การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 92 เริ่มต้นการประมูลอันดุเดือด
ตอนที่ 92 เริ่มต้นการประมูลอันดุเดือด
ตุ๊บ!
ตุ๊บ!
ตุ๊บ!
เสียงชุดเกราะเหล็กกระทบกันดังขึ้นทันทีหลังจากการส่งสัญญาณของ ซาอุส ในเวลานี้ ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ในห้องโถงก็เงียบลง บนเวทีประมูลนอกจาก ซาอุส ที่ยืนอยู่ ก็ปรากฏร่างของอัศวินสวมชุดเกราะหนักที่เป็นอัศวินของตระกูล วอเตอร์ หลายสิบคนเดินขึ้นมา ไอพลังความเกรงขามของอัศวินเหล่านั้นทำให้ทั้งห้องตกสู่ความเงียบในทันที
ระดับราชาแท้จริง!
ใช่แล้ว! พวกอัศวินที่ยืนอยู่บนเวทีตอนนี้เป็นอัศวินตระกูลของผมที่มีพลังบ่มเพาะ ระดับราชาแท้จริง กันทั้งหมดทุกคน ถึงพวกนั้นจะพลังไม่สู้มากแต่ก็เป็นทหารที่ผ่านการต่อสู้มาอย่างยาวนานในอาณาเขตทางเหนือ และเมื่อไม่นานมานี้ผมก็พึ่งแต่งตั้งให้คนเหล่านั้นเป็น หัวหน้าหน่วยอัศวินย่อยแห่งตระกูล วอเตอร์
พูดง่ายๆ คนเหล่านั้นคือพวกหัวกะทิที่คัดมาจากอัศวิน 1000 คน ที่ไว้ใจได้เมื่อหลายเดือนก่อน และคนเหล่านั้นก็ได้กลับไปฝึกที่เส้นทะเลลมปราณต่อทันทีเมื่อผมจัดการเรื่องการฟ้องร้องเรียบร้อย แล้วตอนนี้ผมก็เรียบพวกนั้นกลับมา เพื่อเพราะงานในครั้งนี้โดยเฉพาะ หึหึ!
“พวกนั้นสุดยอดกันจริงๆ เพียงเวลาไม่นานบางคนก็บ่มเพาะไปถึง ระดับราชาแท้จริง ขั้นที่ 4 – 5”
“เรื่องนั้นต้องขอบคุณท่านนั่นแหละครับ อัศวินเหล่านั้น ถ้าไม่ได้โอสถและทรัพยากรจำนวนมากจากท่าน พวกนั้นคงไม่มีทางไปถึงระดับราชาแท้จริง ได้ในเวลาอันสั้นแบบนี้แน่นอน และผลจากการสนับสนุนของท่าน คนเหล่านั้นก็ได้ติดยศอัศวินกันหมดแล้ว”
ไคเซอร์ ตอบรับคำถามที่ผมถามออกไปด้วยน้ำเสียงมีความสุข ตอนนี้ พวกนั้นได้เป็นอัศวินกันหมดแล้วจริงๆ เพราะตามกฎที่ผมได้ตั้งเอาไว้ ถ้าทหารคนไหนระดับบ่มเพราะเข้า ระดับราชาแท้จริง กันได้ คนคนนั้นก็จะได้ติดยศอัศวินกันทันที พร้อมมอบที่ดินให้เพื่อนำครอบครัวมาอยู่อาศัย และพอได้เป็นอัศวินแบบนั้นแล้ว ตำแหน่งในกองทัพเองก็จะสูงด้วยเช่นกัน
วิธีแบบนั้นเป็นแรงกระตุ้นให้เหล่าทหารฝึกกันอย่างดี หึหึ! ถึงอัศวินจะไม่ได้แต่งตั้งขึ้นมากันง่ายๆ แต่ว่า สำหรับตระกูล วอเตอร์ การแต่งตั้งอัศวินก็ไม่มีใครกล้ามีปัญหากันหรอก แต่
“ข้ารู้สึกขัดใจกับชื่อหน่วยอัศวินจริงๆ”
“ชื่อที่ท่านตั้งให้พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติมากแล้วครับ”
“นั่นมันก็ใช่นั่นแหละ แต่ข้าคิดว่าเอาไว้ว่างๆ จะลองเปลี่ยนสักหน่อยแล้วกัน เพราะในอนาคตต้องมีอีกหลายหน่วยที่โดนตั้งขึ้นมา เพื่อมารับใช้ตระกูล วอเตอร์ หน่วยที่ไว้ใจได้ที่สุดของตระกูล วอเตอร์ พวกนั้นก็ต้องมีชื่อเป็นเกียรติมากกว่านี้ เอาไว้เจ้าลองไปถามหน่อยแล้วกันว่าใครอยากได้ชื่ออะไรบ้าง?”
