58
Ep.58
‘ระบบ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?’ ฉู่เซวียนเอ่ยถามในใจ สีหน้าเขาตอนนี้เริ่มดูไม่ดี
ปรากฏว่าโจรที่ปล้นรางวัลจากเขา แท้จริงแล้วคืออาวุธของตัวเอง หากไปเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง เกรงว่าคงไม่มีใครเชื่อ
“ข้างในเงาโลหิตที่วิญญาณแฝงตัวอยู่ จึงทำให้อาวุธชิ้นนี้มีจิตสำนึกเป็นของตัวเอง” ระบบตอบกลับมาเบาๆ
‘ว่าอะไรนะ!’ ได้ยินคำนี้ ฉู่เซวียนตกใจ
นี่อาวุธของเขากำลังถูกควบคุมโดยจิตสำนึกอื่นอย่างนั้นหรือ? เรื่องแบบนี้แม้แต่ในนิยายบางเรื่องก็ยังไม่กล้าเขียนเลย
ทว่าไม่นานเขาก็สงบลง เอ่ยถามว่า “ระบบ มีวิธีกำจัดมันไหม?”
“ต้องใช้แต้มยีน 200 หน่วย หรือไม่พลังรบของเจ้าของร่างต้องไปถึงขอบเขตลอร์ด” ระบบตอบกลับ
ได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของ ฉู่เซวียนนิ่งงันไปทันใด ก่อนหัวเราะทั้งน้ำตา “นี่มันเกินไปหน่อยไหม ระบบ ช่วยหาวิธีที่มันเป็นไปได้ให้หน่อยสิ”
“เจ้าของร่างสามารถใช้แต้มยีน 5 หน่วยเพื่อปิดผนึกมันได้” ระบบตอบกลับ
“โอเค เอาตามนั้นเลย”
ทันทีที่ฉู่เซวียนตอบ เขาสัมผัสได้ถึงพลังงานแปลกๆไหลเข้าสู่เงาโลหิต และดูเหมือนว่าจะมีเสียงคำรามด้วยความโกรธของสัตว์บางชนิดดังขึ้น
“ปิดผนึกเสร็จสิ้น เจ้าของสามารถควบคุมมันได้ด้วยตัวเองแล้ว” ระบบตอบกลับ
‘แต่เดี๋ยวก่อน ถ้ามันปิดผนึกแล้ว ฉันจะใช้ทักษะอื่นๆของเงาโลหิตได้ยังไง?’ ฉู่เซวียนนึกในใจ
อย่างไรก็ตาม วิธีการของระบบแฝงไปด้วยความหมายอันลึกซึ้ง ทักษะของมันอาจยังคงอยู่ก็ได้ เขาจึงไม่ถามอะไรเพิ่มเติมอีก
แม้บทสนทนาที่เกิดขึ้นจะดูเหมือนนาน แต่ในความเป็นจริงมันผ่านไปแค่ไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น
“หน้าเขาดูคุ้นๆนะว่าไหม? นึกออกแล้ว! เขาคือเทพมรณะ!” หนึ่งในผู้ใช้พลังกลุ่มทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าคล้ายจดจำหน้าตาเขาได้ เอ่ยขึ้นทันที
เมื่อคนอื่นๆได้ยินเสียงของเขา ทันใดนั้นเกิดความโกลาหลขึ้นในหมู่ผู้ใช้พลัง
“อะไรนะ! เขาคือเทพมรณะงั้นหรอ!”
“เชี่ยเอ๊ย! นั่นไอดอลฉัน! ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอตัวเป็นๆ!”
“เขาคือเทพมรณะที่สามารถต่อสู้กับหวังเทียนป่าแบบตัวต่อตัว ...”
เวลานี้ ฉู่เซวียนได้สติกลับมาอีกครั้ง เมื่อมองไปยังสีหน้าท่าทีตื่นเต้นของเหล่าผู้ใช้พลัง เขาก็อดเกิดความสับสนไม่ได้
ชื่อของเขาโด่งดังขนาดนี้เชียวหรือ? ทำไมดูเหมือนทุกคนจะรู้จักเขามาก่อนเลย
เนื่องจากรู้จักฉู่เซวียน เฉินเฟิงกับเฉินหยุนที่ตามตัวเปื้อนไปด้วยเลือดเดินเข้ามาหาเขา และตามหลังมาด้วยชายอีกคนหนึ่งที่ดูระแวงเล็กน้อย
“สหายฉู่ คิดไม่ถึงเลย ว่าฉันจะได้เจอนายที่นี่” เฉินเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ว่าแต่ตอนนี้ ฉันควรเรียกนายว่าสหายฉู่ หรือเทพมรณะดี?” เฉินหยุนข้างๆแทรกขึ้น กล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าเขา
เจ้าตัวเป็นแฟนตัวยงของเทพมรณะ เมื่อวันก่อนเขารู้สึกเสียใจมากที่ไม่ได้เห็นการต่อสู้ระหว่างเทพมรณะกับปีศาจราตรี
แต่ตอนนี้ เขาได้เจอเทพมรณะตัวเป็นๆแล้ว ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นคนรู้จัก เฉินหยุนรู้สึกตื่นเต้นมาก
“เรียกอะไรก็ได้แล้วแต่นายเลย” ฉู่เซวียนตบไหล่เขา กล่าวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นหันไปมองชายคนสุดท้ายที่ยังไม่ยอมพูดอะไร
ฉู่เซวียนเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า “แล้วนี่คุณคือ ..?”
“อ้อ ฉันขอแนะนำให้รู้จัก นี่คือพี่ใหญ่จางสิง เขาเป็นยอดฝีมืออันดับสองของกลุ่มทหารรับจ้างเรา และกำลังจะตัดผ่านเข้าสู่เลเวล 4” เฉินเฟิงแนะนำ
“สวัสดีสหายฉู่” จางสิงทักทายพลางประสานกำปั้นอย่างเคร่งขรึม “ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ หากไม่ใช่เพราะคุณ น่ากลัวว่ากลุ่มทหารรับจ้างของเราคงปกป้องอาณาเขตของตัวเองไว้ไม่ได้”
ฉู่เซวียนส่ายมือ กล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า “ก็แค่ยื่นมือช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆ อีกอย่าง ผมมีเรื่องบาดหมางกับกลุ่มทหารรับจ้างพยัคฆ์คลั่งอยู่แล้ว”