ตอนที่แล้วการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 98 สุดยอดข้อเสนอจาก ไคล์ วอเตอร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 100 เริ่มต้นการดวลธนู!!!

การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 99 ข้อตกลงในการเดิมพัน ระหว่างทั้งสองคน


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 99  ข้อตกลงในการเดิมพัน ระหว่างทั้งสองคน

“ท่านเอาจริงงั้นเหรอ?”

น้ำเสียงและใบหน้าของ แฟนทอม เปลี่ยนเป็นจริงจังทันทีหลังจากโดนผมยืนยันซ้ำไปอีกครั้ง สำหรับหมอนี้แล้ว การโดนพูดใส่เช่นนี้คงไม่ต่างอะไรกับการดูถูกนักหรอก ขุนนางที่ยิงธนูไม่เป็นกำลังท้าทายตัวเองผู้เป็นถึงครู่ฝึกยิงธนู ต่อให้เป็นคนฉลาดขนาดไหนก็คงคุมอารมณ์เอาไว้ได้ไม่ง่ายๆ อีกอย่าง ตอนนี้มีเหล่าขุนนางมากมายกำลังมองการสนทนาที่กำลังเกิดขึ้นอยู่จำนวนมาก แฟนทอม คงไม่สามารถปฏิเสธการท้าดวลของผมในครั้งนี้ได้แน่

“ก็ได้ หากท่านอยากลองขนาดนั้นข้าก็ไม่ขัด”

แฟนทอม หันกลับไปด้านหลังแล้วชี้นิ้วออกไป จุดที่หมอนั่นชี้นิ้วออกไปเป็นเป้ายิงธนูรูปตัวคนขนาดไม่ใหญ่มาก ระยะทางหากจากจุดที่ยืนอยู่ประมาณ 500 เมตร ระยะขนาดนั้นถ้าเป็นคนปกติมายิงคงไม่เฉียดเลยด้วยซ้ำ หึหึ! ดูเหมือนหมอนี่ คงจะกำลังพยามทำให้ผมขายหน้าอยู่สินะ

“เป้านั้นข้าจะให้ท่านยิงก่อน หัว 10 ตัว 5 ส่วนอื่นๆ 2 แต้ม พวกเราจะแข่งกับยิงคนละ 3 นัด ถ้าใครได้คะแนนมากกว่าก็จะชนะในการดวลครั้งนี้ …ถ้างั้น!! เชิญท่านแกรนด์ดยุกบอกสิ่งที่ต้องการลงเดิมพันมา”

“หึหึ!”

“ท่านกำลังหัวเราะอะไร???”

เมื่อโดนถามผมก็ชี้นิ้วไปด้านหน้าแบบหมอนั่น แต่ผมชี้ตรงไปยังเป้าที่อยู่ไกลออกไปกว่าเดิมมาก เป้าที่ผมชี้เป็นเป้ารูปคนเหมือนกัน แต่ระยะของมันประมาณ 2000 เมตร ใช่แล้ว! นั่นเป็นระยะที่ไกลที่สุดของโรงฝึกแห่งนี้ และเป็นระยะที่ถ้าไม่ใช่สุดยอดนักธนูจริงๆ คงไม่สามารถยิงถึงได้แน่นอน

แต่ว่า เรื่องแบบนั้นมันก็แค่ก่อนยุคสงครามหายนะแห่งมวลมนุษย์เท่านั้นแหละ เพราะหลังจากเกิดสงครามนั่นขึ้นมา นักธนูที่ยิงได้ห่วยที่สุดในกองทัพก็คือ 2,000 เมตร นั่นเป็นระดับต่ำที่สุดในการของกองทัพธนูในยุคนั้น

“ข้าว่าเป้า 500 เมตร มันน้อยเกินไป เอาเป็นระยะนั้นดีกว่า”

“ทะ ท่านแกรนด์ดยุก ท่านรู้ไหมว่าเป้านั่นมันระยะเท่าไหร่…”

“2000 เมตร เป้านั่นมันไกลที่สุดของโรงฝึกแห่งนี้แล้วไม่ใช่หรือไง?”

“เรื่องนั้นมันก็ใช่… แต่ว่า ท่านมั่นใจหรือไงว่าจะยิงไปโดนมันได้ ข้าบอกอาไว้ก่อนว่าถึงข้าจะไม่แม่นจนขนาดยิงโดนหัวในระยะนั้นได้ แต่ข้าก็สามารถทำแต้มได้แน่นอน ข้าว่าท่านควรคิดใหม่ในเรื่องที่พูดออกมาอีกครั้ง”

สิ่งที่หมอนี่กำลังจะพูดออกมากคือ ‘ข้ายิงโดนแน่ๆ ถึงจะไม่ใช่แต้มสูง แต่ตัวท่านยังไงก็ไม่โดน’ คงกำลังดูถูกผมผ่านคำพูดที่ทำให้ดูดีอยู่นั่นแหละ ทว่า เรื่องยิงระยะ 2000 เมตร หมอนี่ก็ไม่ได้โกหกที่ตัวเองสามารถยิงโดนได้ เพราะในช่วงยุคทองที่ผมเคยเห็นหมอนี่ยิงธนูใส่ศัตรูในสนามรบ ยิงได้ถึง 5000 เมตร ระยะนั่นคือช่วงเวลาอีกเกือบ 20 ปี ต่อจากนี้ ส่วนเรื่อง 2000 เมตร หมอนี่ก็ไม่น่าจะโกหกหรอก เพราะคนแบบ แฟนทอม ไม่ใช่คนที่จะโกหกอะไรออกมาแน่ๆ

อีกอย่าง ระยะขนาดนั้นต่อให้เป็นในจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปแห่งนี้ ก็มีคนยิงได้ไม่ถึง 10 คน เลยด้วยซ้ำ แล้วคนเหล่านั้นส่วนมากก็เป็นแม่ทัพ ผู้บัญชาการหรือนายพลกันหมด แต่ว่า!!

“หรือเจ้ากำลังกลัวอยู่หรือไง?”

“หึ! ท่านอย่าพูดแบบนั้นสิ ข้าพูดไปก็เพราะไม่อยากให้ท่านขายหน้าเท่านั้น”

“เช่นนั้นแปลกว่าเจ้ายอมรับระยะที่ข้าเรียกร้อง ถ้างั้นเรามาพูดถึงเรื่องการเดิมพันกันต่อดีกว่า ในเรื่องการลงเดิมพันข้ายังยืนยันคำเดิมว่าจะบอกให้องค์ จักรพรรดิสวรรค์ เลื่อนยศให้เจ้าขึ้นเป็นไวท์เคาท์ แต่เจ้าต้องชนะข้าเท่านั้นข้าถึงจะทำตามคำพูด ถ้าไม่สามารถชนะได้เจ้าก็จะไม่ได้รับอะไรจากการดวลครั้งนี้”

“ไม่มีปัญหาครับ!”

เรียบร้อย! หลังจากที่หมอนี่ยอมรับการดวลกับผม ก็เท่ากับว่าแผนของผมที่จะทำสำเร็จไปแล้วกว่า 90% หึหึ! สำหรับคนอย่าง แฟนทอม การมอบของรางวัลให้แบบปกติเจ้านี่ไม่ต้องการหรอก ในชาติก่อนก็เหมือนกัน กว่าจะยอมรับตำแหน่งนายพลแห่งจักรวรรดิได้ ผมก็ต้องบีบบังคับเพื่อให้หมอนี่รับตำแหน่งตั้งหลายครั้ง เหอๆ …แต่สำหรับการดวลเช่นนี้ หมอนี่คงยอมรับแบบไม่มีข้อโต้แย้งอะไร

งั้นต่อไปก็เป็นสิ่งที่ผมต้องการ…

“ถ้าเจ้าแพ้ให้กับการดวลครั้งนี้ เจ้าต้องมาทำงานรับใช้งานในกองทัพตระกูล วอเตอร์ เป็นเวลา 10 ปี แต่ว่า ระหว่างที่เจ้าอยู่ในกองทัพของข้า เจ้าไม่จำเป็นต้องละทิ้งยศขุนนางและมอบให้กับลูกตัวเองเพราะเจ้าเพียงทำงานให้ข้าเท่านั้น และตระกูล เอลไฮล์ ยังคงขึ้นตรงต่อราชวงศ์เช่นเดิม ไม่จำเป็นต้องมาอยู่ภายใต้การควบคุมของข้า”

“นั่น….?”

แฟนทอม ทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย มันเป็นเรื่องที่เข้าใจยากนั่นแหละเพราะตระกูล เอลไฮล์ มีอาณาเขตในดินแดนกลางจักรวรรดิและพวกนี้ก็ขึ้นตรงต่อราชวงศ์ แตกต่างจากตระกูลอื่นๆ ที่อยู่ ทางเหนือ ทางใต้ ทางตะวันออกและทางตะวันตก การที่ตระกูลในอาณาเขตกลางของจักรวรรดิมารับใช้แกรนด์ดยุกที่ปกครองทางเหนือเช่นนี้ มันเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

อีกอย่าง เรื่องนี้ราชวงศ์ก็คงไม่ปล่อยผ่านไปง่ายๆ ทว่า ผมก็ได้เตรียมแผนรับมือเรื่องนั้นเอาไว้แล้ว เพราะงั้นการเอาหมอนี่เข้ามาในกองทัพเพื่อสร้าง กองพลหน้าไม้ มันจะไม่มีปัญหาอะไรตามมาแน่นอน

“เรื่องของราชวงศ์เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะข้าสามารถจัดการได้”

“เรื่องนั้นข้าเข้าใจท่าน ท่านแกรนด์ดยุก แต่ว่าในระยะเวลาสิบปีท่านจะสั่งข้าไปให้ทำอะไร ข้าเป็นเพียงขุนนางยศบารอนเท่านั้น ตระกูลของข้าเองก็ไม่ได้มีอำนาจอะไรมากมายให้ท่านดะ-”

“ข้าจำไม่ได้ว่าอนุญาตให้เจ้าตั้งคำถามเมื่อไหร่?!”

“คือ…”

แฟนทอม เริ่มแสดงใบหน้าเป็นกังวลเล็กน้อย แต่มันเป็นเรื่องปกติที่หมอนี่ต้องเป็นกังวล ตระกูล เอลไฮล์ ตระกูลนี้ก็เป็นเพียงตระกูลบารอนยากจนกันเท่านั้น ถึงไม่ได้จนมากขนาดจนทำให้ตระกูลต้องโดนทำลายไป ทว่า พวกนี้ก็ไม่ได้มีอำนาจทางทหารหรืออำนาจการเงินเลยสักอย่าง ถ้าตระกูลตัวเองเป็นแบบตระกูล ไอร์แลนด์ ที่เป็นเจ้าของร้านม้าเหล็กดำและครอบครองทรัพย์สมบัติจำนวนมาก หมอนี่ก็คงไม่ถามออกมาหรอก

สมบัติไม่มี!

ทหารไม่มี!

อำนาจไม่มี!

ตระกูล เอลไฮล์ ในตอนนี้ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง การที่เป็นจุดสนใจของแกรนด์ดยุกแบบผมคงเป็นเรื่องที่แปลกมาก แต่ตอนนี้ไม่มีใครรู้หรอกว่าชายที่ชื่อ แฟนทอม เอลไฮล์ ในอนาคต ชายคนนี้จะมีความสำคัญยิ่งใหญ่ขนาดไหนต่อมวลมนุษย์ อีกอย่าง ถ้าได้หมอนี่ไปฝึกให้กองพลหน้าไม้ที่ผมกำลังจะสร้างขึ้นมา กองพลหน้าไม้คงสามารถเป็นรูปเป็นร่างได้ในระยะเวลาอันสั้น แล้วเรื่องอานุภาพการทำลายก็คงไม่ต้องพูดถึง

หลังจากที่บรรยากาศถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบสักพัก ผมก็พูดออกไปอีก

“ตอนนี้เจ้าแค่ตอบมาว่าตกลงจะเดิมพันหรือไม่ การที่เจ้าถามออกมาแบบเมื่อกี้มันก็แปลว่าเจ้ายอมรับควาพ่ายแพ้แล้วชัดๆ อีกอย่าง ข้าให้สัญญาว่าจะไม่ทำให้ตระกูลของเจ้าเดือดร้อนในเรื่องนี้แน่นอน”

แฟนทอม เงียบเพื่อทำหน้าคิดสักพัก แต่ไม่นานก็ตอบออกมา

“ตกลง! การที่ท่านมอบรางวัลให้ข้าเช่นนี้ข้าจะปฏิเสธได้ยังไง”

“อืม! เช่นนั้นเจ้าเชิญก่อนเลย กติกาแบบเจ้าบอกมาเมื่อครู่ ยิงคนละ 3 ลูก ถ้าใครได้แต้มเยอะกว่าก็เป็นฝ่ายชนะในครั้งนี้ ส่วนเรื่องที่ข้าสัญญาเอาไว้เจ้าก็ไม่ต้องห่วง เพราะขุนนางและครูฝึกจำนวนมากในห้องนี้จะเป็นพยานให้กับการดวลของเราทั้งสองเอง”

“…ครับ”

หลังจากตกลงกันเรียบร้อย แฟนทอม ก็เริ่มการตั้งท่ายิงทันที หมอนั่นค่อยๆง้างธนูที่อยู่ในมืออย่างช้าๆ จากนั้นก็หลับตาลงหนึ่งข้างเพื่อเล็งเป้าหมายด้านหน้า ท่าหลับตาลงหนึ่งข้างแบบนี้เป็นเอกลักษณ์ของหมอนี่นั่นแหละ แต่สำหรับผม ผมคิดว่าการทำแบบนั้นมันไม่ได้ช่วยอะไรมากเลย

ระหว่างที่ แฟนทอม กำลังเล็งเป้าอยู่นั้น บรรยากาศรอบตัวของหมอนั้นก็หนักอึ้งขึ้นมาทันที ต่อให้เป็นคนธรรมดาที่ไม่รู้วิธีการยิงธนูมาเห็นภาพในตอนนี้ ผมเชื่อว่าคนที่มาเห็นต้องรู้แน่นอนว่าท่าทางของ แฟนทอม ดีขนาดไหนในการตั้งท่ายิงอยู่

ระหว่างตั้งท่าอยู่ลูกธนูของ แฟนทอม ก็เปล่งแสงสีเหลืองอ่อนๆ ออกมาเรื่อยๆ สิ่งที่หมอนั่นกำลังทำอยู่มันมีชื่อเรียกว่า ศรลมปราณ!

วิธีการทำแบบนั้นมันจะสร้างความรุนแรงให้กับศรยิ่งออกไปอย่างมหาศาลกว่าเดิมหลายเท่า แต่ว่า ถ้าระดับพลังบ่มเพราะไม่ถึง ระดับราชาแท้จริง ก็ไม่สามารถใช้มันได้ แล้วก็แน่นอน เหล่าทหารในกองทัพส่วนมากถ้าไม่ใช้กองอัศวินหลวงขององค์ จักรพรรดิสวรรค์ ไม่มีพลังถึงระดับนั่นกันแน่ อีกอย่าง วิธีแบบนี้มันยังเสียลมปราณจำนวนมากแต่ละครั้งในการยิงมันออกไป เพราะงั้นถึงมันจะรุนแรงในการโจมตีแต่ละครั้งมากก็จริง แต่มันก็ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าไหร่นัก

หึหึ!  ถ้าเกิดผมยิงศรลมปราณในรูปแบบปรับปรุงแล้วออกไปให้ดู อยากรู้จริงๆ ว่าหมอนี่จะทำหน้าแบบไหนออกมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด