การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 77 ผลงานชิ้นแรก จากเหล่าช่างตีเหล็ก
ตอนที่ 77 ผลงานชิ้นแรก จากเหล่าช่างตีเหล็ก
“นี่เป็นรายงานตลอดสามวันที่ผ่านมาครับ”
ระหว่างกำลังอยู่ในห้องแต่งตัว ไกอา ก็เอาเอกสารรางานมาให้กับผม
หลังจากที่ฝึกฝนจนสามารถเข้าระดับราชาแท้จริงได้แล้ว เวลานี้มันก็เป็นวันที่งานฉลองวันเกิดของอลิสพอดี และระยะเวลาก็แทบจะไม่มีแล้วด้วย ผมเลยต้องให้ไกอาเอาเอกสารการเคลื่อนไหวทั้งหมดในช่วงเวลาสามวันมาให้แล้วก็จะอ่านมันไปพร้อมกับให้พวกเมดแต่งตัวให้เช่นนี้
ผมเริ่มกวาดสายตาอ่านเอกสารทั้งหมดทันที เมื่ออ่านได้ไม่นานผมก็ยิ้มอ่อนๆ ออกไป เพราะเรื่องที่ผมวางแผนเอาไว้มันแบบที่ต้องการ เรื่องสำคัญสำหรับผมในงานฉลองวันเกิดของอลิสครั้งนี้มีอยู่สอง… ไม่สิ! สามอย่างด้วยกัน 1.การให้ร้านม้าเหล็กดำเข้ามาท้าทายเรื่องดาบ 2.การเจรจากับตัวแทนตระกูล กริฟฟอน หรือก็คือ อิเลน่า กริฟฟอน ที่จะเดินทางมางานวันเกิดครั้งนี้ 3.เป็นเรื่องที่ทำให้อลิสมีความสุขและสร้างชื่อเสียงในทางที่ดีของเธอในสังคมชั้นสูง
แต่ว่า เรื่องชื่อเสียงของอลิสไม่ต้องทำอะไรก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก อย่างแรกเธอสวย การหาเพื่อนหรือเข้าสังคมคงไม่ยากอะไร อย่างที่สองเธอเป็นคนของตระกูล วอเตอร์ คงมีผู้หญิงหลายคนแน่ๆ ที่ต้องการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเธอเพราะชื่อตระกูล วอเตอร์ และคงไม่มีใครหรอกที่พยามจะตั้งตัวเป็นศัตรูในตอนนี้ ถ้าเกิดผมยังมีอำนาจอยู่แบบนี้ตระกูลที่กล้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับผมคงมีแค่ตระกูล ลาเชีย และ เจสเปอร์ เท่านั้น แต่หลังจากนี้พวกมันก็คงเข้าใจว่าการปฏิเสธผมแบบนี้มันต้องโดนอะไร หึหึ!
“ตระกูลแกรนด์ดยุกทั้งสองยังไม่มีการตอบรับคำเชิญใช่ไหม?”
“ครับ ตามที่ข้าได้รับรายงานจากเซบาสเมื่อเย็นเหมือนว่าทางนั้นจงใจจะไม่มางานครั้งนี้ด้วยกันครับ แถมขุนนางบางคนที่ได้รับบัตรเชิญก็ไม่มาเช่นกันครับ”
“พวกมันคงคิดว่าต้องเองมีตระกูลแกรนด์ดยุกกำลังสนับสนุน แล้วจะไม่มาตามคำเชิญของตระกูล วอเตอร์ กันก็ได้สินะ หึ! ช่างน่าตลกจริงๆ”
ไกอา ไม่ได้ตอบอะไรกลับจากที่ผมพูดออกไป หมอนั่นได้แต่ทำหน้าเหนื่อยใจออกมา ตอนนี้ไกอาคงไม่สนใจเรื่องอะไรหรอกเพราะเพียงแค่งานตัวเองก็แทบไม่มีเวลาแล้ว ถ้าเป็นเวลาปกติคงพยามพูดให้ผมใจเย็นลงและไม่ให้ไปทำอะไรกับพวกนั้นแน่ๆ แต่ว่า พวกมันไม่มีค่าพอให้ผมลงมือจัดการเองหรอก เหอ! ถ้างั้นก็เล่นงานพวกมันไปพร้อมกับตระกูลแกรนด์ดยุกทั้งสองที่คอยสนับสนุนพวกมันไปก็แล้วกัน …พวกแกคิดผิดแล้วที่มาตั้งตัวเป็นศัตรูกับข้าคนนี้
“ส่งชื่อตระกูลทั้งหมดให้ ซาอุส เดอุส บอกหมอนั่นว่าพวกนี้ไม่มีค่าพอให้เข้าประมูล”
“….ครับ”
ไกอา เงียบสักพักก่อนที่จะตอบออกมา
“แล้วเรื่องของอลิสเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้ระดับพลังของเธอพัฒนาไปถึงไหนแล้ว?”
“เฮ้อ~ …ท่านต้องไม่เชื่อแน่ถ้าข้าพูดออกไป แต่ตอนนี้ระดับพลังบ่มเพาะของท่านอลิสอยู่ ระดับราชานักรบ ขั้นที่ 5”
ขั้นที่ 5 …อืม! ภายในระยะเวลาไม่ถึงสามวันเธอทำได้ขนาดนั้นดูเหมือนว่าเรื่องที่ผมคิดเอาไว้จะเป็นเรื่องจริง ร่างบ่มเพาะ! ถึงจะรู้แบบนั้นก็เถอะ แต่การที่ได้มารู้ว่าน้องสาวตัวเองมีความสามารถขนาดนั้นก็รู้สึกตกใจไม่ใช่น้อยๆ ถึงจะเตรียมใจเอาไว้แล้วก็ตามที เฮ้อ~ รู้สึกว่าคงต้องให้เธอเข้าร่วมสงครามทางเหนือด้วยแล้วละถ้าเรื่องมันเป็นเช่นนี้
…..
“ท่านพี่!!”
อลิส ที่อยู่ในชุดราตรีสีฟ้าพูดออกมาแล้วเดินเข้ามาหาผมแบบช้าๆ รูปร่างของเธอตอนนี้มองยังไงก็เหมือนกับท่านแม่ของ ไคล์ วอเตอร์ ที่จากไปแล้วไม่มีผิด เรื่องแม่ของร่างนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอเป็นคนยังไงกันแน่ แต่ว่า เจ้าของร่างที่วิญญาณผมเข้ามาอยู่แทนจำสิ่งหนึ่งจากเธอได้อย่างมั่นใจ นั่นก็คือ เธอใจดี! และนอกจากนั้นก็คือความสวยงามของเธอที่เล่นด้วยกับไคล์ วอเตอร์ ในวัยเด็ก นอกจากนั้นผมก็ไม่มีความทรงจำอะไรที่จำได้เท่าไหร่
“วันนี้น้องสวยงามมากจริงๆ”
“หึหึ! แน่นอนอยู่แล้ว แต่ว่า นั้นไม่ใช่เรื่องที่ท่านต้องชมข้าสักหน่อย”
อลิส พูดออกมาด้วยแววตากลมโตเหมือนกับให้ผมชมอย่างอื่น ซึ่งก็แน่นอน สิ่งที่ผมต้องชมก็คือระดับบ่มเพาะของเธอตอนนี้ต่างหาก เมื่อสามวันก่อนยังไม่น่าจะเกินขั้นที่ 1 หรือ 2 แต่ตอนนี้เธอกลับขึ้นไปถึงขั้นที่ 5 ใน ระดับราชานักรบ
“น้องคงตั้งใจฝึกมากสินะถึงได้มีพลังขนาดนี้”
“ค่ะ! แต่ว่าหลังจากขั้นพลังเพิ่มขึ้นข้าก็รู้สึกว่ามันเพิ่มขึ้นยากกว่าเดิมหลายเท่าตัวเลย ตอนนี้คงทำแบบเดิมไม่ได้แล้วคะ”
สิ่งที่อลิสรู้สึกมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ถึงตอนนี้ระดับพลังของเธอจะเพิ่มขึ้นเร็วแบบก้าวกระโดด แต่ว่า ยิ่งพลังเพิ่มขึ้นการเลื่อนขั้น หรือเลื่อนระดับมันก็จะยากขึ้นไปด้วย ถ้าเกิดตัวผมไม่มีเคล็ดวิชาดูดกลืนลมปราณละก็ กว่าที่จะมาถึงระดับราชาแท้จริงได้แบบนี้ก็คงต้องฝึกอย่างน้อย 10 ปี หรือถ้าเป็นคนปกติไม่มีพรสวรรค์อะไรก็คงประมาณ 20 ปี เลยด้วยซ้ำ การที่พลังอลิสพัฒนาเร็วแบบนี้ก็ถือว่าสุดยอดมากแล้ว หลังจากนี้เธอคงรู้เองว่าการเลื่อนระดับหรือเลื่อนขั้นแต่ละครั้งมันไม่ได้ง่ายๆ แบบที่เธอทำได้ในช่วงสามวันที่ผ่านมา แต่ถ้าเป็นเธอที่มีร่างบ่มเพาะเธอคงสามารถทำได้ง่ายกว่าสิ่งที่ผมและคนอื่นๆ ต้องเจอเยอะ
ผมใช้มือลูบหัวอลิสเบาๆ พร้อมพูดออกไปด้วยรอยยิ้มว่า
“มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว น้องคิดว่าการเลื่อนระดับบ่มเพาะหรือขั้นบ่มเพาะมันง่ายๆ ขนาดนั้นเลยหรือไง”
“หุหุ… แต่ข้าก็เลื่อนตั้ง 3 ขั้น ในเวลาเพียง 3 วัน นะคะ”
“ดี! ถ้าเป็นแบบนั้นพี่ก็จะคอยดูว่าน้องจะสามารถทำได้แบบเดิมอีกไหม” ^_^
พูดจบผมก็หันไปทางเซบาสที่ยืนอยู่ข้างๆ
“หัวหน้าช่างตีเหล็กได้ฝากอะไรเอาไว้ไหม?”
“ครับ มันถูกส่งมาให้ท่านเมื่อตอนกลางวัน”
“ไปเอามันมาให้ข้า”
“ครับ!”
เซบาส หันไปออกคำสั่งชายอีกคนต่อทันทีหลังจากรับจากผมไป ระหว่างนั้นอลิสก็กะพริบตาขึ้นลงด้วยใบหน้าสงสัย เธอไม่ต้องพูดอะไรออกมาผมก็เข้าใจดีว่าตอนนี้เธอกำลังสงสัยแน่ๆ แต่สิ่งที่ผมสั่งให้หัวหน้าช่างตีเหล็กทำเอาไว้เมื่อสามวันก่อน มันก็คือของที่จะเป็นของขวัญของเธอนั่นแหละ
หลังจากที่ทนแววตาสงสัยของเธอได้ไม่นานนัก ผมเลยตัดสินใจบอกไปว่า
“มันเป็นของขวัญที่พี่เตรียมเอาไว้ให้น้อง”
“ว้าว~ ขนาดท่านไม่ว่างยังเตรียมเอาไว้ให้ข้าเลยงั้นเหรอ แล้วข้าได้ยินมาว่าช่างตีเหล็กพวกนั้นกำลังตีสุดยอดดาบที่มีพลังทำลายมหาศาลกันอยู่ด้วย ระหว่างที่ท่านไม่อยู่มีข้าได้ยินจากอัศวินเฝ้าประตูว่ามีขุนนางจำนวนมากเดินทางมาหาท่านพี่เพราะเรื่องดาบพวกนั้นด้วย ข้าจะได้มันมาใช้จริงๆ งั้นเหรอ?!”
