WS บทที่ 384 ประตูแห่งปาฏิหาริย์
WS บทที่ 384 ประตูแห่งปาฏิหาริย์
เมื่อได้ยินเสียงของแม่มดซาร่าห์และคนอื่น ๆ เมอร์ลินก็หรี่ตาลงเล็กน้อย เขามองเบื้องหน้าและพบกับไคลส์ผู้ทรยศและเข้าร่วมกับออสมู ตอนนี้เขาได้ปรากฏตัวในป้อมปราการทรายดำ การที่อยู่ ๆ ปรากฏตัวในตอนนี้ มันต้องไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน
ป้อมปราการทรายดำกำลังตกอยู่ในอันตราย!
ถ้าเมอร์ลินคิดเรื่องนี้ได้ คนในองค์กรอื่น ๆ ก็คิดเรื่องนี้ได้เช่นกัน นักเวทย์หลายคนเชื่อมโยงสิ่งนี้กับการสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่องและความผันผวนของธาตุที่ปั่นป่วนที่พวกเขารู้สึกในห้องโถงก่อนหน้านี้ นักเวทย์บางคนถึงกับตัดสินใจออกจากสถานที่แห่งนี้อย่างลับ ๆ
ในฐานะองค์กรขนาดใหญ่ ป้อมปราการทรายดำมีจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่สองคนและนักเวทย์ระดับเก้าหลายคน นอกจากนี้ ที่นี่คือที่ตั้งของป้อมปราการทรายดำ ดังนั้นจึงมีการป้องกันอย่างเข้มงวด เพื่อที่จะบุกเข้าสู่ป้อมปราการทรายดำอย่างโจ่งแจ้ง ทางออสมูคงจะต้องระดมกำลังเข้ามาไม่น้อย
“นักเวทย์จากออสมู พวกแกกล้าดียังไงมาบุกเข้าไปในป้อมปราการทรายดำของฉัน? พวกแกต้องตาย!”
ในสนามประลอง บราตูก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เข้าประชิดตัวไคลส์และคนอื่น ๆ อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเขาก็ยื่นมือออกมาแล้วชี้ไปที่พวกเขา ทันใดนั้น หมอกก็แผ่กระจายไปในอากาศ ก่อตัวเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ที่ดักไคลส์และคนอื่น ๆ ไว้ข้างใน
นี่เป็นคาถาประเภทน้ำระดับสามและรวมเข้ากับพลังปีศาจแพนโดร่า เนื่องจากบราตูเป็นนักเวทย์แห่งป้อมปราการทรายดำ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เขามีพลังปีศาจแพนโดร่าซึ่งมันเป็นคาถาผูกมัด มันถูกรวมเข้ากับคาถาธาตุน้ำของเขาและพลังที่แสดงออกมานั้นค่อนข้างน่าเกรงขาม มันสามารถควบคุมได้กระทั่งนักเวทย์ที่อยู่จุดสูงสุดของระดับหกได้
นี่เป็นหนึ่งในพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของบราตู!
เมื่อเห็นว่าหมอกที่กระจายไปทั่วได้มัดไคลส์และคนอื่น ๆ ไว้ในตาข่ายโดยมีระลอกคลื่นผ่านพวกเขาตลอดเวลา พ่อมดสูงวัยที่มาพร้อมไคลส์พูดด้วยเสียงแหบพร่าว่า
“ไคลส์ นั่นบราตูแห่งป้อมปราการทรายดำเป็นหนึ่งในอัจฉริยะที่น่าทึ่งที่สุดในโลกของนักเวทย์ทางตอนใต้! ก่อนหน้านี้ ทางออสมูต้องการตัวเขาเช่นกันแต่ป้อมปราการทรายดำมีการป้องกันที่เข้มงวดมาก ดังนั้นพวกเราจึงไม่ประสบความสำเร็จ”
“อัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุด?”
ไคลส์ส่ายหัวเบา ๆ และค่อย ๆ เงยศีรษะขึ้น การจ้องมองของเขาดูเหมือนจะทะลุผ่านหมอกและทอดยาวไปทางบราตูในห้องโถง
“จงสั่นไหว!”
เสียงเบา ๆ ดังมาจากไคลส์ พลังงานลึกลับที่มองไม่เห็นดูเหมือนจะเล็ดลอดออกมาจากร่างกายของเขา ทำให้หมอกสั่นสะเทือนเมื่อมันทำให้เกิดวงแหวนระลอกคลื่น
*ซ่า*
ไม่นานนัก หมอกก็หายไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรง คาถาของบราตูถูกทำลายโดยไคส์อย่างง่ายดาย
ดวงตาของบราตูสั่นไหวเล็กน้อย เขาดูประหลาดใจ เขารู้คาถาของตัวเองดีที่สุด มันไม่ง่ายที่จะทำลายอย่างที่เห็นแน่นอนแต่ไคลส์ สามารถปัดเป่ามันได้ด้วยการสะบัดมือเพียงครั้งเดียว เห็นได้ชัดว่าพลังของไคลส์นั้นเหนือกว่าเขามาก
“ไคลส์เป็นพ่อมดจากองค์กรขนาดเล็ก ดินแดนมนต์ดำไม่ใช่หรือ? เขาแข็งแกร่งมากขนาดนี้ได้อย่างไร?”
ใบหน้าของบราตูถึงกับเปลี่ยนสี เขาขมวดคิ้วและกำลังจะก้าวออกถอยหลัง เนื่องจากไคลส์ชี้มาที่เขาจากระยะไกล นี่ดูเหมือนจะเป็นท่าทางที่ไม่มีนัยสำคัญ แต่ทันใดนั้นบราตูรู้สึกถึงภัยคุกคามที่รุนแรง
"จงโกลาหล!"
เสียงของไคลส์เย็นชาราวกับน้ำแข็ง หลังจากที่เขาชี้ไป ระลอกคลื่นก็ก่อตัวขึ้นในอากาศ กระจายไปยังบราตูอย่างรวดเร็ว
บราตูร่ายเวทย์ป้องกันไว้ล่วงหน้า แต่ในขณะนั้น พลังที่มองไม่เห็นดูเหมือนจะโจมตีคาถาป้องกันของเขาจากทุกทิศทุกทางด้วยความแข็งแกร่งที่คาดไม่ถึง เวทย์ป้องกันของเขาคงอยู่เพียงครู่หนึ่งก่อนที่มันจะพังทลาย
*แคร่ก*
บราตูชักสีหน้าที่ไม่ค่อยจะสู้ดี ในขณะที่เขาพยายามจะหนีแต่ก่อนที่เขาจะขยับตัวได้ ร่างกายของเขาก็ดูเหมือนจะโดนโจมตีอย่างหนัก ทันใดนั้น ใบหน้าของเขาแดงก่ำและกระอักเลือด ตามมาด้วยพลังงานของเขาถูกระบายออกไปจนหมด
ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว บราตูได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นที่ทราบกันว่าบราตูสามารถเปรียบเทียบได้กับนักเวทย์ที่อยู่จุดสูงสุดของระดับที่หกซึ่งใกล้เคียงกับนักเวทย์ระดับเจ็ด อย่างไรก็ตาม เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีเพียงครั้งเดียวของไคลส์!
เมอร์ลินเฝ้าสังเกตไคลส์ เขาไม่เหมือนกับแม่มดซาร่าห์, พ่อมดเอนเวียและคนอื่น ๆ เขาไม่เคยพบไคลส์มาก่อน สิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับไคลส์ มันเกิดขึ้นจากคำบอกเล่าปากต่อปากจากนักเวทย์ในดินแดนมนต์ดำ
ถึงกระนั้น เมื่อได้เห็นไคลส์ตัวเป็น ๆ เมอร์ลินก็ตระหนักว่าเขาไม่สามารถเทียบกับไคลส์ได้
“แข็งแกร่งมาก นี่มันพลังอะไรเนี่ย?”
การแสดงออกของเมอร์ลินเคร่งขรึม แม้ว่าเขาจะมั่นใจว่าเขาไม่ได้ด้อยกว่าบราตู เขาสามารถต่อสู้กับบราตูได้อย่างเท่าเทียมกันเท่านั้น เมอร์ลินไม่ได้เป็นเหมือนไคลส์ที่ทำให้บราตูได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
เด็กอัศจรรย์หรี่ตาลง ในทันทีที่เขาเห็นไคลส์โจมตี ดูเหมือนว่าเขาจะได้เห็นบางสิ่งที่เหลือเชื่อและการแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
“มิติ…นี่มันคือพลังของคาถาธาตุมิติ คุณได้สร้างคาถามิติที่หายากแล้วหรือ? ไม่สิ ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาถามิติเท่านั้น คุณได้ฝึกฝนพลังปีศาจแพนโดร่า ใบมีดมิติ ด้วย!”
เด็กอัศจรรย์แสดงสีหน้ามืดมนออกมา ในอดีต ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใคร สีหน้าของเขายังคงสงบ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเผชิญหน้ากับไคลส์ สีหน้าของเขากลับกลายเป็นเคร่งขรึม เด็กอัศจรรย์ผู้รอบรู้อย่างกว้างขวาง เขาสามารถบอกได้ว่าพลังที่ไคลส์ใช้ก่อนหน้านี้คือพลังมิติ
“คาถามิติ? พลังปีศาจแพนโดร่า ใบมีดมิติ?”
เมอร์ลินเหลือบมองไปยังเด็กอัศจรรย์ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าพลังของไคลส์ใช้อะไรแต่เด็กอัศจรรย์มีความรู้อย่างกว้างขวางและไม่น่าจะพลาด
เวทมนตร์ธาตุมิตินั้นยากกว่าเวทมนตร์ธาตุมืด ว่ากันว่านักเวทย์บางคนไม่สามารถสร้างคาถาธาตุแสงด้วยเหตุผลบางประการ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะนักเวทย์คนนั้นสามารถดูดซับพลังธาตุมิติได้ เมื่อดูดซับพลังธาตุมิติ เขาก็สามารถสร้างคาถาธาตุมิติได้
นอกจากนี้ คาถาธาตุมิตินั้นค่อนข้างหายาก จนถึงจุดที่องค์กรขนาดใหญ่บางแห่งไม่มีคาถาธาตุมิติ เห็นได้ชัดว่าเมื่อไคลส์อยู่ในดินแดนมนต์ดำ เขาได้ปกปิดตัวตนของเขาในฐานะนักเวทย์ธาตุมิติโดยซ่อนตัวอยู่ในดินแดนมนต์ดำ
“เป็นไปได้ไหมว่าดินแดนมนต์ดำมีคาถาธาตุมิติ? หรือสิ่งของที่เชื่อมโยงกับการสร้างคาถาธาตุมิติ?”
เมอร์ลินพึมพำด้วยเสียงต่ำ ไคลส์ปกปิดตัวตนของเขาในฐานะนักเวทย์ธาตุมิติ นั่นก็หมายความว่า เขาก็เป็นเหมือนเมอร์ลิน นักเวทย์หกธาตุที่หายาก!
ย้อนกลับไปเมื่อก่อน เมอร์ลินอยู่ในเรือของนิโคล่า เขาได้เห็นคำอธิบายของพลังปีศาจแพนโดร่าแบบพิเศษสองสามอย่างซึ่งหนึ่งในนั้นคือใบมีดมิติ
ใบมีดมิติเป็นเหมือนดวงตาแห่งความมืดซึ่งเป็นพลังปีศาจแพนร่าแบบพิเศษที่มีพลังลึกลับและไม่อาจหยั่งรู้ได้ อย่างไรก็ตาม การฝึกฝนใบมีดมิติมีความต้องการมากกว่าดวงตาแห่งความมืด
ไคลส์ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวแล้วพยักหน้าเล็กน้อย "ถูกตัอง อย่างที่ฉันคาดไว้ เด็กอัศจรรย์สามารถมองใบมีดมิติของฉันออกได้อย่างรวดเร็ว! ฉันได้ยินมาว่าเด็กอัศจรรย์แต่ละคนมีประตูแห่งปาฏิหาริย์ ฉันสงสัยว่าใบมีดมิติของฉันจะสามารถเอาชนะประตูแห่งปาฏิหาริย์ของคุณได้หรือไม่ ฉันหวังว่าจะได้รู้เร็ว ๆ นี้!”
ไคลส์เดินหน้าต่อไป ไม่มีใครอื่นนอกจากเด็กอัศจรรย์ในสายตาของเขา
“ฮึ่ม พ่อมดจากออสมู ช่างเหิมเกริมจริง ๆ ที่นี่คือป้อมปราการทรายดำของฉัน แกไม่มีสิทธิ์มาที่นี่และทำอะไรตามใจชอบได้!”
ในขณะนั้น พ่อมดที่ทำหน้าที่กรรมการสองสามคนจากป้อมปราการทรายดำซึ่งเป็นนักเวทย์ระดับหกก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป พวกเขาก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและทำร่วมกันเพื่อโจมตีไคลส์โดยไม่ลังเล
ความจริงที่ว่าบราตูเพิ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสจากไคลส์ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวไม่ได้ทำให้นักเวทย์ระดับหกระวังตัวน้อยลง
ขณะที่นักเวทย์ระดับหกเหล่านี้ยกมือขึ้น พวกเขาก็ปลดปล่อยคาถาระดับหก พลังเวทย์ระดับหกที่พุ่งทะยานเข้าใส่ไคลส์ด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการโจมตีที่น่าเกรงขาม เวทมนตร์ก็ไม่แพร่กระจายออกไปภายนอกแม้แต่น้อยจึงไม่ส่งผลกระทบต่อพ่อมดคนอื่น ๆ ในห้องโถง นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าการควบคุมเวทมนตร์ของพวกเขานั้นแม่นยำเพียงใด
อย่างไรก็ตาม การแสดงออกของไคลส์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขายื่นมือทั้งสองข้างและพุ่งขึ้นไปในอากาศ
“จงสั่นไหว!”
พลังที่มองไม่เห็นสั่นสะเทือนพลังเวทย์มนตร์จนกว่าพวกเขาจะพังทลายลง มันเป็นความแข็งแกร่งของพลังมิติช่างลึกลับและทรงพลังอย่างแท้จริง
หลังจากเวทย์มนตร์กระจาย สายตาของไคลส์ก็ฉายแววขึ้นอย่างชั่วร้าย จากนั้นเขาก็ยกฝ่ามือขึ้นและผลักไปที่อากาศที่ว่างเปล่าจากระยะไกล
“จงฟาดฟัน!”
*ฉัวะ! ฉัวะ!*
ใบหน้าของพ่อมดระดับหกในห้องโถงแสดงสีหน้าเจ็บปวด ราวกับว่าร่างกายของพวกเขาถูกฟันด้วยใบมีดคมจำนวนนับไม่ถ้วน รอยแผลเป็นลึกเป็นภาพที่น่าสยดสยอง
ทั้งห้องโถงเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นคาวของเลือด ร่างของนักเวทย์บอบบางไม่ต่างจากคนธรรมดา ไคลส์ใช้ใบมีดมิติเพื่อสังหารนักเวทย์ระดับหกในทันทีและยังมีบาดแผลที่น่าสยดสยองเหลืออยู่บนศพ
“แฮ่ก แฮ่ก”
เสียงของพ่อมดที่สูดหายใจเข้าอย่างแรงดังก้องไปทั่วห้องโถง นักเวทย์ระดับหกถือว่าค่อนข้างทรงพลัง เป็นกำลังหลักในองค์กรนักเวทย์ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ไคลส์ได้กำจัดนักเวทย์ระดับหกสองสามคนในคราวเดียว ทำให้พวกที่เหลืออยู่ในห้องโถงสั่นสะท้านด้วยความกลัว
“คุณได้ฝึกฝนรูปแบบที่สามของใบมีดมิติ! คุณกลายเป็นนักเวทย์ระดับสี่แล้ว!”
เด็กอัศจรรย์เปิดเผยความกลัวออกมา เขาไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน ตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงพลังอันตรายของไคลส์แล้ว แม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับนักเวทย์ระดับแปด เขาไม่เคยรู้สึกว่าถูกคุกคามอย่างรุนแรงเช่นนี้มาก่อน
รูปแบบที่สามของพลังปีศาจแพนโดร่านั้นน่ากลัวอย่างยิ่ง พลังของมันเพียงพอที่จะฆ่านักเวทย์ระดับเจ็ดได้อย่างง่ายดาย!
“ระดับสี่? จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ผิด ฉันรอมันมาหลายปีแล้ว ก่อนที่ฉันจะเลื่อนระดับเป็นนักเวทย์ระดับสี่ในที่สุด สุดท้ายสิ่งที่ฉันรอคอยก็ไม่ทำให้ฉันผิดหวัง”
รอยยิ้มอันตรายดึงขึ้นที่มุมปากของไคลส์ เขาผลักมือไปทางเด็กอัศจรรย์ เขาทำวนซ้ำเรื่อบ ๆ และเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุด แขนของเขาก็กลายเป็นภาพเบลอ
“จงสั่นไหว!” ไคลส์ชี้นิ้วชี้ไปที่เด็กอัศจรรย์!
จากนั้น พลังธาตุมิติที่มองไม่เห็นกลายเป็นระลอกคลื่นมากมายราวกับเป็นผืนน้ำและพุ่งเข้าหาเด็กอัศจรรย์
“ประตูแห่งปาฏิหาริย์!”
เด็กอัศจรรย์ไม่กล้าที่จะประมาทอีกต่อไป เขารีบเปิดใช้งานประตูแห่งปาฏิหาริย์ทันที ทันใดนั้น ตรงหน้าเขา ประตูบานใหญ่ที่ส่องแสงสีทองจาง ๆ เริ่มปรากฏขึ้นอย่างช้า ๆ
ประตูถูกแกะสลักด้วยอักษรรูนที่ซับซ้อนและบิดเบี้ยว ดูเหมือนเต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์และลึกลับ