ตอนที่แล้วต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 38 กำแพงเมือง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 40 ระแวง

ต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 39 ออกช่วยเหลือ


ด้านหน้าเมือง

หลังจากที่ผมสั่งให้เมคัสรวมทหารทั้งสองร้อยคนได้ไม่นานทุกคนก็มารวมตัวกันอยู่ที่ด้านหน้าของผมตอนนี้ โดยยืนเรียงแถวกันอย่างสวยงานด้วยชุดสีขาวที่เหมือนกับหิมะที่กำลังตกอยู่ ซึ่งมันเป็นชุดที่เอาไว้ปลอมตัวอย่างดีเยี่ยมในเวลาแบบนี้

หิมะเองตอนนี้ก็ไม่ใช่พายุแล้ว แต่เป็นเพียงเศษหิมะตกลงมาจากฟ้าเรื่อยๆ ทำให้การเดินทางสามารถเดินทางได้ไม่ยากสักเท่าไหร่ ด้านหน้าของพวกทหารเองก็มีปืนใหญ่ทั้งสองกระบอกตั้งอยู่ โดยมีล้อเอาไว้เคลื่อนที่และม้า 2 ตัว ในการลากมันต่อ 1 กระบอก

สาเหตุที่ต้องทำแบบนี้ก็เพราะมันหนักเกินไป ถ้าใช้คนดันมันต้องใช้อย่างน้อย 10 คน หรือไม่ก็มากกว่า ซึ่งการทำแบบนั้นมันเป็นการเสียกำลังคนมากจนเกินไป ไม่เหมาะสมที่จะทำ ผมเลยให้ใช้วิธีแบบนี้แทนเพราะมันจะสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่า ตามจริงถ้าโลกนี้มีควายผมก็เอามันมาลากแทนแล้ว เพราะม้าถึงจะฉลาดแต่มันไม่อดทนแต่ควายถึงโง่แต่มันอดทนมาก ต่อให้สภายอากาศไม่สู้ดีแบบนี้ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับมัน แต่ว่ามันไม่มีการเลยต้องเป็นม้าแทนอย่างที่เห็น

" วันนี้พวกเราจะเดินทางไปช่วยองค์ชายไคเซอร์ที่กำลังเดินทางมาที่เมืองแห่งนี้ และอย่างที่ทุกคนรู้ดีว่าด้านนอกเมืองตอนนี้มันน่ากลัวขนาดไหน เพราะเวลานี้เป็นช่วงเวลาของเดือนปีศาจ เพราะงั้นข้าอยากให้พวกเจ้าตื่นตัวตลอดเวลาห้ามประมาทเด็ดขาด ไม่ว่าจะเจออะไรถ้าไม่แน่ใจว่าเป็นมอนเตอร์หรือสิ่งอื่นให้ส่งสัญญาณแจ้งหน่วยของตัวเองมทันที เข้าใจไหม! "

" ครับ!!! "

หลังจากที่ผมพูดจบพวกทหารก็พากันตอบออกมาพร้อมกันด้วยน้ำเสียงพร้อมเพียง จากนั้นผมกับพวกทหารก็เริ่มเดินททางออกจากเมืองทันที โดยจัดขบวนเป็นสามส่วน ส่วนหน้า! ส่วนกลาง! ส่วนท้าย! โดยแต่ละส่วนเว้นระยห่างกันพอสมควรประมาณ 500 เมตร เพื่อจะสามารถเห็นมอนเตอรื์ได้ในระยะที่ไกลขึ้นมากกว่ามาเดิม และเพื่อเพิ่มโอกาศในจากเจอทัพของไคเซอร์ด้วย

ส่วนปืนใหญ่ทัั้งสองเองก็มีอยู่หน้าขบวนส่วนกลาง และท้ายขบวนของส่วนกลาง เพื่อที่จะสามารถเอาไปช่วงเหลือขบวนแต่ละส่วนได้ทันท่วงที่ก็เลยต้องแยกปืนใหญ่ทั้งสองออกจากัน

ระหว่างทางที่กำลังเดินทางค้นหาก็เจอกับมอนเตอร์บางประปรายแต่ด้วยปืนพวกมันก็แถบเข้าใกล้ขบวนที่เดินทางอยู่ไม่ได้ รวมถึงพวกทหารมีประสบการณ์ในการฆ่าพวกมันหลายวันที่ผ่านมาทำให้สามารถรู้จุดอ่อนของพวกมัน จึงจัดการได้ไม่ยาก

...

....

.....

หลังจากที่เดินทางมาสักพักทหารล่าตะเวนที่กำลังขี่ม้าล่าตะเวนอยู่ก็ตรงมาทางผม เมื่อหนุดด้านหน้าทหารก็กระโดดลงจากมาและเริ่มพูดกับผมว่า " ท่านไมล์พวกเราพบกับขบวนทหารขององค์ชายไคเซอร์แล้วครับ! "

" อยู่ไหน? "

" ท่านทิศตะวันออกห่างจากจุดนี้ประมาณ 2 กิโลเมตรครับ กำลังปะทะกับกลุ่มมอนเตอร์อยู่ "

" ดี! งั้นก็สั่งให้ทหารมุ่งตรงไปยังจุดที่พวกองค์ชายอยู่กันเลย แล้วก็ให้ขบวนทั้งสามมารวมตัวกันพวกเราเจอเป้าหมายแล้วไม่มีความจำเป็นที่ต้องแยกตััว "

" ครับท่าน! "

หลังจากนั้นผมก็เริ่มเปลี่ยนเส้นทางเพื่อตรงไปยังจุดที่ขบวนทหารของไคเซอร์อยู่ทันที เพราะถึงพวกนั้นจะเป็ทหารที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีหลายร้อยนายก็จริง แต่ต้องเจอกับสภาพอากศแบบนี้ แล้วก็พวกมอนเตอร์ที่มีพลังเพิ่มขึ้นต่อให้เป็นทหารที่ฝึกพิเศษมาขนาดไหนแต่ก็ยังเป็นมนุษย์ พวกนั้นต้องอ่อนแรงกันบาง เพราะงั้นการเดินทางไปให้ถึงเร็วที่สุดมันเป็นหน้าที่ของผมกับทหารตอนนี้เช่นกัน

##############

ทางด้านของไคเซอร์

เคล้ง!

