ตอนที่ 17 นั่งได้คนเดียว (RE)
เฉียนเฟิง รีบจากไป เดินพลางรับโทรศัพท์ไปพลาง และพูดยิ้มแย้มอย่างประจบว่า : “บอส ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ครับ มีกระเป๋าเดินทางเยอะมากใช่ไหมครับ ไม่เป็นไรครับ…”
ท่าทางพยักหน้า และก้มหัวโค้งคำนับตลอดทางนั้น แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากภาพลักษณ์ของเจ้านายที่เขาเพิ่งจะบ่นออกมาเมื่อกี้
หลังจาก เฉียนเฟิง จากไปแล้ว หลินฟาน ก็ได้รับสาย เป็นเบอร์ที่เขาไม่คุ้นเคย
“หลินฟาน ฉันหัวหน้าห้องนะจำกันได้ไหม?” ปลายสายมีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น
หัวหน้าห้อง หลัว เทียนหมิง!
หลินฟาน ยิ้มหัวเราะ แล้วพูดว่า : “ฮ่าฮ่าๆ เป็นหัวหน้าห้องนั่นเอง”
หลัว เทียนหมิง กล่าวว่า : “ฉันโทรมาแจ้งให้นายทราบก่อนว่า พรุ่งนี้หนึ่งทุ่มที่ โรงแรมจินตูแกรนด์ เพื่อนร่วมชั้นของเราจะไปรวมตัวกันที่นั้น นายเองก็อย่าลืมไปร่วมด้วย”
หลินฟาน กล่าวว่า : “อืม.. ได้ ฉันจะไป”
หลัว เทียนหมิง ยิ้ม แล้วพูดว่า : “โอเค เพื่อนร่วมชั้นเก่าอย่างเราไม่ได้เจอกันนานแล้ว นายเองเป็นถึงต้นหญ้างามของเรา เพื่อนร่วมชั้นหญิงของเราต่างก็บอกว่าอยากจะเจอนายมาก และนี่นายสบายดี ส่วนเรื่องการงานของนายเองก็คงทำได้ดีมากใช่ไหมล่ะ?”
หลินฟาน กล่าวว่า : “ก็ไม่เลว.. ตอนนี้ฉันกําลังส่งอาหารเดลิเวอรี่อยู่ นะ ก็สุขสบายดีนอนหลับเต็มอิ่มในทุกวัน..”
หลัว เทียนหมิง กลับไม่เชื่อ หลินฟาน และเขาหัวเราะเสียงดังออกมา : “ฮ่าฮ่าๆ... ฉันเชื่อนายแล้ว นายนี้มีอารมณ์ขันมากจริงๆ แม้ว่าฉันจะได้เป็นรองประธานบริษัทแล้วก็ตาม แต่นายที่หล่อขนาดนี้ คงไม่แย่ไปกว่าฉันแน่นอน ฉันต้องโทรไปบอกเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ อีก งั้นเราค่อยพูดคุยกันพรุ่งนี้ โอเค แล้วเจอกัน!”
และสายก็ถูกวางไปทันที
หลินฟาน รู้สึกพูดไม่ออกเล็กน้อย เฉียนเฟิง ซึ่งทํางานในบริษัทที่ติด 500 อันดับในประเทศ ส่วนหัวหน้าห้องได้เป็นรองประธานบริษัท เพื่อนร่วมชั้นเก่าๆ เหล่านี้ทำไมถึงชอบแสร้งบังคับกันจังนะ
เมื่อพูดถึงการเสแสร้งโอ้อวดแล้ว พวกเขาทั้งไม่มีอะไรมากไปกว่า ‘พ่อมดเล็กเจอพ่อมดใหญ่’ (小巫见大巫, แตกต่างกันอย่าง ..เห็นได้ชัด)
เมื่อมาถึงหน้าประตูทางเข้าสนามบิน หลินฟาน ยืนรออยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็เห็นหญิงสาววัยรุ่นหน้าตาดีสองคนเดินออกมา
หนึ่งในนั้นคือน้องสาวของเขา หลิน ซานซาน อีกคนคือ เฉิง เสี่ยวลู่ เพื่อนสนิท และเพื่อนร่วมชั้นของ หลิน ซานซาน เฉิง เสี่ยวลู่ ก็เช่นเดียวกันกับ หลิน ซานซาน พวกเธอทั้งคู่มาเพื่อสอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยดนตรีหยุนเฉิง
เด็กสาวสองคนได้เดิน และพูดคุยกันไปพลาง
เฉิง เสี่ยวลู่ ถามว่า : “ซานซาน สักพักลูกพี่ลูกน้องของฉันจะมารับฉัน แล้วเธอมีคนจะมารับไหม?”
หลิน ซานซาน กล่าวว่า : “พี่ชายฉันบอกว่าเขาจะขับรถมารับฉัน”
เฉิง เสี่ยวลู่ ถามอย่างสงสัยว่า : “ซานซาน เธอยังไม่ได้บอกฉันเลยนะว่า พี่ชายของเธอทํางานอะไร?”
“เขา…”
หลิน ซานซาน กัดริมฝีปาก เธอรู้สึกอายเล็กน้อย เธอรู้ดีว่า พี่ชาย หลินฟาน ของเธอทํางานอะไร แต่จะให้พูดมันออกมาก็รู้สึกว่า มัน.. น่าอายเล็กน้อย
“ซานซาน!”
เวลานี้ หลินฟาน ที่เห็น หลิน ซานซาน จึงตะโกนเรียก และกวักมือให้ หลิน ซานซาน
เฉิง เสี่ยวลู่ ตามสายตาจ้องมองของ หลิน ซานซาน ไป และก็ได้เห็น หลินฟาน ในเครื่องแบบส่งอาหารเดลิเวอรี่
“ซานซาน พี่ชายเธอเป็นคนส่งอาหารเดลิเวอรี่งั้นเหรอ?” เฉิง เสี่ยวลู่ กล่าว พร้อมกับแสดงท่าทางรังเกียจออกมาทันที
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ ซานซาน ดูอ้ำๆ อึ้งๆ ถ้าเธอเองมีพี่ชายที่เป็นคนส่งอาหาร เธอคงจะไม่มีหน้าไปเจอใครอย่างแน่นอน
ใบหน้าของ หลิน ซานซาน แดงก่ำ : “ก็ อืม…”
เธอตําหนิ หลินฟาน อยู่ในใจเล็กน้อย ทําไมเขาไม่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และกลับมาอีกครั้งนะ อย่างน้อยมันก็ยังดูดีกว่านี้อีกหน่อย ทั้งตอนนี้มันก็น่าอายเกินไปที่จะให้ เสี่ยวลู่ รู้ว่าเขาเป็นคนส่งอาหาร แต่มันสายไปแล้ว ..น่าอายจริงๆ
หลินฟาน ก็เดินเข้าไปหาเด็กสาวทั้งสองคน และตอบรับคำทักทายของ หลิน ซานซาน
“พี่ชาย นี่เพื่อนสนิทของฉัน เฉิง เสี่ยวลู่ เสี่ยวลู่ คนนี้คือพี่ชายของฉันเอง หลินฟาน” หลิน ซานซาน กล่าวแนะนํา
หลินฟาน มองไปที่ เฉิง เสี่ยวลู่ ยิ้ม แล้วพูดว่า : “รถของพี่จอดอยู่ข้างนอก แต่นั่งได้แค่คนเดียวเท่านั้น”
เฉิง เสี่ยวลู่ พูดขึ้นอย่างไม่แยแสว่า : “ไม่เป็นไรคะ ลูกพี่ลูกน้องของหนูจะมารับหนูทีหลัง”
เมื่อเห็นว่า หลินฟาน เป็นคนส่งอาหาร เธอก็ไม่อยากจะสนใจที่จะพูดคุยอะไรกับ หลินฟาน เลยแม้แต่น้อย ถ้าไม่ใช่เพราะ ซานซาน เป็นเพื่อนสนิทของเธอ เธอก็ไม่คิดแม้แต่จะสนใจ หลินฟาน ด้วยซ้ำ
ทั้งสามคนเดินออกจากประตูทางเข้าสนามบิน
และก็ได้เห็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าส่งอาหารเดลิเวอรี่จอดอยู่ข้างทาง
ทันใดนั้น หลิน ซานซาน ก็รู้สึกอับอายขึ้นมาเล็กน้อย พี่ชาย.. ของเธอ เขาขับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ใช้ส่งอาหารเดลิเวอรี่คันนี้มารับเธอเหรอ คือ.. ในที่สาธารณะเช่นนี้ ทั้งยังต่อหน้า เสี่ยวลู่ ช่างน่าอายจริงๆ
เธอหน้าบางมากจนไม่อาจทนที่จะขึ้นนั่งบนรถคันนี้ได้จริงๆ
เฉิง เสี่ยวลู่ มองไปที่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และยิ้มเยาะเล็กน้อย รถไฟฟ้าพังๆ คันนี้สามารถนั่งได้เพียงคนเดียวเท่านั้นไม่ใช่เหรอ!
โชคดีที่สามารถนั่งได้เพียงคนเดียว ไม่งั้นหากบอกให้เธอนั่งไปด้วยกัน เธอก็คงไม่สามารถปฏิเสธได้แน่ๆ มันน่าขายหน้าจริงๆ
“พี่คะ กระเป๋าหนูใบใหญ่ขนาดนี้ รถไฟฟ้าคันนี้จะให้นั่งไปด้วยได้ยังไง? ให้หนูนั่งแท็กซี่ไปเองดีกว่าไหม?”
หลิน ซานซาน เสนอ ในใจแทบทนไม่ไหวที่จะรีบกดไลค์ให้กับไหวพริบของตัวเอง แต่เอาจริงๆ สุดท้ายเธอก็แค่หาข้ออ้างที่จะได้ไม่ต้องไปนั่งรถไฟฟ้า ..คันนี้
เฉิง เสี่ยวลู่ กล่าวว่า : “ซานซาน เดี๋ยวอีกสักพักลูกพี่ลูกน้องของฉันก็จะมารับฉันแล้ว เขาขับรถ Audi บอกให้พี่ชายของเธอขับรถไฟฟ้ากลับไปก่อนเถอะ ส่วนเธอกับฉันเราจะนั่งรถของลูกพี่ลูกน้องของฉันไป”
ขณะพูด เฉิง เสี่ยวลู่ ก็จ้องมอง หลินฟาน อย่างดูถูก พอเปรียบเทียบลูกพี่ลูกน้องของเธอ กับหลินฟาน เธอก็รู้สึกถึงความเหนือกว่าขึ้นมาทันที
หลินฟาน เหงื่อตก ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเข้าใจผิดแล้ว เขาพูดว่า : “รถไฟฟ้าคันนี้ไม่ใช่ของพี่ อีกอย่างพี่เองกลัวเสียเวลา จึงได้ไปเปลี่ยนรถมาแล้ว”
เด็กสาวทั้งสองพากันสงสัย ..แล้วนี่ ไม่ใช่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเหรอ?
เฉิง เสี่ยวลู่ พูดว่า : “ไม่มีทาง เมื่อกี้คุณบอกว่ารถของคุณนั่งได้เพียงคนเดียว ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันนี้ ..คืออะไร?”
เธอยิ่งดูถูก หลินฟาน มากขึ้น ขับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าพังๆ แต่นี่อะไรกลับยังต้องการรักษาหน้า แถมยังไม่กล้ายอมรับมันอีก
หลิน ซานซาน หน้าแดงมาก เธอเองก็รู้สึกว่า หลินฟาน ปฏิเสธที่จะยอมรับว่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันนี้ ..เป็นของเขา นี่ไม่ใช่ว่ายิ่งน่าอับอายมากขึ้นไปอีกเหรอ
“พี่คะ หยุดพูดเถอะ พี่ช่วยเอากระเป๋ามาให้หนูเถอะ หนูจะไปนั่งรถลูกพี่ลูกน้องของ เสี่ยวลู่” หลิน ซานซาน กล่าว เธอเวลานี้ต้องการที่จะรีบส่ง หลินฟาน ออกไปโดยเร็ว
หลินฟาน เหงื่อตก เขากล่าวว่า : “มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันนี้ไม่ใช่ของพี่จริงๆ”
ในจังหวะนั้นเห็นเพียงคนส่งอาหารเดลิเวอรี่คนหนึ่งถือกระเป๋าเดลิเวอรี่เดินมาจากด้านข้าง และควบขึ้นนั่ง แล้วขับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันดังกล่าว ..ออกไป
เด็กสาวทั้งสองตกตะลึง มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันนี้ ..ไม่ใช่ของ หลินฟาน จริงๆ นะเหรอ?
หลิน ซานซาน ถามขึ้นทันทีว่า : “พี่คะ แล้วรถพี่จอดอยู่ที่ไหน?”
เฉิง เสี่ยวลู่ กลับยิ้มเย็นชาขึ้นในใจ แล้วพูดว่า : “ซานซาน แม้ว่าเมื่อกี้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันเมื่อกี้จะไม่ใช่ของพี่เธอ แต่รถของเขาก็ต้องเป็นรถไฟฟ้าอีกคันหนึ่งแน่ๆ ดังนั้นเธอมานั่ง Audi ของลูกพี่ลูกน้องของฉันไปดีกว่า”
หลิน ซานซาน กําลังจะตอบ..
แต่ก็ได้ยิน หลินฟาน พูดขึ้นว่า : “รถของพี่อยู่ทางนี่”
ขณะพูดไป หลินฟาน ได้หยิบกุญแจรถออกมา และกดปุ่มสตาร์ท
ฟวู้ม!
Bugatti ที่จอดอยู่ข้างๆ ไฟหน้ารถได้ติดขึ้น เต็มไปด้วยความรู้สึกของนิยายวิทยาศาสตร์ ประตูทั้งสองถูกกางเปิดออกเหมือนกับปีกที่กำลังเตรียมบิน
ผู้คนที่เดินผ่านไปมาหยุดดู และพากันชื่นชม พวกเขาทั้งหมดต่างตกตะลึงกับการได้เห็นรถซุปเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดในโลกคันนี้
มีหลายคนรีบควักมือถือออกมาถ่ายรูป และโพสต์โมเมนต์ตัวเองอวดลงไปใน WeChat อย่างรวดเร็ว
รถหรูคันนี้มีเพียงแค่สามคันทั่วโลก คนส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสได้เจอ และแค่ได้เจอครั้งเดียวก็มากพอแล้วที่จะกลับไปคุยโม้ไปได้อีกนาน
ในช่วงเวลาที่ Bugatti ถูกกดปุ่มสตาร์ท หลิน ซานซาน และเฉิง เสี่ยวลู่ ต่างก็ตกตะลึง พร้อมกับเต็มไปด้วยสีหน้าประหลาดใจบนใบหน้าของพวกเธอ
เสียงของ หลิน ซานซาน สั่นเล็กน้อย : “พี่.. รถคันนี้เป็นของพี่เหรอ?”
หลินฟาน ยิ้มแล้วพูดว่า : “เป็นของพี่เอง มาเร็วเข้า.. รีบขึ้นรถเถอะ”
หลินฟาน กดปุ่มรีโมทที่กุญแจรถอีกครั้ง เพื่อเปิดช่องเก็บสัมภาระด้านหน้ารถ และใส่กระเป๋าเดินทางของ หลิน ซานซาน เข้าไปข้างใน
“รถคันนี้สวยมาก ฉันเองอยากจะนั่งจัง”
“ผู้หญิงคนนี้คงมีความสุขมากแน่ๆ ฉันชักอิจฉาเธอแล้วสิ”
“คงจะดีไม่น้อยถ้าฉันเป็นเธอ ทำไมฉันถึงไม่ใช่เธอนะ!”
หลิน ซานซาน ยอมรับสายตาอิจฉาของผู้คนที่เดินผ่านไปมา และเดินตรงไปที่ Bugatti และเธอขึ้นนั่งในตำแหน่งผู้โดยสารข้างคนขับอย่างเขินอายเล็กน้อย ช่วงเวลาสั่นๆ แค่นี้ ..ความสุขก็กลับเข้ามาหาเธออย่างกะทันหัน เธอรู้สึกเหมือนฝันราวกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ ..มันไม่ใช่เรื่องจริง
เมื่อเห็น หลิน ซานซาน ขึ้นไปนั่งบนซุปเปอร์คาร์ เฉิง เสี่ยวลู่ เวลานี้ก็ตาแดงจนแทบบ้าไปแล้ว
เธอเองก็อยากจะนั่ง อยากเพลิดเพลินไปกับสายตาอิจฉาของผู้คนที่เดินผ่านไปมาด้วยเช่นกัน
เธอตัดสินใจรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว
“ซานซาน ช่วยเขยิบไปหน่อยสิ ฉันขอนั่งด้วยคนได้ไหม?” เฉิง เสี่ยวลู่ กล่าว ถ้าไม่ใช่ว่ายังต้องรักษาหน้า เธอเองก็แทบรอไม่ไหวที่จะดึง หลิน ซานซาน ลงมา และปล่อยให้เธอขึ้นไปนั่งบนนั้นแทน
หลิน ซานซาน ค่อนข้างลําบากใจ เพราะมันดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ที่จะนั่งเบียดด้วยกันสองคน
หลินฟาน ที่เก็บกระเป๋าเดินทางเรียบร้อยแล้ว ก็ได้มานั่งลงที่นั่งคนขับ และเขาเองก็ได้ยินคําพูดของ เฉิง เสี่ยวลู่
หลินฟาน ยิ้ม แล้วหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพูดว่า : “ขอโทษที ดูเหมือนพี่จะบอกเราไปแล้วเมื่อกี้ว่ารถคันนี้สามารถนั่งได้คนเดียวเท่านั้น”
พูดจบ หลินฟาน ก็กดปิดประตูรถ ทิ้ง เฉิง เสี่ยวลู่ ไว้คนเดียวตามลำพัง แล้วขับรถออกไป
เฉิง เสี่ยวลู่ มีใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที แท้จริงแล้ว มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และซุปเปอร์คาร์สามารถนั่งได้เพียงคนเดียว เธอเองคิดว่า หลินฟาน ขับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามา ใครจะไปรู้ว่ารถของ หลินฟาน คันนี้ที่สามารถนั่งได้เพียงคนเดียวนั้น จะเป็นซุปเปอร์คาร์ในระดับท็อปกันล่ะ!