ต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 53 ทูต
ณ ด้านหน้าคฤหาสน์ของไมล์
หลังจากที่ผมส่งทูตไปเพื่อเจรจากับทางกองทัพจักรวรรดิที่เดินทางมา ตัวของทูตก็กลับมารายงานว่ายังเดินทางไปไม่ถึงแต่เจอกับขบวนทูตของทางจักรวรรดิเดินทางมาก่อน เลยเปลี่ยนเป้าหมายให้พวกนั้นมาพบกับผมแทนที่จะเดินทางไป และในตอนนี้ผมก็กำลังยืนรอพวกทูตของจักรวรรดิที่กำลังเดินทางมาอยู่ที่ด้านหน้าคฤหาสน์
รอบคฤหาสน์ของผมตอนนี้เต็มไปด้วยทหารอาวุธครบมือ ภายในคฤหาสน์เองก็เช่นกันมีพวกทหารประจำจุดเอาไว้อย่างแน่หนาเพราะไม่อาจรู้ได้ว่าพวกนั้นมันจะมาทำอะไร เจรจา! โจมตี! หรือจะมาเพื่อทำอะไรอย่างอื่นก็ไม่รู้ความคิดของพวกมัน ด้วยเหตุผลนี้พวกทหารเองก็ต้องเยอะเอาไว้ก่อน
...
....
.....
หลังจากที่ยืนรอได้ไม่นานรถม้า 1 คัน ก็มาจอดอยู่ที่ด้านหน้าของผม รอบรถม้าก็มีทั้งทหารม้าทหารเดินเท้ารวมกัันน่าจะประมาณ 50 - 60 คน ป้องกันเอาไว้ทุกทิศทาง มีอาวุธครบมือทุกคน
แก๊ก!
ประตูรถม้าเปิดออกมาแล้วก็มีผู้ชายอายุน่าจะราว 60 - 70 ปี ผิงสีขาวผมสีขาวความยาวปกติแบบชายทั่วไป นวดเคราเป็นตอมองเห็นได้อย่างชัดเจนแต่ดูเหมือนจะโดนตัดโดนกันมาอย่่างดี สวมชุดเกราะหนักสีแดงทั้งร่างกายอาวุธมีเพียงดาบ 1 เล่ม คาดเอวอยู่
เมื่อเดินมาได้ระยะประมาณ 2 เมตร ที่ด้านหน้าของผม
" ขอบคุณท่านมากที่ให้ข้าเข้ามาในเมืองแบบนี้ ข้าเป็นแม่ทัพในการเดินทัพของกองทัพจักรวรรดิในครั้งนี้ ชื่อว่าแจนด์ลาส "
" ข้ายินดีตอนรับพวกท่านตลอดอยู่แล้วท่านแม่ทัพ "
แม่ทัพเดินทางมาเป็นทูตเองเลยเหรอ?! ดูเหมือนว่าพวกนี้จะไม่ได้อยากสู้สินะ ถึงจะแอบผิดหวังที่ไม่ได้แสดงแสนยานุภาพของกองทัพก็เถอะ แต่ก็ช่างมันไม่มีใครตายมันก็ดีกว่า แก้ปัญาโดยสันติ!
" ถ้างั้นเชิญท่านแม่ทัพเข้าด้านใน ข้าเตรียมห้องตอนรับท่านเอาไว้แล้ว "
" ครับ "
#############
ภายในห้องรับแขกของคฤหาสน์
ทันทีที่พวกเราทั้งสองเดินเข้ามาในห้อง ประตูก็ปิดลงเท่ากับว่าในห้องตอนนี้เหลือเพียงผมที่ไม่มีอาวุธกับแจนด์ลาสที่มีดาบ 1 เล่ม ถ้าคิดแบบปกติ! เพราะตอนนี้มันไม่ปกติ
ผมได้สั่งให้ทหารแอบอยู่ตามกำแพงห้อง แล้วหันปืนไปทางแจนด์ลาสเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ถ้าหมอนี่ทำอะไรตุกติกถึงแม้จะเป็นแม่ทัพก็ไม่ได้รับการยกเว้นอะไร
เมื่อเราทั้งสองนั่งลง
" ถ้างั้นท่านช่วยอธิบายสาเหตุที่ท่านเดินทาเข้ามาในอณาเขตของข้าหน่อยได้ไหม เพราะการกระทำแบบนี้มันสามารถทำให้เกิดสงครามระหว่างประเทศได้เลยนะท่านแม่ทัพ "
ผมจึงเริ่มเอ่ยถามก่อนด้วยน้ำเสียงจริงจัง เพราะการทำแบบนี้มันก็เหมือนกับการบุกรุกเข้ามาในเขตของอาณาจักรชัดๆ นี่ถ้าเป็นขุนนางคนอื่นที่... ไม่สิ! ถ้าผมไม่มีกำลังทหารพร้อมสู้ขนาดนี้ก็คงส่งม้าเร็วแจ้งทางเมืองหลวงไปแล้วว่าทางจักรวรรดินำกองทัพเข้าเขตของอณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
พอข่าวไปถึงเมืองหลวงมันก็แน่นอนถึงแม้ว่าจะยอมให้เงินสนับสนุกจักรวรรดิเพื่อสู้กับพวกปีศาจ แต่ถ้าทางจักรวรรดิทำเรื่องแบบนี้อาณาจักรก็คงไม่ยอมปล่อยไปเหมือนกัน แล้วก็จะเกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศดีไม่ดีมันอาจลามไปถึงสงครามระหว่าง 2 ประเทศเลยด้วยซ้ำ เพราะงั้นเรื่องนี้ผมจึงต้องยกมาเปิดประเด็นการคุยของพวกเรา 2 คน เป็นอันดับแรก
" เรื่องนั้นข้าต้องขอโทษด้วย แต่ที่ข้าเดินทางมาที่นี่ก็เพราะมีเรื่องที่ต้องคุยกับท่าน ข้าไม่ได้มีความคิดที่จะบุกโจมตีหรือทำอะไรกับท่านทั้งสิ้น อย่างที่ท่านรู้ช่วงเดือนปีศาจแบบนี้เอากำลังรบออกมาน้อยมันก็เหมือนกับการฆ่าตัวตาย "
อื้ม! หมอนี่พูดออกมามันก็มีเหตุผลเพราะเราก็เห็นมาแล้วในเรื่องของไคเซอร์ที่กองตั้ง 600 คน ยังเหลือแทบไม่ถึงร้อยคน เพราะงั้นการเอากำลังรบออกมาขนาดนี้มันก็เรื่องปกติของการเดินทางในเวลานี้เหมือนกัน แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่หมอนี่มาต่างหากเพราะเมื่อกี้มันบอกว่ามีเรื่องต้องคุยกับเรา ถึงจะเดาได้ไม่ยากนักถึงเป้าหมายของมันที่เดินทางมา แต่ก็ต้องถามให้แน่ใจก่อน
" ท่านต้องการคุยอะไรกับข้า "