อากกก!

ฉับ!

ฉวบ!

เวลานี้รอบตัวของไคเซอร์เต็มไปด้วยการต่อสู้ของทหารกับมอนเตอร์หลายชนิด เลือดที่กระเดินอยู่ทั่ว พวกทหารที่ได้รับบาดเจ็บเองก็พยามยืนหยัดสู้อย่างเต็มที่ และทหารบางส่วนตอนนี้ก็กำลังยืนป้องกันไคเซอร์เป็นขบวนทัพวงกลมอยู่โดยมีไคเซอร์อยู่ตรงกลาง

' ทหารเราตอนนี้เหลือเพียง 20% เท่านั้น แบบนี้แย่แน่! ระยะห่างจากเมืองก็เหลืออีกตั้ง 5 - 6 ชั่วโมง ในการเดินทาง ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปเรากับทหารไปรอดกันแน่ ' ไคเซอร์เริ่มวิเคราะห์สถาณการณ์โดยรอบตอนนี้

ตอนนี้ทหารของไคเซอร์เหลืออยู่ไม่ถึง 20% แล้วด้วยซ้ำ พวกทหารเองก็หนื่อยล่ากันเต็มที่ เพราะช่วงเวลาที่เดินทางออกมาจากค่ายก็ต้องสู้กับพวกมอนเตอร์ตลอดเวลา ทำให้กำลังทหารลดไปเยอะ อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้

โฮกกกก!!!!!

ตูม!!!

เสียงร้องดังงขึ้นมาพร้อมกับลูกไฟขนาดใหญ่ที่ตกลงมายังจุดที่พวกทหารกำลังสู้กับมอนเตอร์กันอยู่ จากนั้นก็เกิดการระเบิดที่รุนแรงขึ้น สิ่งมีชีวิต 100 เมตร จากจุดที่ลูกไฟขนาดใหญ่เมื่อคู่ตกลงไปต่างก็หายไปทั้งหมด พื้นหิมะสีขาวเองก็หายไปเหมือนกัน เพราะความร้อนจนเห็นเป็นพื้นดินสีน้ำตาล

" มะ... มันตามพวกเรามาทั้นแล้ว "

ไคเซอร์พูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ หลังจากที่เห็นมอนเตอร์ด้านหน้าตอนนี้ที่ส่งเสียงแรงและพ้นลูกไฟออกมาจากปาก ซึ่งมัก็คือ เต่าไฟ! มอนเตอร์กลายพันธ์ที่พวกไคเซอร์หนีมันมา แต่ตอนนี้มันกลับตามมาทันแล้ว

พวกทหารตอนนี้ต่างก็ทำสีหน้าเป็นกังวลออกมา เพราะขนาดมอนเตอร์ปกติก็แทบจะไม่ไหวแล้ว แต่ดันมาจอกับมอนเตอร์กลายพันธ์นตอนนี้อีก ทั้งกองทัพของไคเซอร์ต่างก็ตกอยู่ในความสิ้นหวัง

แต่ระหว่างนั้น

ตูม!!!

ตูม!!!

ตูม!!!

เต่าไฟก็โดนโจมตีอย่างต่อเนื้องจากเสียงที่ดังขึ้นมาติดต่อกัน สิ่งที่กำลังโจมตีเเต่าไปอยู่ตอนนี้ก็คือลูกเหล็กขนาดใหญ่ที่กำลังลอยอยู่บนอากาศ และพอสัมพัสกับตัวของเต่าไปมันก็เกิดระเบิดขึ้นทันทีซึ่งมันเป็นพลังทำลายที่มหาศาลมาก เพียงจากการโจมตีไม่กี่ครั้งกระดองอของเต่าไฟที่ว่ากันว่าแข็งกว่าเหล็กหลายเท่าก็แตกออก บนตัวเริ่มมีบาดแผลมากมายจนตอนนี้มันเริ่มนอนราบลงไปกับพื้นเพราะลูกเหล็กที่ระเบิดใส่ร่างกาย

' นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมลูกเหล็กถึงทำแบบนั้นได้... ไม่สิ! ตอนนี้ต้องถามว่าใครเป็นคนทำ ใครกันที่สามารถจัดการเต่าไฟด้วยการโจมตีไม่กี่ครั้งแบบนี้ กองทัพจักรวรรดิเหรอ???? ' ไคเซอร์คิดด้วยความสงสัยด้วยใบหน้าที่กำลังตกใจอยู่ หลังจากที่ได้เห็นเหตุการณ์ด้านหน้าตอนนี้ พวกทหารของไคเซอร์เองก็เช่นกันต่างก็กำลัง ตกใจ! สับสน! สงสัย! กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นต่อหน้าอยู่ตอนนี้กันหมดเพราะพลังทำลายของลูกเหล็กที่เกิดขึ้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด