WS บทที่ 390 จุดเริ่มต้นของการนองเลือด PART 2
บนเส้นทางบนผืนป่าอันรกร้าง ความเงียบสงัดทำให้ได้ยินเสียงกรอบแกรบเป็นครั้งคราว
"หยุดก่อน!"
เสียงของพ่อมดลีโอแหบเล็กน้อย ดังนั้นจึงฟังดูแปลกไป เขายกมือขึ้นและหยุดทุกคนในเส้นทางของพวกเขา ขณะที่เขามองไปรอบ ๆ ดวงตาแนวตั้งสีแดงเลือดที่หน้าผากของเขาเริ่มกะพริบช้า ๆ
เมอร์ลินกำลังตามหลังพ่อมดลีโอ พร้อมด้วยพ่อมดเอนเวียและคนอื่น ๆ ตอนนี้เหลือเพียงห้าคนจากดินแดนมนต์ดำ การสูญเสียนักเวทย์ระดับเจ็ดสามคนก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดความตกใจอย่างมากแก่ดินแดนมนต์ดำ
พวกเขายังไปไม่ถึงดินแดนมนต์ดำ พวกเขาเพิ่งออกจากทะเลทรายอันกว้างใหญ่และเข้าสู่เขตป่าทึบ โดยปกติพวกเขาจะเตรียมบินข้ามป่าแต่พ่อมดเอนเวีย, พ่อมดซาร่าห์และพ่อมดอิลแมนยังไม่ใช่นักเวทย์ระดับสี่และไม่สามารถบินได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องพึ่งพาพ่อมดลีโอในการแบกไป
หากมีเพียงหนึ่งหรือสองคน พ่อมดลีโออาจจะอุ้มพวกเขาได้แต่สามคน มันมากเกินไปสำหรับเขา ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่บินและเดินเท้ามุ่งหน้าเข้าไปในป่าทึบโดยเร่งเพื่อไปยังดินแดนมนต์ดำ
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ มีกลิ่นอายแห่งความตายลอยอยู่ตรงหน้าพวกเขา นั่นคือเหตุผลที่พ่อมดลีโอหยุดพวกเขาโดยกะทันหัน เมื่อมองไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง พวกเขาเห็นศพที่ถูกทำลายบางส่วนนอนอยู่ท่ามกลางพุ่มไม้หนาทึบ
พ่อมดลีโอจำตัวตนของพวกเขาได้จากเครื่องแต่งกายบนศพ เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “ศพพวกนี้คือพ่อมดจากเมืองแห่งอัคคี!”
“เมืองแห่งอัคคี?”
เมอร์ลินดูเสื้อผ้าบนศพอย่างระมัดระวัง พวกเขาสวมเสื้อคลุมยาวสีแดงเพลิงพร้อมตราสัญลักษณ์แห่งเมืองแห่งอัคคี พวกเขาอาจจะเพิ่งออกจากป้อมปราการทรายดำและกำลังรีบกลับไปที่เมืองอัคคีแต่น่าเศร้าที่พวกเขาไม่มีวันไปถึง
"พวกแกเป็นใคร? แสดงตัวออกมา!"
พ่อมดลีโอคำรามเสียงดังและแสงสีแดงเข้มพุ่งออกมาจากดวงตาแห่งความมืดไปยังป่าทึบเบื้องหน้าพวกเขา
*ตุบ*
มีนักเวทย์มองมาที่พ่อมดลีโอด้วยสีหน้าตกตะลึง จากนั้นสีหน้าของเขาได้ว่างเปล่า ก่อนที่ร่างกายของเขาล้มลงกับพื้นและเสียชีวิตไป
ดวงตาแห่งความมืดของพ่อมดลีโอใช้ไม่ใช่พลังที่นักเวทย์ทั่วไปสามารถต้านทานได้ เมื่อมองดูศพบนพื้น เมอร์ลินและคนอื่น ๆ ก็หน้าซีดเล็กน้อย
“ออสมู! พวกเขามาจากออสมู! พวกเขาตั้งใจซุ่มโจมตีข้างนอกด้วยงั้นเหรอ? พวกเขากำลังพยายามทำลายกองกำลังทั้งหมดของโลกของนักเวทย์ทางใต้จริง ๆ ด้วย!”
