ตอนที่ 175 อาจารย์ช่างโลหะอาร์เดล(อ่านฟรี)
ตอนที่ 175 อาจารย์ช่างโลหะอาร์เดล
“นี่นะเหรอโรงหลอมอาวุธของป้อมปราการตะวันออก” ลิลี่มองไปรอบ ๆ ด้วยความสนใจ ก่อนจะวิ่งไปมาราวกับเด็กที่เจอของเล่นใหม่ด้วยความตื่นเต้น โชคยังดีที่มีอาคอยจับเธอไว้ไม่ให้ไปวุ่นวายกับคนอื่น ๆ
ตอนนี้พวกเขาทั้งสามมาอยู่ที่โรงหลอมอาวุธของป้อมปราการตะวันออก ต้องบอกว่าโรงหลอมของป้อมปราการตะวันออกนั้นไม่ทำให้กายผิดหวังจริง ๆ มันมีของและอุปกรณ์ครบครัน แถมในทุก ๆ ที่ยังมีคนทำงานอย่างขยันขันแข็ง ซึ่งสร้างบรรยากาศที่ดีเหมือนกับโรงตีเหล็กไร้กาลเวลาที่สถาบันศาสตร์นักรบ
กายสูดเอาอากาศที่เต็มไปด้วยกลิ่นของเหล็กและความร้อนเข้าไปจนเต็มอย่างคิดถึง
เฮ้อ...กลิ่นที่คุ้นเคย ไม่สิเราจะมาทำท่าคิดถึงทำไม
กายส่ายหัวทิ้งเรื่องไร้สาระนี้ไป ก่อนจะหันมาสนใจผู้คนในโรงหลอมเหล็ก ระดับฝีมือที่ต่ำสุดของที่นี่คือ ช่างโลหะฝึกหัด ซึ่งมีมากสุด ต่อมาคือช่างโลหะทั่วไปที่มีจำนวนน้อยลงมาถึงสิบเท่าของช่างโลหะฝึกหัด แต่ก็ไม่แปลกยิ่งระดับสูงก็ยิ่งมีจำนวนน้อยลง
ในโรงหลอมแห่งนี้มีอาจารย์ช่างโลหะประจำการอยู่หลายคน แต่ก็นับได้ด้วยนิ้วมือข้างเดียว และอาจารย์ช่างโลหะเหล่านั้นกำลังควบคุมคนงานสร้างอาวุธอย่างศรเพลิงที่ใช้กับหน้าไม้ยักษ์ดับตะวันอยู่ ไม่ก็สร้างอาวุธระดับ 4-5 ขึ้นไป เพื่อทดแทนอาวุธที่เสียหายให้กับทหาร
ในการทำงานของพวกเขานั้นช่วยให้กายได้เปิดหูเปิดตามากเนื่องจากการหลอมในกองทัพนั้นทำในแบบอุตสาหกรรม โดยอาจารย์ช่างโลหะไม่จะเป็นต้องทำทุกขั้นตอน เพียงทำในขั้นตอนสำคัญบางอย่างเท่านั้น
ซึ่งในเรื่องการหลอมด้วยระบบอุตสาหกรรมนั้น กายไม่มีประสบการณ์ด้านนี้เลยแม้แต่น้อย เพราะเขามักจะทำทุกขั้นตอนด้วยตนเอง กายจึงอยากจะเรียนรู้ให้มากและไปปรับให้กับร้านไร้สิ้นสุดของตนเองหลังจากกลับไป
แต่ก่อนที่เขาจะได้มองไปมากกว่านี้ก็มีคนเดินเข้ามาหาพวกเขา
“พวกอยู่หน่วยไหนกัน เข้ามาที่โรงหลอมทำไม?” ทหารยามสองนายเดินเข้ามาสอบถามพวกเขา
“พวกเราคือนักเรียนจากสถาบันศาสตร์นักรบ ข้าเข้ามาที่นี่เพราะต้องการยืมเตาหลอมกับเครื่องมือของโรงหลอม” กายกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
“เจ้าต้องการยืมเตาหลอมและอุปกรณ์ เจ้าเป็นช่างโลหะอย่างนั้นเหรอ” ทหารยามถามด้วยความสงสัย
