ตอนที่ 51 ประตูเหล็กขึ้นสนิม(อ่านฟรี)
ตอนที่ 51 ประตูเหล็กขึ้นสนิม
“เราต้องรีบออกไปจากที่นี่และเตือนพวกเขาถึงแผนการเปลี่ยนเมืองเรซีให้เป็นแหล่งเพราะพันธุ์ซอมบี้ของลัทธิมืด” โบเวนกล่าวออกมา ทุกคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็รู้ว่าการพูดนั้นง่าย แต่การออกไปนั้นยาก เพราะเส้นทางออกหนึ่งเดียวที่พวกเขารู้ก็มาจากทางที่เรย์เห็นในฐานใต้ดินของพวกสาวกลัทธิมืด
ประตูโกดัง...
“เราไม่มีทางเลือก นอกจากตรงไปที่ประตูโกดัง” คอนราดกล่าวขณะที่หยิบบุหรี่ออกมาจุดสูบ
“แต่นั่นเท่ากับเดินเข้าหากับดัก เส้นทางที่เรย์ใช้หนีออกมาถูกระเบิดปิดตายไปแล้ว ตอนนี้เหลือเส้นทางเดียวที่มันใช้เป็นกับดัก” โบเวนกล่าวแย้ง
“ไม่ใช่ซะทีเดียว ถ้าเราใช้ข้อมูลที่ได้มาจากเรย์ให้เป็นประโยชน์” ฟาริสกล่าว ก่อนมองไปที่เรย์และถามกับคอนราดอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้นหัวหน้ามีแผนแล้วใช่ไหม”
“ยัง แต่นายกับเรย์ควรช่วยกันคิดแผน” คอนราดพูดจบก็เดินเข้าไปหาเรย์ ก่อนจะยกมือขึ้น เรย์งงกับการกระทำของหัวหน้า แต่ก็ไม่ได้หลบ คอนราดวางมือลงไปที่ระหว่างคิ้วทั้งของเรย์
ในตอนนั้นเรย์ก็ราวกับย้อนกลับไปที่ฐานใต้ดินของสาวกลัทธิมืด รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขาแทบจะจำไม่ได้ได้กลับฉายชัดเจนอยู่ในความทรงจำ
“นั้นคือการกระตุ้นภาพจำที่เคยเห็นผ่านสายตามาแล้ว มันน่าจะช่วยได้เยอะ” คอนราดอธิบายให้เรย์ฟัง
เฮ้อ...ผู้ใช้พลังจิตสุดยอดจริง ๆ เรย์ถอนหายใจในใจ
คอนราดถอนนิ้วจากหน้าผากของเรย์ ก่อนจะก็เดินไปนั่งลงตรงที่เรย์เคยนั่ง เขาหยิบกระติกน้ำทหารที่เรย์วางเหลือไว้มาดื่มไปสองสามอึก เพื่อดับกระหาย จากนั้นก็ปิดฝาและวางไว้ตามเดิม
คอนราดหลับตาและพักผ่อน เขาเป็นผู้ใช้พลังจิต การต่อสู้ติดต่อการส่งผลต่อภาระทางความคิดมากกว่าผู้มีพลังอีกสองสายมาก ทำให้ต้องการพักผ่อนที่มากขึ้นหลังการต่อสู้
“ตามสบายเลยนะ” โบเวนกล่าวจบก็เดินไปหยิบขวดน้ำและดื่มดับเช่นกัน ก่อนจะเดินไปนั่งไม่ไกล สายตาสาดส่องไปรอบ ๆ อย่างระวัง
เมื่อเรย์และฟาริสเห็นดังนั้น ทั้งสองก็ทำได้เพียงหันมามองหน้ากัน หัวหน้าพวกเขาหลับตาพักผ่อนทั้งที่บอกว่ารีบ ส่วนโบเวนดูเหมือนจะไม่สนใจในเรื่องใช้หัวเลยเลือกจะไปเฝ้ายามให้
เรย์รู้สึกเห็นใจฟาริสพอสมควรเพราะดูเหมือนเขาจะเป็นมันสมองของทีมนี้ซะเป็นส่วนใหญ่
“ผมจะเล่ารายละเอียดให้ฟังอีกครั้ง” กายพูดออกด้วยรอยยิ้มเจือน ๆ
“เฮ้อ...มาลุยกันสักครั้ง” ฟาริสนั่งลงกับพื้น
เรย์เห็นดังนั้นก็นั่งลงและเรียกบอลแสงออกมาส่องสว่างในจุดที่เขาและฟาริสนั่ง ก่อนจะเริ่มเล่ารายละเอียดและเขายังใช้เหล็กขูดไปกับพื้นปูนเพื่อวาดเส้นทางในฐานของสาวกลัทธิมืดคร่าว ๆ
สิ่งที่เรย์บอกมันละเอียดมากจนถึงระดับที่เขายังแปลกใจ มีทั้งตำแหน่งวางกล่องไม้ สิ่งของ รถที่จอด จำนวนปืนหรืออาจจะถึงแม็กกาซีนที่เหน็บเอวของสาวกลัทธิมืด เรย์ไม่รู้ว่าตอนนี้อะไรมีประโยชน์บ้าง แต่เขาก็ยังเล่ารายละเอียดทั้งหมดอยู่ดี เพื่อให้ฟาริสคิดแผนดี ๆ ออก
ผ่านไป 20 นาที แผนการหนีออกจากถ้ำใต้ดินโดยอาศัยเส้นทางของอุโมงค์โกดังของลัทธิมือก็เสร็จเรียบร้อย ด้วยการช่วยเหลือของทั้งสองคน
“ถ้าอย่างนั้นนี่ก็คือแผนสินะ” คอนราดฟังการอธิบายของฟาริสจบก็เงียบไป
“ไปลุยกันเลย” โบเวนดูจะชอบใจแผนการนี้พอสมควร เพราะที่ผ่านมาเขารู้สึกเหมือนกับติดกับดักมาตลอด โดนลอบโจมตีจากที่มืดโดยที่ไม่เคยเห็นหน้าศัตรูเลยด้วย ซ้ำทำให้เขารู้สึกอยากจะระเบิดความโกรธที่มีต่อสาวกลัทธิมืดออกมาเต็มทีแล้ว
“แผนไม่น่าจะมีปัญหา ลงมือกันเลยแล้วกัน” คอนราดกล่าว
ทุกคนในทีมพยักหน้ารับ ก่อนจะเริ่มลงมือตามแผนในทันที
...
แผนการเริ่มต้นขึ้น คอนราดเดินนำเรย์และโบเวนไปหาทางเข้าอีกจุดหนึ่ง ทางที่ซึ่งคิดว่าเป็นกับดักที่ทางลัทธิมืดเตรียมไว้ลอบโจมตีพวกเขา
ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็หาไม่ยาก ทางเข้าอีกแห่งนี้อยู่ไกลออกไปราว ๆ 1000 เมตรทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของจุดที่พวกเขาอยู่
เส้นทางนี้มีประตูเหล็กที่เต็มไปด้วยสนิมปิดสนิท ด้านบนเหนือประตูมีไฟสีเหลืองส้มส่องสว่างอยู่ท่ามกลางความมืด และนี่ก็เป็นเหตุผลที่พวกเขาหาประตูนี้ได้อย่างง่ายดาย
เรย์และพวกนอนหมอบซุ่มอยู่เนินดินห่างไปราว ๆ 50 เมตร เพื่อคอยดูสถาณการณ์
“ทางเข้านี่แน่ ๆ เราควรจะเข้าไปดูข้างในก่อน” เรย์พลิกตัวหลับนอนหงายและพูดกับคอนราดและโบเวน
“แน่ใจใช่ไหมว่าพวกเราไหว” โบเวนถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
“ลุยเลย” คอนราดกล่าวก่อนจะลุกออกไป
เรย์และโบเวนมองหน้ากัน ก่อนจะรีบวิ่งตามไป ทั้งสามมาหยุดอยู่หน้าประตู ตอนนี้นอกจากแสงไฟสีส้มจากหลอดไฟเหนือประตูเหล็กขึ้นสนิมแล้ว ยังมีบอลแสงสองดวงจากเรย์ช่วยให้พื้นที่ทั้งหมดในระยะ 20 เมตรนั้นส่องสว่าง
เรย์ยืนอยู่ด้านหลังกำลังจับปืนพกกึ่งอัตโนมัติ M1911A1 ที่ซึ่งมีกระสุนชำระล้างอยู่เต็มแม็กกาซีนและยังมีสำรองอีกหนึ่งแม็กกาซีนเก็บไว้กับตัว ซึ่งได้มาจากกระสุนสำรองของหัวหน้าคอนราด
ที่ประตูเหล็กขึ้นสนิมมีกลอนประตูแบบบิดอยู่ โบเวนผู้ที่เป็นเหมือนกับสายชนของทีมยื่นมือไปจับบิดดู แต่เหมือนมันจะล็อกไว้จากด้านใน
เมื่อเห็นว่าประตูล็อก โบเวนจึงยกมือขึ้นและเคาะไปที่ประตูสองสามครั้ง
ปัง! ปัง! ปัง!
หลังสิ้นเสียงเคาะประตู ก็มีเสียงบางสิ่งกรูกันวิ่งกระแทกประตูอย่างรุนแรง ก่อนจะเงียบหายไป ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าพวกมันคือซอมบี้
คอนราดหันมาส่งสัญญาณให้เรย์ ซึ่งเรย์ก็ไม่รอช้ายกมือขึ้นมา ก่อนเตรียมร่ายคาถาในทันที พร้อมกันนั้นคอนราดเดินเข้าไปหยุดอยู่เบื้องหน้าประตู มือสัมผัสก่อนหลับตาย พลังจิตขยายออกไปตามมือของคอนราด
กริ๊ก! มีเสียงดังมาจากกรประตู คอนราดใช้พลังจิตในการปลดล็อกกร โดยมีโบเวนที่ลงมือเปิดประตูทันทีที่กลอนประตูถูกปลดล็อก
ก่อนที่ทั้งสองจะกระโจนถอยหลังไปยืนข้าง ๆ กาย
จังหวะเดียวกับที่ประตูเหล็กขึ้นสนิมถูกเปิดก็มีกลิ่นเน่าจากศพโชยออกมา ขณะที่แสงจากหลอดไฟเหนือประตูและแสงจากบอลแสงสองดวงสาดส่องเข้าไปด้านในทางเดิน ก็เจอเข้ากับซอมบี้ซากศพจำนวนมากที่อัดแน่นกันอยู่ในทางเดิน ทันทีที่พวกมันเห็นแสงสว่างก็หันหน้าไปมองทางพวกเขา
ว๊ากกก!!!
ซอมบี้ซากศพอ้าปากคำรามออกมาด้วยความหิวโหย ก่อนจะวิ่งออกมาจากหลังประตูเหล็กขึ้นสนิมตรงเข้าหาทั้งสามคน แต่เรย์นั้นร่ายคาถารออยู่ก่อนแล้ว วินาทีที่พวกมันเหยียบออกนอกประตู คาถาแสงชำระล้างก็ถูกร่ายคาถาเสร็จ ก่อนจะพวยพุ่งขึ้นจากพื้นดินตรงหน้าประตูพอดี
ซอมบี้ซากศพ 5 ตัวแรกโดนคาถาแสงชำระล้างไปเต็มไป ก็ล้มทั้งยืนตัวไถลล้มไปกับพื้น แต่ก็มีซอมบี้ซากศพจากทางด้านหลังอีก พวกมันวิ่งเหยียบศพของซอมบี้ซากศพที่ตายไป มุ่งหน้าหาเรย์เพียงอย่างเดียว
แต่ตอนนั้นโบเวนที่เตรียมพร้อมก็เล็งปืนกลเบาเบรนจากนั้นก็เหนียวไกปืนยิงถล่มซอมบี้ซากศพ
ตัวของซอมบี้ซากศพถูกยิงจนพวกมันนั้นกระเด็นไปตามแรงปะทะของกระสุน บางตัวล้มลงแต่ก็ยังโดนยิงซ้ำ กระทั่งกระสุนของปืนกลเบาเบรนหมดลง พร้อมกับควันที่รอยออกมาจากกระบอก โบเวนถึงหยุดยิง
เขารีบเปลี่ยนอาวุธในมือจากปืนกลเบาเบรนเป็นมีดสปาต้าสองเล่ม
“มา!!!” โบเวนร้องคำรามหมุนควงมีดสปาต้าในมือ ก่อนจะกระโจนเข้าฟันใส่ซอมบี้ซากศพที่ยังไม่ตายอย่างไม่ยั้งมือ
คอนราดลงมือเช่นกัน ไฟแช็กโลหะมันวาวถูกจุดขึ้นเบื้องหน้า เปลวไฟขนาดเหล็กที่ไฟแช็กวูบไหวไปมา ก่อนจะพวยพุ่งขึ้นสูงเหนือหัวของคอนราด
