การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 75 กระจายข่าว
ตอนที่ 75 กระจายข่าว
“ฮาฮาฮา ท่านแกรนด์ดยุก ไอ้เรื่องแบบนั้นข้าเป็นคนขอเองได้ด้วยงั้นเหรอ แต่ว่า ในเมื่อท่านบอกออกมาแบบนี้ข้าก็ขอพูดถึงสิ่งที่ท่านลงทุนก่อนก็แล้วกัน ท่านลงทุนแรงงาน ท่านลงทุนสถานที่ ท่านลงทุนวัตถุดิบจำนวนมาก แถมยังทำการตลาดเรื่องของช็อกโกแลตไปแล้วอีก และ-”
“และข้าก็จะทำการตลาดเรื่องดาบเหล็กสวรรค์เองด้วย รับรองขายดีแน่นอน”
“…งั้นก็แปลว่าท่านทำการตลาดเองทั้งหมด และข้าก็เชื่อว่าท่านจะสามารถทำการตลาดได้ดีแบบเรื่องของช็อกโกแลตแน่นอน แต่ว่า!! ทางข้าเองก็เช่นกัน ต้องลงทุนสร้างโรงประมูลและเรื่องการจัดส่ง แถมยังต้องใช้เส้นสายจำนวนมากในการเชิญขุนนางและเหล่าเชื้อพระวงศ์ประเทศอื่นๆ เข้ามาประมูลในงานครั้งนี้ ข้าว่าทางข้าเองก็ลงทุนพอตัวเช่นกัน”
ซาอุส พูดช่วงท้ายด้วยใบหน้ายิ้มหน่อยๆ เหอๆ ตอนแรกที่พูดในเรื่องการลงทุนของผมก็เป็นแค่การโปรยเรื่องเท่านั้น สุดท้ายหมอนี่ก็กลับมาเข้าเรื่องของตัวเองในช่วงท้ายอยู่ดี การทำแบบนี้ไม่ใช่บอกข้อดีที่ผมลงทุนหรอกแต่เป็นการบอกเรื่องการลงทุนของตัวเองต่างหาก
แต่ว่า เรื่องการสร้างโรงประมูลก็ต้องลงทุนเช่นกัน คงว่าอะไรหมอนี่ไม่ได้และมันก็เป็นพ่อค้าด้วย
“70 – 30 เอาแบบนี้เป็นยังไง”
“ท่าน 7 ข้า 3 ใช่ไหมหรือไม่”
ผมพยักหน้าให้กับการถามของซาอุสทันที ผลตอบแทนแบบ 70 – 30 เช่นนี้มันถือว่าดีสำหรับหมอนี่มากแล้ว เพราะถ้าไม่ยอมผมก็คงต้องหาคู่ค้าใหม่ในการลงทุนครั้งนี้ การขายครั้งนี้ถ้านับจริงๆ ผมเป็นคนลงทุนมากถึง 80% ของการผลิตทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ การได้ราคาแบบนี้ถือว่าดีเกินพอแล้ว
“ครับ ถ้าเช่นนั้นเป็นอันตกลงส่วนแบ่งแบบท่านบอกมา”
ระหว่างพูดซาอุสก็เอากระดาษออกมาจากแขนเสื้อ พร้อมกับปากกาในการเขียนออกมา
“ไม่ต้องหรอก มันไม่จำเป็นในการร่วมมือครั้งนี้”
“ครับ???”
“หึหึ! เรื่องข้อตกลงก็ตกลงกันเรียบร้อยไปแล้ว ข้าคิดว่าเจ้าคงไม่กล้าผิดคำพูดกลับข้าหรอก อีกอย่าง ข้าเชื่อว่าเจ้าคงไม่ทำให้ข้าผิดหวังแน่นอน จริงไหม?”
