ตอนที่ 14 พรสวรรค์ด้านดนตรีชั้นยอด (RE)
จ้าว ซินเอ้อ เอื้อมมือออกไปจับมือของ หลินฟาน เอาไว้ พร้อมกับแสดงท่าทางที่น่าสงสารเพื่ออ้อนวอน หลินฟาน
“คุณอย่ามาทําแบบนี้สิ วันนั้นคนอื่นผิด คนอื่นขอโทษคุณแล้ว คุณยังโกรธคนอื่นอยู่อีกเหรอ?”
หลินฟาน เวลานี้อยากจะอาเจียนออกมาแล้ว เมื่อก่อนคือเพราะเขาไม่สนใจ เลยไม่ทันสังเกตเห็นงั้นเหรอว่า ใบหน้าของ จ้าว ซินเอ้อ หนายิ่งกว่ากําแพงอีก..
เขาค่อยๆ สะบัดมือ จ้าว ซินเอ้อ ออกเบาๆ
หลินฟาน กล่าวว่า : “คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้โกรธคุณ และผมแค่ไม่อยากสนใจคุณก็เท่านั้น”
จ้าว ซินเอ้อ เมื่อเห็นว่าการอ้อนวอนไม่มีประโยชน์ เธอจึงรีบควบคุมสงบสติอารมณ์ตัวเอง แล้วพูดไปว่า : “ที่จริงฉัน ..อยากจะมาถามคุณ เมื่อคืนทำไมคุณถึงไม่ได้ตอบ WeChat ฉัน คุณคือ.. คุณหลิน คนที่ซื้อหยุนติงวิลล่าไปใช่ไหม?”
หลินฟาน หัวเราะอย่างเย็นชาในใจ ยิ่งเมื่อรู้ว่าเธอมาถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเมื่อคืนปรากฏว่าเธอไม่ได้คำตอบ ดังนั้นวันนี้จึงได้มาถามหากับเขาถึงที่นี่…
หลินฟาน พูดอย่างเย็นชา : “ไม่ใช่”
ไม่ใช่.. งั้นเหรอ!
จ้าว ซินเอ้อ ไม่สามารถซ่อนความผิดหวังในสายตาของเธอได้เลย..
หลินฟาน กล่าวว่า : “ที่นี่.. คุณเองน่าจะผิดหวังแล้วมั้ง งั้น.. คุณก็กลับไปได้แล้ว”
ความเย็นชาของ หลินฟาน ส่งผลกระทบต่อความภาคภูมิใจในตนเองของ จ้าว ซินเอ้อ อย่างมาก ต้องรู้ก่อนว่าเมื่อก่อน หลินฟาน เป็นสุนัขเลียตัวหนึ่งของเธอเท่านั้น แล้ว.. ความแตกต่างนี้มันอะไร จ้าว ซินเอ้อ รู้สึกรับไม่ได้อยู่ชั่วขณะหนึ่ง…
แม้ หลินฟาน จะไม่ใช่ คุณหลิน คนนั้น แต่ หลินฟาน ก็ยังคงเป็นมหาเศรษฐีอยู่.. ส่วน คุณหลิน คนนั้นก็อยู่ไกลเกินเอื้อม แต่สำหรับ หลินฟาน แล้ว.. เขากลับอยู่ใกล้แค่เอื้อมแค่นี้เอง ซึ่งเธอจะไม่มีทางยอมแพ้ หลินฟาน เพียงเท่านี้แน่!
ดวงตาของ จ้าว ซินเอ้อ เริ่มแดงแล้ว เธอแสดงท่าทางน่าสงสารออกมา : “หลินฟาน คุณทําแบบนี้กับฉันได้อย่างไร? เมื่อก่อนคุณรักฉันมาก มาตอนนี้.. คุณไม่มีความรู้สึกอะไรกับฉันแล้วเหรอ?”
หลินฟาน พูดพร้อมกับหัวเราะออกไปว่า : “คุณพูดถูกแล้ว ไม่มีเลย และไม่มีแม้แต่น้อย อีกอย่างอย่ามาหาผมอีก และก็นะช่วยรักษาหน้าตัวเองด้วย…”
พูดจบ หลินฟาน ก็ไม่สนใจ จ้าว ซินเอ้อ อีกต่อไป เขาหยิบกุญแจเปิดประตู แล้วเข็นรถเข้าไป แล้วปิดประตูทันที
ความเฉยเมยนี้.. มันคืออะไร ช่างใจร้ายจริงๆ!