กายยิ้มไม่กล่าวอะไร เพียงหยิบสมุดยืนยันตัวตนออกมา ก่อนจะเปิดไปหน้าหนึ่ง ซึ่งมีบันทึกถึงตัวตนของเขาในฐานะนักเรียนของสถาบันศาสตร์นักรบและเด็กฝึกงานช่างโลหะ
เมื่อทหารยามเห็นดังนั้นก็พยักหน้าเข้าใจ แต่ก็ยังกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ถ้าเรื่องนี้คงต้องไปถามท่านอาจารย์ช่างโลหะอาร์เดลก่อน ให้นางอนุญาตก่อน”
หลังจากนั้นทหารยามทั้งสองก็ชี้ไปยังทางหนึ่ง กายพยักหน้าขอบคุณก่อนจะเดินไปทางที่ทหารยามบอก ขณะที่พวกเขาเดินไปนั้น ลิลี่ก็ถามขั้นมา
“ทำไมเขาถึงเรียก อาจารย์ช่างโลหะอาร์เดลว่านางกัน อาร์เดลไม่ใช่ชื่อของผู้ชายอย่างนั้นเหรอ”
“ไม่ อาจารย์ช่างโลหะอาร์เดลเป็นผู้หญิง เป็นผู้หญิงที่งดงามและแข็งแกร่งมาก ข้าเคยได้ยินท่านปู่เล่าว่า นางคือคนที่มีโอกาสกลายเป็นปรมาจารย์ช่างโลหะอีกคนหนึ่ง ซึ่งมีความสามารถมากในงานช่างโลหะ” มีอาอธิบายให้ลิลี่ฟัง
ซึ่งกายนั้นก็ไม่พูดอะไร เพียงฟังเงียบ ๆ เท่านั้น แต่ในใจก็จำคำที่มีอากล่าว และคิดว่ามีอานั้นดูจะชื่นชมอาร์เดลมากและมีข้อมูลของเธอพอสมควร
นี่สินะที่เขาว่าหญิงสาวมักมีไอดอลในหัวใจ
กายและสองสาวมาพบกับอาจารย์ช่างโลหะอาร์เดล แต่หลังจากเห็นอาร์เดล สิ่งแรกที่กายคิดในหัวนั้นคือ อยากจะวิ่งกลับไปหาทหารนามสองคนนั้นว่าบอกทางเขาผิดหรือไม่ เพราะหญิงสาวตรงหน้านั้นไม่เหมือนกับช่างโลหะแม้แต่น้อย เธอเหมือนนางแบบชัด ๆ อาจารย์ช่างโลหะอาร์เดลนั้นมีหน้าตาและหุ่นที่เหมือนกับพวกนางแบบที่กายเคยเห็นในอินเทอร์เน็ตไม่มีผิด ถ้าผู้เล่าคนอื่น ๆ มาเห็นคงจะคลั่งไคล้เธออย่างแน่นอน
“ท่านคืออาจารย์ช่างโลหะอาร์เดลหรือใช่ไหม” กายตั้งสติก่อนจะถามตามมารยาท
“ใช่ ข้าเอง แล้วพวกเจ้าต้องการอะไร” อาจารย์ช่างโลหะอาร์เดลเงยหน้าขึ้น ก่อนจะใช้นิ้วสวย ๆ ของนางทัดผมที่ใบหู เหงื่อที่หน้าและลำคอไหลลงไปที่หน้าอกที่ซึ่งมีเสื้อผ้าน้อยชิ้นปกปิดอยู่
กายมองดูฉากตรงหน้าก็ถึงกับกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว แต่ตอนนั้นศอกของมีอาก็กระทุ้งเข้าที่สีข้างอย่างแรง ทำเอากายสะดุ้ง จึงแก้เขินด้วยการกระแอมออกมาและกล่าวเข้าเรื่อง
“เออ ข้าเป็นช่างโลหะเช่นกัน และจะมาขอยืมเตาหลอมสักหน่อยเพื่อซ่อมแซมดาบที่เสียหาย”