“ชะ ช่างเป็นข้อมูลที่แน่นจริงๆ นี่น้องได้ฝึกจริงไหมเนี่ย”
เรื่องพวกช่างตีเหล็กผมบอกให้คนในคฤหาสน์เก็บเอาไว้เป็นความลับเอาไว้กันแท้ๆ เพราะถ้าคนรู้น้อยเท่าไหร่มันก็ได้เท่านั้น แต่อลิสรู้แบบนี้ข่าวคงกระจายไปทั่วคฤหาสน์หรือออกไปในเมืองแล้วแน่ๆ แต่ก็ช่างเถอะ ในเมื่อผมเลือกประกาศการต่อสู้กับร้านตีเหล็กที่ดีที่สุดในจักรวรรดิทั้งสามแบบนี้ การปิดเป็นความลับคงทำได้อีกไม่นาน อีกอย่าง เรื่องการเอาช่างตีเหล็กนับร้อยคนเข้ามาทำงานในคฤหาสน์คงปิดบังเอาไว้ได้ไม่นานหรอก พวกนั้นไม่ได้มาแต่ตัวแต่มาพร้อมกับครอบครัว ถึงแน่ใจว่าพวกนั้นไม่สามารถออกไปไหนได้ก็ตาม แต่ว่า เรื่องการสืบของตระกูลอื่นๆ คงรู้เรื่องพวกนี้ได้มายาก
ส่วนเรื่องแร่สวรรค์เองก็เหมือนกัน ผมคิดว่าตอนนี้คงมีหลายตระกูลเริ่มที่จะกว้านซื้อมันแล้ว แต่ว่า ถึงซื้อไปพวกนั้นก็ตีขึ้นมาไม่ได้หรอกถ้าไม่รู้วิธีการตีแบบถูกต้องตามแบบของมัน หึหึ! พวกที่ทำเป็นตอนนี้ก็อยู่ในมือของผมทั้งหมด ต่อให้พวกมันโชคดีหาซื้อแร่สวรรค์ที่หลงเหลือจากผมไปได้ แต่ก็สร้างดาบหรืออะไรอื่นๆ ให้ดีเท่าผมไม่ได้กันอยู่ดี
หลังจากที่คนรับใช้ที่เซบาสสั่งเดินออกไปได้ไม่นาน ชายคนนั้นก็เดินกลับมาพร้อมกล่องไม้สี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มาก รูปทรงของมันเป็นทรงยาวที่ใส่ดาบที่ผมสั่งทำเอาไว้ ผมรีบรับมันมาทันทีแล้วเริ่มเปิดฝาออกเพื่อเช็คของด้านใน อืม! สมบูรณ์แบบ! ไม่คิดเลยว่าเพียงเวลาสามวันเช่นนี้หัวหน้าช่างตีเหล็กจะทำออกมาได้จริงๆ
“ว้าว~ …นี่ข้าคงเข้าใจผิดไปเองสินะ ตอนแรกข้าคิดว่ามันเป็นดาบที่เป็นข่าวลือสะอีก”
อลิส พูดออกมาระหว่างก้มมองดาบในมือของผม แต่ว่า รูปลักษณ์ของมันก็สวยงามจริงๆ ปลอกดาบสีแดงอ่อนๆ มีรูปดอกไม่สลักเอาไว้หลายสิบดอก บวกกับด้ามจับที่เป็นรอยสลักรูปมังกร จะทำให้อลิสร้องว้าวและเข้าใจว่ามันไม่ใช่ดาบเหล็กสวรรค์ก็ไม่แปลก …ถ้าผ่านตาอลิสแบบนี้ การหลอกให้พวกขุนนางหรือพ่อค้าที่ร่ำรวยควักเงินซื้อมันก็คงทำได้ไม่ยากหรอก หึหึ!