จ้าว ซินเอ้อ ถูกกระตุ้น จนเกิดอารมณ์ขึ้นมา และตะโกนแผดเสียงออกไปว่า : “หลินฟาน คุณมันจะมาทำเป็นหยิ่งบ้าหยิ่งบออะไร ก็แค่มีเงินนิดหน่อยเองไม่ใช่เหรอไง! หญิงชราอย่างฉันตัดสินใจไปสมัครเป็นแม่บ้านของหยุนติงวิลล่าแล้ว ด้วยคุณสมบัติของฉัน ฉันจะต้องประสบความสําเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ เมื่อฉันได้เป็นแม่บ้านของ คุณหลิน ถึงตอนนั้นคุณก็ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะถือรองเท้าให้ฉันเลยด้วยซ้ำ!”
พอได้ยินเรื่องนี้ หลินฟาน ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
“กลับกัน ผมรับประกันได้เลยว่า.. คุณไม่สามารถเป็นแม่บ้านของ หยุนติงวิลล่า ได้”
พูดจบ หลินฟาน ก็เดินเข้าประตูไป
ท้ายที่สุด จ้าว ซินเอ้อ ก็ระเบิดอารมณ์ของตัวเองออกมา : “คุณมันพูดบ้าอะไร รับประกัน ผายลมนะสิ! หลินฟาน คุณอย่าได้มาดูถูกฉันนะ แล้วนี่คุณคิดว่าคุณมัน ..เป็นใคร คอยดูเถอะเมื่อฉันทำสําเร็จ ถึงตอนนั้นคุณก็อย่าได้มาคุกเข่า และเลียฉันล่ะ!”
คําพูดนี้.. เธอคงคิดว่าตัวเองมีพลังมาก แต่แล้วเธอก็กลับไม่ได้ยิน หลินฟาน ส่งเสียงตอบกลับมา ..อีกเลย
จ้าว ซินเอ้อ รออยู่ครู่หนึ่งจึงตระหนักว่า หลินฟาน ขึ้นไปชั้นบนแล้ว จากนั้นเธอก็โกรธมากจนกระทืบเท้าไปมา และด่าอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงจากไปอย่างหงุดหงิด
หลินฟาน ไม่อยากจะฟังเรื่องไร้สาระของ จ้าว ซินเอ้อ เขากลับขึ้นไปชั้นบนนานแล้ว และรีบปิดประตูไว้ เพื่อกันเสียงรบกวนจากภายนอก
หลังจากกลับมาถึง และพักผ่อนได้สักพัก หลินฟาน เตรียมที่จะไปอาบน้ำ แต่กลับมีสายโทรเข้ามา
เมื่อ หลินฟาน มองไป ก็เห็นว่าเป็น หลิน ซานซาน น้องสาวที่อยู่ห่างไกลจากบ้านเกิดของเขาที่โทรเข้ามา
หลิน ซานชาน เธอเป็น น้องสาวแท้ๆ คนเดียวของ หลินฟาน
“พี่คะ พรุ่งนี้หนูจะไปที่เมืองหยุนเฉิงเพื่อสัมภาษณ์ พี่ช่วยมารับหนูได้ไหม?” หลิน ซานซาน กล่าว
หลินฟาน จําได้ว่าน้องสาวบอกเขาเมื่อไม่นานมานี้ว่าเธอจะมาสัมภาษณ์ที่มหาวิทยาลัยดนตรีหยุนเฉิง และในเมืองหยุนเฉิง.. เธอเองมีญาติเพียงคนเดียวก็คือเขา ดังนั้นเธอจึงไม่ทางเลือกนอกจากวิ่งเต้นมาที่เขา
หลินฟาน กล่าวว่า : “โอเคได้.. แล้วเรามาถึงกี่โมง พอใกล้จะถึงแล้วโทรมาบอกพี่ด้วย”
หลิน ซานซาน ดูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงกล่าวว่า : “พี่ชาย คือถ้าหนูสัมภาษณ์ผ่าน ค่าเล่าเรียนของหนู…”
เธอรู้สึกอายเล็กน้อย ค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยดนตรีนั้นสูงมาก พ่อแม่ไม่สามารถส่งให้เธอได้ เธอทำได้เพียงหวังพึ่ง หลินฟาน เท่านั้น แต่เธอก็รู้ว่า พี่ชายของเธอทํางานเป็นคนส่งอาหารในเมืองหยุนเฉิง รายได้เองก็ไม่สูงนัก...
ถ้าเป็นเมื่อก่อนพอพูดถึงเรื่องเงิน หลินฟาน คงปวดหัวเล็กน้อยจริงๆ, แต่ตอนนี้ มันเป็นได้เพียง เมฆจางๆ ลมพัดเบาๆ เท่านั้น
หลินฟาน พูดปลอบใจไปว่า : “เรื่องค่าเล่าเรียนเราไม่ต้องเป็นกังวล เงินพี่มี สิ่งสำคัญคือเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสัมภาษณ์”
เมื่อได้ยิน หลินฟาน พูดแบบนี้ หลิน ซานซาน ก็รู้สึกโล่งอก และเธอก็สบายใจได้แล้ว เธอพูดด้วยรอยยิ้มสดใสออกไปว่า : “พี่ชาย งั้นเดี๋ยวเราเจอกันพรุ่งนี้นะ”
หลินฟาน จึงวางสาย แล้วไปอาบน้ำ เข้านอน
ก่อนเข้านอน เขารู้สึกสงสัยเล็กน้อย ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ระบบจะให้รางวัลอะไรกับเขา? ต้องรู้ก่อนว่ารางวัลที่เขาได้รับในสองวันแรกนั้น ..มันค่อนข้างน่าประทับใจ
เงินสดนับแสนล้าน!
ซุปเปอร์คาร์ 70 ล้าน!
พรุ่งนี้ อย่างน้อยๆ ก็คงต้องได้ คฤหาสน์ หรืออะไรทำนองนั้น หากได้อะไรแบบนี้มา มันก็จะน่าสนใจไม่น้อย..
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ไปสักพัก หลินฟาน ก็เกิดผล็อยหลับไปอย่างมีความสุข
วันรุ่งขึ้น หลินฟาน ได้ลุกออกจากเตียง เขาได้นอนหลับเต็มอิ่มอย่างเพียงพอแล้ว แน่นอนย่อมอารมณ์ดี เขาฮัมเพลง และรีบวิ่งไปฉี่ในห้องน้ำ
“เมื่อวานเป็นเหมือนสายน้ำทางทิศตะวันออก เธอไม่สามารถอยู่ห่างจากฉันได้…” (เสียง พี่หลิน ร้องเพลง)
เสียงด่าจากผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากห้องข้างๆ : “หุบปาก ใครมันมาฆ่าหมูแต่เช้านะ เสียงบ้าอะไรช่างไม่น่าฟังเลยสักนิด!”
หลินฟาน ยกยิ้มขึ้นมาอย่างขมขื่น เสียงร้องของเขามันไม่ดีจริงๆ เรียกได้ว่าโครตจะแย่มาก ไม่น่าแปลกใจเลย.. สวรรค์ให้รูปลักษณ์ที่หล่อเหลาแก่เขามา แต่กับไม่ยอมให้เสียงที่ไพเราะแก.. เขา บอกตามตรงเสียงของเขา แมร่ง …เพี้ยนทุกโน้ต
แต่น้องสาวของเขา หลิน ซานซาน กลับเป็นคนที่มีเสียงหวาน ไพเราะ และคือเธอเกิดมามีพรสวรรค์ในด้านดนตรีที่ดี ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังได้มาสอบเข้ามหาวิทยาลับดนตรีอีกด้วย
ทุกครั้งที่มีการรวมตัวกันในครอบครัว ญาติๆ จะขอให้ หลิน ซานซาน ร้องเพลง
แต่เมื่อ หลินฟาน อาสาร้องเพลง พวกเขากลับขอร้อง หลินฟาน ว่า : “เรามันคนกันเอง และก็ได้โปรดปล่อยข้าไปเถิดนะ!”
ซึดเอ้ยย… พระเจ้าแมร่งไม่ยุติธรรม!
“ติ๊ง!”
“แจ้งเตือน โฮสต์ สามารถลงชื่อเข้าใช้ได้แล้ว, รางวัลวันนี้คือ พรสวรรค์ด้านดนตรีชั้นยอด คุณต้องการลงชื่อเข้าใช้ทันทีหรือไม่?”
หลินฟาน กําลังฉี่อยู่ และเกือบจะฉี่ราดกางเกงเข้าให้แล้ว..
“อะไรนะ พรสวรรค์ด้านดนตรี?”
รางวัลที่ได้นี้.. เขารู้สึกอธิบายไม่ถูกเล็กน้อย เขาเองคิดว่าจะได้เป็นคฤหาสน์หรืออะไรพวกนั้น หรือว่า.. มันเป็นไปได้ไหมที่แม้แต่ระบบก็ทนฟังเสียงร้องเพลงของเขาไม่ได้?
ให้ตาย.. ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ฉันคงไม่เปิด(แหก)ปากร้องเพลงนี้แล้ว!
พูดตามตรง หลินฟาน รู้สึกรังเกียจเล็กน้อยกับรางวัลนี้
แต่เนื่องจากมันเป็นรางวัลจากระบบ หลินฟาน ก็ยังคงตัดสินใจลงชื่อเข้าใช้ด้วยความคิดที่ว่า ‘ยิ่งมากยิ่งดี’ (*多多益善)
“ลงชื่อเข้าใช้!”
“ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ การลงชื่อเข้าใช้สําเร็จ คุณได้รับความสามารถทางด้านดนตรีระดับบนสุดแล้ว โปรดตรวจสอบ…”
หลินฟาน ตกตะลึง.. อยู่ครู่หนึ่ง นี่ก็หมายความว่าฉันมีความสามารถด้านดนตรีแล้ว ..ใช่ไหม?
“เมื่อวานเป็นเหมือนสายน้ำทางทิศตะวันออก เธอไม่สามารถอยู่ห่างจากฉันได้…”
หลินฟาน พยายามร้องประโยคหนึ่งออกมา
เขาเองตกใจมาก โอ้.. แม่เจ้า มันฟังดูดีมาก!
ฉันมีความสามารถทางด้านดนตรีอย่างที่คาดจริงๆ และมันก็น่าทึ่งมาก!
มีเสียงอุทานดังมาจากห้องข้างๆ และก็เป็นของผู้หญิงคนเมื่อกี้นี้ : “โอ้.. พระเจ้า เมื่อกี้ฉันได้ยินอะไร เสียงร้องเพลงที่ไพเราะนี้ เป็นเทพบุตรตนใดกันที่กำลังร้องเพลงที่วิเศษมากนี้อยู่?”
“ท่านเทพบุตรเอ๋ย โปรดช่วยร้องเพลงต่ออีกสองประโยคเถิด ภาพฆาตกรมืดที่ฆ่าหมูแล้วทิ้งไว้ให้ข้านั้นมันจะได้ถูกชะล้างออกไปสักที และข้าเองนั้นก็หลงใหลในเสียงร้องของพระองค์แล้ว!”
หลินฟาน เหงื่อตก ผู้หญิงคนนี้คือ ราชินีดราม่า ใช่ไหม? ถ้าเธอรู้ว่าคนที่ฆ่าหมู กับเทพบุตรที่ว่าเป็นคนคนเดียวกัน เขาเองก็เกิดอยากรู้ขึ้นมาเหมือนกันว่า เธอ.. จะมีปฏิกิริยาอย่างไร?
เขาเองไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขาอาบน้ำล้างหน้าเสร็จก็สวมใส่ชุดเครื่องแบบส่งอาหารเดลิเวอรี่ แล้วก็เตรียมออกไปส่งอาหารทันที
เขาได้รับคำสั่งซื้ออย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นชื่อที่เขาคุ้นเคยปรากฏขึ้นมา และก็รู้สึกได้ว่า ..เขา เพิ่งจะไปที่นั่นมาเมื่อวานนี้เอง, ชุมชนลี่จิง
หมายเหตุจากลูกค้า : “ฉันอารมณ์ไม่ดีมากในตอนนี้ และต้องการให้พี่ชายสุดหล่อมาส่งอาหาร”
สุดหล่อ?
โอ้.. งั้นคุณก็มองหาถูกคนแล้ว
รับออเดอร์ รับอาหาร จัดส่ง!
หลินฟาน ขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และนําอาหารเดลิเวอรี่มาถึงทางเข้าประตูชุมชนลี่จิง
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกับหยุดเขาไว้ : “สำหรับคนส่งอาหาร ต้องมาที่นี่ เพื่อมาลงทะเบียนก่อนถึงจะเข้าไปได้!”
หลินฟาน ร้องโอ้ออกมา ชายคนนี้ยังทําความเคารพเขาเมื่อวานนี้อยู่เลย พอมาวันนี้เขาที่เปลี่ยนมาใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าก็กลับจําเขาไม่ได้แล้ว ..มันดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาจําได้ไม่ใช่คน แต่เป็นรถสินะ…
แน่นอนว่านี่เป็นงานของเขา และทุกคนก็แค่ทำงานของตัวเองเท่านั้น หลินฟาน เองก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เขาลงชื่อ และเข้าสู่ชุมชนไปได้อย่างราบรื่น
อาคาร 5 ห้อง 601
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
หลินฟาน เคาะประตู แล้วพูดว่า : “สวัสดี มาส่งอาหารครับ!”
ประตูเปิดออกแล้ว
เป็นสาวสวยในชุดโยคะ เธอมีหุ่นที่น่าทึ่งมาก.. และสิ่งที่ทักทายเขาเป็นอันดับแรกๆ เลยก็คือก้อนเนื้ออันขาวจั๊วที่พริ้วไหวของเธอ
เห็นได้ชัดว่าเธอกําลังออกกําลังกายอยู่ และเธอก็มีเหงื่อไหลออกมามาก แล้วมันไหลหยดลงมาตามลำคอที่ขาวโพลนของเธอ ..และไหลลงไปสู่ร่องลึกที่ไม่อาจหยั่งถึงนั่นได้...