ตอนที่ 4 ทำไม? คุณถึงไม่ให้เวลาผมเล่นกับคุณ! (RE)
อะไรกัน?
ทุกคนดูตกตะลึง และดูไม่อยากจะเชื่อ
หลินฟาน จริงๆ แล้ว มีทรัพย์สินหลายสิบล้าน!
เขาเป็นรุ่นที่สองของครอบครัวที่ร่ำรวยงั้นเหรอ?
ใช่! มันต้องอย่างนั้นสิ!
จาง ต้าฟู่ รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก รีบคว้าคอมพิวเตอร์ขึ้นมาดู และเขาเองก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก : “หลินฟาน สิ่งที่คุณพูดนั้นเป็นความจริง!”
กรามของ จ้าวกัง เกือบจะค้างไป และใบหน้าของเขาเองก็ดูซีดเผือด : “น..นี่ นี่มันเป็นไปไม่ได้! มันไม่ใช่ความจริง!”
หลินฟาน ยิ้ม แล้วพูดไปว่า “ท่านประธานจาง ตอนนี้คุณเชื่อหรือไหมว่าผมสามารถซื้อบริษัทของคุณได้?”
จาง ต้าฟู่ พยักหน้าอย่างจริงจัง แล้วพูดออกไปว่า “ฉันเชื่อ หลินฟาน ไม่สิ พี่ฟาน คุณเป็นคนที่ช่วยชีวิตของฉันจริงๆ ขอบคุณมากๆ”
จาง ต้าฟู่ จับมือของ หลินฟาน อย่างกระตือรือร้น และแม้กระทั่งเปลี่ยนชื่อของเขา ราวกับว่า หลินฟาน เป็นพ่อแม่คนที่สองของเขาไปเสียอย่างงั้น…
เป็นที่เข้าใจได้ว่าบริษัทไม่สามารถขายออกไปได้ ในก่อนหน้านี้ และเขากำลังจะตายลงไป …ด้วยความกังวล
“เป็นไปไม่ได้ นี่มันไร้สาระชัดๆ หลินฟาน แกมันจะไปรวยได้ยังไง? หากแกรวย แล้วทำไมแกถึงยังเป็นคนส่งอาหาร!” จ้าวกัง ยิ้มหัวเราะออกมาอย่างเย็นชาราวกับคนบ้า โดยเขาเองไม่สามารถยอมรับความเป็นจริงนี้ได้
จาง ต้าฟู่ ดูไม่พอใจ เขากล่าวไปว่า : “จ้าวกัง นี่คุณกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน? พี่ฟาน ไม่สามารถเป็นคนต่ำต้อยได้? นี่คุณจะบอกว่าเขาไม่สามารถออกมาสัมผัสประสบการณ์ชีวิตได้!”
จาง ต้าฟู่ พูดได้ดี และดูมีเหตุผลอย่างมาก ทุกคนต่างนิ่งอึ้งอยู่พักหนึ่ง…
จ้าวกัง พูดอะไรไม่ออก เขาไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้อีก.. ตอนนี้มีแต่ความเกลียดชังที่ยังฝังลึกอยู่ในใจ และการโจมตีครั้งนี้มันก็ใหญ่เกินไปสำหรับเขา…
หลินฟานยิ้ม แล้วพูดไปว่า “จ้าวกัง คุณไม่ได้บอกว่าถ้าฉันซื้อ ชิงเยว่ได้ คุณจะคุกเข่าลง แล้วเรียกฉันว่าพ่อ งั้นเหรอ?”
จ้าวกัง หน้าแดงขึ้นมาทันที นี่มันกล้าดียังไงที่จะให้เขาคุกเข่าลง เพราะอีกฝ่ายคือ หลินฟาน ที่เขาเองพร้อมที่จะเหยียบย่ำต่างหาก!
เมื่อเห็นเช่นนี้ หลินฟาน ก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย แล้วพูดไปว่า : “ประธานจาง ผมขออะไรคุณตอนนี้หน่อยได้ไหม?”
