471 - ร้อนแรง
471 - ร้อนแรง
กระบี่เล็กสีดำทรงพลังมาก มันเชื่อมโยงกับเต๋าผู้ยิ่งใหญ่ บางทีในอดีตมันอาจจะเป็นอาวุธเต๋าสุดขั้วที่แข็งแกร่งที่สุดก็ได้
"เจิ้ง เจิ้ง เจิ้ง"
กระบี่มังกรดำยังคงต่อสู้เพื่อให้หลุดจากผนึก และม่านสีดำแผ่กระจายไปทั่วราวกับกองทัพม้านับพันอีกทั้งยังผสานรวมสายฟ้าสีดำที่น่าสะพรึงกลัว ทำให้เมืองศักดิ์สิทธิ์ตกสู่เงามืด
หลี่เหอซุยตกใจจนหน้าซีดขาวเขาละล่ำละลักกล่าวว่า
"มันแย่มาก และการผ่าหินก็มีอันตรายเช่นกัน หากบังเอิญเจาะเข้าไปถูกสมบัติที่น่ากลัว แม้แต่ชีวิตของเราก็ยังเกิดความไม่มั่นคงได้"
เหยาเยว่กงจากวังอสูรสวรรค์รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย
"กระบี่มังกรดำนี้เป็นสมบัติที่หายากและมีค่าอย่างยิ่ง ข้าไม่เคยเห็นสิ่งประดิษฐ์ระดับนี้มาก่อน"
องค์ชายเซี่ยมองอย่างกระตือรือร้นและกล่าวว่า "ไม่ว่าพวกเจ้าจะเรียกราคาสูงเท่าไหร่ราชวงศ์เซี่ยของเราก็ยินดีที่จะจ่ายอย่างแน่นอน"
เย่ฟ่านส่ายหัวไม่ได้ยอมรับข้อเสนอนี้
“ข้ายังไม่มีความคิดนี้ บางทีข้าอาจจะเก็บมันไว้เป็นอาวุธของตัวเอง”
ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะขาย แต่ตอนนี้มันทำไม่ได้ หลายคนส่งเสียงถึงเขาและหากเขาขายให้ใครบางคนมันคงเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับสำหรับคนอื่น
ตอนนี้เหยาเยว่กงเต็มไปด้วยความร้อนรน เขาจูงแขนเย่ฟ่านมากระซิบอย่างแผ่วเบาว่า
"นี่เป็นอาวุธที่หล่อด้วยวัตถุศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่ามันจะตกลงมาจากระดับอาวุธสุดขั้วแต่ทั่วทั้งดินแดนรกร้างตะวันออกไม่มีทางหาชิ้นที่สองได้ น้องชายเจ้ายินดีจะนำมันมาประมูลหรือไม่ "
"ดิง"
กระบี่มังกรดำตกลงสู่พื้นมันไม่สามารถต่อต้านผนึกจากการลงมือของยอดฝีมือรุ่นอาวุโสหลายคน
เย่ฟ่านรีบก้าวไปข้างหน้าเขาโบกแขนเสื้ออย่างรวดเร็วและกระบี่เล็กๆก็มาตกลงที่มือของเขา
แม้จะมีความยาวน้อยกว่าหนึ่งนิ้ว แต่น้ำหนักของมันก็มีมากมายมหาศาลจนน่าเหลือเชื่อ ชิ้นส่วนเล็กๆนี้มีน้ำหนักมากกว่าหนึ่งพันจินซึ่งไม่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง
“ช่างเป็นวัตถุที่ลึกลับจริงๆ” เย่ฟ่านอุทานด้วยความชื่นชม
หลังจากที่เย่ฟ่านได้ครอบครองกระบี่ก็เกิดความเงียบขึ้นชั่วครู่ จากนั้นสวนหินก็เกิดความวุ่นวาย และผู้คนมากมายต่างก็รุมล้อมเย่ฟ่าน
“น้องชายคนนี้ ขายกระบี่นี้ให้ข้าในราคา 130,000 จินได้หรือไม่!”
“ขายให้ข้า 150,000 จินพร้อมกับให้เจ้าเลือกของวิเศษที่ข้าสะสมไว้ได้หนึ่งชิ้น!”
“เราผู้เฒ่าต้องการมันข้าจะมอบต้นกำเนิดบริสุทธิ์ 180,000 จินพร้อมกับต้นกำเนิดสวรรค์ชิ้นเล็กๆอีก 1 ชิ้น!”
