ตอนที่แล้วบทที่ 43 ระบบความปรารถนา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 45 แชมป์เปี้ยนถือกำเนิด

บทที่ 44 500 แบทเทิลรอยัล


กำลังโหลดไฟล์

ไม่นาน ครึ่งชั่วโมงที่ออกแบบไว้สำหรับการสัมภาษณ์ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว MC พยายามสัมภาษณ์ผู้เล่นให้มากที่สุดเท่าที่ระยะเวลาจะอำนวย

“เอาล่ะ ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ เหลือเวลาเพียง 30 วินาทีก่อนเกมจะเริ่มอย่างเป็นทางการ ผมขอให้คุณทุกคนนับถอยหลังไปพร้อมกับผม เริ่มที่ 10 วินาทีสุดท้าย”

ด้วยความกระตือรือร้น MC ที่โน้มตัวไปข้างหลังพร้อมกับไมโครโฟนที่แนบชิดริมฝีปากของเขา น้ำลายกระเซ็นเปื้อนไมค์สีทอง ถึงกระนั้นเขาก็ไม่สนใจภาพลักษณ์ของเขาและผู้ชมก็ไม่สนใจเช่นกัน

พวกเขาเพียงแค่เงยหน้าขึ้นและให้ความสนใจกับการนับถอยหลังบนหน้าจอใหญ่

กระบวนการนับถอยหลังนี้เป็นหนึ่งในส่วนที่พวกเขาโปรดปรานในเกม เนื่องจากทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเกม

ไม่นานก่อนที่การนับถอยหลังจะถึง 10 วินาทีสุดท้าย ทันทีหลังจากนั้นเวทีอันเงียบสงบก็คำราม คล้ายกับสัตว์ร้ายที่ตื่นจากการหลับใหล ฝูงชนนับถอยหลังอย่างสามัคคี

"10 9 8…3 2 1!"

"เริ่ม!"

MC กางแขนออกกว้างในขณะที่เขาลอยไปที่แท่นของเขาอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน ผู้เล่นจะถูกเคลื่อนย้ายแบบสุ่มไปยังสมรภูมิขนาดใหญ่ที่มีขนาดเท่ากับเกาะฮาวาย

แผนที่มีความหลากหลายอย่างมากเมื่อพูดถึงสิ่งแวดล้อม เนื่องจากมีทะเลทราย ป่า ทะเลสาบ แม่น้ำ ภูเขา ภูเขาไฟ และแม้กระทั่งเวลากลางคืน

มันถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับธาตุของผู้เล่นแต่ละคน เนื่องจากถ้าทั้งแผนที่อิงจากป่า ธาตุพืช ดิน ไม้ และธรรมชาติทั้งหมดจะมีความได้เปรียบเมื่อเทียบกับส่วนที่เหลือ

....

MC ติตัสแตะคางในขณะที่เขาเฝ้าดูโฮโลแกรมขนาดเล็กที่มองไม่เห็นมากกว่า 500 จอ ที่เน้นไปที่ผู้เล่นแต่ละคน ดวงตาของเขาล่องลอยอย่างรวดเร็วจากหน้าจอหนึ่งไปยังอีกหน้าจอหนึ่งโดยไม่กะพริบตาแม้แต่ครั้งเดียว งานยาก ๆ เช่นนี้กำลังถูกเขาจัดการอย่างง่ายดาย

สำหรับคนที่จะสมัครงาน MC ใน SG พวกเขาต้องมีพรสวรรค์ด้านมัลติทาสก์* ไม่งั้นคุณจะไม่สามารถแม้แต่จะสมัครได้ด้วยซ้ำ

(TL: มัลติทาสก์ Multitasking นั้นหมายถึงความสามารถในการทำหลายสิ่งพร้อมกัน เหมือนดังที่คอมพิวเตอร์สามารถประมวลผลหลายโปรแกรมในเวลาเดียวกันได้)

ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความยินดี ขณะที่เขาสังเกตเห็นว่าการต่อสู้กำลังจะเริ่มต้นขึ้น "เราได้การต่อสู้ครั้งแรกแล้ว ท่านผู้ชมที่รัก มาดูไปพร้อมกัน"

เขาเลื่อนหน้าจอเล็กไปทางซ้ายโดยใช้นิ้วชี้ ขณะเดียวกัน หน้าจอขนาดใหญ่ก็แสดงการต่อสู้ที่เขาเพิ่งพูดถึง

