การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 67 เนื้อในแท้จริงของแร่เหล็กสวรรค์
ตอนที่ 67 เนื้อในแท้จริงของแร่เหล็กสวรรค์
“ดะ เดี๋ยวก่อนนะครับ ทะ ท่านว่าระดับสามอะไรนะ?!”
มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่หัวหน้าช่างตีเหล็กจะตกใจออกมาแบบนี้ เรื่องเคล็ดวิชาจารึ กคนที่รู้ว่าผมใช้มันไม่ได้ก็มีเพียงหยิบมือเท่านั้น และคนเหล่านั้นก็ไม่ปากสว่างกันด้วย สำหรับการตีทุกอย่างขึ้นมาจากแร่เหล็กสวรรค์มันไม่จำเป็นต้องใช้จารึกหลอก เพราะขนาดพวกชนเผ่าลึกลับที่ปรากฏตัวออกมาก็ไม่รู้วิธีการลงจารึกกันหรอก แต่ก็ยังใช้พวกมันได้ ทว่า เรื่องการลงจารึกแบบนี้ผมเป็นคนคิดขึ้นมาเอง ในระหว่างกำลังทำสงครามกับเผ่าสองอยู่
จารึก บวก แร่เหล็กสวรรค์ เพียงสองสิ่งนี้ก็ทำให้ทหารธรรมดาแข็งแกร่งขึ้นมาทันที ให้เปรียบก็คงประมาณชาวนากลายเป็นทหารที่มีอาวุธครบมือนั่นแหละ และด้วยวิธีแบบนี้ทำให้มนุษย์ในยุคสมัยหายนะแห่งมวลมนุษย์สามารถต้านเผ่าเทพ และเผ่าปีศาจที่มีระดับพลังเท่ากันได้ ทว่า สุดท้ายก็จบลงด้วยความพ่ายแพ้อยู่ดี
เฮ้อ~ …ถ้าช่วงเวลานั้นข้ามีแร่เหล็กสวรรค์ในมือมากมายแบบตอนนี้ ข้าก็คงไม่แพ้พวกมันง่ายๆ แน่นอน แต่ว่า ตอนนี้โอกาสแก้ตัวก็มาแล้ว หึหึ! การบุกของพวกแกครั้งนี้ ข้าจะเล่นสนุกด้วยให้เต็มที่เลย
“เจ้าได้ยินไม่ผิด ข้ากำลังพูดถึงจารึกนั่นแหละ จารึก! ของประเทศ ทอนต้า แถมจารึกของข้ายังดีกว่าพวกนั้นอีกด้วย”
“คือ….”
หัวหน้าช่างตีเหล็ก พูดออกมาด้วยสีหน้าไม่เชื่อ เหอๆ อยู่ๆมีคนมาบอกแบบนี้ผมก็ไม่เชื่อเหมือนกัน พวกที่เข้าใจว่าจารึกมันเป็นเคล็ดวิชาที่ล้ำค่าขนาดไหน ก็คือช่างตีเหล็กเหล่านี้นั่นแหละ
“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่เชื่อข้า แต่ข้าจะทำให้ดูหลังเจ้าทำขั้นตอนที่หนึ่งและสองสำเร็จ”
“ครับ…. ข้าว่าข้าสามารถทำได้ แต่ข้าคงทำต่อกันได้ไม่นานเท่าไหร่ เพราะการตี 50 ครั้ง ต่อ 1 นาที มันเป็นเรื่องที่แม้แต่ข้าที่พลังบ่มเพาะ ระดับจักรพรรดิ ก็ทำได้ไม่นานนัก แล้ว…”
ระหว่างพูดออกมา หัวหน้าช่างตีเหล็ก ก็หันไปทางเหล่าช่างตีเหล็กที่อยู่ด้านหลังด้วยแววตาหนักใจ หมอนี่คงเป็นกังวลนั่นแหละเพราะเรื่องที่แม้แต่ตัวเองที่มีพลังบ่มเพาะ ระดับจักรพรรดิ ยังแทบไม่สามารถทำได้ พวกช่างตีเหล็กที่มีระดับพลังบ่มเพาะ ระดับลมปราณแท้จริง ถึง ระดับราชานักรบ คงไม่สามารถตีกันได้แน่นอน แต่ว่า เรื่องนี้ผมก็คิดเอาไว้แล้วเหมือนกันถ้าไม่งั้นผมก็คงขอให้ ซาอุส หาแต่คนพลังบ่มเพาะ ระดับจักรพรรดิ มาให้เท่านั้นไปแล้ว หึหึ! ก่อนปัญหาจะเกิดผมก็แก้ไปเรียบร้อยแล้ว
“เรื่องคนอื่นๆ เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง เจ้าลืมไปแล้วหรือไงว่าข้าบอกว่าต้องการให้เจ้าทำขั้นตอนที่ 1 ให้ดูเท่านั้น เรื่องการใช้พวกนั้นทำงานข้าคิดเอาไว้หมดแล้ว”
หัวหน้าช่างตีเหล็ก ทำหน้าดีใจอย่างเห็นได้ชัดทันที
“เช่นนั้นข้าก็ขอบคุณท่านจริงๆ ถ้างั้นพวกเรามาเริ่มกันเลยไหม”
“อ่า”
หลังจากคุยกันเรียบร้อยผมก็หยิบเหล็กคีบแล้วใช้มันคีบก้อน แร่เหล็กสวรรค์ ขึ้นมา จากนั้นก็เอาไปใส่เตาไฟที่มีความร้อน 3000 องศา ความร้อนขนาดนี้มันไม่สามารถทำให้เปลืองนอกของมันหลุดออกมาได้แน่นอน เพราะตามที่ผมเข้าใจชนเผ่าลึกลับพวกนั้นก็ใช่ความร้อนที่ 4000 องศา โดยเตาหลอมของพวกนั้นสร้างมาจาก แร่เหล็กสวรรค์ เช่นเดียวกัน เพราะงั้นเลยทนความร้อนและสามารถหลอมอะไรต่อมิอะไรหลายๆ อย่างขึ้นมาได้ แต่ตอนนี้เตาหลอมด้านหน้าของผมมันยังร้อนไม่พอ เพราะงั้น ตอนนี้ก็ต้องใช้ลมปราณเพื่อเพิ่มองศา
คิดได้ ผมก็ตะโกนขึ้นมา
“ทุกคนดูให้ดี!!! ข้าจะทำให้ดูเพียงครั้งเดียว!!!”
