ตอนที่ 24 ผู้ช่วยของ หลินฟาน (RE)
มหาวิทยาลัยดนตรีหยุนเฉิง ถือเป็นสถาบันสอนดนตรีแห่งเดียวในเมืองหยุนเฉิงที่มีขนาดใหญ่ และได้ผลิตบุคลากรทางด้านดนตรีที่มีความสามารถโดดเด่นมาไม่น้อย
วันนี้เป็นช่วงสอบสัมภาษณ์ของนักศึกษาใหม่ ซึ่งมีผู้คนจำนวนมากได้มารวมตัวกันอยู่ที่หน้าประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยตั้งแต่เช้า
นักศึกษาที่เรียนมหาวิทยาลัยดนตรี โดยทั่วไปแล้วสภาพครอบครัวก็ถือได้ว่าดีในระดับหนึ่ง และซึ่งมีเด็กที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยไม่น้อยเลยจริงๆ
ในเวลานี้นอกประตูมหาวิทยาลัยก็มีรถหรูจํานวนมากมารวมตัวกัน
อย่างไรก็ตาม ต่อหน้า Bugatti รถหรูเหล่านี้ไม่มีค่าพอที่จะมอง พอทันทีที่ Bugatti ปรากฏตัวขึ้น ก็กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนทั้งสถานที่ในทันที
“นี่เป็นลูกหลานของตระกูลใหญ่ตระกูลไหนกัน?”
ทุกคนเริ่มอยากรู้อยากเห็น
เมื่อเห็นประตูรถของ Bugatti เปิดออก หลินฟาน และหลิน ซานซาน ก็ลงมาจากรถ
“ผู้ชายคนนี้หล่อมาก และ..เด็กผู้หญิงคนนั้นก็สวยมากด้วย”
ทุกคนประหลาดใจมาก
แม้ว่าเสื้อผ้าของ หลินฟาน และหลิน ซานซาน จะดูธรรมดามาก แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางหน้าตาของพวกเขาแม้แต่น้อย
วันนี้ หลินฟาน ไม่ได้สวมเครื่องแบบเดลิเวอรี่ เขาสวมใส่เสื้อผ้าลำลองที่ใช้ใส่เป็นประจำ ซึ่งเสื้อผ้าพวกนี้ก่อนหน้านี้เขาได้ซื้อมาจากแผงลอยริมถนนมาในราคาไม่กี่สิบหยวน
“รวยขนาดนี้ แต่กลับติดดินมาก ผู้ชายคนนี้หล่อมากจริงๆ!”
เด็กผู้หญิงจํานวนไม่น้อยเลยที่ต่างแสดงใบหน้าที่คลั่งไคล้ออกมา..
เมื่อคนจนสวมใส่เสื้อผ้าแผงลอยก็คือคนจน ส่วนคนรวยพอสวมใส่เสื้อผ้าแผงลอยก็คือ ..ติดดิน
ความยากจนเป็นบาปดั้งเดิมจริงๆ(1)
ตราบใดที่คุณมีเงิน ทุกสิ่งอย่างก็สามารถเปลี่ยนแปลง และสามารถได้รับการยกย่องไป ในทางใดทางหนึ่งได้..
ทุกคนคิดว่า หลินฟาน เป็นคนรวย ดังนั้นแม้ว่า หลินฟาน จะสวมใส่เสื้อผ้าแผงลอย แต่เขาก็ยังคงถือว่าไม่ใช่คิดธรรมดา และเพียงดูติดดินเท่านั้น
มีเพียง เฉิง เสี่ยวลู่ เท่านั้นที่มอง หลินฟาน ด้วยสายตาดูถูก
เมื่อวาน ซานซาน บอกกับเธอว่า Bugatti คันนี้เป็นของคนอื่น และหลินฟาน ที่ยืมคนอื่นมา และเวลานี้ หลินฟาน ก็แค่คนยากจนที่สวมเสื้อแผงลอยข้างถนนเท่านั้น!
แกล้งทำ แกล้งทำต่อไปเถอะ ฉันจะเปิดโปงคุณในที่สาธารณะ และทำให้คุณอับอายเอง!
เฉิง เสี่ยวลู่ ตัดสินใจแล้ว เมื่อวาน หลินฟาน ไม่ให้เธอขึ้นรถ อีกทั้งมันยังทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจอยู่มาจนถึงตอนนี้
“หลินฟาน รถซุปเปอร์คาร์คันนี้คุณยืมเขามานานแค่ไหนแล้ว ทําไมคุณถึงไม่ยอมไปคืนให้คนอื่นสักทีล่ะ?” เฉิง เสี่ยวลู่ เจตนาพูดเสียงดังขึ้นมา
ทุกคนรู้สึกประหลาดใจแล้ว อะไรนะ? รถคันนี้ไม่ใช่ของผู้ชายคนนี้ .. แต่เขาแค่ไปยืมรถคนอื่นมางั้นเหรอ?
หลิน ซานซาน รีบขยิบตาให้ เฉิง เสี่ยวลู่ พยายามจะบอกให้ เฉิง เสี่ยวลู่ เลิกพูดได้แล้ว เธอเพิ่งเห็นในใบอนุญาตขับขี่ และตอนนี้เธอก็ยังตกใจอยู่เลย
แม้ว่ามันจะไม่น่าเชื่อก็ตาม.. ที่ว่าทําไมพี่ชายของเธอถึงได้มีเงินมากมายขนาดนี้ได้ แต่อย่างไรก็ตาม.. เธอยืนยันได้แล้วว่ารถคันนี้.. เป็นของพี่ชายของเธอจริงๆ!
เฉิง เสี่ยวลู่ ไม่ได้สังเกตเลยว่า หลิน ซานซาน ได้ส่งสัญญาณโดยการขยิบตาไปให้เธอ และโดยคิดว่า หลินฟาน ที่ยังนิ่งเงียบอยู่นั้น เพราะเขารู้สึกผิด เธอก็ยิ่งรู้สึกภาคภูมิใจมากขึ้นเรื่อยๆ
“เป็นอะไรไป คุณเป็นใบ้ไปแล้วงั้นเหรอ? ถูกฉันเผยโฉมหน้าที่แท้จริงเข้าให้แบบนี้แล้ว มาดูสิว่าคุณมันยังจะแกล้งทำอย่างไรต่อไปได้อีก!” เฉิง เสี่ยวลู่ พูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ
หลิน ซานซาน รีบเดินตรงเข้าไปหา เฉิง เสี่ยวลู่ และลดเสียงลง ก่อนที่จะพูดไปว่า : “เสี่ยวลู่ พอได้แล้ว รถคันนี้เป็นของพี่ชายฉันจริงๆ และเมื่อวานนี้เป็นฉันที่เข้าใจผิดเอง”
เฉิง เสี่ยวลู่ ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และไม่เชื่อ เธอพูดว่า : “ซานซาน เธออย่ามาโกหกฉัน และที่เธอเข้ามาพูดนี้คือ ..พยายามเพื่อรักษาหน้าพี่ชายเธอเท่านั้นใช่ไหม!?”
หลิน ซานซาน รีบกล่าวว่า : “ไม่ใช่ ฉันพยายามรักษาหน้าเธอต่างหากล่ะ”
ถ้าเธอไม่หยุด เฉิง เสี่ยวลู่ อีก เฉิง เสี่ยวลู่ ก็จะกลายเป็นคนที่ต้องอับอายแล้ว
เฉิง เสี่ยวลู่ ขมวดคิ้ว : “พี่ชายของเธอเป็นแค่คนส่งอาหาร แล้ว.. รถคันนี้จะเป็นของเขาไปได้อย่างไร?”
หลิน ซานซาน กล่าวว่า : “แม้ว่าฉันเองจะไม่รู้ว่าทําไม แต่ฉันได้เห็นใบอนุญาตขับขี่ของรถคันนี้แล้ว มันเป็นของพี่ชายของฉันจริงๆ เสี่ยวลู่ เธอก็รู้ว่าฉันไม่เคยโกหกเธอ”
“อะไรนะ?” เฉิง เสี่ยวลู่ ตกใจมาก
แท้จริงแล้ว หลิน ซานซาน เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเธอ หากมีใครในโลกนี้ที่จะไม่โกหกเธอ คนนั้นจะต้องเป็น หลิน ซานซาน ..อย่างแน่นอน
ในเวลานี้ ทันใดนั้นก็เห็นรถ Bentley สีดําขับเข้ามาจอดด้านข้าง และประตูรถเปิดออกก็เห็นชายวัยกลางคนในชุดสูท และรองเท้าหนังถือกระเป๋าเอกสารเดินลงมาจากรถ
ชายคนนี้เดินตรงเข้ามาหา หลินฟาน และโค้งคํานับด้วยความเคารพอย่างสูง
“คุณหลินฟาน สวัสดีครับ ผมหลี่เหอ ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมจินตูแกรนด์ ในเครือจินตู กรุ๊ป คุณประสบความสําเร็จในการเข้าซื้อหุ้น 30% ของ จินตู กรุ๊ป ของเรา และกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสองของ จินตู ในขั้นตอนต่างๆ ผมได้ช่วยคุณจัดการให้เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ คุณเพียงแค่ต้องเซ็นชื่อลงไปในเอกสารนี้ก็พอ และนี่คือหลักฐานการถือหุ้นของคุณ..”
หลี่เหอ หยิบเอกสารฉบับหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเอกสาร และยื่นส่งด้วยมือทั้งสองข้างไปให้กับ หลินฟาน
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ทุกคนในที่เกิดเหตุก็ถึงกับอึ้ง.. ไปทันที
จินตู กรุ๊ป!
นี่คือ.. กลุ่มแสนล้าน!
ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าฉันคนนี้ ถือหุ้น 30% ของ จินตู จริงๆ!
มันหมายความว่าอะไร?
ซึ่งนั่นหมายความว่า ชายหนุ่มคนนี้เป็นมหาเศรษฐีอย่างน้อยๆ ก็ต้องหลายหมื่นล้าน!
เศรษฐีหมื่นล้าน ขับรถหรูเป็นล้านๆ มันไม่น่าแปลกใจอะไรเลย
หลินฟาน ถอนหายใจออกมา เช้านี้ระบบให้รางวัลแก่เขาเป็นหุ้น 30% ของ จินตู เขายังสงสัยเลยว่าเขาจะได้รับรางวัลนี้มาได้อย่างไร
กลายเป็นว่าระบบช่วยจัดการทุกอย่างให้กับเขาแล้ว
หลินฟาน ยิ้มแล้วพูดว่า : “คุณหลี่ ใช่ไหม ผมคงรบกวนคุณแล้ว”
ขณะที่พูด เขาก็หยิบเอกสารขึ้นมาอ่านอย่างใจเย็น เมื่อเห็นว่าไม่มีปัญหาอะไรก็เซ็นชื่อของตัวเองลงไป
และเวลานี้เขาได้กลายเป็นผู้ถือหุ้น 30% ของ จินตู กรุ๊ป อย่างเป็นทางการแล้ว!
หลี่เหอ พูดด้วยรอยยิ้มอย่างประจบประแจงว่า : “คุณหลินฟาน คุณเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสองของเรา ต่อไปคุณเรียกผมว่า เสี่ยวหลี่ ก็พอแล้วครับ ท่านประธานได้สั่งผมเป็นพิเศษว่าถ้าคุณมีความต้องการอะไรต่อไปในอนาคตก็เรียกหาผมได้ตลอด ต่อไปผมจะเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของคุณใน จินตู กรุ๊ป”
อะไรนะ?
ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมจินตูแกรนด์ เป็นผู้ช่วยของ หลินฟาน?
นี่อาจฟังดูไม่น่าเชื่อเล็กน้อย แต่ตอนนี้ หลินฟาน เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสองของ จินตู และเขามีสิทธิอย่างเต็มที่
แต่ หลินฟาน ก็ไม่ใช่คนโง่ หลี่เหอ ถูกสั่งโดย ถาง จินหง ประธานของ จินตู เอง เกรงว่าเขาอาจจะมีจุดประสงค์ หรือแรงจูงใจอื่น…
หลินฟาน พูดด้วยรอยยิ้มไปว่า : “คุณอายุมากกว่าผม ผมจะเรียกคุณว่า เสี่ยวหลี่ ไปได้อย่างไร ผมจะเรียกคุณว่า ลุงหลี่ ลุงหลี่ อย่างไรผมขอฝากคุณขอบคุณท่านประธานแทนผมด้วย ถ้ามีเวลาผมจะไปเยี่ยมเขาที่บริษัท”
หลินฟาน ไม่ทราบจุดประสงค์ของ ถาง จินหง ในเวลานี้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเก็บ หลี่เหอ เอาไว้ชั่วคราวก่อน แล้วค่อยๆ สังเกต เขาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสองของ จินตู แม้แต่ ถาง จินหง ก็คงไม่กล้าที่จะแตะต้องเขาได้ ..โดยง่ายๆ
หลี่เหอ กล่าวด้วยความเคารพว่า : “ได้ครับ ไม่ทราบว่า คุณหลิน มีคำสั่งอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ครับ?”
หลินฟาน กล่าวว่า : “ไม่มีแล้วครับ”
หลี่เหอ กล่าวว่า : “เช่นนั้น ผมคงไม่ขอรบกวนเวลาของ คุณหลิน แล้ว ขอตัวก่อนครับ”
“เดี๋ยวก่อนครับ!”
