68
Ep.68
‘นั่นใคร!’
จู่ๆก็มีเสียงแปลกๆดังขึ้น ใบหน้าของฉู่เซวียนกลายเป็นเย็นชา ตะโกนขึ้นในใจ
เสียงนั้นก้องอยู่ในหัวเขาโดยตรง หากไม่นับระบบแล้ว ฉู่เซวียนไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย
“เจ้าหนู ไม่ต้องมองหาแล้ว ข้าก็อยู่ในมือเจ้านี่ไง” เสียงนั้นยังคงพูดต่อ
ฉู่เซวียนพอได้ยิน ก็ก้มลงมองในมือเขาทันที
เห็นแค่เพียงเกล็ดที่อยู่บนด้ามจับของเงาโลหิตกำลังเปล่งประกายวูบไหวราวกับมันมีชีวิต
‘หรือว่าแกคือ ... วิญญาณที่อยู่ในเงาโลหิต?’ ฉู่เซวียนเอ่ยด้วยความเหลือเชื่อ
“อะแฮม! เรียกข้าว่าเทพเจ้าจะเหมาะสมกว่า! ข้าแค่หยิบฉวยของๆเจ้าไปเพียงเล็กน้อยเองไม่ใช่หรือ เด็กน้อย ทำไมเจ้าโหดร้ายเยี่ยงนี้! หากไม่ใช่เพราะฐานฝึกตนอันสูงส่งของเราเทพเจ้า ข้าคงถูกสิ่งที่อยู่ในร่างเจ้าสังหารไปแล้ว!”
มีความขุ่นเคืองอยู่ในน้ำเสียงนี้ ทว่าหากฟังดีๆ จะพบว่ามันมีความหวาดกลัวแฝงอยู่เช่นกัน
ได้ยินคำนี้ ฉู่เซวียนค่อยพอเข้าใจขึ้นมาบ้าง เขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้เคยจ่าย 5 แต้มยีนเพื่อปิดผนึกเงาโลหิต
“โห? โดนไปขนาดนั้นแกยังกล้าออกมาอีกเหรอ?” ฉู่เซวียนยิ้ม กล่าวด้วยน้ำเสียงขบขัน
“เหอ เหอ นั่นเพราะเราเทพเจ้ารู้ว่าเจ้ากำลังมีปัญหาอย่างไรเล่า” เสียงนั้นพูดขึ้น
พอได้ฟัง ครั้งนี้ฉู่เซวียนไม่ตอบกลับไป เพราะสิ่งที่เสียงนี้พูดนั้นถูกต้อง การเผชิญหน้ากับหวังเทียนป่าในสภาพปัจจุบัน เขาไม่มีโอกาสชนะเลยจริงๆ ไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้โหมดคลุ้มคลั่งเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว
โดยไม่สนใจความเงียบของฉู่เซวียน เสียงนั้นดังขึ้น “ทำไมเจ้าไม่ทำข้อตกลงกับข้าเล่า?”
‘ข้อตกลง?’ ฉู่เซวียนย้อนถามในใจ
“สบายใจได้ สำหรับเจ้าแล้ว ข้อตกลงนี้ไม่เป็นอันตรายใดๆ” คล้ายต้องการขจัดความเคลือบแคลงในใจฉู่เซวียน เสียงนั้นพูดต่อ
ดวงตาของฉู่เซวียนสั่นไหวเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
คล้ายสังเกตเห็นอาการลังเลของฉู่เซวียน เสียงนั้นพูดต่อว่า “ด้วยสิ่งนั้นในตัวเจ้า ต่อให้ข้ามีความกล้ามากกว่านี้อีกร้อยเท่า ก็ไม่กล้าเล่นตุกติกหรอก”
“หืม? เด็กน้อย ทำไมเจ้าไม่พูดอะไรเลยล่ะ?”
“ฉันตกลง ลองว่ามา เงื่อนไขของแกคืออะไร?” ฉู่เซวียนตอบพร้อมถาม
ได้ยินว่าฉู่เซวียนเห็นด้วย เสียงนั้นพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “ข้าจะช่วยเจ้ากำจัดปัญหาเบื้องหน้า ส่วนเจ้าต้องยอมปลดผนึกข้า และนับจากนี้ไป ศัตรูทุกคนที่ถูกสังหารโดยเงาโลหิต พลังและเลือดของพวกมัน ต้องถูกแบ่งให้ข้าครึ่งหนึ่ง”
ฉู่เซวียนพอได้ยินคำนี้ เขาปฏิเสธทันที ‘ไม่มีทาง นั่นมากเกินไป’
“งั้นหนึ่งในสาม ห้ามน้อยไปกว่านี้” เสียงในหัวต่อรอง
ฉู่เซวียนไตร่ตรองเล็กน้อย ก่อนพูดต่อว่า “แค่หนึ่งในสิบ!”
“ถุย! ไอ้เด็กบ้า เจ้าจะโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว”
ได้ยินคำตอบของฉู่เซวียน เสียงนั้นระเบิดคำสบถออกมาทันที แม้แต่เงาโลหิตเองก็สั่นไหวเล็กน้อย
“สรุปแกไม่เห็นด้วย?” ฉู่เซวียนได้ยินคำนี้ สีหน้าเขาแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา “งั้นไม่เป็นไร แกก็อยู่ในผนึกต่อไปแล้วกัน”
ได้ยินแบบนั้น เสียงในหัวร้องขึ้นด้วยความวิตกกังวล ทั้งยังแฝงไปด้วยความไม่ยินยอม “อย่า อย่า อย่าทำแบบนั้น ข้าตกลง! เด็กน้อยข้ายอมเจ้าแล้ว! เจ้ามันเหี้ยมโหดยิ่งกว่าเราเทพเจ้าในครั้งอดีตเสียอีก ... ”
เห็นอีกฝ่ายยอมพ่ายแพ้ ในที่สุดรอยยิ้มจางผุดขึ้นบนใบหน้าของฉู่เซวียน
จากนั้นเขาสั่งการด้วยความคิด ตราประทับบนเงาโลหิตเลือนหายไป
“วะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ในที่สุดข้าก็หลุดพ้นจากผนึกแล้ว เจ้าหนู! รับเอาพรจากเราเทพเจ้าไป!” เสียงในหัวหัวเราะอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง คล้ายลืมเลือนไปแล้วว่าก่อนหน้านี้มันถูก ฉู่เซวียนเรียกข้อเสนอที่ราวกับกรีดเลือดกรีดเนื้อ
ต่อมา ฉู่เซวียนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายร้อนแรงจากเงาโลหิต มันถ่ายเทเข้าสู่ร่างกายเขาผ่านทางฝ่ามือ
กลิ่นอายที่ไหลเข้ามานี้ ทำให้กล้ามเนื้อและกระดูกของฉู่เซวียนรู้สึกแสบร้อนและเสียวซ่าน