“ครับ… ข้าจะไปถามเหล่าอัศวินให้”
คุยจบผมก็มองลงไปที่เวทีประมูลอีกครั้ง ด้วยการปรากฏตัวของอัศวินพลังบ่มเพาะ ระดับราชาแท้จริง หลายคนในงานประมูล ก็เริ่มแสดงสีหน้าซีดกันออกมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่แปลก เพราะด้วยพลังระดับนั้นสามารถไปเป็นครึ่งขั้นนายพลกันได้แล้ว แถมจำนวนยังมีหลายสิบคนเช่นนั้นอีก มันใช่เรื่องแปลกที่ผู้คนในห้องโถงจะแสดงความกังวลออกมาแบบนั้น แต่ว่า การปรากฏตัวของอัศวินเหล่านั้นไม่ใช่เพื่อการต่อสู้กันหรอก หึหึ!
เงียบได้สักพัก ซาอุส เดอุส ก็ก้าวออกมาด้านหน้าด้วยรอยยิ้ม
“ช้าเชื่อว่าทุกท่านที่เดินทางมายังโรงประมูลแห่งนี้มีทั้งตระกูลเล็ก และตระกูลใหญ่ หรือขนาดราชวงศ์เองก็เดินทางมาด้วยเช่นกัน เพราะงั้น ท่านแกรนด์ดยุก วอเตอร์ เลยเล็งเห็นความปลอดภัยของลูกค้าตัวเองเป็นอันดับแรก ในการประมูลครั้งนี้ เพราะแบบนั้น ทุกท่านไม่ต้องกังวลว่าหลังจากประมูลไปแล้วจะโดนปล้นหรือโดนตระกูลอื่นๆ ใช้กำลังบังคับเพื่อเอาสินค้าจากตัวเองไป ”
ซาอุส หันกลับไปทางด้านหลัง
“หลังจากพวกท่านประมูลไป อัศวินของตระกูล วอเตอร์ เหล่านี้ จะเดินทางไปส่งท่านถึงอาณาเขตของพวกท่านแน่นอน เพราะแบบนั้น! ทุกท่านไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องความปลอดภัยของตัวเอง และสามารถประมูลกันได้อย่างเต็มที่แบบไร้ต้องกังวล เพราะถ้าพวกโจรหรือพวกที่คิดจะเป็นโจร ถ้าเกิดพวกมันยังมีสมองกันอยู่ พวกมันก็คงไม่ทำอะไรกับเหล่าอัศวินจากตระกูล วอเตอร์ แน่นอน!!”
ใบหน้าทุกคนในห้องโถงเริ่มเปลี่ยนไปกันอีกครั้ง ข้อเสนอครั้งนี้นับว่าไม่เคยมีก่อนไม่ว่าจะเป็นโรงประมูลที่ไหน แล้วก็แน่นอน ที่พอผู้ประมูลได้ของไปก็จะโดนปล้นกันบ่อยๆ เพราะเรื่องแบบนั้น ข้อเสนอที่ผมเสนอให้ไปคงทำให้ตระกูลขนาดเล็ก หรือพวกพ่อค้าที่ไม่มีกำลังทหารเข้าร่วมการประมูลกันแน่นอน หึหึ! แต่แผนจริงๆ ในการเอาอัศวินพวกนี้ออกมาไม่ใช่การคุ้มกันหรอก แต่ว่า มันคือการโชว์กำลังทหารที่ตอนนี้ตระกูล วอเตอร์ มีอยู่ในมือต่างหาก
กำลังรบระดับนั้น ต่อให้เป็นตระกูล แกรนด์ดยุก เจสเปอร์ หรือ ลาเชีย ถ้าพวกมันต้องการปล้นก็ยังต้องคิดแล้วคิดอีก ไม่ต้องไปพูดถึงกลุ่มโจรหรือขุนนางธรรมดาทั่วไปเลย …เท่ากับว่า การเอาอัศวินออกมาครั้งนี้ ผมได้ทั้งความเชื่อใจจากผู้มาประมูล และได้แสดงพลังอำนาจทางการทหารต่อคนที่คิดจะเป็นศัตรูในอนาคต หึหึ!
หลังจากที่ ซาอุส พูดจบ เหล่าอัศวินทั้งหมดก็ลงไปจากเวที จากนั้นหมอนั่นก็แนะนำวิธีการประมูลอีกนิดหน่อยแล้วการประมูลก็เริ่มขึ้น และของชิ้นแรกที่เอาขึ้นมาประมูลตอนนี้ก็คือ ช็อกโกแลต! บนเวทีประมูลได้มีกล่องใส่ช็อกโกแลตขนาดใหญ่ตั้งอยู่ข้างๆ กับตัวของ ซาอุส ในนั้นมีช็อกโกแลตอยู่ประมาณ 100 ชิ้น
“เอาละครับ ก่อนจะเริ่มการประมูลอาวุธจากแร่เหล็กสวรรค์ ข้าจะเริ่มจากการประมูลช็อกโกแลตกันก่อน ซึ่ง!! ช็อกโกแลตที่มีมาเข้าประมูลในวันนี้มีทั้งหมด 10 ชุด ชุดละ 100 ชิ้น ราคาข้าจะขอเริ่มที่ 1,000 เหรียญทองต่อจำนวน 100 ชิ้น ผู้ประมูลสามารถประมูลเพิ่มมาได้ไม่จำกัด ”
“แต่ว่า ราคาที่ประมูลราคาสุดจะเป็นราคาการประมูลชุดต่อไปทันที ขอให้ทุกท่านคิดถึงข้อนี้เอาไว้ด้วย และข้าหวังว่าพวกท่านจะไม่ทำให้ราคามันสูงมากจนเกินไป”
เหอๆ หมอนั่นเล่นหนักกว่าที่ผมคิดเอาไว้สะอีก ‘ราคาประมูลล่าสุดจะเป็นราคาประมูลชุดต่อไป’ แบบนั้นถึงราคาเปิดของมันกองแลกจะแค่ 1,000 เหรียญทอง ซึ่งต่ำกว่าราคาที่คิดเอาไว้หลายเท่า แต่ว่า กองที่ 2 กองที่ 3 กองที่ 4 ไปจนถึงกองที่ 10 ราคามันคงไม่ใช่น้อยๆ แล้วเมื่อเป็นแบบนั้นก็ไม่ใช่ความผิดของโรงประมูลที่ขายของในราคาแพง แต่ว่า เป็นความผิดของผู้ประมูลที่ดันราคาขึ้นกันเอง หึหึ
“เอาละครับ ถ้างั้นข้าเริ่มเปิดที่ราคา 1,000 เหรียญทอง เชิญเสนอราคาได้”
“1,500”
“2,000”
“3,700”
เมื่อทาง ซาอุส บอกเริ่มการประมูลขึ้น การเสนอราคาจากพวกที่นั่งอยู่ในห้องโถงก็ดังขึ้นมาทันที ทว่า พวกที่กำลังเสนอราคาออกมาตอนนี้มันเป็นเพียงพวกพ่อค้าจากจักรวรรดิ และจากประเทศอื่นๆ กันเท่านั้น เหล่าตระกูลขุนนางยังคงนั่งเงียบไม่มีใครเสนอราคาออกมา
ถ้ามองแบบง่ายๆ พวกขุนนางคงไม่อยากไปสู้กับพวกพ่อค้า เพราะรู้ตัวดีว่าตัวเองคงสู้เม็ดเงินของเหล่าพ่อค้าที่กำลังเสนอราคาไม่ได้แน่ๆ แต่ว่า มันไม่ใช่แบบนั้นเลย ในตอนแรก พวกขุนนางอาจจะมาเพื่อซื้อช็อกโกแลตไปทำกำไรกันก็จริง แต่ว่า หลังจากที่ทางโรงประมูลประกาศถึงเรื่องคุ้มกันขึ้นมาแบบนี้ มันก็ทำให้พวกนั้นคงไม่มีความคิดที่จะซื้อช็อกโกแลตกันแล้ว หึหึ! อาวุธจากแร่เหล็กสวรรค์! ถ้าใครได้มันไปต้องสร้างชื่อเสียงอย่างมากให้กับตระกูลตัวเองแน่นอน ไม่แปลกที่ขุนนางเหล่านั้นจะตัดสินใจเช่นนี้
“10,000 เหรียญทอง!!!”
เสียงหนึ่งดังขึ้นระหว่างการเสนอราคาอย่างดุเดือด พอมองไปตามเสียงก็พบกับผู้หญิงในห้อง Vip เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมาก และมีอัศวินร่างยักษ์สองคนยืนด้านข้างของเธอ แถมอัศวินด้านข้างของเธอยังมีพลังบ่มเพาะ ระดับจักรพรรดิ ทั้งสองคน มีคนพลังระดับนั้นปกป้อง มันก็ไม่ต้องคิดเลยว่าเธอต้องเป็นองค์หญิงของประเทศไหนแน่นอน …เอาองค์หญิงจากประเทศอื่นเข้าร่วมได้แบบนี้ เส้นสายของ ซาอุส มันคงใหญ่ไม่ใช่เล่นๆ
“องค์หญิง เวโรนิก้า จากประเทศ ไวช์เฮ้าส์ เสอนราคามา 10,000 เหรียญทองครับ”
ซาอุส ตอบรับเสียงที่ดังขึ้นจากห้อง Vip ทันที ด้วยใบหน้าปั้นยิ้มจากการเสนอราคาขององค์หญิงคนนั้น ทว่า ก็มีอีกเสียงจากห้อง Vip อีกห้องตะโกนขึ้นแบบฉับพลันอีกเช่นกัน
“ตระกูล กริฟฟอน 15,000 เหรียญทอง!!!”
หลังจากการเสนอราคาของ อิเลน่า กริฟฟอน สีหน้าขององค์หญิง เวโรนิก้า จากสงบนิ่งก็แสดงความไม่พอใจออกมาชัดเจน ใบหน้าสวยงามของเธอค่อยๆ เต็มไปด้วยอารมณ์โมโหปรากฏออกมา แต่เรื่องแบบนั้นมันก็ไม่แปลกหรอก ถ้าเจอเสนอราคาตัดหน้าแบบฉับพลันขนาดนี้ เป็นผมก็คงโมโหเหมือนกัน การทำแบบนี้ทั้งๆ ที่ผู้ดูแลการประมูลบอกว่าตัวเธอเป็นองค์หญิง มันเป็นการหยามหน้าเธอชัดๆ หึหึ!
แต่ว่า อิเลน่า กริฟฟอน ก็ไม่ใช่พวกที่จะทำอะไรไร้เหตุผลเช่นนั้นหรอก ส่วนเหตุผลที่เธอตัดราคาขององค์หญิง เวโรนิก้า แบบนั้น มันก็เป็นเพราะว่า…