ตอนที่ 173 เจ้ามาร่วมทีมกับข้าเป็นยังไง(อ่านฟรี)
ตอนที่ 173 เจ้ามาร่วมทีมกับข้าเป็นยังไง
“เราจะมาสรุปการสูญเสียในครั้งนี้กัน” บราเดนหนึ่งใน 7 รองหัวหน้ากิลด์กะโหลกแดง ซึ่งเป็นตัวแทนของกิลด์กะโหลกแดง เจ้าของฉายา “บราเดนพ่อค้าความตาย” ซึ่งฉายานี้ได้มาเพราะมันเป็นพ่อค้านักฆ่าผู้มีความสามารถมาก ถ้าซื้อไม่ได้ก็ปล้น ถ้าขายไม่ได้ก็ปล้นเช่นกัน ได้กล่าวออกมา
“สรุปจะสรุปอะไร ในเมื่อก็รู้ ๆ กันอยู่ ผู้เล่นแทบจะร้อยละ 90 ตายหมด แต่กลับไม่สามารถถล่มป้อมปราการตะวันออกได้”
“เจ้าคิดว่า NPC เหล่านั้นอ่อนแออย่างนั้นเหรอ”
“ไม่ แต่พวกทหารเล่นส่งพวกเราไปตายแบบนั้น”
“เจ้าจะบ่นอะไร ในเมื่อก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าพวกเขาเลือกจะจ้างเราแบบทหารรับจ้างก็เพราะพวกเราผู้เล่นไม่กลัวตายจริงไหม?”
เพียงการเปิดประเด็นแรก ทุกคนก็ต่างถกเถียงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แม้จะตื่นเต้นและสนุกไปกับสงคราม พร้อมทั้งยังได้เห็นการต่อสู้ของนักรบแท้จริงด้วย แต่ว่าพวกเขาสูญเสียเป็นจำนวนมาก ต่อให้เป็นไอดีสำรองแต่ทุกคนก็ไม่ค่อยชอบใจผลลัพธ์เท่าใดนัก
“ข้าว่า...เราควรมาพูดถึงเรื่องผลประโยชน์ในสงครามกันอีกครั้ง” ผู้นำกิลด์ประตูเหล็กเปิดปากกล่าว
ผู้นำกิลด์ทั้งหมดได้ยินก็หันไปมองทางสามกิลด์ใหญ่ในทันที ผู้นำหรือตัวแทนกิลด์ใหญ่ทั้งสามต่างก็ขมวดคิ้วมองผู้นำกิลด์ประตูเหล็ก
“เจ้าต้องการจะกล่าวอะไรกันแน่” บราเดนถามกลับในทันที
“เมื่อสองวันก่อน ข้าและผู้เล่นในกิลด์ของข้านับร้อยตายลงโดยที่แทบไม่ได้ของอะไรเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งการต่อสู้ในวันนี้พวกเรากิลด์ระดับกลางและเล็กส่งผู้เล่นไปมากกว่าพวกเจ้ากิลด์ใหญ่รวมกันซะอีก ดังนั้นข้าคิดว่าเราควรจะได้ส่วนแบ่งเพิ่มจากส่วนนี้ด้วย” ผู้นำกิลด์ประตูเหล็กกล่าว ก่อนจะหันไปมองตัวแทนจากกิลด์ขนาดกลางและกิลด์ขนาดเล็ก ก่อนจะกล่าวต่อว่า “พวกเจ้าคิดว่ายังไง”
ทุกคนรู้เจตนาของผู้นำกิลด์ประตูเหล็ก ชายคนนี้ต้องการดึงทุกคนเข้ามาร่วมเพื่อกดดันกิลด์ใหญ่ทั้งสาม
ตัวแทนจากกิลด์ใหญ่ทั้งสามอย่าง กิลด์กะโหลกแดง กิลด์หัตเทวะและกิลด์มังกรไฟต่างก็มองไปที่ผู้นำกิลด์ประตูเหล็กอย่างไม่ชอบใจมากนัก ทั้งสามรู้ว่าด้วยตัวของผู้นำกิลด์ประตูเหล็กนั้นคงไม่มีทางกล้าพูดแบบนี้ ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากกิลด์ขนาดกลางอื่น ๆ แล้ว
ทั้งสามกิลด์ใหญ่ยังไม่พูดอะไร เพียงรอให้พวกกิลด์ขนาดเล็กและอื่น ๆ แสดงความเห็นออกมา ซึ่งก็ดูเหมือนว่าทุกคนจะมีท่าทีเห็นด้วย ในตอนนั้นเอง นิโค รองผู้นำกิลด์หัตเทวะก็หันไปส่งสายตาเป็นสัญญาณให้กับบราเดนและอาร์จีโต้รองผู้นำกิลด์มังกรไฟเพื่อถามถึงความคิดในเรื่องนี้
อันที่จริงพวกเขาก็พอมีข้อมูลและเดาว่าอาจจะมีปัญหานี้เกิดขึ้นอยู่บ้าง และท่าทีก่อนหน้านี้ก็แค่ต้องการรู้ว่ากิลด์ขนาดกลางและเล็กคิดยังไงก็เท่านั้น
บราเดนและอาร์จีโต้ก็พยักหน้าเป็นการให้ไฟเขียวกับนิโค
“ได้ในเมื่อเจ้าอยากได้ส่วนแบ่งเพิ่มพวกข้าสามกิลด์ใหญ่จะให้เพิ่ม แต่พวกเจ้าต้องส่งผู้เล่นเข้าร่วมสงครามเพิ่มอีก 20 % ของผู้เล่นทั้งหมดที่มี” นิโคกล่าวด้วยท่าทางเด็ดขาด
พอกิลด์ขนาดกลางทั้ง 6 กิลด์ประตูเหล็ก กิลด์ไฮยีน่า กิลด์เงาข้างหลัง กิลด์พวกเราไก่ กิลด์จอมพลังและสุดท้ายกิลด์ขนมปังดำ ต่างก็มองหน้ากัน พวกเขาแปลกใจที่ทางกิลด์ใหญ่ทั้งสามนั้นยินดีตอบรับคำขอ แต่ก็ยังลังเลเนื่องจากเงื่อนไขที่บอกให้ส่งผู้เล่นเพิ่ม
ในทุก ๆ วันกิลด์ต่าง ๆ ที่แข็งแกร่งจะรับสมัครสมาชิกเพิ่มตลอด ยิ่งมีผู้เล่นเข้าร่วมเกมราชันสงครามออนไลน์มาก ก็ทำให้กิลด์ขยายตัวมากกว่าเดิม ซึ่งที่ผ่านมากิลด์ขนาดเล็กและกลางนั้นขยายตัวมากกว่า 2-3 เท่า ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงกิลด์ใหญ่ ๆ ที่จะมีคนเพิ่มจำนวนเช่นกัน
แน่นอนว่าก็มีกิลด์เกิดใหม่และแข่งขันกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
แต่การที่สามกิลด์ใหญ่ขอกำลังพลเพิ่มนั้นก็เหมือนการขอให้พวกผู้เล่นในกิลด์พวกเขาไปตายมากขึ้น ซึ่งมาซึ่งการกำจัดอำนาจและความแข็งแกร่งของกิลด์ขนาดเล็กและกลางแบบอ้อม ๆ ในขณะที่พวกกิลด์ใหญ่ยังรักษากำลังของผู้เล่นไว้ได้
ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่ากิลด์ขนาดเล็กและกลางจะเสียเปรียบ ถ้าพวกเขาไม่ตายมากเกินไป นอกจากจะรักษากองกำลังความแข็งแกร่งของผู้เล่นในกิลด์ได้แล้ว ยังได้รับทรัพยากรเพิ่มขึ้นในส่วนของกิลด์ใหญ่ด้วย
คำถามคือพวกเขากล้าจะยอมรับเงื่อนไขที่เสี่ยงแบบนี้ไหม
แน่นอนว่าพวกเขายอมรับ เพราะทรัพยากรที่ได้นั้นมีค่าพอให้เสี่ยง
“ข้าเห็นด้วย”
“แน่นอนข้ายินดีส่งผู้เล่นเข้าร่วมสงครามเพิ่มขึ้น”
“ข้าด้วย”
“ข้าก็ไม่มีที่ปัญหากับเงื่อนไขนี้”
...
หลังจากทุกกิลด์ตกลงเรื่องนี้และยอมรับ แต่ในตอนนั้นเองตัวแทนของกิลด์ขนาดเล็กก็ยกมือขึ้นและถามด้วยความสงสัย “เรื่องส่งคนเพิ่มในสงครามที่ป้อมปราการเราเห็นด้วย แต่เรื่องแผนการต่อไปของกองทัพใครจะรับหน้าที่นี้ พวกเจ้าคงไม่ให้กิลด์ของพวกเรารับหน้าที่ทำงานอยู่คนเดียวและพวกเจ้ารอรับผลประโยชน์หรอกใช่ไหม?”
“เรื่องนั้นพวกข้ากิลด์ใหญ่จะจัดการเอง พวกเจ้ารับผิดชอบที่ป้อมปราการตะวันออกก็เพียงพอ” บราเดนรองผู้นำกิลด์กะโหลกแดงก็กล่าวขึ้น
การพูดคุยยังคงดำเนินต่อไป แต่ส่วนใหญ่นั้นเป็นในส่วนของรายละเอียดเท่านั้น ซึ่งผ่านไปราว ๆ ครึ่งชั่วโมงการประชุมก็จบลง ทุกคนรวมทั้งกิลด์ต่าง ๆ ก็แยกย้ายกันไป
รวมทั้งสามกิลด์ใหญ่ด้วย แม้ในการประชุมเมื่อครู่พวกเขาจะเหมือนอยู่ฝ่ายเดียวกัน แต่ที่จริงแล้วทุกอย่างนั้นเกี่ยวกับผลประโยชน์ทั้งนั้น
บราเดนมองไปยังสองตัวแทนของกิลด์มังกรไฟและหัตเทวะ ก่อนจะหันไปกล่าวกับพวกของตน
“ไปกันเถอะ”
หลังจากบราเดนกลับมาถึงที่พักในส่วนของกิลด์ตน เขาก็เข้าไปคุยกับผู้เล่นระดับสูงในกิลด์คนอื่น ๆ ทันที
“พวกเจ้าแน่ใจนะว่ามีคนมาขโมยมันไปจริง ๆ”
“ใช่ ไม่อย่างนั้นมันจะหายไปเฉย ๆ ได้อย่างไร แหวนวงนั้นคือหนึ่งในของที่เราใช้ทรัพยากรของกิลด์จำนวนมากในการแปลกเปลี่ยนมันมาถ้าริชรู้ว่าเราทำหายเขาคงไล่พวกข้าออกจากกิลด์อย่างแน่นอน” บลูโนหนึ่งในเจ็ดรองหัวหน้ากิลด์กะโหลกแดงกล่าว
“บัดซบ เจ้าเฝ้าของอย่างไรถึงได้มีขโมยเข้ามาในค่ายของเราได้”
“ข้าก็ไม่รู้ น่าจะตอนที่ข้านอนเล่นอยู่ มันคงแอบเข้ามาตอนนั้น”
“เจ้าหุบปากไปซะ”
“ไม่เอาน่า เจ้าอ้วน เจ้ามีฉายาว่า บราเดนพ่อค้าความตาย คงมีทางออกจากเรื่องนี้สินะ” บลูโนกล่าวกับบราเดน
“มี ข้าจะไปคุยกับริชเองเจ้าได้ส่งคนไปตามโจรนั้นหรือยัง”
“ส่งไปแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อย ๆ มีร่องรอยมากนัก นอกจากที่รู้ว่าหลังจากขโมยของมันก็ไปที่สนามรบ นอกนั้นก็ไม่มีเบาะแสอีก”
“เจ้าควรจะไปจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง ตามหาให้เจอ ต่อให้โจรนั้นจะตายแล้วก็ต้องไปตามเอาแหวนคืนมา มันคงหล่นอยู่ในสนามรบตรงไหนสักแห่ง” บราเดนกล่าวด้วยท่าทางโมโหท่าทีต่างจากก่อนหน้านี้ลิบลับ
“แล้วเจ้าจะไปไหน? ถึงไม่ช่วยข้าจัดการเรื่องนี้” บลูโนถาม
“อย่างแรกเรื่องนี้เจ้าประมาทเองเจ้าต้องไปแก้ด้วยตนเอง อย่างสองข้าต้องไปจัดการส่งผู้เล่นไปช่วย โคเวิร์ต เจ้านั้นเริ่มลงมือกับกองกำลังสนับสนุนของพวกศัตรูแล้ว”
“เร็วขนาดนี้เลย”
“ใช่แผนการวางเพลิงเริ่มขึ้นแล้ว”
...
หลังจากกายและพวกกลับเข้ามาภายในป้อมปราการตะวันออก เขาก็เห็นว่าภายในป้อมปราการตะวันออกนั้นยังคงวุ่นวายกับการเก็บกวาดสนามรบบนกำแพงอยู่ ซึ่งทหารในป้อมปราการตะวันออกนั้น ไม่ได้มีแค่หน่วยที่ต่อสู้ แต่ยังมีหน่วยสนับสนุนอยู่ด้วย
และพวกที่กายสนใจนั้นก็คือช่างโลหะ ซึ่งทางป้อมปราการก็มีอาจารย์ช่างโลหะอยู่หลายคนคอยประจำและทหารที่ป้อมปราการ
“ท่านหัวหน้าหน่วยทิฟอน หัวหน้ากองพลเกลมีคำสั่งให้ท่านและลูกน้องกลับไปพักผ่อนก่อนขอรับ” พลทหารนายหนึ่งวิ่งมารายงานทิฟอน
“ข้าจะไปรายงานภารกิจกับท่านหัวหน้ากองพลเกลก่อนค่อยพัก” ทิฟอนกล่าวกับทหารนายนั้น ก่อนจะหันไปพูดกับทหารด้านหลัง “พวกเจ้าแยกกันไปพักก่อน และเตรียมตัวให้พร้อมทุกเมื่อถ้าเกิดพวกนครแสงเทวาโจมตีอีก เราต้องออกไปสู้”
“อูโก เจ้าพาทั้งสามไปดูที่พักของตนด้วย” ทิฟอนกล่าวจบก็เดินแยกตัวออกไปทันที
อูโกพยักหน้ารับคำสั่งตามหลังและหันมายิ้มให้กับกายและพวก “เจ้าทั้งสามจะต้องชอบมันแน่นอน ไปกันเถอะ”
...
ด้านเดียวกัน หลังจากเคิร์ตหนีอย่างต่อเนื่องไม่หยุดพัก ในที่สุดพวกเขาก็หนีมาจนถึงมัลทาฟาในเวลาของเที่ยงวัน โดยรอบ ๆ มัลทาฟานั้นยังเต็มไปด้วยผู้เล่นและการต่อสู้ที่เริ่มมีมากขึ้นเรื่อย ๆ
เคิร์ตที่ตอนนี้ไม่มีทางเลือก เขารีบตรงไปหาน้ำและอาหารก่อยเป็นอันดับแรก เพราะรู้ว่าถ้าเขาไม่กินอะไร อีกไม่นานตัวละครของเขาคงเป็นลมไปจริง ๆ
โดยเฉพาะน้ำ เนื่องจากแดดที่นี่นั้นแรงมาก ๆ จนเขาคิดว่าในทุ่งหญ้ากิรานั้นมีแค่ฤดูร้อนเพียง ฤดูเดียว ไม่สิต้องบอกว่ามี 3 ฤดู คือ ร้อน ร้อนมาก ร้อนสุด ๆ
“ข้าขออาหารชุดหนึ่ง น้ำเย็น ๆ เหยือกหนึ่ง” เคิร์ตนั่งลงที่ร้านอาหารของ NPC แห่งหนึ่ง ก่อนจะสั่งอาหาร ซึ่งอาหารที่สั่งต้องจ่ายเงินก่อน ถึงจะมีคนเอามาเสิร์ฟ
เขาควักเอาเงินออกมาจากเสื้อผ้าเปื้อนโคลนส่งให้พยักงานและรอสักพักก็มีอาหารมาเสิร์ฟพร้อมน้ำหนึ่งเหยือก โดยไม่รอช้าเคิร์ตกินมันในทันทีด้วยความหิวโหย เขาไม่สนใจท่าทีที่ผู้เล่นและ NPC รอบตัวจะมองเขาเลยแม้แต่น้อย
ในตอนนะเองก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายเขา
“เฮ้ เจ้าสนใจมาร่วมมือกับข้าไหม” เจ้าของใบหน้าหล่อเหล่าเดินเข้ามานั่งตรงข้ามกับเคิร์ต ก่อนจะเชิดหน้าด้วยความโอ้อวดให้เห็นถึงเกราะและอาวุธที่ใหม่เอี่ยมของตน
เคิร์ตที่อาหารคาปากอยู่เงยหน้ามองด้วยความงุนงง
“ว่าไง ข้ายังขาดคนอยู่ เจ้ามาร่วมทีมกับข้าเป็นยังไง”
“เจ้าเป็นใคร?”
“ข้าออสติน”