การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 74 แนวคิดทางการขายแบบจิตวิทยาฉบับ ไคล์ วอเตอร์
ตอนที่ 74 แนวคิดทางการขายแบบจิตวิทยาฉบับ ไคล์ วอเตอร์
“ข้าคิดแผนการขายช็อกโกแลตเอาไว้แล้วครับ ส่วนดาบเหล็กสวรรค์ที่ท่านพึ่งสร้างเสร็จข้ายังคิดวิธีขายมันไม่… ไม่สิ! พูดให้ถูกคือข้ายังคิดวิธีการขายมันให้ได้ราคามากที่สุดไม่ได้ ความสวยงาม! ความแข็งแกร่ง! ถ้าเอาแร่เหล็กสวรรค์ไปสร้างดาบหรือชุดเกราะคงขายได้ราคาดีในหมู่ขุนนางแน่ เพราะงั้นข้าเลยอยากขอเวลาคิดสักหน่อย”
ผมส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มหลังได้ยิน หมอนี่พูดออกมาตามตรงจริงๆ ถ้าคนปกติมาเห็นคงลังเลกับวิธีขายมันนั่นแหละถูกแล้ว และไม่ใช่การลังเลแบบขายไม่ได้หรืออะไร แต่ว่า มันเป็นการลังเลที่จะคิดวิธีขายในราคาที่เหมาะกับคุณค่าของมันต่างหาก ของที่ทำจากแร่เหล็กสวรรค์ไม่ใช่สวยงามเท่านั้น แต่มันยังมีประโยชน์อย่างมากในสนามรบในด้านป้องกันและโจมตี ต่อให้เป็นขุนนางที่ชอบของสวยงาม หรือเป็นสุดยอดทหารต่างก็คงต้องการมันแน่นอน ถ้าได้รู้ถึงการมีอยู่ของพวกมัน
“เรื่องนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องคิดเพราะข้ามีวิธีขายพวกมันอยู่แล้ว งั้นตอนนี้เจ้าบอกวิธีขายช็อกโกแลตมาก่อนแล้วกัน ถ้ามันดีกว่าที่ข้าคิดเอาไว้ก็ใช้แบบของเจ้า”
วิธีขายนะผมคิดเอาไว้ตั้งแต่เริ่มสร้างช็อกโกแลตไปแล้ว เป้าหมายของผมเป็นชนชั้นสูงเรื่องนั้นก็ไม่คงต้องบอกเพราะคนแบบ ซาอุส เดอุส คงรู้เรื่องนั้นดีอยู่แล้ว ทว่า ที่ถามออกไปแบบนี้ก็เพราะต้องการความเห็นเท่านั้น ถ้าหมอนี่สามารถคิดวิธีขายที่เข้าท่ามากกว่าผมก็ยินดีขายแบบนั้น แต่ถ้าไม่ ก็ขายแบบที่ผมคิดเอาไว้
“ข้าคิดว่าท่านเล็งพวกชนชั้นสูงเอาไว้ และเป้าหมายในการขายของพวกเราก็ต้องเป็นชนชั้นสูงแบบที่ท่านเล็งเอาไว้ แต่ว่า ข้าอยากถามสักนิดว่าท่านแน่ใจใช่ไหมว่าจะเก็บรักษาวิธีการผลิตเอาไว้ได้? และท่านสามารถผลิตมันออกมาได้วันละจำนวนเท่าไหร่?”