“คะ ครับ เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้ว ข้าไม่มีทางทรยศท่านแน่นอน”
เรียบร้อยไปอีก 1 เรื่อง หลังจากเรื่องการขายก็เรื่องของส่วนแบ่ง เมื่อทั้งสองอย่างเรียบร้อยการเจรจาครั้งนี้ก็ถือว่าจบแล้วเช่นกัน ถ้างั้นก็คงต้องเป็นแผนต่อไป
“ในเมื่อเรื่องการขายของทั้งสองเรียบร้อย ข้าก็มีเรื่องบางอย่างอยากจะขอร้องเจ้า”
“เชิญครับท่านบอกมาได้เลย ถ้าข้าสามารถช่วยท่านได้ข้าก็ยินดี”
ผมยิ้มมุมปากทันทีเมื่อได้รับคำตอบ แล้วพูดต่ออีกว่า
“ข้าอยากให้เจ้าใช้เส้นสายทั้งหมดของเจ้า กระจายเรื่องการดวลดาบที่เกิดขึ้นในวันนี้”
“นั้น…”
การกระจายข่าวออกไปแบบนั้นมันแน่นอนอยู่แล้วที่จะทำให้ทางร้านม้าเหล็กดำไม่พอใจ และอีกสองร้านที่เป็นพันธมิตรด้วยก็จะเริ่มเคลื่อนไหวออกมาแน่นอน เมื่อเวลานั้นมาถึง มันคงไม่เป็นผลดีต่อตระกูล วอเตอร์ และอาจจะส่งผลกระทบต่ออนาคตในการซื้ออาวุธเข้ากองทัพของผมก็เป็นได้ ทว่า ถ้าเรื่องนี้กระจายออกไปก็จะเป็นผลดีกับผมเช่นกัน
ถ้าเกิดเรื่องที่ดาบเหล็กสวรรค์สามารถฟันสุดยอดดาบขาดออกเป็นสองท่อนได้ ถ้าเกิดเรื่องนี้กระจายออกไปคงสร้างชื่อเสียงให้มันไม่ได้มากก็น้อย และเมื่อบวกกับหลักฐานที่เป็นดาบของซาอุสที่โดนฟันหักเป็นสองทอนด้วยแล้ว มันจะเป็นเครื่องยืนยันให้กับเรื่องนี้เป็นอย่างดี
“ทะ ท่านเอาจริงๆ เหรอครับ ถ้าทำแบบนั้นพวกสามร้านใหญ่แห่งจักรวรรดิไม่ยอมอยู่เฉยๆ กันแน่ ต่อให้ท่านมีตำแหน่งเป็นถึงแกรนด์ดยุกแต่อาจจะมีปัญหาเรื่องการซื้ออาวุธได้นะครับ จากสิ่งที่ข้ารู้มาเหมือนกับว่าพวกนั้นไม่ได้มีเพียงเส้นสายในเมืองหลวงเท่านั้น แต่ยังมีเส้นสายทั่วจักรวรรดิแห่งนี้ ถ้า-”
“หึ! เจ้าจำไม่ได้หรือไงว่าคนที่กล้ามาท้าทายข้า สภาพพวกมันเป็นยังไงกัน”
เรื่องเส้นสายของสามร้านใหญ่นะผมรู้อยู่แล้ว พวกมันมีอำนาจจนขนาดองค์ จักรพรรดิสวรรค์ ยังไม่อยากมีปัญหากับพวกมัน แต่ว่า สำหรับผมแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น ถ้าผมอยากซื้อแล้วไม่ขายผมก็ไม่ง้อเพราะยังมีอีกหลายประเทศที่จะขายให้กับผมตั้งมากมาย เพียงมีเงินเท่านั้นอะไรๆ มันก็ง่ายขึ้นเยอะ
อีกอย่าง ในยุคสมัยหายนะแห่งมวลมนุษย์มาถึง ประเทศที่อุทิศตัวเพื่อเข้าช่วยเหลือก็มีตั้งเยอะตั้งแยะ ถึงจะกังวลเรื่องที่เงินไหลออกจากจักรวรรดิไปก็เถอะ แต่ถ้ามันจำเป็นผมก็ไม่มีทางเลือก และหลังจากนี้พวกมันต่างหากที่ต้องกลัวผม หึหึ! เป็นแค่ตระกูลขุนนางช่างตีเหล็กแท้ๆ การกำจัดพวกมันสำหรับผมมันไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย ถึงใช้อำนาจทหารเล่นงานไม่ได้แต่การใช้อำนาจเงินเล่นงานมันก็ไม่ยาก…
“เอาแบบนั้นก็ได้ครับ ถ้าท่านต้องการแบบนั้น”
“ดี! ไปกระจายแบบเยอะที่สุดเท่าที่เจ้าจะสามารถทำได้ และถ้าพวกนั้นจะเอาเรื่องเจ้าก็อ้างชื่อของข้าไปได้เลย และฝากบอกพวกนั้นไปด้วยว่าข้าพร้อมทุกเมื่อสำหรับการเอาคืน”
“ครับ”
……..