จาง ต้าฟู่ ยิ้มออกมาด้วยความเคารพ และกล่าวไปว่า “แน่นอน ตอนนี้บริษัทนี้ก็เป็นของ พี่ฟาน ในไม่ช้า พี่ฟาน สามารถทำทุกอย่างที่พี่ต้องการได้เลย”
หลินฟาน พยักหน้า และชี้ไปที่ จ้าวกัง : “เอาล่ะ งั้นตอนนี้ ก็ไล่ จ้าวกัง ออกก่อนเลย!”
จ้าวกัง ตัวสั่น นี่มันราวกับถูกฟ้าผ่า เขาอยู่ในบริษัทนี้มาสามปีแล้ว และในที่สุดเขาก็สามารถเป็นผู้อำนวยการได้แล้ว นี่ถ้าเขาถูกไล่ออก เขาก็ไม่มีอะไรเหลือเลยนะสิ!
“ประธานจาง ได้โปรด อย่าไล่ผมออกไปเลย ผมอยู่กับคุณมาตั้งสามปีแล้ว” จ้าวกัง พยายามอ้อนวอน
จาง ต้าฟู่ พูดออกไปเบาๆ ว่า : “คุณมาขอร้องฉัน แล้วมันได้อะไร? คุณไปขอ พี่ฟาน เถอะ”
จ้าวกัง หันไปหา หลินฟาน และคุกเข่าลง พร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างขมขื่น “พ่อ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนก็ต่างพากันหัวเราะออกมา เพื่อที่จะรักษางานของเขา จ้าวกัง ไม่แม้แต่จะสนใจใบหน้าของตัวเอง
หลินฟาน พูดด้วยความรังเกียจออกไปว่า “ลืมมันไปเถอะ ฉันไม่เคยมีลูกชายแบบคุณ”
จ้าวกัง รีบเปลี่ยนคำพูดอย่างรวดเร็ว : “เอาล่ะ ก็ได้ๆ พี่ฟาน ฉันผิดเอง คุณช่วยอย่าไล่ฉันออกได้ไหม ฉันขอร้องล่ะ?”
เมื่อก่อนยังดูหยิ่งยโสอยู่เลย แต่มาตอนนี้ ..เขาดูเหมือนกับหนอน ช่างน่าสมเพชจริงๆ
หลินฟาน ยิ้มออกมา แล้วพูดไปว่า “คุณยังต้องการทำที่นี่อยู่อีก ใช่ไหม?”
จ้าวกัง พยักหน้าอย่างรวดเร็ว : “ใช่ ผมยังต้องการ”
หลินฟาน พูดไปว่า “เอาล่ะ งั้นผมก็จะให้โอกาสคุณในการสารภาพต่อหน้าทุกคนว่าคุณได้ใส่ร้ายผมอย่างไรในวันนั้น ที่มันทำให้ผมถูกไล่ออก แล้วผมจะปล่อยคุณไป!”
“นี่มันอะไร?” จาง ต้าฟู่ โกรธจัด “จ้าวกัง แกช่างกล้าหาญจริงๆ แกกล้าใส่ร้าย พี่ฟาน!”
จ้าวกัง ร้องไห้ออกมาในเวลานี้ แล้วพูดไปว่า : “ผมเองก็ไม่อยากทำเหมือนกัน แต่ พี่ฟาน เก่งเกินไป ถ้าผมไม่ทำอะไร ผมก็จะเป็นผู้อำนวยการไม่ได้!”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ ต่างก็พากันตกใจ
“เรื่องจริงงั้นเหรอ นี่.. จ้าวกัง เขาช่างไร้ยางอายเกินไปแล้ว!”
“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้!”
“ช่างน่าขยะแขยงจริงๆ!”
จาง ต้าฟู่ ตัวสั่นไปด้วยความโกรธ : “จ้าวกัง คุณทำให้ฉันผิดหวังอย่างมาก มากเกินไปด้วยซ้ำ! คุณใส่ร้าย พี่ฟาน อย่างไร?”
จ้าวกัง กล่าวไปว่า : “เมื่อตอน พี่ฟาน ไม่อยู่ในตอนนั้น ผมได้เข้าไปแก้ไขบัญชีในไฟล์ของเขา ทำให้บริษัทต้องเสียเงินไปหลายหมื่นเหรียญ”
หลินฟาน ยิ้มอย่างเย็นชาออกมา แล้วกล่าวไปว่า : “ประธานจาง จึงได้เข้าใจผิด และคิดว่าเป็นความผิดของผม และคุณก็ได้ปฏิเสธผม โดยไม่ฟังคำอธิบายใดๆ จากผมเลย ในตอนนั้น”
จาง ต้าฟู่ ดูประหลาดใจขึ้นมา ดูเหมือน พี่ฟาน จะกล่าวโทษเขา ถ้าเขาเกิดเปลี่ยนใจ และไม่ซื้อบริษัทขึ้นมา นี่มันคงไม่ดีแน่ๆ และเขารีบเปลี่ยนคำพูดอย่างรวดเร็ว : “พี่ฟาน ผมเองก็ถูกไอ้ผู้ชายคนนี้มันหลอก ผม.. ผมต้องขอโทษจริงๆ คุณช่วยยกโทษให้ผมได้ไหม?”
หลินฟาน ตบไปเบาๆ ที่ไหล่ของ จาง ต้าฟู่ : “ลืมมันไปเถอะ เรื่องในอดีตผมได้ลืมมันไปแล้ว”
จาง ต้าฟู่ ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก และยิ้มออกมาอย่างมีความสุขในทันที : “ขอบคุณ พี่ฟาน”
จ้าวกัง ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เช่นกัน ประโยคของ พี่ฟาน “ลืมมันไปเถอะ” มันเหมือนฟังเสียงของนางฟ้า
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะมีเวลาได้หัวเราะ หลินฟาน ก็เปลี่ยนคำพูดของเขาในทันที : “แต่ จ้าวกัง ผมจะไม่ให้อภัย ประธานจาง คุณคงเข้าใจได้?”
อะไรกัน? ใบหน้าของ จ้าวกัง เปลี่ยนไปอย่างมาก และเขาพูดออกมาอย่างกังวลไปว่า : “พี่ฟาน คุณไม่ได้บอกหรือว่าตราบใดที่ฉันได้สารภาพออกไป คุณจะปล่อยผมไป?”
หลินฟาน ยิ้ม แล้วพูดไปว่า “ทำไม คุณถึงไม่ให้เวลาผมเล่นกับคุณบ้าง?”
จ้าวกัง ดูกลายเป็นคนโง่ขึ้นมาในทันที
ทุกคนเหงื่อออก หลินฟาน ดูเจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว
จาง ต้าฟู่ เป็นคนฉลาด เขารีบกระโดดขึ้นมาทันที : “คุณรู้อะไรไหม พี่ฟาน ใช้เพียงแค่เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่จะให้ จ้าวกัง สารภาพออกมา พี่ฟาน ช่างมีไหวพริบจริงๆ จ้าวกัง ฉันขอประกาศว่าคุณถูกไล่ออกจากบริษัทอย่างเป็นทางการ และผมจะขอให้คุณจ่ายค่าสูญเสียในครั้งนั้นมาด้วย และตอนนี้ก็รีบๆ ออกไปจากบริษัทเดี๋ยวนี้เลย!”
จ้าวกัง ตกตะลึง และหวาดกลัวขึ้นมา เขาถูกไล่ออก และต้องชดใช้ค่าเสียหายในครั้งนั้น.. นี่ไม่ใช่การสูญเสียภรรยาไปอีกครั้ง แต่มันคือการสูญเสียกำลังทหาร!
“ประธานจาง อย่า ได้โปรด ผมไม่มีเงินชดใช้ ผมเองก็ไม่สามารถตกงานนี้ได้!” จ้าวกัง ร้องไห้ออกมา และคลานเข้าไปกอดต้นขาของ จาง ต้าฟู่ และร้องขอออกมาอย่างขมขื่น
เขากลัวว่า หลินฟาน จะไม่พอใจ จาง ต้าฟู่ จึงคำรามลั่นออกมา “เรียกรปภ. มาเร็วเข้า และช่วยฉันโยนมันออกไปที!”
ไม่นานนัก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนก็ได้มาถึง และพวกเขาอดไม่ได้ที่จะจับ จ้าวกัง จากซ้ายไปขวา และลากเขาออกไป
จากระยะไกล คุณยังคงได้ยินเสียงร้องของ จ้าวกัง ที่ดังเหมือนกับฆ่าหมู
จาง ต้าฟู่ ก็กลัวว่า หลินฟาน จะไม่พอใจ เลยรีบพูดไปว่า “พี่ฟาน ฉันขับไล่ผู้ชายคนนี้ออกไปแล้ว พี่ฟาน ต้องการให้ฉันทำอะไรอีกไหม?”
หลินฟาน เปิดเปลือกตา และมองไปที่พนักงานต้อนรับ เสี่ยวจาง
ในเวลานี้ ใบหน้าของ เสี่ยวจาง ดูซีดลงไป และร่างกายของเธอก็อดสั่นไม่ได้ : “พี่ฟาน ฉันขอโทษ ฉันตาบอดเอง ฉันไม่ควรหัวเราะเยาะคุณ ฉันผิดไปแล้ว ได้โปรดอย่าไล่ฉันออกเลยนะ”
เสี่ยวจาง ทำหน้าตาให้ดูน่าสงสารมากที่สุด และพยายามทำให้หัวใจของ หลินฟาน อ่อนลง
แต่ หลินฟาน กลับเพิกเฉย เสี่ยวจาง คนนี้ เคยดูถูกเขาในฐานะคนส่งอาหาร แต่ตอนนี้ เมื่อเธอรู้ว่าเขารวย และเธอมาขอความเมตตาเนี้ยนะ คนเย่อหยิ่งเช่นนี้ เขาจะไม่เก็บเอาไว้
จาง ต้าฟู่ ราวกับเครื่องชุบแป้งทอด เขาเข้าใจว่า หลินฟาน หมายถึงอะไร เมื่อมองไปที่ใบหน้าของเขา และเขาทำได้เพียงพูดเสียงดังออกมาอย่างเย็นชาว่า “ฉันไม่จำเป็นต้องเรียก รปภ. หรอกนะ คุณคงไปเองได้?”
ใบหน้าของ เสี่ยวจาง แดงไปถึงหู ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียง ต้องเก็บข้าวของ และออกไปอย่างเงียบๆ
หลินฟาน มองดูทุกคน และพูดเสียงดังออกไปว่า “ถ้าพวกคุณคนใดไม่อยากทำงาน คุณสามารถลาออกไปได้ แต่ถ้าคุณยินดีที่จะอยู่ และทำงานกับผม รับรองได้เลยว่าคุณจะมีชีวิตที่ดีในอนาคต!”
“ฉันยินดีที่จะอยู่!”
“ฉันเองก็อยากอยู่!”
“ฉันอยากอยู่!”
ทุกคนได้พูดออกมาว่าทุกคนต้องการจะอยู่ต่อ
เป็นเรื่องตลกที่ หลินฟาน กลายเป็นมหาเศรษฐี เขาซื้อ ชิงเยว่ โดยไม่กระพริบตา พวกเขาต้องการที่จะอยู่ และต้องการมัน พวกเขาเต็มใจที่จะจากไปได้อย่างไร!
จาง ต้าฟู่ เดินเข้าหา หลินฟาน ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา : “นั้น ... พี่ฟาน ฉันขออยู่ และทำงานให้กับคุณจะได้ไหม?”
หลินฟาน ถอนหายใจออกมา และกล่าวไปว่า : “คุณไม่ได้ว่าขายบริษัทนี้แล้ว .. แล้วตอนนี้ยังอยากจะอยู่ต่ออีกงั้นเหรอ?”
“บอกตรงๆ ผมขายบริษัทนี้เพื่อไปชำระหนี้ พอจ่ายหนี้ไปแล้วก็ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ได้โปรดพี่ฟาน ให้โอกาสผมหน่อยได้ไหม?”
จาง ต้าฟู่ กล่าวออกไป เขาคิดว่า หลินฟาน ต้องเป็นทายาทรุ่นที่ 2 ของครอบครัวที่ร่ำรวยเอามากๆ ถ้าเขาไม่จับต้นขาของเขาในตอนนี้ เขาก็จะไม่มีโอกาสอีกในอนาคต