ทุกสายตาในห้องจับจ้องมาทางผมทันที จากนั้นผมก็ปล่อยพลังปราณในร่างกายจำนวนมากเข้าไปยังในเตาหลอม พริบตา! องศาความร้อนก็เพิ่มขึ้น
3300
3500
3800
ในระหว่างที่องศาความร้อนกำลังเพิ่มขึ้น เสียงของเหล่าช่างตีเหล็กก็ดังขึ้นมา
“นะ นั่นมันเคล็ดวิชาเพลิงปราณ ทะ ทำไมท่านแกรนด์ดยุกถึงใช้มันได้!!!”
“นะ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ไหนตำนานบอกว่ามันหายสาบสูญไปนับพันปีแล้วไง!!!”
“ท่านแกรนด์ดยุก ทะ ท่านทำได้ยังครับ!!!”
เคล็ดวิชาเพลิงปราณ!
เคล็ดวิชานี้มันหายสาบสูญเป็นพันปีแบบที่พวกช่างตีเหล็กพูดออกมากันจริงๆ สำหรับพวกช่างตีเหล็กที่เห็นเคล็ดวิชาทีหายสาบสูญไปนับพันปี และได้มาเห็นมันกับตาแบบนี้คงเป็นเรื่องสุดยอดมากๆ แต่ว่า นี่มันก็เป็นผลมาจากสงครามหายนะแห่งมวลมนุษย์เหมือนกัน อย่างที่เคยบอกไป เมื่อทวีปตกอยู่ในความสิ้นหวัง ทุกประเทศ! ทุกสำนัก! ทุกตระกูล! ทุกคนต่างเอาของที่ตัวเองมีออกมา แล้วเคล็ดวิชาเพลิงลมปราณที่เพิ่มความร้อนให้เตาหลอมก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเหมือนกัน
4000!
หลังเพิ่มความร้อนได้ระดับที่ต้องการผมก็หยุดทันที จากนั้นก็หันไปทางหัวหน้าช่างตีเหล็ก
“เจ้าพร้อมไหม”
“ครับ!”
หัวหน้าช่างตีเหล็ก ตอบรับด้วยน้ำเสียงมั่นใจ พร้อมค้อนตีเหล็กขนาดเหมาะมืออยู่ในมือ รู้แบบนั้นผมก็ยิ้มมุมปากและยกแร่เหล็กสวรรค์ที่มีความร้อน 4000 องศา ขึ้นมาจากเตาหลอม
“เอาเลย!”
“ครับ!”
เปร้ง!
เปร้ง!
เปร้ง!