ผู้คนมากมายดวงตาร้อนผ่าว วัตถุที่มีขนาดเล็กเช่นนี้แต่เมื่อสัมผัสกับมือของเย่ฟ่านมันทำให้เขาทรุดตัวลงเล็กน้อยนั่นแสดงให้เห็นถึงน้ำหนักมันมากมายมหาศาลของมัน
เพียงเท่านี้ทุกคนก็รู้แล้วว่ากระบี่มังกรดำถูกสร้างขึ้นมาจากสมบัติสวรรค์อันล้ำค่า พวกเขาต่างก็ต้องการมันอย่างถึงที่สุด
ไม่ต้องกล่าวถึงว่าของวิเศษชิ้นนี้คืออาวุธประเภทกระบี่ที่ถูกสร้างอย่างสมบูรณ์แล้ว ต่อให้เป็นเพียงสมบัติสวรรค์ที่ยังไม่แปรรูปราคาของมันก็มากมายมหาศาลจนผู้คนยากที่จะจินตนาการถึง
กระบี่มังกรดำเล่มนี้ผสมผสานเต๋าและกฏเข้าด้วยกัน แม้ว่ายอดฝีมือรุ่นอาวุโสพวกนี้จะไม่สามารถพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองขึ้นไปได้ แต่การได้ครอบครองมันก็ทำให้พวกเขามีความสุขมากแล้ว
แน่นอนไม่ใช่ว่าวัตถุชิ้นนี้จะดีพร้อมทุกอย่าง ข้อบกพร่องที่ร้ายแรงที่สุดของมันคือมีขนาดเล็กมากเกินไป เมื่อเทียบกับอาวุธเต๋าชนิดอื่น ทำให้มันดูด้อยกว่าอยู่หลายขุม
กระบี่มังกรดำยาวเพียงครึ่งนิ้ว ทั้งตัวเป็นสีดำสนิทและเปล่งประกายสดใส ตอนนี้มันถูกปิดผนึกอย่างสมบูรณ์และไม่สามารถเคลื่อนไหวอยู่ในฝ่ามือของเย่ฟ่าน
แต่อักขระเต๋าและลวดลายมังกรที่ถูกสลักไว้ยังทำให้ผู้คนรู้สึกอิจฉาจนดวงตาแดงก่ำ
เย่ฟ่านชอบอาวุธชิ้นนี้เป็นอย่างมากแม้ว่าด้วยรากฐานของเขาจะไม่สามารถควบคุมมันได้อย่างแน่นอน แต่เขาไม่เชื่อว่าเขาจะไม่สามารถควบคุมมันได้หากเขาใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์
อย่างไรก็ตามปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือเขาไม่สามารถใช้อาวุธชิ้นนี้ต่อหน้าทุกคนได้
ผู้คนทั้งดินแดนรกร้างตะวันออกรู้ว่าเด็กหนุ่มนิรนามเป็นคนครอบครองอาวุธชิ้นนี้ หากเขาใช้มันต่อสู้กับผู้อื่น ทุกคนจะรู้ว่าเด็กหนุ่มนิรนามคนนั้นคือตัวเขา!
เมื่อคิดดูแล้ว มีสมบัติมากมายอยู่ในมือของเขา สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการรวบรวมต้นกำเนิดและปรับปรุงอาณาจักรบ่มเพาะให้แข็งแกร่งเพียงพอที่จะเปิดเผยพวกมัน
"ให้ข้าดูหน่อย"
แม่ชีตัวน้อยของราชวงศ์เซี่ยแสดงความหวัง เย่ฟ่านยื่นมันให้กับนางด้วยรอยยิ้ม
“น้องเล็ก ขายให้เราเถอะ” องค์ชายเซี่ยพูดอีกครั้งว่าต้องการซื้อกระบี่เล่มนี้และกล่าวว่า
"น้องสาวของข้าชอบมันมาก ในฐานะพี่ชายข้าอยากจะมอบมันให้กับนางเพื่อเป็นของขวัญ"
“ข้าก็ชอบเหมือนกัน แต่ไม่มีใครซื้อเป็นของขวัญให้ข้า ข้าจึงต้องซื้อมาด้วยตัวเอง” ชายชราข้างๆกล่าวติดตลก
“ใช่ ในฐานะคนแก่พวกเราจำเป็นต้องซื้อเอาเองเท่านั้น น้องชายเจ้าคิดว่าต้นกำเนิด 180,000 จินเป็นราคาที่เหมาะสมหรือไม่?”
แม่ชีน้อยในชุดขาวไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม นางคืนกระบี่สีดำเล่มเล็กๆให้เย่ฟ่านด้วยความลังเล แต่ดวงตากลมโตของนางยังคงจับจ้องอยู่ที่กระบี่เล่มนั้นด้วยความหลงใหล
เหยาเยว่กงยิ้มและพูดว่า "น้องเล็ก อย่าสับสนว่าจะขายให้ใคร แค่นำไปประมูลในหอคอยสมบัติอสูรสวรรค์เจ้าก็จะได้รับราคาที่สูงที่สุดอยู่แล้ว"
เย่ฟ่านถูกล้อมไปด้วยผู้คนมากมายยากที่จะหลบหนี ในขณะนี้เจียงอี้เฟยผู้สง่างามก็เดินเข้ามาในสวน เขาประสานมือแสดงความเคารพต่อผู้คนด้วยท่าทางอ่อนน้อมก่อนจะเอ่ยปากขอซื้อกระบี่เล่มนี้อีกคน
ในเวลาเดียวกันอันเหมี่ยวอี้ก็เดินเข้ามาเช่นกัน แม้ว่านางจะไม่ได้พูดอะไรแต่เห็นได้ชัดว่าดวงตาของนางนั้นแสดงออกว่าหลงใหลมันมากแค่ไหน
ในที่สุดหลี่เหอซุยก็หมดความอดทนและพูดว่า
“ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าสมบัติชิ้นนี้อยู่ในระดับสูงแค่ไหน มันคืออาวุธสังหารที่มีวิญญาณศักดิ์สิทธิ์อยู่ข้างใน นี่คือกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดจากสวรรค์และปฐพี ราคาที่ทุกท่านให้มานั้นไม่คิดว่ามันน้อยไปหรือ!”
ทุกคนต้องประหลาดใจกับการสังเกตของเขา แต่พวกเขาไม่ได้พูดอะไรมากเพียงยิ้มอย่างแห้งแล้งเท่านั้น
เย่ฟ่านยิ้มและกล่าวว่า “ท่านผู้อาวุโส ขอให้ข้าคิดให้รอบคอบ อย่างไรก็ตาม ข้าจะไม่ออกจากเมืองศักดิ์สิทธิ์ในอนาคตอันใกล้ ข้าจะให้คำอธิบายที่น่าพอใจแก่ทุกคนอย่างแน่นอน”
ตั้งแต่ต้นจนจบที่สงบสุขที่สุดคือนักพรตหญิงแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์เต๋า นางยังคงจับจ้องเย่ฟ่านจากระยะไกลด้วยดวงตาที่ลึกล้ำ
เมื่อข้อสรุปเป็นที่เรียบร้อยแล้วทุกคนที่เสียเดิมพันก็ใบหน้าดำคล้ำด้วยความโกรธ แต่พวกเขาไม่สามารถสร้างความวุ่นวายในอาณาเขตของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้
"ไอ้ดำ เจ้ามันโหดเหี้ยมจริงๆ เจ้าอยู่แล้วว่ามันจะลงเอยเช่นนี้แต่เจ้าก็ยังหลอกเรา!"
“เรื่องนี้พวกเจ้าสมัครใจเอง” หลี่เหอซุยยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าวต่อไปว่า
“ก่อนหน้านี้เจ้ายังเสียดสีพวกเราอยู่ไม่ใช่หรือ ตอนนี้เจ้ารู้สึกอย่างไร คำพูดเสียดสีของเจ้าไปที่ไหนแล้ว”
“เจ้า……”
แม้ว่าความแข็งแกร่งของอู๋จื่อหมิงและคนอื่นๆจะไม่ธรรมดาแต่มันก็ยากที่พวกเขาจะลงมือที่นี่ได้
ตอนนี้เย่ฟ่านมีสถานะทัดเทียมกับปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ ทุกผู้คนที่อยู่ในเมืองนี้ต่างก็มองเขาราวกับเป็นของวิเศษ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากพวกเขาลงมือต่อเย่ฟ่านชะตากรรมของพวกเขาจะเลวร้ายมากแค่ไหน
ก่อนหน้านี้เย่ฟ่านค้นพบยาศักดิ์สิทธิ์ผู้คนยังคงเคลือบแคลงกับโชควาสนาของเขาอยู่บ้าง แต่หลังจากที่เขาครอบครองกระบี่วิเศษ ทุกคนก็รู้แล้วว่าเขาไม่ได้พึ่งพาโชคแต่อย่างใด ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นความสามารถของเขาทั้งสิ้น
“ข้าจะจัดเลี้ยงต้อนรับพวกเจ้าที่หอคอยอมตะ หวังว่าพวกเจ้าพี่น้องคงให้เกียรติข้า” องค์ชายเซี่ยส่งเสียงลับๆ
เรื่องนี้เป็นข้อตกลงล่วงหน้าแล้วเย่ฟ่านก็ไม่คิดจะปฏิเสธ ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
"พวกเจ้าจะไปไหนอย่าลืมนับข้าด้วย"
เหยาเยว่กงไม่ยินยอมปล่อยให้องค์ชายเซี่ยได้รับผลประโยชน์เพียงผู้เดียว
“ไม่มีปัญหา แต่ข้าต้องจ่ายหนี้ก่อน”
เย่ฟ่านเดินไปข้างหน้ากวาดเอาต้นกำเนิดหลายแสนจินที่อยู่บนพื้นท่ามกลางสายตาอิจฉาริษยาของทุกคน
เขาจากนั้นเขาก็เดินไปหยุดอยู่ด้านหน้าของนักพรตเฒ่าพร้อมกับประคองต้นกำเนิด 90,000 จินไปให้อย่างนอบน้อม
หินรูปมนุษย์นั้นมีราคาสูงเสียดฟ้า โชคดีที่มันมีของวิเศษอยู่ด้านใน ไม่เช่นนั้นเย่ฟ่านคงรู้สึกเจ็บปวดหัวใจไปอีกหลายปี