ทันใดนั้น หลินฟาน ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ เลยรีบร้องเรียก หลี่เหอ แล้วกล่าวว่า : “เมื่อกี้คุณบอกว่าคุณเป็นผู้จัดการทั่วไปของ โรงแรมจินตู?”
หลี่เหอ กล่าวว่า : “ครับ”
หลินฟาน ยิ้มแล้วพูดว่า : “คืนนี้ผมมีงานปาร์ตี้เพื่อนร่วมชั้นที่โรงแรมจินตูแกรนด์”
หลินฟาน ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากอีก หลี่เหอ ก็เข้าใจหมายความของเขาแล้ว
“ได้ครับ คุณหลิน ผมรู้ว่าต้องทำอย่างไร” หลี่เหอ กล่าวด้วยความเคารพ และโค้งคํานับให้กับ หลินฟาน อีกครั้ง ก่อนที่จะจากไป
หลินฟาน หันไปมอง หลิน ซานซาน
แต่เห็นเพียง หลิน ซานซาน และเฉิง เสี่ยวลู่ ที่ตกตะลึงไปแล้วในเวลานี้
หากก่อนหน้านี้พวกเธอยังมีข้อสงสัยอยู่ แต่หลังจากที่ได้เห็นฉากเมื่อกี้ ..ด้วยตาของพวกเธอเองก็ไม่หลงเหลืออะไรให้สงสัยอีกแล้ว
หลินฟาน มีเงินจริงๆ!
และเขาก็รวยสุดๆ!
หลินฟาน เดินเข้าไปหา หลิน ซานซาน แล้วพูดว่า : “ยังตะลึงอะไรอยู่อีก? รีบเข้าไปสัมภาษณ์ได้แล้ว”
ส่วน เฉิง เสี่ยวลู่ หลินฟาน ขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจ, ผู้หญิงเย่อหยิ่ง และหัวสูงแบบนี้ บอกตามตรง ..เขาไม่ชอบเลย
“อืมม..” หลิน ซานซาน ที่กลับมามีสติอีกครั้ง เธอตอบสนองออกไปโดยไม่รู้ตัว
เฉิง เสี่ยวลู่ ก็สติได้แล้วเช่นกัน เธอพูดอย่างอายๆ ไปว่า : “พี่ฟาน ฉัน.. ผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรเข้าใจคุณผิด คุณให้อภัยฉันได้ไหม?”
คนรอบข้างที่เห็นสิ่งนี้ ก็เริ่มพูดคุยกันทันที
“เมื่อกี้ผู้หญิงคนนี้ยังบอกอยู่เลยว่าเขายืมรถคนอื่นมา น่าอายจริงๆ”
“คนเรานั้นไม่ควรถูกตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอก แม้ว่าคนอื่นจะใส่เสื้อผ้าแผงลอย แต่คนอื่นก็เป็นมหาเศรษฐีหลายหมื่นล้านจริงๆ เป็นไง ..พอคราวนี้ ถูกตบหน้าแล้วมั้งนะ”
“ฉันกลับคิดว่าเธอต่างหากที่ยากจน ดูสิเธอใส่ชุดแบบธรรมดาๆ บอกตามตรงฉันไม่รู้เลยจริงๆ ว่าเธอมีหน้าไปดูถูกคนอื่นได้อย่างไร?”
เมื่อได้ยินความคิดเห็นเหล่านี้ เฉิง เสี่ยวลู่ ก็หน้าแดงหูแดง อยากพยายามหาที่ซ่อนตัวจริงๆ
หลินฟาน ก็เพิกเฉยต่อ เฉิง เสี่ยวลู่ เขาดึง หลิน ซานซาน แล้วเดินตรงเข้าไปในมหาวิทยาลัย
เฉิง เสี่ยวลู่ รีบตามไป และตอนนี้เธอรู้แล้วว่า หลินฟาน เป็นมหาเศรษฐีหมื่นล้าน เธอจึงอยากขอให้ หลินฟาน ให้อภัย และถึงแม้ว่าเธอจะถูกหาว่าไร้ยางอายก็ตาม
หลินฟาน เป็นพี่ชายแท้ๆ ของเพื่อนสนิทของเธอ เก๋งที่ใกล้น้ำย่อมได้เห็นจันทร์ก่อน(2) ถ้าแม้แต่ต้นไม้ใหญ่ต้นนี้เธอก็ไม่สามารถกอดได้ เธอ เฉิง เสี่ยวลู่ คงกลายเป็นคนที่โง่เขลาแล้ว
“พี่ฟาน ฉันรู้ว่าฉันผิดไปจริงๆ พี่ช่วยยกโทษให้ฉันได้ไหม?” เฉิง เสี่ยวลู่ รีบหันไปพยายามพูดขอร้องว่า : “ซานซาน เธอช่วยฉันขอร้องหน่อยได้ไหม?”
หลิน ซานซาน พูดว่า : “พี่คะ.. คือเมื่อคืนนี้ฉันบอกกับ เสี่ยวลู่ ว่าพี่ไปยืมรถคนอื่นมา เสี่ยวลู่ ถึงได้เข้าใจผิด.. พี่เห็นแก่ฉันเถอะ ช่วยอภัยให้เธอเถอะนะ”
หลินฟาน พยักหน้า : “ได้”
เขาไม่พูดอะไรอีก จริงๆ แล้ว เขาไม่ได้โทษ เฉิง เสี่ยวลู่ เพราะเขารู้ดีแล้วว่า เฉิง เสี่ยวลู่ คนนี้มีนิสัยอย่างไร และเขาก็ไม่แปลกใจเลยที่เธอจะทําเรื่องแบบนั้น ดังนั้นจึงไม่มีการให้อภัย เขาเพียงแค่เพิกเฉยโดยทำเป็นไม่สนใจเธอเท่านั้น และต่อไปเธอก็ไม่ต้องคิดเลยว่าจะได้รับผลประโยชน์ใดๆ จากเขา
เฉิง เสี่ยวลู่ กลับคิดว่า หลินฟาน ได้ให้อภัยเธอแล้ว ราวกับว่าเธอกอดต้นไม้ใหญ่ได้สำเร็จแล้ว และหัวใจของเธอก็เต็มไปด้วยความหวัง และยิ้มออกมาอย่างมีความสุขทันที
หลิน ซานซาน กลับยังคงจมอยู่ในความคิด และอดไม่ได้ที่จะถามไปว่า : “พี่คะ ทําไมจู่ๆ พี่ถึงกลายเป็นคนรวยขนาดนี้ขึ้นมาได้?”
“หรือว่า.. คุณไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ ของฉัน? และคุณถูกพ่อแม่ของฉันเก็บมาเลี้ยง และต่อมาคุณก็ได้พบกับพ่อแม่ผู้ให้กําเนิดแล้ว.. พ่อแม่ผู้ให้กําเนิดของคุณก็เป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมาก?”
เมื่อ หลินฟาน ที่ได้ยินเขาเหงื่อตกทันที จินตนาการของหญิงคนนี้ก็ไม่เลวจริงๆ : “ตื่นได้แล้ว อย่าโง่น่า ฉันนี่พี่ชายแท้ๆ ของเธอ และอย่าได้แม้แต่จะคิดที่มาแต่งงานกับฉัน ยัยเด็กโง่”
(1)[บาปกำเนิด / บาปดั้งเดิม (原罪)] - บาปกำเนิดคือบาปที่มนุษย์ทุกคนได้รับเมื่อเกิดมา เป็นสถานภาพของการขาดความศักดิ์สิทธิ์และความยุติธรรมดั้งเดิม เป็นบาปที่ “ตกทอด” มาถึงเรา ไม่ใช่ “กระทำด้วยตนเอง” เป็นภาวะของการเกิดมาเป็นมนุษย์ ที่ไม่ได้เป็นการกระทำส่วนตัว เนื่องจากความเป็นหนึ่งเดียวกันของต้นกำเนิดของมนุษย์ทั้งปวง ขออ้างอิงจาก คำสอนคาทอลิก
มันเลยเกิดคำถามที่ว่า ความยากจนเป็นบาปดั้งเดิมหรือไม่? เอาจริงๆ มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น แต่ผลของความยากจนนั้น …กลับเป็นเช่นนั้น ความยากจน ความเฉยเมย ความใจแคบ ความอิจฉาริษยา ความเกลียดชัง ความต่ำต้อย และความภาคภูมิใจในตนเองที่เกิดจากความยากจน ล้วนเป็นบาปทั้งสิ้น สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงเกิดจากความยากจนเท่านั้น แต่ที่ซึ่งความยากจนได้มารวมตัวกัน จนก่อให้เกิดอัตราอาชญากรรมสูง ความไร้เสถียรภาพทางสังคม การใช้ยาเสพติด การค้าประเวณี อัตราการศึกษาต่ำ และวงจรอุบาทว์ทั้งหมด
(2)[เก๋งที่ใกล้น้ำย่อมได้เห็นจันทร์ก่อน (近水楼台先得月)] - ผู้ที่ได้เปรียบย่อมได้ประโยชน์ภูมิใจ เนื่องจากอยู่ในหน้าที่ตำแหน่งที่สูงกว่า หรืออยู่ในสถานที่ดีกว่า