ค้อนตีเหล็กของหัวหน้าช่างตีเหล็ก ลงกระทบกับแร่เหล็กสวรรค์ทันทีหลังผมออกคำสั่ง ความเร็ว! ความแรง! ความต่อเนื้อง! ทุกอย่างต่อกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ผิดหวังจริงๆที่เป็นคนที่มีพลังบ่มเพาะ ระดับจักรพรรดิ …ยอดเยี่ยม
แล้วการที่ผมรู้ดีแบบนี้ว่าทุกอย่างมันลงตัว ก็เป็นเพราะผมเป็นคนจับแร่เหล็กสวรรค์เอาไว้อยู่ ถ้าไม่มีผมจับเอาไว้มันคงกระเด็นไปทั่วห้องแล้ว
เวลานี้ ทุกสายตาต่างมองมาทางพวกเราสองคนที่กำลังตีเหล็กอยู่แบบเป็นตาเดียวกัน ตามจริงหน้าที่จับแบบนี้มันก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผมหรอกที่จะมาทำมัน แต่ว่า การจะสั่งได้ก็ต้องทำให้ดูก่อน เพราะงั้นผมเลยเลือกที่จะมานั่งจับมันเองเช่นนี้
หลังการตีได้สักพักผมก็ชูมือขึ้น
“พอก่อน”
ค้อนที่กำลังทำความเร็วอย่างต่อเนื้องของหัวหน้าช่างตีเหล็กหยุดลงทันทีตามคำสั่ง จากนั้นผมก็เอาแร่เหล็กสวรรค์ลงไปในเตาหลอมอีกครั้ง พร้อมกับใช้เคล็ดวิชาเพลิงลมปราณเพิ่มความร้อนทันที การเปิดเผย! ถึงมันจะเป็นเพียงขั้นตอนที่ 1 แต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น จากที่ดูการตีเมื่อครู่ผมคงต้องทำซ้ำแบบนี้ประมาณ 10 – 15 รอบ มันถึงจะสามารถทำให้เปลือกด้านนอกแตกออกมาได้
เฮ้อ~ คิดแล้วก็เห็นความเหนื่อยลอยมาเลยจริงๆ ก็จริงอยู่ที่ผมชอบโรงตีเหล็ก แต่ที่ชอบก็เพราะคิดค้นอาวุธแล้วให้คนอื่นทำให้ต่างหาก ไม่ใช่การมาลงมือทำเองแบบนี้
….
2 ชั่วโมงผ่านไป
“หยุด! พอแล้ว!!”
“สะ เสร็จแล้วเหรอครับ?”
หัวหน้าช่างตีเหล็ก พูดเสียงสงสัยพรางก้มหน้ามองก้อนแร่เหล็กสวรรค์ด้านหน้า ตอนนี้ถ้าดูปกติมันก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนั่นแหละ แต่มันพอแล้ว!! หลังจากที่รู้ว่าถึงเวลาแน่นอน ผมก็ตะโกนอีกครั้ง
“ทุกคนดูเอาไว้!!!”
สายตาทั่วทั้งห้องจ้องมาที่ผมอีกครั้ง ด้วยเวลาตั้งสองชั่วโมงทำให้หลายคนเลิกสนใจไป เพราะงั้นเลยต้องเรียกความสนใจขึ้นมาอีกครั้ง
“หลังจากที่ตีได้สักพักเปลือกด้านนอกของเหล็กสวรรค์จะมีรอยร้าวขึ้นมา ไม่ว่าจะน้อยขนาดไหนแต่ถ้ามีรอยร้าวขึ้นมาสักนิดเดียวก็เท่ากับว่าเรียบร้อยขั้นที่ 1 แล้ว เมื่อรู้ว่าเป็นแบบนั้นพวกเจ้าก็ต้องปล่อยพลังปราณเข้าไปในพวกมันอย่างช้าๆ”
ผมเริ่มทำตามที่พูดทันที
“ระหว่างที่ทำแบบนี้พวกเจ้าต้องจำเอาไว้ด้วยว่าถ้าพวกเจ้าพลาด จะเท่ากับว่า แร่เหล็กสวรรค์ ชิ้นนั้นมันจะเสียไปในทันที ลมปราณที่พวกเจ้าปล่อยเข้าไปในช่วงนี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้เปลือกที่หุ้มมันอยู่แตกออกอย่างช้าๆ แต่ว่า ถ้าพลาดปล่อยลมปราณมากไปเปลือกแทนที่จะหลุดออกมันก็จะเกราะติดจนไม่สามารถเอาออกได้แทน …จำขั้นตอนนี้เอาไว้ให้ได้!!!”
“ครับ!!!”
เสียงตอบรับดังขึ้นมาพร้อมกันทั้งห้อง เพียงได้ยินเสียงที่ดังขึ้นมาผมก็สัมผัสได้ทันทีถึงความตื่นเต้นจากน้ำเสียงที่ดังขึ้นได้ชัดเจน ทว่า มันก็ไม่ได้แปลกอะไรหรอก ครั้งแรกที่ผมได้เห็นเนื้อในของมันผมก็ยืนอึ้งกับสิ่งที่เห็นเหมือนกัน อีกอย่าง ขั้นตอนที่ผมตะโกนบอกไปมันก็สำคัญมาก ถ้าพลาดปล่อยลมปราณมากเกินไป แร่เหล็กสวรรค์ อันแสนล้ำค่าก็จะพังและใช้ไม่ได้ทันที และจากล้ำค่าก็จะกลายเป็นไร้ค่าแทน
แปะ!
เรียบร้อย!
เสียงแตกของเปลือกหุ้มแตกออกแล้ว การได้ยินเสียงแบบนี้ก็เท่ากับว่าเหล็กชิ้นนี้จะไม่กลายเป็นเหล็กไร้ค่าอย่างแน่นอน รู้แบบนั้นผมก็ค่อยๆ สะบัดเปลือกหุ้มที่หลุดเรียบร้อยออกอย่างช้าๆ และแล้ว ลักษณะแท้จริงของแร่เหล็กสวรรค์ก็ปรากฏออกมาให้เห็น
ทันใดนั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นว่า…