“ไป!” สิ้นเสียงสั่ง เพลิงลอยอยู่ได้รวมตัวกันเป็นลูกไฟก่อนจะยิงเข้าหาซอมบี้ซากศพ ซอมบี้ที่โดนไฟของคอนราดเผามีเสียงส่งออกมาคล้ายกับเนื้อที่โดนย่างไฟมีกลิ่นเหม็นไหม้ออกมา ถึงอย่างนั้นซอมบี้ซากศพก็พยายามจะลุกขึ้นมาไล่กัดคอนราด แต่ก็ไม่อาจจะต้านทานไฟได้ มันตายลงไปในเวลาไม่ถึง 3 วินาที
เรย์ที่ร่ายคาถาบอลแสงไปเสร็จ ก็ใช้อาศัยจังหวะร่ายคาถาจากบอลแสงอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นเขาก็หยิบหนังสือเวทมนตร์ออกมาร่ายคาถาบอลเพลิงยิงใส่ซอมบี้จนพวกมันตัวลอยขึ้นและไหม้เกรียมตายไปอีกหลายตัว
ในจังหวะสุดต่อมาเรย์ใช้ปืนช่วยในการสังหารซอมบี้ซากศพ ยิงเขาที่ตัวเพื่อชะลอความเร็วของซอมบี้ ก่อนจะเป่าสมองซอมบี้ซากศพซ้ำอีกครั้ง
การต่อสู้เหมือนเป็นการเข่นฆ่าอยู่ฝ่ายเดียว ด้วยความที่พื้นต่อสู้นั้นกว้างทำให้ทั้งสามนั้นวิ่งหลบซอมบี้ได้อย่างไม่ยาก แต่แน่นอนว่ามันก็ไม่ง่าย เพราะซอมบี้ซากศพนั้นมีมากกว่า 20 ตัวด้วย
ซึ่งต้องใช้ทั้งพลังงานและความพยายามในการฆ่าเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายแล้วซอมบี้ซากศพทั้ง 20 ตัวก็โดนจัดการจนหมด
ทั้งสามคนยืนอยู่หน้าประตูเหล็กขึ้นสนิมที่เปิดออกจนสุด รอบตัวมีซอมบี้ซากศพนอนตายอยู่เกลื่อนไปทั่วทั้งบริเวณ พวกเขาหายใจเข้าออก ก่อนจะมีคนพูดขึ้นมา
“ซอมบี้พวกนี้มีปลอกคอเหล็กล่ามที่คอ พวกมันเหมือนกับหมาเฝ้าบ้าน” คอนราดกล่าวออกมา ก่อนจะเดินไปดึงเอาปลอกคอเหล็กออกมาจากคอของศพของซอมบี้ “เป็นของใหม่ แถมดูจากชุดและเสื้อผ้า ซอมบี้พวกนี้ก็เป็นพวกซอมบี้ที่พึ่งเกิด อาจจะเป็นพวกคนเร่ร่อนหรือไม่ก็ชนชั้นแรงงานที่โดนลักพาตัวมา”
“ถ้าอย่างนั้นพวกเขาก็เป็นคนธรรมดาที่โดนจับมาและถูกเปลี่ยนให้เป็นซอมบี้สินะ” เรย์เก็บหนังสือเวทมนตร์เข้ากระเป๋าก่อนเดินมาข้าง ๆ คอนราด
“พวกมันชั่วจริง ๆ” โบเวนกัดฟันพูดด้วยความโกรธ
“รีบไปเตรียมตัวเถอะ เราจะบุกต่อ ตอนนี้คงดึงดูดความสนใจและพวกมันคงรอเราอยู่ด้านในแล้ว” คอนราดโยนปลอกคอเหล็กในมือตนทิ้งที่พื้นดินข้าง ๆ ศพซอมบี้ ก่อนจะก้าวเท้าเดิมมุ่งหน้าเข้าไปในประตูที่เปิดอยู่