ในหัวของเมอร์ลิน ความคิดมากมายเริ่มหมุนวนไปรอบ ๆ ขณะที่เขาไตร่ตรองถึงความเป็นไปได้ต่าง ๆ เขาคาดเดาแผนการของออสมูได้ไม่ชัดเจน ประการแรก พวกเขาบุกโจมตีป้อมปราการทรายดำภายใต้การนำของจอมเวทย์ขาวดำ
อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงกลุ่มแรกเท่านั้น มีกลุ่มที่สองซ่อนตัวอยู่นอกป้อมปราการทรายดำในทุกเส้นทางเพื่อที่ดักฆ่านักเวทย์ที่หลบมายังเส้นทางเหล่านั้น
พฤติกรรมที่บ้าคลั่งดังกล่าวจากออสมูนั้นคล้ายกับการประกาศสงครามต่อโลกของนักเวทย์ทางใต้ทั้งหมด!
อย่างไรก็ตาม เป็นที่เข้าใจได้เนื่องจากป้อมปราการทรายดำได้ค้นพบฐานที่มั่นเก่าของออสมู หากป้อมปราการทรายดำสามารถรวมกองกำลังหลักของโลกนักเวทย์ทางใต้และโจมตีฐานของพวกเขาได้ ออสมูจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีได้
ดังนั้น วัตถุประสงค์ของออสมูคือการทำให้กองกำลังอันแข็งแกร่งของทางใต้ของนักเวทย์อ่อนแอลงและนี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา เนื่องจากทุกคนรวมตัวอยู่ในที่เดียว พวกเขาจึงไม่ต้องใช้ความพยายามมากเกินไปในการสังหารนักเวทย์จำนวนมาก
“เราควรทำอย่างไรดี? พ่อมดลีโอ นอกจากเส้นทางนี้แล้ว มีวิธีอื่นใดอีกไหมที่จะพาเรากลับไปยังดินแดนมนต์ดำ?”
เมอร์ลินรู้ดีว่าป่าทึบที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาได้ซ่อนนักเวทย์แห่งออซมูจำนวนมากไว้ แม้ว่าพวกเขาจะใช้คาถาบิน พวกเขาอาจกลายเป็นเป้าหมายและถูกสังหารโดยนักเวทย์แห่งออซมู
พ่อมดลีโอส่ายหัว “แม้ว่าจะมีวิธีอื่นแต่ก็มีอีกกลุ่มซุ่มโจมตีที่รอเราอยู่ รีบเดินทางต่อดีกว่าและฆ่าพวกมันที่ซุ่มโจมตีระหว่างทางกันเถอะ!”
จิตสังหารเริ่มปะทุขึ้นรอบ ๆ พ่อมดลีโอ
ดังนั้นเมอร์ลินและคนอื่น ๆ จึงตามหลังพ่อมดลีโอขณะที่เขาเดินผ่านป่าทึบ ตลอดเวลาดวงตาแห่งความมืดบนหน้าผากของเขามองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง
*ตุบ ตุบ*
หน้าผากของพ่อมดลีโอส่องแสงสีแดงเข้มและนักเวทย์สองคนที่ซ่อนตัวอยู่ล้มลงบนพื้น พวกเขากำลังแอบโจมตีพ่อมดลีโอแต่ถูกดวงตาแห่งความมืดค้นพบ ดังนั้นพวกเขาจึงถูกฆ่าตายทันที
ด้วยพลังของดวงตาแห่งความมืด นักเวทย์ที่ถูกซ่อนไว้ทั้งหมดถูกค้นพบโดยไม่มีการต่อต้าน! นี่คือพลังที่น่าสะพรึงกลัวของมัน
พวกเขาอาศัยพ่อมดลีโอเป็นผู้นำทาง เมอร์ลินและคนอื่น ๆ ก็สามารถเร่งความเร็วและเคลื่อนตัวผ่านป่าทึบ เบื้องหน้าพวกเขาเกือบจะเห็นชายป่า ตราบใดที่พวกเขาออกจากป่าก็ไม่มีพวกออสมูซุ่มโจมตีอีกต่อไป
“ลีโอ! ฉันได้เห็นว่าแกมีดวงตาแห่งความมืดแบบสมบูรณ์! ตอนนี้ฉันสนใจดวงตาแห่งความมืดของแกมาก แม้ว่าฉันจะไม่สามารถฝึกฝนพลังต้องสาปแบบนี้ได้แต่ฉันก็อยากจะศึกษามันด้วยตัวเอง!”