“เจ้าเป็นช่างโลหะด้วยอย่างนั้นเหรอ” กายพยักหน้าก่อนจะหยิบสมุดยืนยันตัวตนออกมาให้กับอาร์เดลดู
อาร์เดลอ่านผ่าน ๆ แต่เธอก็เข้าใจได้ทันทีว่าเด็กพวกนี้คือคนจากสถาบันศาสตร์นักรบ อาร์เดลไม่ได้ถามอะไรอีก เพียงแต่พยักหน้าตกลง และก็บอกให้กายไปใช้เตาหลอมทางด้านนู้น
“เจ้าไปใช้เตาหลอมทางด้านนั้นได้ เตาหลอมที่นี่นอกจากใช้ถ่านหินแล้ว มันยังมีท่อเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณอัคคีด้วย ถ้าเจ้าต้องการใช้ความร้อนที่สูงขึ้นก็เปิดใช้งานมันได้”
“ขอบคุณท่านมาก” กายยิ้มอย่างขอบคุณ
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ไปได้แล้ว ข้าจะได้เริ่มทำงานของข้าต่อ” อาร์เดลไล่กายออกไปอย่างไม่ไยดี ดูเหมือนเธอจะสนใจในเรื่องงานเพียงอย่างเดียว
กายถอยออกมาก่อนจะเดินไปยังทางเตาหลอมที่ได้มา
ขณะนั้นเองมีอาที่เงียบไปก็กล่าวขึ้นมา “นางแต่งตัวดูดีหรือไม่”
“ดี เพราะปกติตอนข้าทำงานก็ใส่ให้น้อยชิ้นหรือไม่ก็ถอดเสื้อเหมือนกัน” กายตอบกลับ แต่ก็พึ่งคิดได้ว่าตนไม่ควรจอบแบบนั้นจึงรีบพูดขัดก่อนมีอาจจะได้กล่าวอะไร “เดี๋ยวข้าจะเอาดาบเดซี่ไปซ่อมน่าจะใช้เวลาสักพัก เจ้ากับลิลี่ไปรอข้างนอกก่อนก็ได้”
กายรีบเดินหลบออกจากตรงนี้ไปยังเตาหลอมที่ว่างในทันที
มีอามองตามหลังเขาไป ตอนนั้นเองลิลี่ที่ยืนข้าง ๆ ก็กล่าวขึ้นมา “ท่านแม่บอกข้าว่าถ้าเจอคนที่ใช่ แล้วเจ้าคิดว่าเขาชอบเจ้าเหมือนกันก็ให้ฉุดได้เลย ไม่จำเป็นต้องรอให้ฝ่ายชายมาสารภาพรักก็ได้”
“ใครอยากให้คำสอนของแม่เจ้ากัน” มีอากล่าวเสียงแข็ง
ลิลี่ไม่สนใจ เธอยิ้มอย่างมีเลศนัยและถามกลับ “เจ้าคิดว่าเดวินชอบเจ้าไหม”
“ข้าไม่แน่ใจ” มีอาพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้
“แต่เจ้าชอบเขาใช่ไหม เฮ้...เจ้าอย่าได้ปฏิเสธ หน้าเจ้าแดงมากมันบอกชัดเจนว่า...อ้าว! เจ้าจะไปไหน” ลิลี่พูดยังไม่ทันจบ มีอาก็พูดขัด “ในนี้มันอากาศมันร้อนจนหน้าขาแดงไปหมดแล้ว ข้าจะออกไปรอข้างนอก”
มีอาเดินออกไปด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่ลิลี่จะถอนหายใจและคิดว่า “เมื่อไหร่ข้าจะเจอคนที่ใช่บ้างนะ แต่คนที่ใช่ต้องสูง ๆ เข้าไว้ เพราะลูกจะได้ไม่เตี้ย” ลิลี่ยิ้มจนน้ำลายแทบหกเมื่อจินตนาการถึงเรื่องนั้น ก่อนจะรีบตามมีอาออกไป
...
