ต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 27 ปัญหา [ จบเล่มที่ 1 ]
ภายในห้องทำงานของไมล์
ระหว่างที่ผมกำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องเมคัสก็เดินเข้ามาด้วยหน้าตากำลังเร่งรีบเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่าง แต่สาเหตุที่หมอนนี้เดินเข้ามาแบบนี้มันก็พอเดาออกอยู่หรอกว่าเพราะอะไร
" ท่านไมล์ เพราะคำพูดของท่านเมื่อคู่ทำให้มีคนมาสมัครเป็นทหารเพิ่มเยอะเลยครับ "
" ปฎิเสธไปให้หมดตอนนี้กำลังทหารของพวกเรามีมากพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรับเพิ่ม แล้วอีกอย่าง ตอนนี้รับมาก็เอาไปฝึกไม่ได้อยู่ดีปล่อยให้พวกที่เข้ามาสมัครไปทำงานในส่วนอื่นดีกว่า "
" ครับท่าน! "
" มีเรื่องอะไรอีกไหม? "
หมอนนี่เดินเข้ามาเราด้วยหน้าตาแบบนั้น มันคงไม่ใช่เพราะแค่เรื่องคนมาสมัครเป็นทหารจำนวนมากอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้เราเองก็เริ่มเข้าใจแล้วเหมือนกันว่ากำลังมีปัญหาอยู่หลังจากอ่านรายงานสรุป
ตอนนี้มีคนเดินทางเข้ามามากกว่าที่คิดเอาไว้มาก ยังไม่ถึงเดือนปีศาจก็มีมาแล้ว 30,000 คน ไม่อยากคิดเลยว่าหลังจากเดือนปีศาจจะมีคนเดินทางมาเพิ่มขนาดไหนเพราะผู้คนที่ไม่มีที่อยู่ต้องเดินทางเข้ามาเพิ่มอย่างแน่นอน
ในตอนนี้มันเป็นเพียงส่วนเดียวเท่านั้น และข่าวเรื่องที่เราบอกจะรับคนเข้าก็พึ่งบอกไปได้ไม่กี่อาทิตย์ ข่าวต้องยังไปไม่ถึงพวกเมือง หรือหมู่บ้านที่ห่างไกลแน่ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต้องมีมากกว่า 100,000 คน มากกว่าที่คำนวณเอาไว้แน่นอน
" อาหารครับ "
เมคัสพูดด้วยน้ำเสียงห่อเหี่ยว
เป็นแบบที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด ตอนนี้เมืองกำลังขาดอาหารแน่ถึงแม้ว่าจะสามารถผลิตอาหารในเดือนปีศาจได้ก็จริง แต่มันก็ผลิตได้แต่พวกพืชเท่านั้น เนื้อสัตว์ไม่สามารถผลิตเพิ่มได้
" ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ถ้าเดือนปีศาจยาวนานกว่าปกติ เมืองแห่งนี้ได้ขาดแคลนเนื้อแน่นอนครับ "
" ตอนนี้เนื้อเราสามารถอยู่ได้กี่เดือน? "
" ถ้าคิดตามการกินของจำนวนคน 100,000 คน ก็คงอยู่ได้ประมาณ 2 - 3 เดือนก็น่าจะไหวครับ ถ้าแจกให้กับพวกคนที่ทำงานทุกวัน "
อื้ม! ถ้าคิดว่ามีมากกว่าแสนคนก็คงอยู่ได้ราว 2 เดือน ซึ่งประวัติที่เดือนปีศาจยาวนานที่สุดก็คือ 4 เดือน เท่ากับว่าถ้าคิดมันนานสุด เรามีอาหารชนิดเนื้อเพียงครึ่งของมันเท่านั้น
แย่เหมือนกันแหะ! ถ้ายังเป็นแบบนี้ก็มีโอกาศที่เมืองแห่งนี้จะขาดแคลนอาหารได้ และถ้าไม่มีอาหารเพียงพอมันก็จะนำมาสู้การล่มสลายของเมืองในเดือนปีศาจ เราจะยอมให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้
จากนั้นผมกับเมคัสก็ยืนมองหน้ากันเพื่อใช้ความคิดสักพัก จนในที่สุดผมก็สามารถหาทางออกจนได้ และเริ่มพููดออกไป
" พวกเราต้องออกล่าเอง "
" อะไรนะครับ? "
" เจ้าได้ยินไม่ผิด ตอนนี้พวกเรายังขาดเนื้ออยู่จำนวนมาก พวกพ่อค้าเองก็ไม่ขนสัตว์มาขายกันแล้วถึงแม้ว่าขนมามันก็ยังไม่พออยู่ดี ทางเลือกของเราก็คือต้องส่งทหารออกไปล่าพวกมันเองในป่า "