เฟลิกซ์ไม่สนใจที่จะเงยหน้ามองการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างผู้เล่น 3 คน เขาเพียงแต่จับจ้องไปที่ Solid Wall ซึ่งกำลังวิ่งไปที่ขอบแผนที่ บางสิ่งที่มีแต่คนงี่เง่าเท่านั้นที่จะทำ เพราะโหมดเกมนี้ใช้พายุไฟเพื่อผลักผู้เล่นให้เข้าใกล้ตรงกลางแผนที่

อย่างไรก็ตาม Solid Wall ไม่ได้แสดงความวิกลจริตในขณะที่เขาวิ่งสู่ขอบแผนที่ ใบหน้าของเขาหยาบกร้านราวกับหินที่มีดวงตาสีเทาขี้เถ้าซึ่งดูเหมือนไร้ชีวิตชีวา ทว่าไม่มีสิ่งใดปิดบังแสงวาบที่อยู่ภายในได้ มันกำลังสะบัดเหมือนเทียนที่ใกล้จะดับ

เฟลิกซ์ยิ้มและปรบมือเมื่อเห็นภาพนี้ด้วยความยินดี เขารู้ว่าการเดิมพันของเขาปลอดภัย เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างโง่เขลาให้กับ 80 ล้าน SC ที่กำลังจะเข้ามา

"ดี!! วอลลี่นี่คือชัยชนะของคุณ!"

ผู้ชมรอบ ๆ ตัวเขาเพียงแค่เหลือบมองมาและเพิกเฉยต่อเขา พวกเขามีผู้เล่นที่ตัวเองเชียร์

....

20 นาทีผ่านไป ขณะที่ผู้เล่นยังคงตายเหมือนแมลงวัน ทุกการต่อสู้จบลงด้วย 2 ผลลัพธ์เท่านั้น มีคนรอดจากการต่อสู้ หรือทุกคนตาย ไม่มีความเมตตาแต่อย่างใด เนื่องจากผู้เล่นไม่สามารถมีมันได้ในโหมดเกมนี้

จนถึงตอนนี้ ผู้เล่นมากกว่า 90 คนกลายเป็นศพ ที่นี่และในชีวิตจริงก็เช่นกัน ทว่าจำนวนมหาศาลนี้เกิดขึ้นก่อนที่แผนที่จะบังคับให้พวกเขารวมตัวกันตรงกลาง

แต่นั่นก็ไม่นาน มีเสียงเตือนดังขึ้นในสนามรบอย่างกะทันหัน มันคล้ายกับสัญญาณเตือนการโจมตีทางอากาศ

'ทริ๊ง!' 'ทริ๊ง'

พิธีกรและผู้ชมรู้ดีว่าเสียงนั้นหมายถึงอะไร ขณะที่พวกเขากำลังจ้องไปที่พายุไฟขนาดยักษ์ ที่ย่อขนาดเป็นวงกลมกว้างรอบขอบเกาะ ความเร็วของมันค่อนข้างช้า แม้แต่คนธรรมดาก็สามารถวิ่งแซงหน้ามันได้

แต่นั่นเป็นที่เข้าใจได้เนื่องจากเหตุผลทั้งหมดของการมีอยู่ของมันคือกดดันให้ผู้เล่นตีวงเข้าไปตรงกลางแผนที่ ไม่ใช่เพื่อฆ่าพวกเขา ถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งนี้ Solid Wall ก็คงไม่คิดที่จะนำแผนของเขามาใช้ที่นี่

MC สะบัดหัวไปทางผู้เล่นที่อยู่ใกล้ขอบที่กำลังวิ่งหนีพายุไฟเพื่อเอาชีวิตรอด เขาเดาะลิ้นกับแผนการของพวกเขาที่จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ให้มากที่สุดโดยซ่อนตัวอยู่ใกล้ขอบและเคลื่อนไหวเมื่อพายุไฟบังคับพวกเขาเท่านั้น

'พวกงี่เง่า'

ในไม่ช้าสายตาที่เหยียดหยามของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความปิติยินดี หลังจากได้เห็นการต่อสู้อย่างต่อเนื่องท่ามกลางการหลบหนี เขาเพ่งเล็งกล้องไปที่มัน และเพิกเฉยต่อขอบซึ่งว่างเปล่าขึ้นทุกวินาที

....

'จะทำจริง ๆ เหรอ ถึงแม้ฉันจะประสบความสำเร็จอย่างปาฏิหาริย์ SGA จะยอมให้ชนะแบบนี้รึเปล่า'

วอลลี่ไม่สามารถรักษาใบหน้าไร้อารมณ์ของเขาไว้ได้นาน ตอนนี้เขากัดเล็บด้วยความประหม่าและมีร่องรอยความกลัวอยู่เต็มใบหน้า

ใครจะตำหนิเขาได้ เขากำลังวางแผนที่จะอยู่ในพายุเพลิงจนกว่าเขาจะได้รับการประกาศให้เป็นผู้รอดชีวิตคนสุดท้าย ถ้าเขาบอกแผนของเขาให้คนอื่นฟัง พวกเขาจะหัวเราะเยาะเขาแน่

เอาชีวิตรอดจนกว่าจะประกาศแชมป์? นี่มันเรื่องตลกบ้าอะไรเนี่ย?

อย่าพูดถึงการเอาชีวิตรอดในพายุไฟเป็นเวลาหลายชั่วโมง เพียงแค่ 10 วินาที ทุกคนก็จะคุกเข่าลงนมัสการ แต่ Solid Wall ไม่ได้พยายามทำสิ่งนี้โดยอาศัยความกล้าหาญเพียงเท่านั้น เขาไม่ได้ขาดสามัญสำนึก

เขาเข้าใจอย่างถี่ถ้วนว่ามีเพียงสายเลือดเต่ากาลาปากอสระดับ 2 ของเขาเท่านั้นที่สามารถให้โอกาสเขาทำแผนนี้ได้ และนั่นเป็นโอกาสเดียวของเขา

ส่วนความเจ็บปวดของร่างกายที่ไหม้เกรียมจากนั้นฟื้นคืนสู่จุดสูงสุด โดยใช้ความสามารถติดตัว 'ฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว' จะรู้สึกได้อย่างต่อเนื่องจนกว่าเขาจะตายหรือจบเกม

คนเดียวที่เข้าใจความเจ็บปวดที่จะเกิดขึ้นของวอลลี่คือตัวเฟลิกซ์เอง เนื่องจากตูดเขาเคยโดนไฟเผาด้วยเทคนิคอันไร้ยางอายของแอสน่ามาก่อน

ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือเฟลิกซ์รู้สึกถูกไฟเผาในที่เดียว ขณะที่วอลลี่จะสัมผัสได้ทั่วทั้งร่างกาย ไม่มีส่วนใดรอดจากการโจมตีของพายุเพลิง จากสมองของเขาไปจนถึงไข่เขา ทุกอย่างอยู่บนเส้นทางของการพังทลายแล้วฟื้นเพื่อพังทลายอีกครั้ง

'ฉันคิดว่ามันดีกว่าที่จะต่อสู้เหมือนคนอื่น ๆ อย่างน้อยถ้าฉันชนะ ก็จะไม่มีใครพูดอะไร'

วอลลี่หายใจถี่ขึ้นเมื่อเขายืนขึ้น วางแผนที่จะก้าวออกจากพายุ เขาอดไม่ได้ที่จะคิดทบทวนเกี่ยวกับแผนของเขา ไม่มีใครตำหนิเขาได้ ไม่มีใครเกลียดเขาเลย ยกเว้นคน ๆ หนึ่ง

เฟลิกซ์ตกใจเมื่อเห็นภาพอันน่าสยดสยองนี้ พ่นเบียร์รดหัวคนที่อยู่ข้างหน้าเขา ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สนใจ ไม่สนใจที่จะอธิบายตัวเอง เขาชี้ไปที่พายุไฟที่อยู่เบื้องหลังวอลลี่ด้วยดวงตาเปื้อนเลือด

“แกทำบ้าอะไรวะ! กลับไปทำตามแผนสิ ไอ้บ้า!”