กายเริ่มจากซ่อมแซมดาบเดซี่ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งการซ่อมนั้นถือเป็นงานยากพอควร แต่เพราะกายเป็นผู้สร้างดาบเดซี่เองกับมือ การซ่อมจึงเป็นไปด้วยความเร็ว หลังจากเชื่อมต่อรอยร้าวเข้าหากันก็ลับคมลบรอยแผลและจากนั้นก็ทดสอบดาบ
นานพอควรที่กายให้ดาบเดซี่ไปและเขาก็ไม่ได้สัมผัสดาบเดซีอีกแล้ว
“มันไม่เหมาะกับข้าจริง ๆ” กายลองตวัดดาบฟันดู ซึ่งเขารู้สึกว่าตนเองไม่เหมาะกับดาบแบบนี้ กายเก็บดาบเข้าฝักซึ่งตัวฝักดาบนั้นก็ยังเป็นแค่ปลอกดาบไม้เก่า ๆ ที่กายหามาจากกองขยะในโรงตีเหล็กไร้เวลา
“เธอก็ยังไม่คิดจะเปลี่ยนมันอีก” กายยิ้มออกมา ก่อนจะเอาดาบเดซี่ออกมาให้มีอาและก็กลับเข้าไปในโรงหลอมเหล็กต่อ
เนื่องจากยังมีการโจมตีระลอกสอง กายจึงคิดว่าเขาควรเริ่มลงมือสร้างหนึ่งในอาวุธที่คิดว่าจะสร้างมาสักพักแล้ว นั้นก็คือ ค้อนหลอมอัคคี
ค้อนหลอมอัคคีที่สามารถบรรจุจิตวิญญาณลงไปได้ ซึ่งถือว่าเป็นอาวุธที่มีระดับสูงพอสมควร แต่ที่มากไปกว่านั้นคือ นอกจากต้องใช้พละกำลังที่มากแล้ว ยังต้องใช้พลังจิตในการควบคุมมากกว่าปกติ ไม่อย่างนั้นผู้ใช้อาจจะถูกเผาซะเองจากความร้อนของตัวค้อน
กายคิดจะใช้ค้อนหลอมอัคคีเป็นอาวุธต้นแบบในการพาเขาขึ้นไปยังนักรบแท้จริง ซึ่งในตอนนี้เขาอยู่ในโรงหลอมอาวุธของป้อมปราการตะวันออก ที่นี่มีวัตถุดิบที่เขาต้องการในการหลอมค้อนหลอมอัคคีมากเกินพอ เพียงแค่เขาต้องใช้ผลงานในการแลกเปลี่ยนพวกมันมาเท่านั้น
และจากการที่กายต่อสู้มาตั้งแต่ออกไปจัดการที่หน้าด่าน 57 การเผาศัตรู การลอบโจมตีและผลงานอื่น ๆ นั้นพอจะให้เขาแลกเอาวัตถุดิบเหล่านั้นมาและแม้จะขาดไปบ้าง แต่กายยังมีเหรียญทองที่เอาติดตัวมาด้วยจำนวนหนึ่ง
กายใช้เหรียญทองไปมากกว่า 10,000 เหรียญแลกเอาวัตถุดิบที่ผลงานไม่พอแลกมาจากทางโรงหลอมก่อนจะลงมือทำการหลอมในทันที เนื่องจากเวลาของกายนั้นกระชั้นชิดมาก
การหลอมค้อนหลอมอัคคีนั้นอยากกว่าการตีดาบเดซี่มาก แต่ฝีมือในฐานะอาจารย์ช่างโลหะของกายก็พัฒนาขึ้นมาก แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยได้เข้าโรงหลอมอาวุธเลยหลังจากออกเดินทางมา แต่กายก็เอาหนังสือบันทึกช่างโลหะออกมาอ่านอยู่ตลอด ซึ่งช่วยในการตกผลึกความคิดของเขาและทบทวนความรู้ในเรื่องช่างโลหะอยู่ตลอดทำให้กายพัฒนาขึ้นมาก
ขณะที่กายจมลงอยู่ในความคิดการหลอมค้อนหลอมอัคคีนั้น อาจารย์ช่างโลหะอาร์เดลก็เดินผ่านมาทางเขาพอดี
“หืม...เด็กหนุ่มจากสถาบันศาสตร์นักรบที่มาขอยืมเตาหลอมไม่ใช่หรือไง เขามาทำอะไรที่นี่ ไม่ใช่ว่าเขาจะซ่อมดาบที่เสียหายอย่างนั้นเหรอ หรือว่าซ่อมเสร็จแล้ว เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนเขากำลังทำอะไร นี่มัน!!!”
อาจารย์ช่างโลหะอาร์เดลมองไปที่การกระทำของกายด้วยดวงตาที่เบิกกว้างปากอ้าค้างมือทั้งสองสั่นเทาด้วยความตื่นตระหนก
“เขากำลังดึงเอาเพลิงทั้งเตาหลอมมาใส่ให้กับอาวุธ แบบนี้มันเท่ากับการทำลายจิตวิญญาณอัคคีหลักที่เชื่อมกับท่อของเตาหลอมใบนี้โดยตรง บ้าไปแล้ว ข้าต้องไปหยุดเขา” อาร์เดลคิดจะเดินเข้าไปหยุดกาย แต่ก็ต้องชะงักฝีเท้า เมื่อเธอมองดูการกระทำของกายอีกครั้ง
“เทคนิคนี่มัน!!!” อาร์เดลยืนนิ่งอยู่ด้านหลังกายและอุทานออกมา