วิธีนี่เป็นทางเดียวที่ผมสามารถคิดออกได้ในตอนนี้ แต่มันก็มีความเสียงอยู่มากเพราะพวกทหารที่ผมฝึก ฝึกเอาไว้สู้เพื่อตั้งรับ และสู้ในที่โล่งที่เป็นลักษณะเด่นของปืนการที่เข้าไปในป่า วิศัยทัศน์มันไม่ดียากแก่การใช่ปืน หนำซ้ำยังมีมอนเตอร์อันตรายหลายชนิดอยู่ในนั้นอีก
แต่ทางเลือกของเราตอนนนี้มีไม่มากนัก ยังไงทางออกตอนนี้ก็คือต้องล่าสัตว์มาให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ แล้วเอาพวกมันไปทำเนื้อตากแห่งให้สามารถอยู่ได้เพิ่มอีกสักเดือนก็ยังดี
" ท่านแน่ใจเหรอครับ "
เมคัสพูดออกมาโดยมองหน้าผมด้วยสีหน้าจริงจัง
" จริง! เจ้าไปออกคำสั่งกับพวกทหารได้เลยว่าให้เข้าป่าไปสัก 1,000 คน แล้วล่าสัตว์มาให้เยอะที่สุดเท่าที่จะสามารถหามาได้ "
" ครับท่าน! "
เมคัสเมื่อรับคำสั่งเรียบร้อยก็เดินออกจากห้องไปทันที เท่านี่ก็น่าจะพอแก้ปัญหาเรื่องของเนื้อได้แล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้หวังอะไรกับพวกทหารมากก็ตาม แต่ก็น่าจะเพิ่มเวลาให้ได้ 10 - 20 วัน จากการล่าของพวกนี้
แต่ถึงแบบนั้นก็ต้องเตรียมแผนรับมือรูปแบบอื่นเอาไว้อีก ถ้าเดืนอปีศาจยาวนานกว่า 3 เดือน มีหวังเกิดดารต่อต้านขึ้นทั่วเมืองแน่ และทหารเพียง 2,000 คน ไม่มีทางควบคุมความสงบได้แน่นอน
เฮ้อ~ เรียกว่าเป็นการลงทุนที่แบกรับความเสี่ยงแบบสุดขีดเลยแหะ !
###########
ณ เมืองหลวงของอณาจักร
บัดนนี้ราชาที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอีี้บัลลังค์ก็กำลังอ่านจดหมายข้อความที่เวโรนิก้าส่งมาให้อยู่ ในข้อความที่ส่งมานั้นมีทั้งเรื่องการบริหาร โรงเรียนคนธรรมดา การเพราะปลูกในเดือนปีศาจ แถมยังมีเรื่องของอาวุธที่มีแสนยานุภาพมากกว่าดาบ หรือธนูหลายเท่าเขียนเอาไว้
" บารอนนั้นทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไงนะ??? "
ราชาพรึมพรัมออกมาขณะที่กวาดสายตามองกระดาด้านหน้าอยู่
แต่หลังจากที่ได้อ่านราชาก็เข้าใจถึงความสุดยอดของเร่ื่องทั้งหมดทันที ด้วยเหตุผลที่ว่าเวโรนิก้าเป็นองค์หญิงที่ไม่เคยสนใจอะไรเลย หรือกล่าวชมใครออกมาก่อนแต่ทว่าข้อความที่ได้รับมากลับเต็มไปด้วยการชื่นชมบารอนไมล์แทบทั้งหมด ทำให้ราชาไม่ได้ไปที่เมืองทาเลสก็รู้ได้ทันทีว่าบารอนไมล์สุดยอดขนาดไหน
ระหว่างที่ราชากำลังนั่งอ่านอยู่
" ท่านพ่อท่านพี่เมื่อไหร่จะกลับมา สรุปมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่ดินแดนของบารอนไมล์คนนั้นกันแน่ "
องค์ชาย ไคลเซอร์ ผู้ที่เป็นรัชทายาทสืบทอดบัลลังค์ของราชาคนต่อไปก็เดินเข้ามาทางเข้าของห้อง แล้วตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่เร่งเอาคำตอบจากตัวของเวโรนิก้า
ตามปกติถ้าไม่เกิดเรื่องอะไรเวโรนิก้าสมควรกลับมาถึงเมืองหลวงแห่งนี้ได้แล้ว แต่ทว่าด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นมันก็เลยทำให้เธอยังไม่เดินทางกลับมามีเพียงกระดาษแผ่นเดียวที่ราชากำลังอ่านอยู่ ด้วยความเป็นห่วงของไคเซอร์ ก็เลยถามราชาออกมาแบบนี้เพราะมีข่าวลือหลายข่าวเกิดขึ้นกับเธอ
โดนจับตัวบ้างละ!
โดนมอนเตอร์ฆ่าไปแล้วบ้างละ!
โดนขุนนางทางอณาเขตตอนเหนือของประเทศจับตัวเอาไว้บ้างละ!
มีข่าวลือกมามายเกิดขึ้นเกี่ยวกับเธอในตอนนนี้ มันก็เลยไม่ได้แปลกอะไรที่ไคเซอร์จะเร่งเอาคำตอบจากราชาเช่นนี้
" เอาไปอ่านเองเลยก็แล้วกัน "
ราชายื้นกระดาษข้อความให้ทหารด้านข้างของตน จากนั้นทหารก็เดินเอากระดาษไปให้กับไคเซอร์ทันที ไคล์เซอร์เมื่อได้รับกระดาษก็เริ่มอ่านข้อความด้านใน นะหว่างที่อ่านก็ทำสีหน้าแปลกใจไปด้วย
จนเวลาผ่านไปสักพักก็เริ่มพูดออกมา
" ข้าไม่ยอมรับครับ "
" ไม่ยอมรับเรื่องอะไร? "
ราชาถามกลับด้วยความสงสัย เพราะหลังจากก้มหน้าก้มตาอ่านข้อความในแผ่นกระดาษสักพักชไนน์เดอร์ก็เงยหน้าขึ้นมาพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที
" ข้าไม่ยอมให้ท่านพี่อยู่กับบารอนนั่นในเดือนปีศาจแน่นอน การทำแบบนั้นมันก็เหมือนกับว่าเราปล่อยท่านพี่เอาไว้ท่ามกลางความอันตรายชัดๆ ไหนจะบารอนไมล์อะไรนี่อีก ข้าคิดว่าเขาต้องเป็นคนของจักรวรรดิแน่ถึงได้มีอะไรที่ล้ำหน้าแบบนี้ "
ไคเซอร์แสดงออกมาอย่างชัดเจนถึงความแคลงใจที่มีต่อไมล์ แต่ที่เขาพูดออกมาล้วนเป็นความจริงที่น่าคิดเพราะดินแดนของไมล์ที่เป็นอณาเขตทางเหนือได้อยู่ไม่ห่างจากเขตของจักรวรรดินัก ที่ผ่านมาก็มีพวกขุนนางที่ทรยศส่งข่าวของประเทศตัวเองให้กับจักรวรรดิตลอดเวลาทำให้ไคเซอร์คิดแบบนี้
" แล้วไง... "
ราชายังคงถามต่อ เพราตัวราชาเองก็มีความคิดไม่ต่างจากไคเซอร์มากนัก
" เราต้องไปช่วยท่านพี่กลับมาเมืองหลวงให้เร็วที่สุดครับ ข้าคิดว่าท่านพี่ไม่มีทางยอมอยูู่เมืองแบบนั้นเป็นแน่ "
ด้วยนิสัยของเวโรนิก้าที่อยู่เมืองหลวงตั้งแต่เด็กทำให้ถูกเรียกว่า องค์หญิงเอาแต่ใจ ไคเซอร์จึงกล้าพูดออกมาได้เต็มปาก เพราะไม่มีทางที่พี่ของตนจะยอมอยู่เมืองที่หนาวและอันตรายแน่นอน
" เห็นลายมือนั่นไหม? "
ราชาชี้นิ้วใส่กระดาษที่ไคเซอร์ถืออยู่ แล้วก็เริ่มพูดต่อว่า " ลายมือท่าไม่เพ่งตาอ่านแบบนั้นก็อ่านไม่เข้าใจ ถ้ามันไม่ใช่ของพี่เจ้ามันจะเป็นของใครอีก แล้วอีกอย่าง มันก็ถูกส่งโดยทหารของเธอที่เป็นม้าเร็วมาด้วย "
" อาจเป็นแผนครับ! "
ไคเซอร์ตอนนี้ไม่ฟังเหตุผลอะไรทั้งนั้น ตอนนี้มีเพียงความคิดที่ว่าจะพาตัวเวโรนิก้ากลับมาลูกเดียว
" งั้นจะทำยังไง? "
" ข้าจะเดินทางไปพาท่านพี่กลับมาเองครับ ท่านพ่อ!!! "