“เป็นคำถามที่ดี! ข้าขอตอบเรื่องที่สามารถผลิตออกมาได้ก่อนก็แล้วกัน เรื่องการผลิตคงได้ประมาณวันละ 50 – 60 ชิ้น”
ความเร็วในการผลิตได้ 50 – 60 ชิ้น คงเต็มที่สำหรับหัวหน้าพ่อครัวคนเดียว อีกอย่าง ผมก็ไม่คิดว่าจะทำออกมาขายจำนวนมากตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เรื่องผลิตจำนวนมากๆ มันไม่ได้อยู่ในหัวผมตอนนี้
“ส่วนเรื่องความลับการผลิตตอนนี้ก็ไม่ต้องห่วง ข้าคงสามารถผูกขาดเอาไว้ได้ประมาณครึ่งปี หรืออาจจะมากกว่านั้นถ้าทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนที่ข้าวางแผนเอาไว้ มันมีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้เข้ามาด้วยแต่อีกไม่เกิน 3 วัน ข้าสามารถยืนยันให้ได้แน่นอน”
“เออ… งั้นเอาเป็นว่าข้าจะไม่ถามก็แล้วกันว่าท่านวางแผนเรื่องอะไรเอาไว้ แต่ถ้าเป็นไปได้ข้าก็อยากให้ท่านเก็บมันเอาไว้ให้นานที่สุด ส่วนเรื่องผลิตออกมาได้ 50 – 60 ชิ้น คงไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะถ้าสินค้ายิ่งมีน้อยมันก็ยิ่งราคาเพิ่มขึ้น แต่จากที่ท่านบอกมาระยะเวลาเพียงครึ่งปีข้าคิดว่าคงขายได้เพียงจักรวรรดิและประเทศรอบๆ เพียงเท่านั้น คงไม่สามารถส่งไปขายให้ อาณาจักร , ราชอาณาจักรหรือสหราชอาณาจักร ได้ ถ้าเกิดมีเวลาให้ข้าสักหนึ่งปีข้าคิดว่าคงทำกำไรจากพวกนั้นได้ด้วย”
โห่ว! ความคิดหมอนี่ช่างยาวไกลจริงๆ ที่ผมคิดเอาไว้ก็ขายแค่ให้เหล่าขุนนางของจักรวรรดิเท่านั้น แล้วที่ผมไม่คิดขายให้ประเทศอื่นๆ ก็เป็นเพราะไม่มีเส้นสายในการกระจายสินค้า ถ้าส่งออกไปขายนอกประเทศมันเสี่ยงหลายอย่างเกินไป ดักปล้น! กดราคา! ภาษี! ถ้าไม่ใช่จักรวรรดิแห่งนี้ประเทศอื่นๆ ก็จะสามารถเล่นงานผมในเรื่องที่บอกไปได้
แต่ว่า สำหรับพ่อค้าอย่างซาอุสคงไม่ใช่แบบนั้น คิดไม่ผิดจริงๆ ที่เลือกหมอนี่มาร่วมงานครั้งนี้ด้วย หึหึ! ตามจริงระยะเวลา 1 ปี ก็พอทำได้อยู่หรอก แต่นานขนาดนั้นผมจะเสียผลประโยชน์เรื่องอื่นมากกว่าได้ผลประโยชน์การขายแน่ๆ เพราะงั้นครึ่งปีเป็นระยะเวลาที่ผมสามารถถ่วงเอาไว้ได้นานที่สุด
“แผนที่เจ้าบอกมาก็ถือว่าดี แต่เราไม่มีเวลาเพียงพอแบบเจ้าว่า”
“ครับ… ถ้างั้นท่านพอจะเก็บเรื่องความลับการผลิตชะ-”
“ไม่ได้! การขายมันทำให้ข้าได้เงินเยอะก็จริง แต่ว่า!! เจ้าก็คงรู้ดีว่ามีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าเงินอีกมากในชีวิตของเรา ข้าคิดจะเปิดเผยมันออกไปก็เพราะเรื่องแบบนั้นนั่นแหละ”
“เฮ้อ~”
ซาอุส ถอนหายใจยาวด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ ใบหน้าก็แสดงแบบนั้นเหมือนกัน
