การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 82 รากฐานในอนาคต
ตอนที่ 82 รากฐานในอนาคต
“ก็อย่างที่ข้าบอกไปว่าข้าจะไม่ลดขนาดเดิมพันที่ข้าพูดไปแล้วแน่นอน แต่ว่า ข้าจะให้เจ้าจ่ายเป็นอย่างอื่นแทนเมื่อเจ้าแพ้การลงเดิมพันในครั้งนี้ 10 ปี! ข้าต้องการให้เจ้าทำงานให้ข้าเป็นเวลาสิบปี หลังจากนั้นเจ้าจะเป็นอิสระไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับข้าอีก และถ้ายอมรับเงื่อนไขนี้เจ้าก็ไม่ต้องใช้เงินของเจ้ามาลงเดิมพันสักเหรียญเดียว!!”
“นะ นั่นมันบ้าไปแล้ว ท่านแกรนด์ดยุกตกลงเดิมพันแบบนั้นได้ยังไง ถึงจะทำงานให้ 10 ปี แต่คงได้ผลประโยชน์ไม่เท่าเงินจำนวน 170 ล้านเหรียญทอง หรอก”
“ใช่! ถ้าแพ้ครั้งนี้บารอน ไอร์แลนด์ แทบไม่เสียอะไรเลย”
“ท่านแกรนด์ดยุกกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ การทำแบบนี้มัน…”
เหล่าขุนนางพากันพูดออกมาหลังผมบอกข้อเสนอของตัวเองไป แต่ว่า ครั้งนี้มันไม่ใช่เสียงซุบซิบกันแบบครั้งที่แล้ว แต่มันเป็นเสียงพูดออกมาแบบเสียงปกติเพื่อให้ผมได้ยินด้วย เงื่อนไขที่ผมเสนอไปถ้าคิดตามปกติแล้วผมก็เสียเปรียบนั่นแหละ ทำงานให้! ความหมายของมันคือให้บารอน ไอร์แลนด์ มาทำงานให้เท่านั้น ผมไม่ได้มีสิทธิ์ในสมบัติของตระกูล ไอร์แลนด์ เลยแม้แต่น้อย เท่ากับว่า สิ่งที่ผมจะได้จากตระกูล ไอร์แลนด์ มันไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับตระกูล กริฟฟอน ที่ปกครองอยู่เลยสักอย่าง ที่ผมต้องการมีแค่ตัวเท่านั้น
แต่ว่า เพียงได้ตัวหมอนี่มาทำงานให้มันก็มากเกินพอแล้ว หลังจากนี้เรื่องผลิตอาวุธจะเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในแผนต่อไปของผม ถ้าใช้เพียงช่างตีเหล็ก 100 คน คงไม่สามารถตีดาบหรือเกาะให้ทหารนับล้านหรือสิบล้านคนได้ เพราะแบบนั้น การได้บารอน ไอร์แลนด์ ที่ถนัดในเรื่องพวกนี้มาทำงานให้ถือว่าคุ้มค่ามากสุดๆ สิบปีก็คือเวลาพวกเผ่าเทพและเผ่าปีศาจบุกมาพอดี หลังจากตอนนั้นบารอน ไอร์แลนด์ คงต้องทำงานให้ผมต่อแบบไม่มีทางเลือก
“ท่านเอาจริงเหรอท่านแกรนด์ดยุก ให้ข้ารับใช้ท่าน 10 ปี แถมยังเป็นแค่ท่านไม่ใช่รับใช้ตระกูล วอเตอร์”
“สมแล้วที่เป็นเจ้าของร้านตีเหล็กม้าดำ เจ้าเข้าใจถูกต้องแล้ว 10 ปี เจ้าจะรับคำสั่งจากข้าคนเดียวเท่านั้น และเจ้าก็ต้องให้ลูกชายของเจ้าปกครองอาณาเขตแทนไปก่อน”
ระหว่างตอบผมก็หันไปทาง อิเลน่า กริฟฟอน ที่กำลังยืนสังเกตการณ์อยู่ไกลๆ
“ข้าทำแบบนี้ตระกูล กริฟฟอน คงไม่มีปัญหาอะไรใช่หรือไม่?”