ณ ห้องของไคล์ วอเตอร์
เมื่อจัดการเรื่องปวดหัวทุกอย่างจบผมก็ต้องมาเริ่มฝึกในห้องของตัวเองอีกครั้ง ตั้งแต่เดินทางออกมาจากเส้นทะเลลมปราณผมก็ไม่ได้ฝึกอะไรอีกเลย ทั้งๆที่ก่อนจะเดินทางมายังเมืองหลวงผมก็จะก้าวเข้าสู้ ระดับราชาแท้จริง แล้วแท้ๆ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไประดับการบ่มเพาะของผมคงได้ช้ากว่าอลิสแน่ๆ
…น้องสาวฝึกเพียงไม่นานก็แซงพี่ชายได้แล้ว ถ้าเกิดโดนพูดแบบนี้ใส่ผมคงรู้สึกอับอายจริงๆ แต่ว่า ถ้าเกิดอลิสมีร่างบ่มเพาะจริงๆ แบบที่ผมคิดเอาไว้ต่อให้เป็นผมหรือใครๆ ในทวีปตอนนี้ ก็คงไม่สามารถไล่ตามความเร็วการบ่มเพาะของเธอทันได้หรอก
อึก!
นั่งคิดสักพักผมก็กลืนโอสถลงไป จากนั้นก็เข้าสู้ช่วงการดูดซับ
หลังจากนี้อีกสามวันก็จะถึงงานวันเกิดอายุครบ 16 ปี ของอลิสแล้ว ก่อนถึงเวลานั้นผมต้องเข้าระดับ ราชาแท้จริง ให้ได้!! …อีกอย่าง ถ้าเรื่องเป็นไปตามแผนที่ผมคิดเอาไว้ คงได้มีเรื่องสนุกๆ เกิดขึ้นในงานแน่นอน หึหึ!
…….
ใจกลางเมืองหลวง
ณ ทางเข้าร้าน ม้าเหล็กดำ
ปัง!
เสียงประตูทั้งสองบานกระแทกกันอย่างรุนแรงจนทำให้ผู้คนจำนวนมากหันมองด้วยความแปลกใจ ปกติแล้วเวลากลางวันเช่นนี้มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ร้านขายดาบ 1 ใน 3 ร้านที่ดีที่สุดในจักรวรรดิจะปิดลงแบบนี้ ทว่า ที่ด้านหน้าประตูก็มีชายแก่สวมชุดดูดียืนอยู่ด้านหน้า บนเสื้อของชายแก่คนนั้นก็ปรากฏตัวอักษร ม้าเหล็กสวรรค์ เขียนเอาไว้ มันแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นหนึ่งในคนของร้านม้าเหล็กสวรรค์อย่างชัดเจน
“วันนี้ร้านม้าเหล็กดำจะปิดชั่วคราว!!! เชิญลูกค้าทุกท่านไปใช้บริการร้านอื่น!!!”
ชายแก้ตะโกนออกมาเสียงดังลั่นเพื่อแจ้งให้กับผู้คนโดยรอบ ผู้คนโดยรอบตอนนี้ต่างก็เป็นคนที่เดินทางมาจากที่ต่างๆ เพื่อมาซื้อดาบจากร้านแห่งนี้ บ้างก็มาจากประเทศอื่น บ้างก็มาจากส่วนที่ไกลมากของจักรวรรดิ หลังได้ยินแบบนั้นผู้คนก็อยู่ในอาการไม่พอใจกันทันที
“นี่มันเรื่องบ้าอะไร!!! ข้าต้องเดินทางมา 3 วัน 3 คืน กว่าจะมาถึงที่นี่ เจ้ามาปิดแบบนี้หมายความว่ายังไง!!!”
“ใช่! นี่หรือร้านตีเหล็กที่เป็น 1 ใน 3 ร้านตีเหล็กที่ดีที่สุดในจักรวรรดิ!!!”
“พวกเจ้ากำลังทำบ้าอะไรกันอยู่ ตอนนี้ยังผ่านไปไม่ถึงครึ่งวันด้วยซ้ำ!!!”
ผู้คนด้านหน้าร้านพากันตะโกนออกมาด้วยความโกรธที่เต็มเปี่ยม ทว่า ชายแก่ที่พูดออกมาเมื่อครู่กับไม่เอ่ยปากพูดอะไรเพื่อเป็นการอธิบายเลยแม้แต่น้อย แถมตอนนี้ ด้านหน้าประตูของร้านม้าเหล็กดำยังเต็มไปด้วยทหารสวมเกราะหนักหลายสิบคน ที่วิ่งออกมายืนขวาหน้าประตูเอาไว้ ภาพตอนนี้ต่อให้เป็นคนที่โง่ที่สุดในกลุ่มลูกค้าที่ไม่พอใจอยู่ก็สามารถข้าใจได้ทันที ว่าร้านม้าเหล็กดำจริงจังมากขนาดไหนในการปิดร้านครั้งนี้
ทหารสวมเกราะเหล็กแต่ละคนที่ยืนอยู่ต่างก็มีพลังบ่มเพาะอยู่ใน ระดับราชาแท้จริง และการที่ร้านม้าเหล็กดำเอาคนมายืนป้องกันแบบนี้ มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตั้งแต่เปิดร้านมาด้วยเช่นกัน บรรยากาศที่กำลังวุ่นวายของผู้คนเริ่มสงบลงทันทีหลังจากการปรากฏตัวของทหารเกราะเหล็กเหล่านั้น แต่!! ในเวลาไม่นาน ก็มีชายสวมชุดคลุมสีน้ำเงินเดินออกมาจากกลุ่มคน ชุดคลุมสีน้ำเงินแบบนี้ไม่มีใครสามารถสวมมันได้ภายในจักรวรรดิ นอกสะจาก คนคนนั้นจะเป็นคนจากกรมบริหาร
“นั้นมันคนจากกรมบริการ ฮาฮาฮา ช่างมาเร็วสะจริงๆ อยากรู้นักว่าพวกมันปิดร้านไม่แจ้งแบบนี้ทางกรมบริการจะจัดการยังไง”
“ใช่แล้ว! กรมบริการ ออกมาเองแบบนี้พวกมันต้องโดนโทษหนักกันแน่”
“ลงโทษมันเลย!!!”
เสียงผู้คนเริ่มดังขึ้นอีกครั้งหลังจากการปรากฏตัวของชายที่มาจาก กรมบริหาร แต่ทว่า พอชายคนนั้นเดินถึงชายแก่ที่ยืนด้านหน้าของร้านม้าเหล็กสวรรค์ เขากับยิ้มให้แล้วก้มหัวลงเล็กน้อยด้วยความเคารพ พร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ท่านช่วยอธิบายกับข้าได้หรือไม่ ว่าทำไมพวกท่านถึงปิดร้านตั้งแต่ยังไม่ครึ่งวันเช่นนี้?” ^_^