“เช่นนั้นข้าก็ไม่ว่าอะไร และเรื่องราคาขายท่านคิดจะขายเท่าไหร่ ตามที่ข้าได้ยินของขวัญที่ท่านให้เหล่าองค์หญิงทำการตลาดให้มันสามารถกินได้ประมาณ 10 – 12 คำ แบบนั้นข้าว่าจำนวนมันน้อยไปหน่อยท่านควรขายในราคาไม่ควรเกิน 100 เหรียญทอง ถ้าไม่เช่นนั้นข้าว่าคงขายออกยาก และถ้าราคาแพงเกินไปมันคงมีคนกินกันแค่เพียงช่วงแรกๆ หลังจากนั้นมันคงขายออกยาก…”
ถูกต้อง! ถ้าขายพวกมันในราคาแพงเกินไปถึงจะอร่อยขนาดไหนก็อารมณ์เหมือนประมาณ ไข่ปลาคาร์เวียร์ ในโลกที่ผมจากมา รู้ว่ามันอร่อยแต่ราคาของมันก็แพงเกินไปที่จะเอาเงินจำนวนมากไปซื้อ การขายแบบนั้นมันขายได้ละได้กำไรดีก็จริง แต่ในเวลาไม่นานเหล่าขุนนางก็จะรู้สึกตัวเองจ่ายเงินมากเกินไปและไม่ซื้อกิน เรื่องนั้นผมเขาใจดีแล้วเตรียมแผนรับมือเอาไว้ก่อนแล้ว
“ข้าจะไม่เป็นคนกำหนดราคา แต่จะให้ผู้ซื้อเป็นคนกำหนดแทน”
“ครับ? ยังไงข้าไม่เข้าใจ?”
ซาอุส ถามออกมาทันทีด้วยน้ำเสียงสงสัย ก็ในเมื่อเรื่องราคามันอาจจะเป็นปัญหาได้ผมก็จะให้คนซื้อกำหนดราคาสะเองไปเลย ซึ่ง!! การทำแบบนั้นได้ก็คือ งานประมูล! ถ้าราคามันอาจจะเป็นปัญหาในอนาคต ผมก็ให้คนที่จะซื้อประมูลมันไปเลยเพียงแค่นั้นเรื่องมันก็ง่ายขึ้นเยอะ หึหึ!
“ข้าจะขายโดยการประมูล!”
“…งานประมูล”
ซาอุส พึมพำออกมาหลังฟังไปด้วยสีหน้าคิดตาม หมอนั่นก้มลงต่ำเล็กน้อยแล้วเอามือจับคางตัวเองเอาไว้ สิ่งที่ผมเสนอไปมันเป็นวิธีที่ผมคิดเอาไว้อยู่แล้ว โรงประมูล! การขายของให้ได้กำไรและสามารถขายราคาเกินจริงได้ก็คือแบบนี้แหละ หากผู้ซื้อเสนอราคาซื้อออกมาเองผมก็ไม่ใช่คนกำหนดราคา และเหล่าขุนนางก็จะพากันคิดไปว่าที่ราคามันสูงไม่ใช่เพราะผมแต่เป็นคนที่ประมูลแข่งกับตัวเองเท่านั้น เพียงเท่านี้ เรื่องช็อกโกแลตแพงมันก็ไม่ใช่ความผิดของตระกูล วอเตอร์ อีกต่อไป เพราะพวกที่ทำให้ราคามันสูงขึ้นก็คือเหล่าขุนนางที่เข้าประมูลนั่นเอง หึหึ!
และถ้าเกิดว่าผมขายชิ้นละ 100 เหรียญทอง ออกไปจริงๆ ขุนนางจำนวนมากต้องพากันไม่พอใจผมแน่นอน ถึงพวกนั้นจะไม่มีค่าให้กังวลแต่การไม่สร้างศัตรูเอาไว้ก็ดีกว่าการมีมัน อีกเรื่อง โรงประมูลที่ผมกำลังบอกไปมันไม่ได้จะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อขายช็อกโกแลตเพียงอย่างเท่านั้นหรอก ทว่า มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการประมูลดาบเหล็กสวรรค์ด้วยอีกต่างหาก
หึหึ! ถ้ามีช็อกโกแลตและของที่ทำแร่เหล็กสวรรค์ในการประมูล โรงประมูลที่กำลังจะสร้างขึ้นระหว่างการร่วมมือของตระกูล วอเตอร์ และซาอุส อาจจะกลายเป็นโรงประมูลที่ดีที่สุดในจักรวรรดิแทนโรงประมูลอาเรสเลยก็ได้
เงียบได้ไม่นานซาอุสก็เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง เพราะหมอนั่นเงยหน้ามองผมด้วยสีหน้าตกใจ
“นี่หรือว่า! …ท่านคิดจะประมูลของที่ทำจากแร่เหล็กสวรรค์ในโรงประมูลด้วย!!”
ผมพยักหน้าขึ้นลงพร้อมรอยยิ้ม
“ใช่! ข้าจะให้เจ้าขายทั้งสองอย่าง ช็อกโกแลต และ เกราะป้องกัน! โล่! ดาบ! และของอื่นๆ อีกมากมายที่ถูกผลิตขึ้นมาจากแร่เหล็กสวรรค์ ในช่วงแรกข้าต้องการขายมันในราคาแพงเลยคิดว่าจะทำมันออกมาจำนวนน้อยๆ และทำให้ดูดีที่สุดเพื่อหลอกให้พวกขุนนางและพ่อค้าที่ร่ำรวยควักเงินซื้อมัน เจ้าไม่คิดหรือไงว่าการขายแบบนี้ พวกเราจะสามารถทำกำไรได้งามขนาดไหน”
“…ท่านนี้สุดยอดจริงๆ ท่านเคยเป็นพ่อค้ามาก่อนงั้นเหรอ”
“หึหึ! เจ้าเคยสืบประวัติของข้าแล้วไม่ใช่หรือไงหลังเอาเหมืองทองไปจำนำ ยังจะมาถามอะไรอีกละ”
“ฮาฮาฮา ท่านพูดล้อเล่นอีกแล้วนะครับ”
ซาอุส ตอบด้วยใบหน้ายิ้มหัวเราะ แต่เรื่องที่สืบเรื่องของผมหมอนั่นก็ไม่ได้ปฏิเสธออกมา ถึงงั้นแค่การสืบนิดสืบหน่อยผมไม่คิดอะไรหรอกเพราะการทำการค้ากับใครการตรวจสอบภูมิหลังเป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว การไม่สืบนี่สิถึงมันจะเป็นเรื่องแปลก
“เรื่องการสร้างโรงประมูล เจ้าสามารถทำเองได้ใช่ไหม”
“ครับ~”
เรื่องการสร้างโรงประมูลมันก็ไม่ได้ยากอะไรอยู่แล้วนั่นแหละ ถ้างั้นต่อไปก็คงเป็นเรื่องสำคัญของการเจรจาในครั้งนี้ ส่วนแบ่ง! จากประสบการณ์อันมากมายของผมที่โดนพ่อค้าหัวหมอจำนวนมากกลับคำหลังจากการซื้อขายสำเร็จ มันก็สอนให้ผมรู้ว่า หากเจรจาซื้อขายหรือมีการพูดคุยล่วงหน้าในการซื้อขายกับพวกพ่อค้าทุกๆ คน เรา! ควร! พูด! ให้! ชัด!
ยิ่งในเรื่องของส่วนแบ่งและราคานั้นสำคัญมาก หากไม่ทำให้ชัดเจนตั้งแต่แรกอาจนำไปสู่การมีปัญหาระหว่างคู่ค้า และหลังจากนั้นการซื้อขายหรือร่วมหุ้นก็จะล้มเหลวตามไป ซึ่งผมคงยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาดถึงตอนนี้ผมจะมีเงินเยอะแล้วก็จริง แต่ว่า เงินเพียงเท่านี้มันยังไม่พอ คิดได้ ผมก็พูดออกไปด้วยสีหน้าจริงจังว่า
“งั้นต่อไปก็เป็นเรื่องของส่วนแบ่ง เจ้าต้องการเท่าไหร่เสนอออกมาก่อนได้เลย!!”