จากเงามืดใต้ต้นไม้ ชายชราผมสีม่วงสวมชุดคลุมสีดำค่อย ๆปรากฏตัวขึ้น การแสดงออกของชายชราผมสีม่วงนั้นสงบมากในขณะที่เขาขวางทางพวกเขา
พ่อมดลีโอค่อย ๆ หยุดลง เป็นครั้งแรกที่ดวงตาแห่งความมืดในหัวของเขาไม่ขยับโจมตีทันที หลังจากหยุดอยู่นาน เขาก็เปิดปากพูด “พ่อมดโกสต์ไฟร์! ข้าไม่คิดว่าจะเจอเจ้าที่นี่!”
เมอร์ลินไม่เคยได้ยินเรื่องพ่อมดโกสต์ไฟร์แต่ท่าทางของพ่อมดเอนเวียเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาอธิบายให้เมอร์ลินฟังด้วยเสียงกระซิบว่า
“พ่อมดโกสต์ไฟร์เป็นนักเวทย์ที่น่ากลัวอย่างแท้จริงเมื่อสามร้อยปีที่แล้ว ย้อนกลับไปตอนนั้น เขาเป็นนักเวทย์ระดับเก้าแต่เนื่องจากเขารุกรานองค์กรขนาดใหญ่ เขาจึงอยู่ภายใต้การไล่ล่าเป็นเวลาหลายปีจนกระทั่งออสมูก้าวเข้ามาเพื่อช่วยเขา หลายปีผ่านไปตั้งแต่นั้นมา ฉันไม่รู้ว่าพ่อมดโกสต์ไฟร์จะแข็งแกร่งกว่านี้ขนาดไหน แม้ว่าเขาจะยังไม่ใช่จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ แต่ฉันมั่นใจว่าพลังของเขาพัฒนาขึ้นอย่างมาก พวกเราเจอตอเข้าให้แล้ว!”
นักเวทย์ระดับเก้า! ชายชราผมสีม่วงคนนี้เป็นนักเวทย์ระดับเก้า ไม่น่าแปลกใจเลยที่พ่อมดลีโอจะแสดงทีท่าระมัดระวัง ก่อนหน้านี้ เพียงแค่เผชิญหน้ากับนักเวทย์ระดับแปดสองคน พ่อมดลีโอก็ต้องแบกรับอันตรายและจ่ายราคามหาศาลเพื่อเปิดใช้งานรูปแบบที่สี่ของดวงตาแห่งความมืดเพื่อฆ่าพวกเขา
ตอนนี้พ่อมดลีโอถูกบังคับให้เผชิญหน้ากับพ่อมดโกสต์ไฟร์ เมอร์ลินและคนอื่น ๆ ตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย ออสมูได้วางแผนไว้อย่างดีจริง ๆ เพราะถึงแม้ว่าจะมีคนสามารถผ่านเส้นทางทั้งหมดได้แต่ก็มีนักเวทย์ที่ทรงพลังรออยู่ปลายทาง
พ่อมดโกสต์ไฟร์ยิ้มเยาะ "ฮิฮิ พ่อมดลีโอ แกเป็นคนสำคัญของออซมู พวกเราที่ออสมูสนใจดวงตาแห่งความมืดของแกมาก ดังนั้นฉันจึงไม่ใช่คนเดียวที่รอแกอยู่ที่นี่!”
ขณะที่เขาพูดจบ พ่อมดโกสต์ไฟร์เผยมือของเขาและเปิดเส้นทางราวกับว่าเขากำลังต้อนรับใครซักคน
ในไม่ช้า จากภายในต้นไม้ที่มืดมิด ก็มีนักเวทย์อีกคนปรากฏขึ้น เมื่อพวกเขาเห็นรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา ทุกคนรวมถึงเมอร์ลินต่างก็ตกใจ
“จอมเวทย์ขาวดำ?”
พ่อมดลีโออดไม่ได้ที่จะตะโกน นักเวทย์ลึกลับนี้มีผมสีขาวครึ่งนึงสีดำครึ่งนึง ไม่น่าแปลกใจเลยที่แม้แต่นักเวทย์ระดับเก้าเช่นพ่อมดโกสต์ไฟร์ก็ยังแสดงความเคารพต่อเขา
มันคือจอมเวทย์ขาวดำที่เพิ่งหลบหนีจากวิญญาณผู้พิทักษ์ปราการศักดิ์สิทธิ์จากป้อมปราการทรายดำ!
…
ภายในป้อมปราการทรายดำ จอมเวทย์อัตโต้กับทูเมนกำลังดูแลทำความสะอาดสถานที่ทั้งหมด ครั้งนี้ออสมูไม่เพียงแต่ทำลายฐานที่มั่นของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังทำให้ชื่อเสียงของป้อมปราการทรายดำตกต่ำย่อยยับอีกด้วย จอมเวทย์ทั้งสองต่างก็อับอาย หัวใจของพวกเขาจึงเดือดพล่านเป็นอย่างมาก
*หวู่ม หวู่ม*
ทันใดนั้น นักเวทย์สองคนก็บินมาที่ป้อมปราการทรายดำ สองคนนี้เป็นนักเวทย์ระดับเจ็ดจากองค์กรขนาดกลางจากทางใต้
นักเวทย์ระดับเจ็ดสองคนดูเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด เมื่อพบจอมเวทย์อัตโต้และทูเมน พวกเขาตะโกนว่า “ท่านจอมเวทย์ โปรดช่วยเราด้วย ออสมูได้ซุ่มโจมตีรอบนอกป้อมปราการทรายดำเพื่อดักฆ่าองค์กรนักเวทย์ทั้งหมดที่กำลังจะออกจากที่นี่ เรากำลังประสบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่!”
"อะไรนะ? พวกออสมูกำลังจะประกาศสงครามกับโลกของนักเวทย์ทางใต้ทั้งหมดงั้นเหรอ!? พวกมันบ้าไปแล้ว!”
จอมเวทย์อัตโต้แทบไม่เชื่อหูตัวเอง การกระทำของออสมูนั้นไร้เหตุผลเกินไป ในอดีต สิ่งที่พวกเขาทำมากที่สุดคือสร้างความวุ่นวายหรือล่อลวงอัจฉริยะสองสามคนจากองค์กรไป
แม้ว่าการกระทำของพวกเขาในตอนนั้นจะน่ารังเกียจแต่มันก็ไม่เหมือนกับครั้งนี้ พวกเขาสังหารเหล่านักเวทย์อย่างเปิดเผย นั่นเป็นการบ่งบอกว่า พวกเขาประกาศสงครามกับโลกของนักเวทย์ทางตอนใต้ทั้งหมด นี่มันยิ่งกว่าการบุกรุกป้อมปราการทรายดำเสียอีก!
“ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นแต่การประชุมสุดยอดนี้จัดโดยป้อมปราการทรายดำ เราไม่สามารถนั่งลงและปล่อยให้การนองเลือดดำเนินต่อไปได้ ทูเมน คุณดูแลป้อมปราการทรายดำให้ดี ส่วนฉันจะออกไปช่วยนักเวทย์ทั้งหมด!”
หลังจากนั้น จอมเวทย์อัตโต้ ก็กลายเป็นแสงและพุ่งออกจากป้อมปราการทรายดำไป
…
สีหน้าของจอมเวทย์ขาวดำนิ่งสงบจนน่าเหลือเชื่อ ส่วนร่างโคลนของเขาไม่อยู่ในสายตา เมอร์ลินเดาว่าจอมเวทย์ขาวดำต้องซ่อนร่างโคลนเอาไว้ที่ใดที่หนึ่งเพื่อให้มันสามารถฟื้นฟูตัวเองได้
แม้จะไม่มีร่างโคลน จอมเวทย์ขาวดำก็ยังเป็นนักเวทย์ที่ทรงพลัง ไม่ว่าดวงตาแห่งความมืดของพ่อมดลีโอจะมีพลังมากเพียงใดแต่ก็ยังเทียบกับเขาไม่ได้เลย
“จงมอบวิธีการฝึกฝนดวงตาแห่งความมืดมาซะ!”
สายตาที่โหดร้ายของจอมเวทย์ขาวดำมองตรงไปที่พ่อมดลีโอ สำหรับเมอร์ลินและคนอื่น ๆ เขาไม่สามารถละสายตาจากฝ่ายตรงข้ามได้เลย
ใบหน้าของพ่อมดลีโอมีตึงเครียด เขารู้ว่าคราวนี้คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะหลบหนี เนื่องจากจอมเวทย์ขาวดำมาด้วยตนเอง เห็นได้ชัดว่าเขาอยากได้ดวงตาแห่งความมืด
แม้จะเป็นพลังต้องสาปแต่มันเป็นพลังที่พิเศษ ทางออสมูสนใจที่จะคว้ามันมา แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถฝึกฝนได้แต่พวกเขาจะใช้มันเพื่อศึกษาความสามารถของอสูรธาตุแห่งความมืดได้
“ดวงตาแห่งความมืด จงควบคุม!”
ลีโอไม่ปล่อยเวลาให้เสียไป เขาเปิดใช้งานดวงตาแห่งความมืดบนหน้าผากของเขาทันที ทันใดนั้นมันก็พองโตและเป็นสีแดงเข้มราวกับมีเลือดออก
นี่เป็นรูปแบบที่สี่ของดวงตาแห่งความมืด ทุกครั้งที่พ่อมดลีโอเปิดใช้งาน มันต้องแลกด้วยราคาที่ต้องจ่ายมหาศาล!
"ฮึ่ม!"
จอมเวทย์ขาวดำสูดลมหายใจและยื่นฝ่ามือสีขาวขึ้นไปบนท้องฟ้า
*บูม!*
ฝ่ามือน้ำแข็งขนาดใหญ่เริ่มควบแน่นอย่างรวดเร็วบนท้องฟ้า กว้างเกือบสิบเมตรเหนือศีรษะของพวกเขา เมอร์ลินและคนอื่น ๆ รู้สึกได้ถึงอากาศที่หนาวเย็นที่อยู่เบื้องล่าง ทำให้หายใจไม่ออก
“ถอยไป เร็วเข้า!”
เมอร์ลินตะโกนเสียงดังโดยไม่ลังเล เขาถอยห่างออกไปสองสามร้อยเมตรอย่างรวดเร็ว ขณะที่จ้องมองไปที่ฝ่ามือน้ำแข็งขนาดมหึมาบนท้องฟ้า
ด้วยเสียงก้อง ฝ่ามือน้ำแข็งลดความเร็วลง อย่างไรก็ตาม พ่อมดลีโอไม่ได้ขยับแม้แต่นิ้วเดียว ร่างกายที่ผอมแห้งไปแล้วของเขาเป็นเพียงผิวหนังและกระดูกซึ่งเป็นผลมาจากการกระตุ้นดวงตาแห่งความมืดรูปแบบที่สี่อย่างแรงในครั้งก่อน
คราวนี้เขาต้องเปิดใช้งานรูปแบบที่สี่อีกครั้ง!
ดวงตาแห่งความมืดบนหน้าผากของพ่อมดลีโอเรืองแสงเข้มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เกิดความรู้สึกน่าขนลุกพร้อมกับเสียงหัวเราะที่แปลกประหลาดราวกับเด็ก
*วิ้ง*
ดวงตาแห่งความมืดยิงแสงสีแดงเข้ม ลำแสงแปรเปลี่ยนเป็นรูปใบหน้าปีศาจขนาดใหญ่ มันได้ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อปะทะกับฝ่ามือน้ำแข็งขนาดใหญ่
*ตูม*
ฝ่ามือน้ำแข็งถูกกระแทกทีละครั้งแต่ฝ่ามือน้ำแข็งแทบไม่เป็นอะไรเลย ความแตกต่างของระดับพลังนั้นมากเกินไป แม้แต่ดวงตาแห่งความมืดรูปแบบที่สี่ก็ไม่สามารถป้องกันการโจมตีจากจอมเวทย์ขาวดำได้
ใบหน้าปีศาจขนาดใหญ่ถูกฝ่ามือน้ำแข็งทุบให้เป็นเหล็ก ขณะมันยังคงลงมาด้วยเสียงโหยหวน พ่อมดลีโอดูแก่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในเวลาเดียวกัน ร่างกายของเขาก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและเลือดสีแดงสดก็เริ่มไหลออกจากหู จมูกและเบ้าตาเปล่าของเขา เขาดูย่ำแย่มาก
ดวงตาแห่งความมืดในหัวของเขาเปล่งประกายเจิดจ้าพร้อมเสียงกรีดร้องแผ่วเบาอยู่เบื้องหลัง ราวกับว่าดวงตาแห่งความมืดรู้ตัวกำลังจะถูกฝ่ามือน้ำแข็งบดขยี้จึงหาวิธีดิ้นรนเอาชีวิตรอด
อย่างไรก็ตาม มันไม่มีประโยชน์อะไร พ่อมดลีโอไม่สามารถต้านทานฝ่ามือน้ำแข็งขนาดใหญ่นี้ได้อีกต่อไป!
“จอมเวทย์ขาวดำ ในเมื่อแกได้โอกาสหนีไปกลับไม่หนี แกกำลังขุดหลุมฝังศพของตัวแกเองอยู่สินะ!”
ทันใดนั้น เสียงคำรามโกรธจากส่วนลึกของภูเขาก็ดังขึ้น พร้อมกันนั้น ฝ่ามือเพลิงขนาดใหญ่เท่า ๆ กันก็พุ่งเข้าหาพวกเขาและกระแทกฝ่ามือน้ำแข็งอย่างแรง
*บูม!*
ด้วยแรงปะทะกันครั้งยิ่งใหญ่ทำให้พ่อมดลีโอกระเด็นไปไกลสองสามร้อยเมตร เมอร์ลินและคนอื่น ๆ รีบวิ่งไปช่วยเขาอย่างรวดเร็ว
“อัตโต้?”
จอมเวทย์ขาวดำขมวดคิ้ว นับตั้งแต่อัตโต้มาถึง การต่อสู้นี้ก็ไม่มีความหมายอีกต่อไป มันจะทำให้ออสมูสูญเสียมากขึ้นเท่านั้น
ดังนั้นจอมเวทย์ขาวดำจึงไม่รอช้า เมื่อเขาเห็นจอมเวทย์อัตโต้กำลังเข้ามา เขาก็รีบนำคนของเขาออกไปทันที ชั่วพริบตา ท้องฟ้าเต็มไปด้วยนักเวทย์ที่เคยซ่อนตัวอยู่ในป่าทึบ ถ้าไม่ใช่เพราะการมาถึงของจอมเวทย์อัตโต้ นักเวทย์จากองค์กรและตระกูลนักเวทย์อาจถูกสังหารโดยออสมูทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการแทรกแซงของจอมเวทย์อัตโต้ โลกของนักเวทย์ทางใต้ทั้งหมดยังคงประสบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่
จอมเวทย์อัตโต้ลอยขึ้นไปในอากาศ เขาเพียงแค่จ้องมองเมอร์ลินและคนอื่น ๆ ท้ายที่สุด เขาเป็นจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้รับความเคารพอย่างสูงและไม่ได้กังวลเรื่องขององค์กรเล็ก ๆ อย่าง ดินแดนมนต์ดำมากนัก เขาจึงรีบกลับบินกลับไปที่ป้อมทรายดำอย่างรวดเร็ว
ป่าทึบก็ค่อย ๆ กลับมาเงียบลงอีกครั้ง เมอร์ลินช่วยพยุงพ่อมดลีโอขึ้นมาอย่างนุ่มนวลและมีสีหน้าลำบากใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขารู้สึกได้ชัดเจนว่าพลังชีวิตของพ่อมดลีโอกำลังจางหายไปราวกับว่ามันถูกดูดโดยดวงตาแนวตั้งสีแดงเลือดที่หน้าผากของเขา ดวงตาแนวตั้งสีแดงเลือดเองก็มีพฤติกรรมแปลก ๆ ราวกับว่ามันเพิ่งฟื้นคืนชีพขึ้นมา เมอร์ลินมองดูดวงตาแห่งความมืดอีกครั้งและเกือบถูกดวงตาแนวตั้งสีแดงเลือดล่อลวง
“เมอร์ลิน!”
“อาจารย์ลีโอ ผมอยู่นี่แล้ว...อาจารย์ลีโอ ผมขอถามได้มั้ยว่า ‘มัน’ คืออะไร?”
เมอร์ลินถามด้วยน้ำเสียงที่สงบ สำหรับดวงตาแห่งความมืด มีนักเวทย์เพียงไม่กี่คนที่เข้าใจเรื่องนี้ นับประสาเมอร์ลินที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับมัน
รอยยิ้มที่น่าสยดสยองปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพ่อมดลีโอ “เมอร์ลิน ข้ารู้ว่าวันนี้จะต้องมาถึงในที่สุด ดวงตาแห่งความืดเป็นพลังต้องสาป แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ไม่เสียใจที่ได้ฝึกฝนมัน แม้ว่าข้าจะไม่ได้เปิดใช้งานรูปแบบที่สี่ในคราวนี้ แต่ข้าก็อาจมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน…”
“วิธีฝึกฝนของดวงตาแห่งความมืดอยู่ในวงแหวนของข้า เจ้าจงรับมันไปซะ มันจะเป็นอย่างไรก็ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือข้าสามารถส่งดวงตาแห่งความมืดให้เจ้าได้แต่เจ้าจำไว้ว่า ‘มัน’ ยังมีชีวิตอยู่ อย่าให้มันกลับมามีชีวิตอีกเป็นอันขาด เจ้าต้องสามารถปราบปรามได้เสมอ มิฉะนั้น คำสาปจะโจมตีเจ้า เหตุผลที่ข้าต้องทนทุกข์จนถึงทุกวันนี้อาจเป็นเพราะคำสาป แบบเดียวกับพ่อมดคนอื่น ๆ ที่เคยฝึกฝนดวงตาแห่งความมืด!
“ส่วนการตัดสินใจว่าจะฝึกฝนดวงตาแห่งความมืดหรือไม่นั้นเป็นสิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาเอาเอง แต่ก่อนที่ข้าจะตาย ข้าจะไม่ยอมให้ดวงตาแห่งความมืดบรรลุเป้าหมาย ข้าจะปิดผนึกรูปแบบที่สามและสี่เอาไว้ หากเจ้าตัดสินใจที่จะฝึกฝนดวงตาแห่งความมืด จงอย่าเปิดผนึกของรูปแบบที่สามและสี่ก่อนที่คุณจะมีความมั่นใจอย่างสมบูรณ์ในการควบคุมมัน…”
เมื่อเขาพูดจบ ใบหน้าของพ่อมดลีโอก็แดงระเรื่อและเขาก็ตบที่หน้าผากของเขาอย่างแรงตรงดวงตาแนวตั้งสีแดง
จากนั้น มันใหญ่มากเพราะตาแนวตั้งสีแดงเลือดเริ่มบวมขึ้น
“ฮึก ฮึก ฮึก…”
ดวงตาแห่งความมืดร้องไห้ออกมาอย่างเศร้าโศกเหมือนเด็ก ๆ ดูเหมือนมันจะขอร้องไม่ให้พ่อมดลีโอผนึกมัน อย่างไรก็ตาม พ่อมดลีโอไม่ได้สนใจคำขอร้องและพลังธาตุมืดก็เริ่มหมุนวนไปทั่วร่างกายของเขา
*หวู่ม…*
ในที่สุด หลังจากช่วงเวลาได้ผ่านพ้นไป ธาตุแห่งความมืดก็สลายไป เมื่อเมอร์ลินมองดูพ่อมดลีโออีกครั้ง เขาพบว่าดวงตาแนวตั้งสีแดงเลือดไม่อยู่ที่หน้าผากของเขาแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่คือหลุมเลือดที่ว่างเปล่าตรงหน้าผากของพ่อมดลีโอ
ในมือของพ่อมดลีโอวางลูกตาสีแดงเลือดที่ดูเหมือนปีศาจถือเอาไว้!