อิเลน่า กริฟฟอน ส่ายหน้าไปมาเล็กน้อยด้วยรอยยิ้ม
“เรื่องนั้นมันไม่เกี่ยวอะไรกับตระกูลของข้า หากตัวบารอน ไอร์แลนด์ ยอมยกอำนาจในการดูแลตระกูลให้กับลูกชายของตัวเองแบบที่ท่านว่ามา ข้าก็ไม่มีสิทธิ์ไปขัดอะไร”
อิเลน่า กริฟฟอน พูดออกมาด้วยน้ำเสียงปกติไม่ได้แสดงถึงความโกรธและไม่พอใจอะไรออกมา แต่ว่า นั่นมันเป็นเพียงฉากหน้าของเธอเท่านั้นแหละ เธอคงกำลังโกรธสุดๆ อยู่ต่างหากถ้าวัดจากอารมณ์เมื่อชาติก่อนที่ผมรู้จักเธอ
แต่วิธีพูดแบบนั้นของเธอแบบนี้ก็นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ดี ตระกูล ไอร์แลนด์ ตระกูลนี้มีกำลังทรัพย์มหาศาลจากการค้าขายในเมืองหลวงและน่าจะสร้างความบาดหมางพอสมควรกับตระกูล กริฟฟอน ให้เปรียบง่ายๆ ตระกูล ไอร์แลนด์ ก็เหมือนกับงูและบารอน ไอร์แลนด์ คนที่อยู่ด้านหน้าของผมตอนนี้ก็เปรียบเหมือนกับหัวงู การกำจัดหัวงูให้ออกจากตัวมันก็มีประโยชน์กับตระกูล กริฟฟอน เช่นกัน
“เช่นนั้น ข้าก็ขอบคุณเจ้ามากที่ยอมได้”
ผมหันกลับมาหาบารอน ไอร์แลนด์ อีกครั้ง
“ว่าไง! ตระกูล กริฟฟอน ก็ยอมตกลงในเรื่องนี้แล้วเจ้าไม่ต้องกังวลเพราะเลดี้ตระกูล กริฟฟอน คงไม่ทำผิดคำพูดของตัวเองแน่นอน และเมื่อข้าบอกขนาดนี้เจ้าไม่ยอมรับละก็ ข้าเองก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องมาดวลดาบกับพวกเจ้ากันหรอก”
“….ครับ เอาแบบนั้นก็ได้”
เรียบร้อย! ผลการประลองครั้งนี้มันออกมาตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มอยู่แล้ว การที่ได้ตัวบารอน ไอร์แลนด์ มาช่วยในเรื่องการผลิตอาวุธส่งให้กองทัพ ก็นับว่าคุ้มค่าอย่างมากในการดวลดาบในครั้งนี้ ตอนแรกผมคิดว่าหมอนี่จะเสนออะไรออกมาเพื่อสร้างความได้เปรียบให้ตัวเอง แต่เมื่อไม่เสนออะไรออกมาก็ดี เพราะถึงจะเสนออะไรออกมาถ้าไม่ชนะมันก็เท่ากับว่าเสียเวลาเปล่าๆ …ย่นเวลาลงไปได้เยอะ
“เช่นนั้นก็ตกลง …อลิส!”
“ค่ะ?” ?_?
“น้องเอาดาบที่พี่ให้ก่อนเข้างานออกมา แล้วเอามาดวลดาบกับร้านทั้งสาม”
“เอ่ะ!?!?!?”
บารอน ไอแลนด์ อุทานเสียงแปลกใจมองไปทางอลิสทันที แต่ที่หมอนั่นกำลังมองไปไม่ใช่ตัวของอลิสแต่เป็นดาบที่มีปลอกสีแดงสดข้างๆ เธอต่างหาก ตั้งแต่เดินเข้างานมาอลิสก็ถือมันติดตัวตลอด การทำแบบนั้นคงเป็นการแสดงให้คนอื่นๆ ได้รู้ว่า นั่นเป็นของขวัญจากผม แต่ก็คงไม่มีใครคิดหลอกว่าดาบที่สามารถฟันดาบราคา 10,000 เหรียญทอง ออกเป็นสองท่อนได้ มันจะมาอยู่ในมืออลิสและดูสวยงามขนาดนั้น หึหึ!
“ท่านแกรนด์ดยุกข้าไม่ตลกกับท่านนะ ดาบนั่นมันดูยังไงก็เป็นเครื่องประดับชัดๆ ท่านกำลังจะบอกว่าดาบประดับที่ท่านให้น้องสาวเป็นของขวัญคือดาบเหล็กสวรรค์อะไรนั่นเหรอ!!!”
“หึหึ! บารอน ไอร์แลนด์ เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไรมันต้องไม่ใช่แน่นอนอยู่แล้ว”
ใบหน้าบารอน ไอร์แลนด์ เต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธแบบฉับพลันหลังผมตอบไป
“แล้วท่านกำลังจะทำบ้าอะไร!!! การให้น้อง-”
“ระวังปากของเจ้าด้วยบารอน ไอร์แลนด์!!!”
ทั้งห้องตกสู้ความเงียบลงทันทีเมื่อมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ขนาดตัวบารอน ไอร์แลนด์ ที่กำลังโมโหสุดๆ ก็หันไปตามเสียงที่ดังขึ้นมาด้วยความโกรธทันที แต่เมื่อเห็นเจ้าของเสียงที่ดังขึ้นเมื่อครู่ บารอน ไอร์แลนด์ ก็สงบลงทันที องค์ชาย ซิคฟรีส!! เขาตะโกนออกมาเพียงครั้งเดียวก็ทำให้ทุกอย่างสงบลงได้
ก็แน่นอนละ ชายคนนั้นคือองค์จักรพรรดิในอนาคต ถ้าทำให้ไม่พอใจคงรักษาตำแหน่งขุนนางของตัวเองเอาไว้ไม่ได้แน่ๆ แต่องค์ชายก็พูดออกมาเร็วจริงๆ เสียแผนหมดเลย เหอๆ ในเมื่อรู้ว่าคงจะทำให้บารอน ไอร์แลนด์ ตะโกนอะไรออกมาไม่ได้อีกผมก็พูดออกไปว่า
“ข้ายังพูดไปไม่หมดเลยเจ้าก็รีบเกินไป ดาบที่ฟันสุดยอดดาบของร้านม้าเหล็กดำออกเป็นสองท่อนมันเป็นเพียงแค่ตัวทดลองเท่านั้น แต่ดาบที่อยู่ในมือของอลิสมันเป็นดาบตัวเต็มที่ทำออกมา โดยหวังจะเอาไปใช้ในสนามรบแบบจริงๆ แถมในใบดาบยังลงจารึกเอาไว้ด้วยกันทั้งหมดถึงสี่จารึก!!”
“ห่ะ? จารึก???”
บารอน ไอร์แลนด์ อยู่ในอาการสงสัยอีกครั้ง การที่อยู่ๆ มีคนมาบอกว่าดาบมีจารึกเช่นนี้มันเป็นเรื่องประหลาดนั่นแหละเพราะประเทศ ทอนต้า ไม่เผยเคล็ดวิชาจารึกให้ประเทศไหนๆ ได้รับรู้ การที่ผมสามารถมีดาบที่มาจารึกได้มันเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้แน่นอน
เรื่องนี้มันน่าตกใจ จนขนาดอลิสยังทำหน้าอ้าปากค้างระหว่างมองดาบในมือของเธอเลย หึหึ!
ไม่นานเสียงบารอน ไอร์แลนด์ ก็ดังขึ้นอีก
“ท่านแกรนด์ดยุก ข้าว่าท่านพูดเกินจริงไปแล้วนะครับ”
“หึหึ! ถ้าเช่นนั้นเจ้าและคนจาดอีกทั้งสองร้านไม่ลองมาทดสอบกันดูละ ข้าจะให้น้องสาวข้าเป็นคนฟันดาบของพวกเจ้าเอง อย่างที่รู้น้องสาวของข้าพึ่งหายจากอาการป่วยได้ไม่นานเธอจึงไม่เคยฝึกดาบมาก่อน พวกเจ้าไม่ต้องกลัวว่าเธอจะใช้เทคนิคอะไรในการฟัน”
“ได้! ถ้าท่านต่อให้พวกเราขนาดนั้นข้าก็ไม่ขัด”
หลังจากคุยกันจบเรียบร้อย บารอน ไอร์แลนด์ และอีกทั้งสองคนก็เดินออกมาที่ใจกลางของงานเลี้ยง พวกนั้นสามคนเอาดาบออกมาทีละคน ทุกครั้งที่ดาบชักออกมาจากฝักเสียงผู้คนในงานก็ร้อง ‘ว้าว~’ กันออกมาทุกครั้ง ในเรื่องของความสวยงามผมต้องยอมรับว่าพวกมันสวยจริงๆ ดูท่าแล้วดาบพวกนั้นคงผสมแร่เพรชหรืออะไรทำนองนั้นลงไปด้วยแน่ๆ ส่วนเรื่องราคาก็ไม่ต้องพูดถึงมันเลย ในเมื่อมีแร่ล้ำค่าอย่างเพรชผสมลงไปแบบนั้นราคาของพวกมันคงมากกว่าดาบราคา 10,000 เหรียญทอง ที่ผมฟันขาดไปแน่นอนอยู่แล้ว
“ท่านพี่…”
“น้องไม่ต้องกังวลหรอก ดาบพวกนั้นมันเทียบไม่ได้กับดาบในมือของน้องหรอก น้องฟันลงไปเต็มแรงไม่ต้องคิดอะไรมากเลยก็ได้”
“แต่…”
สีหน้าของอลิสเป็นกังวลอย่างชัดเจนระหว่างพูดออกมา จากที่เธอรู้มันก็เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้นที่ผมสามารถใช้ดาบเหล็กสวรรค์ฟันดาบขาดเป็นสองท่อน และที่เห็นเธอก็เห็นเพียงความสวยงามของมันก่อนจะเข้ามาในห้องโถงแห่งนี้เท่านั้น เธอจะกังวลแบบนี้มันก็ไม่ได้แปลกอะไรหรอก
“น้องไม่ต้องห่วงถึงเรื่องการแพ้หรอก ถ้าเกิดพวกเราแพ้ก็ไม่เสียอะไรมากมาย อาณาเขตราคา 170 ล้านเหรียญทองอะไรนั่นพี่ก็ยึดมันมาได้ฟรีๆ น้องไม่จำเป็นต้องรู้สึกกดดันอะไร”
“เฮ้อ~ …ก็ได้คะ! ข้าจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ผมใช้มือลูบหัวของเธอ
“ดีมาก งั้นก็ไปจัดการพวกนั้นได้เลย”
“ค่ะ!!”
หลังจากคุยกันจบอลิสก็เดินเข้าไปยังจุดใจกลางห้องทันที เวลานี้ทุกสายตาในห้องต่างจ้องมองไปยังจุดตรงนั้นด้วยความสนุก และเมื่อกี้ผมก็ได้ยินว่ามีพวกขุนนางเริ่มลงพนันกันแล้ว ตามจริงผมก็อยากไปลงด้วยนั่นแหละแต่การไปเล่นด้วยในเวลาแบบนี้มันก็ดูมาเหมาะสมเท่าไหร่
เมื่ออลิสเดินถึงตรงกลางห้องบารอน ไอร์แลนด์ ก็ก้าวออกมาด้านหน้าด้วยรอยยิ้มอบอุ่นแบบผู้ใหญ่ที่กำลังจะคุยกับเด็กๆ เหอ! ข้าอายุแค่ 18 ปี เองนะ มากกว่าน้องสาวของข้าไม่ถึงสามปีด้วยซ้ำ ไอ้ท่าทางสองมาตรฐานแบบนั้นมันอะไร
“ท่านอลิสต้องการฟะ-”
“เจ้ากำลังจะพูดเรื่องอะไร!!”
ผมเสียงแข็งออกไปก่อนที่บารอน ไอร์แลนด์ กำลังจะถามอะไรที่ไม่เข้าเรื่องออกมา แล้วก็พูดออกไปต่อไปอีกว่า…