ผู้ชมคนนั้นไม่ได้บ่นเมื่อเขาเปื้อนเบียร์ เขาแค่ถอยห่างจากคนบ้าคนนี้ และไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับเขา

ในขณะที่เฟลิกซ์กำลังมีความคิดอยากฆ่าตัวตายหลังจากตระหนักว่าเขาเกือบจะสูญเสีย 8 ล้าน SC Solid Wall ก็ก้าวไปข้างหน้าทีละขั้นพร้อมกับความคิดที่ปั่นป่วนอยู่ในใจ

เขาต้องการเร่งความเร็วและวิ่งหนีจากพายุไฟที่อยู่ข้างหลังเขาเพียง 10 เมตร แต่ขาของเขาไม่ตอบสนอง

ไม่นานเขาก็ยอมแพ้ ยอมรับชะตากรรมของเขา แล้วนั่งลงด้วยสีหน้าแน่วแน่และดวงตาเป็นประกายอย่างผ่อนคลาย "นี่ก็เพื่อตัวฉันเอง เพื่อครอบครัวของฉัน เกมนี้ฉันต้องชนะให้ได้! ความเจ็บปวดเป็นเพียงชั่วขณะ แต่แม่จะยิ้มได้ตลอดกาล!'

นั่นเป็นความคิดสุดท้ายที่เขามีก่อนที่เขาจะถูกพายุไฟกลืนกิน

ไม่มีใครเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นหรือมองดูทิศทางของเขา การต่อสู้หลายสิบครั้งเกิดขึ้นรอบแผนที่ ดึงดูดความสนใจของพวกเขา ไม่มีใครเบื่อที่จะเสียตั๋วราคาแพงเพื่อค้นหาคนที่อยู่ในพายุไฟ

คนเดียวที่เฝ้าดูการเกิดของตำนานคือเฟลิกซ์ ที่ปรบมือด้วยรอยยิ้มที่จริงใจและดวงตาชื่นชมอย่างชัดเจน

ความสั่นสะท้านเกิดขึ้นกับเขาตลอด ไม่ว่าเขาจะดูวอลลี่เข้าสู่พายุไฟกี่ครั้งในชีวิตก่อนหน้านี้

ตอนนี้ทั้งความชื่นชมความหลงใหลเหล่านั้น สั่นคลอนไปอีกระดับหนึ่งหลังจากที่ได้เห็นดวงตาตัวเอง

....

พายุไฟย่อขนาดวงกลมทุก ๆ 20 นาที ทำให้ผู้เล่นต้องสร้างพันธมิตร จะดีกว่าเสมอที่จะย้ายไปเป็นฝูง ถึงกระนั้น พันธมิตรเหล่านั้นก็อยู่ได้ไม่นานนักก่อนที่พวกเขาจะถูกทำลายโดยการหักหลังอย่างกะทันหันของสมาชิก

ผู้ชมไม่ว่าจะดูแบบสด ๆ หรือในสตรีมต่างก็ส่งเสียงเชียร์การหักหลังอันน่าทึ่งเหล่านั้น ไม่มีอะไรสนุกไปกว่าการได้เห็นคู่หูสองคนที่เผชิญสถานการณ์ความเป็นและความตายด้วยกัน แต่ท้ายที่สุดกลับทรยศกันเพื่อชิงแชมป์

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกลางแผนที่ ไม่มีใครพูดถึงมุมเล็ก ๆ ของพายุไฟ ที่ซึ่งชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนพื้น ขบกรามแน่นด้วยความเจ็บปวด มีเพียงเฟลิกซ์เท่านั้นที่คอยจับตาดูเขาอยู่

....

2 ชั่วโมงต่อมา

เกมมาถึงจุดไคลแม็กซ์ เนื่องจากมีผู้เล่นเพียง 2 คนที่เหลืออยู่ในวงแหวนขนาดเล็ก ไม่มีทางหนี

“ลีวายส์ ยอมแพ้ซะ ยังไงนายก็สู้ฉันไม่ได้หรอก”

ชายแขนเดียวใบหน้าเปื้อนเลือด ยิ้มอย่างพอใจให้ชายอีกคนหนึ่งซึ่งมีอาการบาดเจ็บแย่กว่าเขา ในสายตาของเขา เขาชนะการต่อสู้นี้แล้ว

“แค่ก ถ้ามีวิธียอมแพ้ คงจะไม่มีศพ 40 ศพนอนอยู่รอบตัวเราตอนนี้หรอกโจชัว” ลีวายส์ใช้มือกดตรงอกของตนเพื่อปิดช่องว่างใกล้หัวใจของเขา อย่างไรก็ตาม เลือดยังคงไหลลงมาตามหน้าอกของเขาอย่างไม่หยุดยั้ง

เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วยกก้อนหินในมือขึ้น ทว่าการกระทำนั้นทำให้เขาสะดุ้งด้วยความเจ็บปวด แต่เขาทำได้เพียงอดทนและจับก้อนหินให้แน่นยิ่งขึ้นเท่านั้น

มีเพียงหนทางเดียวเท่านั้นที่จะทำลายรอยยิ้มที่พอใจของโจชัว

“นี่สำหรับเมอร์ซี่!” เขาพุ่งไปข้างหน้าโดยไม่สนใจสีหน้าดูถูกเหยียดหยามที่เขาได้รับ

“ดูนายสิ ใช้ความสามารถไม่ได้แม้แต่นิดเดียวแต่ยังอยากจะสู้ ตลกจริง ๆ ให้ตายเถอะ”

โจชัวหัวเราะเยาะและชี้นิ้วที่ขาดไปครึ่งหนึ่งไปที่ลีวายส์แล้วพูดเบา ๆ ‘เชือกลม’

พายุทอร์นาโดลูกเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นบนนิ้วของเขา มันเริ่มหมุนอย่างรวดเร็วและควบแน่นจนกลายเป็นสายยาวและแหลมคม มันสั่นไหวทุกครั้งที่นิ้วเขาสั่น

“ลาก่อนลีวายส์ มันเป็นความร่วมมือที่ดีระหว่างเรา”

ลีวายส์ทิ้งหินลงบนพื้นและมีท่าทางหวาดกลัว “เป็นไปไม่ได้ แขนซ้ายนายถูกตัดเพราะนายไม่มีพลังงานเหลือให้ป้องกัน…”

สมองของเขาถูกเจาะโดย 'เชือกลม' โดยทิ้งรูเล็ก ๆ ไว้ที่หน้าผาก เด็กที่น่าสงสารคนนี้ยังพูดคำสุดท้ายไม่จบด้วยซ้ำ

โจชัวรู้สึกเบิกบานเขากำมือแล้วยกขึ้นเหนือศีรษะเพื่อเฉลิมฉลอง “ในที่สุด ความปรารถนาของฉันก็เป็นจริงและแก้แค้นได้ ฉันรอวันนี้มานานแล้ว” น้ำตาปนเลือดไหลอาบแก้มและคางของเขา

"ฉันเสียใจที่ต้องทำลายอนาคตที่สดใสของนาย โจชัว แต่ถึงเวลาแล้วที่จะส่งนายไป" เสียงกระซิบอันเยือกเย็นแทรกซึมเข้าสู่จิตวิญญาณของโจชัว ทว่าก่อนที่เขาจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น หัวเขาก็กลิ้งขึ้นไปบนฟ้า

'ตุบ'

เสียงหัวตกลงบนพื้นดังก้องไปทั่วบริเวณ

ดวงตาของโจชัวจับจ้องไปที่ร่างของลีวายส์ที่เขาเจาะหัวทะลุ ตอนนี้มันได้แตกออกเป็นอนุภาคทรายเล็ก ๆ

‘ความสามารถของธาตุทราย 'ทรายเลียนแบบ’ แกเป็นธาตุคู่ ลีวายส์ เล่นได้ดี...' นั่นคือความคิดสุดท้ายที่แล่นเข้ามาในสมองของเขา

ลีวายส์หมดเรี่ยวแรงและทรุดตัวลงกับพื้น

'ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันฟังคำแนะนำของอาจารย์ และไม่ใช้ทรายจนถึงวินาทีสุดท้าย ถ้าไม่อย่างนั้นฉันคงตายไปแล้ว'

เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก และทันใดนั้นก็ยิ้มอย่างอบอุ่นเมื่อเหลือบมองแหวนสีน้ำเงินบนมือของเขา 'อาจารย์ ในที่สุดผมก็สามารถหาสารยืดอายุที่สามารถเพิ่มอายุอย่างน้อย 2,000 ปีให้คุณได้ มันควรจะมีเวลาเพียงพอจนกว่าคุณจะพบผู้รักษานางฟ้า ที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บที่ซ่อนอยู่ของคุณได้'

โชคไม่ดีที่ฝันกลางวันของเขาพังทลายลง เมื่อเสียงเตือนดังก้องไปทั่วสมรภูมิอย่างซื่อสัตย์

'ทริ๊ง' 'ทริ๊ง'...

พายุไฟเคลื่อนตัวอีกครั้ง

------------------------

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด