียดฟ้า อีกฝ่ายสามารถทุบเจ้าให้กลายเป็นฝุ่นธุลีได้ด้วยนิ้วเดียว

พลังอันยิ่งใหญ่ที่ข่มขู่จิตใจเช่นนี้ทำให้คงหนิงและหว่านเอ๋อตัวสั่นพูดอะไรไม่ออกอยู่พักหนึ่ง

ส่วนหญิงที่ออกมาพร้อมถังไม้ เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องจากในบ้านก็รีบหันหลังกลับเข้าไปในห้อง ราวกับว่านางกำลังจะเข้าไปหาปีศาจที่กำลังกรีดร้องตนนั้น

คงหนิงและหว่านเอ๋อเมื่อเห็นดังนั้น ก็รู้ดีว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะติดตามไป

อย่างไรก็ตาม พลังข่มขู่เมื่อครู่ก็ทำให้ทั้งคู่แข็งทื่อและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

หลังจากผ่านไปนับสิบลมหายใจ ร่างแข็งทื่อของทั้งสองก็ฟื้นคืนกลับมา สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ

ประตูของห้องหอหลังนี้ไม่ได้ปิด

ขณะที่หญิงนางนั้นวิ่งเข้าไป นางรีบจนไม่มีเวลาปิดประตู

คงหนิงและหว่านเอ๋อมองหน้ากัน ต่างก็เห็นถึงแววตาของกันและกัน

ปีศาจภายในห้องนั้นคือตัวอะไรกัน?

ทำไมกลิ่นอายของมันช่างกดขี่ข่มเหงเช่นนี้?

ในเวลานี้คงหนิงรู้สึกอยากจะหันหลังหนี เขาไม่ได้หมดสิ้นศรัทธาในไหดำลึกลับ แต่กระนั้นจิตใจก็ไม่สามารถสงบลงได้เลย

สุดท้ายแล้ว การค้นหาหลายครั้งก่อนของไหดำลึกลับก็พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถว่ามันน่าเชื่อถือเพียงใด

ในที่สุด คงหนิงก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และยกมือให้หญิงสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามสื่อความหมายว่าจงรออยู่ข้างนอก และตัวเขาจะเข้าไปด้านในเอง

หว่านเอ๋อส่ายหัวอย่างเต็มที่ด้วยสีหน้ากังวล ขอให้คงหนิงออกไปพร้อมกันกับนาง

ปีศาจภายในห้องหอแห่งนี้ข่มขู่เสียจนหญิงสาวหมดความมั่นใจ และคิดว่าตัวนางเองควรหนีจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

แต่คงหนิงได้ปฏิเสธอย่างรวดเร็ว ต่อหน้าสายตาที่ทั้งกังวลและตกใจของหญิงสาว ร่างของชายหนุ่มก็เคลื่อนเข้าไปในห้องหอ

แสงสีเหลืองดูอบอุ่น ส่องสว่างไปทั่วชั้นหนึ่ง

ห้องของหญิงผู้นี้มีทั้งสิ้นสองชั้น

พื้นที่ชั้นล่างนี้แต่เดิมควรจะเป็นที่อยู่อาศัยของสาวใช้ และเป็นห้องที่ใช้เก็บของเล็กๆ น้อยๆ

แต่เวลานี้ชั้นแรกนั้นว่างเปล่า ไม่มีสาวใช้ มีเพียงแสงสว่างแค่ดวงเดียวส่องสว่างอยู่อย่างเงียบๆ

เพียงแต่ว่ามันไม่ใช่ตะเกียงน้ำมันหรือเทียน กลับเป็นลูกปัดขนาดเท่ากำปั้นทารก ลูกปัดนี้เปล่งแสงออกมาจางๆ และปลดปล่อยพลังงานปีศาจ

ดูเหมือนว่ามันควรจะเป็นบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ประหลาด ซึ่งบัดนี้มันถูกทิ้งไว้ที่นี่ประหนึ่งไข่มุกราตรี

คงหนิงเชื่อมั่นมากขึ้นว่าหญิงที่อยู่ในห้องหอแห่งนี้ต้องมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับปีศาจ

และตรงทางเชื่อมเข้าหาบันไดที่นำไปสู่ชั้นสองก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งเล็ดลอดออกมา

โสตประสาทของคงหนิงทำงานอย่างเต็มที่ สามารถได้ยินคำพูดของหญิงสาวทุกคำ

นางดูเหมือน......จะปลอบโยนเด็กอยู่?

จู่ๆ ก็มีการคาดเดาแปลกๆ เกิดขึ้นในใจของคงหนิง......

เดินไปที่บันไดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ คงหนิงค่อยๆ เดินขึ้นบันไดไปทีละขั้น พร้อมกับกระบี่ปราบวิญญาณที่ลอยอยู่ด้านหลัง

เสียงของหญิงสาวบนชั้นสองก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

ในที่สุด คงหนิงก็ผลักประตูห้องให้เปิดออก และเห็นสถานการณ์ภายในห้องส่วนตัวของหญิงสาวจากตระกูลสวีผู้นี้

ทั่วทั้งห้องบนชั้นสอง ตกแต่งประดับประดาไปด้วยชั้นหนังสือและข้าวของของเด็กผู้หญิง

กลิ่นหอมจางๆ ลอยฟุ้งในอากาศ

ผ้าปูเตียงเป็นสีชมพู ทั้งห้องสะอาดหมดจด ที่ผนังมีภาพวาดและภาพลายอักขระแขวนเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีการจัดแจกัน มีชั้นหนังสือ ชุดกาน้ำชา ตู้เสื้อผ้าแกะสลัก และเก้าอี้โยกข้างหน้าต่างที่มองออกไปเห็นคฤหาสน์ตระกูลสวี มีหนังสือที่อ่านไปได้ครึ่งเล่มมีที่คั่นหนังสือกั้นกลางหน้ากระดาษ

มองอย่างไรนี่ก็คือห้องส่วนตัวของหญิงสาวผู้มีความรู้และบ้าหนังสือ

ไข่มุกราตรีสามดวงเปล่งแสงจางๆ ออกมาทำให้ห้องนี้สว่างไสวราวกับกลางวัน

ถ้าไม่ใช่เพราะกรงเหล็กขนาดมหึมาตรงมุมห้อง และร่างมหึมาที่อยู่ด้านใน คงไม่มีทางจินตนาการได้เลยว่ามีอันตรายซ่อนอยู่ในที่แห่งนี้

ขณะที่คงหนิงปรากฏตัว หญิงที่อยู่หน้ากรงเหล็กก็ตกใจ หยุดอยู่หน้ากรงเหล็ก ปิดบังร่างอันน่าสะพรึงกลัวภายในกรงและพูดกับคงหนิงด้วยความโกรธ

“เจ้าเป็นใคร? กล้าดีอย่างไรบุกรุกเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลสวี?”

คิ้วที่ขมวดเป็นปมของหญิงสาวไม่ได้ส่งผลให้ความงามของนางลดลง

แต่เป็นอีกแนวที่ต่างออกไป

นี่เป็นความงามที่หาได้ยากโดยแท้ แม้จะนำไปเปรียบเทียบกับปีศาจแมงป่องภายในบ้านก็คงไม่ต่างกันมากนัก

คงหนิงมองไปที่นาง ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “คุณหนูสาม? เจ้าคือคุณหนูสามที่ล่วงลับไปแล้วใช่หรือไม่?”

กระบี่ปราบวิญญาณสีดำสนิทที่ลอยอยู่ด้านหลังคงหนิงเตรียมพร้อมที่จะพุ่งออกไป

เพราะคงหนิงรู้สึกได้ถึงพลังปีศาจเล็กน้อยมาจากผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขา!

ผู้หญิงคนนี้ก็อาจจะเป็นปีศาจด้วยหรือไม่?

แต่การสอบถามของคงหนิงไม่ได้รับคำตอบ

หญิงสาวผู้โกรธเคืองกล่าวว่า “ไอ้ขโมยแกมาจากไหน! ออกไปให้พ้นหน้าข้า!”

หญิงสาวคนนั้นโบกแขนเสื้อของนาง และพลังปีศาจก็พุ่งออกมา กลายเป็นพลังฝ่ามือไร้ลักษณ์กระแทกเข้าใส่คงหนิง

อย่างไรเสีย ถึงจะเป็นพลังปีศาจที่อ่อนแอก็สามารถจัดการกับมนุษย์ธรรมดาได้

ความคิดของคงหนิงขยับวูบ กระบี่ปราบวิญญาณสีดำสนิทก็โผล่ออกมา

ประกายแสงจากกระบี่กระทบเข้ากับไอปีศาจที่ถูกปล่อยออกมาจากหญิงสาว

คงหนิงมองไปที่หญิงตรงหน้าด้วยท่าทางสงบ “คุณหนูสามเข้าใจผิดแล้ว ข้าหาใช่ขโมยไม่”

แต่ในเวลานี้ คงหนิงไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรแล้ว

หญิงสาวเบิกตากว้างทันทีที่เห็นกระบี่ปราบวิญญาณลอยออกมาจากด้านหลังของคงหนิง

สีหน้าของนางก็ดูประหลาดใจ

“ผู้ฝึกตน?” หญิงสาวก้าวไปข้างหน้าด้วยความตื่นเต้นแล้วกล่าวว่า “เจ้าคือผู้ฝึกตนผู้ยิ่งใหญ่ในตำนานที่คอยกำจัดปีศาจพิชิตมารร้าย?”

หลังจากพูดจบก็ไม่ได้รอให้คงหนิงตอบกลับ หญิงสาวคุกเข่าลงกับพื้นทันที เปล่งเสียงสะอื้นออกมา

“ขอผู้ฝึกตนโปรดช่วย!”

“มีปีศาจในเขตชานหลานกักขังเมี่ยวอีเอาไว้ที่นี่มาแปดปี ไม่ยอมปล่อยให้ข้าก้าวออกจากห้องส่วนตัว”

“ตลอดแปดปีที่ผ่านมา เมี่ยวอีสามารถอยู่ได้เพียงแค่ห้องของตนเองเท่านั้น และไม่สามารถแม้แต่จะพบครอบครัวของตน”

“ปีศาจตนนั้นใช้คาถาที่ทำให้ทุกคนคิดว่าเมี่ยวอีตายแล้ว แม้จะยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็ไม่สามารถเห็นหน้าพ่อแม่ได้แม้แต่น้อย มันไม่ต่างไปจากความตายเลยด้วยซ้ำ!”

“วอนขอให้ผู้ฝึกตนช่วยด้วย!”

คุณหนูสามตระกูลสวีที่ชื่อว่าสวีเมี่ยวอีร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า

ความโศกเศร้าครั้งใหญ่และความปีติยินดีมาบรรจบกันทำให้นางหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา น้ำตาและน้ำมูกไหลย้อยลงมาบนพื้น ไม่อาจเห็นความสวยงามได้อีกต่อไป

คงหนิงเคยสัมผัสความรู้สึกเช่นนี้มาก่อน แต่ไม่ได้รุนแรงมากเท่านาง

---เมื่อตอนที่หว่านเอ๋อปรากฏตัวเป็นครั้งแรก คงหนิงก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน คิดว่าเขาพบผู้ช่วยให้รอดชีวิตแล้ว

น่าเสียดายที่หว่านเอ๋อไม่ใช่ผู้ที่จะช่วยให้คงหนิงรอดชีวิตไปได้

และคงหนิงเองก็อาจจะไม่ใช่ผู้ที่สามารถช่วยเหลือคุณหนูสามผู้นี้

มองไปยังหญิงสาวที่กำลังหัวเราะสลับกับร้องไห้ สูญเสียความสงบของนางไปสิ้น จากนั้นคงหนิงก็มองไปที่กรงเหล็กด้านหลังนางอีกครั้ง

ภายในกรงเหล็กขนาดใหญ่ แขนขาของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งถูกล่ามเอาไว้ด้วยโซ่เหล็ก ทำได้เพียงนอนหงายอยู่ในกรง ร่างกายแข็งทื่อ

ปราณปีศาจที่แข็งแกร่งและน่าสะพรึงกลัวลอยออกมาจากร่างของเด็กสาว

จากรูปลักษณ์ของนางนั้น แม้ว่าจะมีหน้าตาเหมือนกับเด็กผู้หญิงก็ตาม แต่ก็มีเล็บที่แหลมคมมาก หูสัตว์ร้ายสีดำโผล่ออกมาจากผม ปากเต็มไปด้วยเขี้ยวแหลมคม และขนแมวสีดำหนาขึ้นไปทั่วทั้งตัว

มองอย่างไรก็ดูเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวที่รวมเอามนุษย์และปีศาจมารวมเข้าไว้ด้วยกัน

คนก็ไม่ใช่ ปีศาจก็ไม่เชิง

เป็นสิ่งมีชีวิตที่ก้ำกึ่งอยู่ระหว่างกลาง

การคาดเดาของคงหนิงตอนที่เข้ามาภายในห้องหอแห่งนี้ได้รับการยืนยันแล้ว

“เด็กผู้หญิงคนนี้......คือลูกของเจ้างั้นหรือ?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด