การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 63 รักษาขาของอลิส
ตอนที่ 63 รักษาขาของอลิส
“ท่านพี่พูดจริงๆ ใช่ไหม?”
อลิส พูดออกมาด้วยสีหน้าไม่เชื่อระหว่างมองกล่องโอสถในมือของผม
หลังจากปรุงเรียบร้อยผมก็เดินทางออกจากสมาคมนักปรุงโอสถ แล้วมาหาเธอทันที แต่ว่า ถึงตอนนี้จะมีทางรักษาอยู่ตรงหน้าก็ตาม อลิส ก็ยังแสดงท่าทางไม่เชื่อออกมาชัดเจน แต่แบบนี้มันก็ไม่แปลกเพราะในอดีตตระกูล วอเตอร์ หาวิธีรักษาเธอมากมาย แต่ก็ไม่เคยหายเลยสักครั้ง และมองลองคิดดูเล่นๆ เรื่องที่ผมเส้นลมปราณพิการ เรื่องที่อลิสเดินไม่ได้ มันจะใช่ความโชคร้ายของตระกูล วอเตอร์ จริงๆ งั้นเหรอ
ทายาทรุ่นนี้ต่างก็เกิดมาไม่สมบูรณ์ทั้งสองคน มันเป็นเรื่องที่บังเอิญจนเกินไป ในชาติก่อนตอนที่มีอำนาจผมก็เคยสงสัยเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ด้วยไฟสงครามอันรุนแรงทำให้เรื่องหลักฐานหายไปจนหมด ก็ดลยไม่รู้แน่ชัดว่ามีคนต้องการให้เป็น หรือบังเอิญจริงๆ …ชักน่าคิดสะแล้วสิ
แต่ว่า คงไม่มีใครบ้าพอมาสร้างปัญหาต่อตระกูล แกรนด์ดยุก แห่งจักรวรรดิกันหรอก ถ้าพวกมันกล้าจริงๆ คงไม่รักชีวิตแล้วละเพราะในช่วงนั้นพ่อของผมก็ยังมีชีวิตอยู่ ตระกูล วอเตอร์ ไม่ได้ตกต่ำแบบเมื่อสมัยไม่กี่เดือนก่อนสะหน่อย เรื่องนี้ผมอาจจะคิดมากไปเองก็ได้
“แน่นอน ครั้งนี้พี่มั่นใจว่ามันรักษาขาของน้องได้แน่นอน เพียงแต่ต้องใช้เวลาสักหน่อยเท่านั้น”
“เหรอคะ….”
อลิส ยังคงตอบเสียงขอไปทีแล้วมองเม็ดโอสถแบบไม่เชื่ออยู่
“แต่ว่า ข้าคิดว่าท่านพี่คงหมดเงินไปเยอะแน่ๆ ถึงข้าจะไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่แต่ข้าก็ดูออกมาว่านี้มันเป็นโอสถที่ดีมากๆ เพียงแค่มองข้าก็เห็นแสงส่องออกมาแล้ว”
“ไม่ต้องห่วง น้องก็รู้ไม่ใช่หรือไงว่าตอนนี้ตระกูลของเรามีเงินขนาดไหน”
เรื่องหมดไปเท่าไหร่ผมคงตอบเป็นตัวเลขไม่ได้จริงๆ หรือพูดให้ถูกก็คือราคา 0 เหรียญ เพราะแจนด์ลาสไม่ได้เก็บเงินค่าวัตถุดิบและค่าใช้สถานที่อะไรเลย อีกอย่าง ต่อให้มีเงินเท่าไหร่ก็ซื้อโอสถแบบนี้ไม่ได้หรอก
“ที่ท่านพี่พูดออกมามันก็ถูก ข้าเจอหน้าไกอาเมื่อไหร่ก็เห็นเหมือนกับพึ่งตื่นนอนทุกที”
เหอๆ เจอพูดด้วยแบบนี้ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปเลย ที่สภาพไกอาเป็นแบบนั้นก็คงเป็นเพราะทำงานหนักนั่นแหละ เรื่องเส้นทะเลลมปราณกับน้ำตาลยังไม่จบ เรื่องที่ดินจำนวนมากก็เข้ามาอีก ไหนจะเรื่องแร่เหล็กสวรรค์และช็อกโกแลตที่กำลังจะวางขายอีก …คิดแล้วก็สงสารไกอาและพวกคนงานในฝ่ายบริหารของตระกูลเหมือนกัน แต่ว่า ผมก็ช้าไม่ได้ด้วย
“น่าๆ เรื่องไกอาน้องไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวรับคนใหม่เข้ามาก็ดีขึ้น”
เฮ้อ~ เสียงอลิสถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมกับส่ายหน้าไปมา
“ท่านพี่ออกไปแต่ด้านนอกไม่รู้เรื่องภายในเลยจริงๆ ตอนนี้คนงานในฝ่ายบริหารเหลือไม่ถึง 20% จากสมัยก่อนด้วยซ้ำ แถมข้าก็ต้องค่อยประกาศรับคนเข้ามาใหม่เรื่อยๆ พอหลังจากนั้นไม่เกินสองวันคนงานที่ข้ารับก็มาหา แล้วบอกว่า ‘ไม่ไหวแล้วครับ’ หรือ ‘ไม่ไหวแล้วคะ’ ข้าไม่รู้จะไปหลอกคนงานที่ไหนมาทำงานให้แล้ว”
“ตะ แต่นั้นมันหน้าที่เซ-”
“ท่านพี่จะให้ข้าอยู่บ้านแล้วกินๆนอนๆ ไปวันๆ งั้นเหรอ!!”
น้ำเสียงของอลิสครั้งนี้ใส่อารมณ์ออกมาเล็กน้อย เธอกอดอกพร้อมกับทำแก้มป่องหน่อยๆ แล้วหันหน้าหนีผมไป ท่าทางแบบนี้ของเธอเป็นตั้งแต่เด็กๆ ท่าทางเช่นนี้มันหมายความว่าเธอกำลังไม่พอใจแล้วต้องการให้อยู่ด้วย อาการแบบนี้คงประมาณพวกเรียกร้องความสนใจ แต่สิ่งที่เธอพูดออกมามันก็ถูกนั่นแหละ ตอนนี้งานในตระกูลมีมากเกินไป ถึงรับสมัครคนเพิ่มเข้ามาก็ออกกันไปอยู่ดี แต่ พวกนั้นเองนั่นแหละที่ทำไมถูกกันเอง ผมจ้างมาทำงานไม่ใช่มาเดินเล่นกันสักหน่อย เงินก็ให้! ที่พักก็ให้! โบนัสก็ให้! อาหารก็ฟรี! เฮ้อ~ พวกนี้คงต้องไปอยู่ในยุคสงครามหายนะแห่งมวลมนุษย์สักวันหรือสองวัน
กลับมาคงทำงานทนกันกว่านี้ ต้องให้รองไปสัมผัสเองว่ามันน่ากลัวขนาดไหน ทำงานก็ไม่พอกิน น้ำก็ขาดแคลน เรื่องความปลอดภัยก็ไม่ต้องพูดถึงถ้าไม่โดนเผ่าเทพหรือเผ่าปีศาจฆ่า ก็โดนมนุษย์กันเองฆ่าเพื่อแย้งเศษอาหารเล็กน้อย
แต่เรื่องคนงานช่างเถอะ ว่างๆไปปรึกษาแผนแก้ปัญหากับไกอาก็แล้วกัน
“เอาน่าๆ งั้นวันนี้พี่จะอยู่กับน้องจนน้องหลับเลย”
“ท่านพูดจริง!”
ใบหน้าการตอบรับของอลิสเหมือนกับลูกหมาแสนน้ารักขึ้นทันที มันก็รู้สึกผิดอยู่หรอกที่เอาเธอไปเปรียบเทียบกับอะไรแบบนั้น แต่ในสายตาของผมลูกหมามันน่ารักที่สุดแล้ว
ผมพยักหน้าขึ้นลงให้กับคำถามพร้อมรอยยิ้ม และพูดออกไปว่า
“แน่นอน เพราะพี่เองก็ไม่ได้พักมาหลายวันแล้ว”
“เอ่ะ?! …แบบนั้นข้าก็รบกวนท่านสินะ”
“มะ ไม่ใช่แบบนั้นหรอก พี่ต้องการนอนพักผ่อนพอดีต่างหาก”
ผมขยับกล่องโอสถไปใกล้เกว่าเดิม
“รีบๆ กินเข้าไปได้แล้วถ้าช้าจะหายไม่ทันวันเกิด”
“ค่ะ~”
งับ!
…….
เช้าวันต่อมา
ณ ลานกว้างคฤหาสน์ตระกูล วอเตอร์
997!
998!
999!
1000!!!
เช้าวันนี้เป็นเช้าที่อากาศหนาวเย็นแบบทุกวัน และหลังจากตื่นนอนมาผมก็มาที่นี่เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายโดยการวิดพื้น 1000 ครั้ง สมัยยุคหายนะแห่งมวลมนุษย์ผมก็ทำเรื่องแบบนี้ทุกวัน เพราะการเสริมความแข็งแกร่งของร่างกายมันจะช่วยให้ฝึกกำลังภายในได้ดีขึ้นกว่าปกติ แต่ว่า ที่ผมฝึกแบบนี้ไม่ใช่เพราะเรื่องแบบนั้นหรอก แต่ทำเพราะเคล็ดวิชาดูดกลืนลมปราณต่างหาก ถึงตอนนี้อวัยยวะภายในจะแข็งแกร่งมากขึ้นเพราะเคล็ดวิชาจากระบบแล้วก็ตาม แต่ เส้นเอ็น! กล้ามเนื้อ! กระดูก! และส่วนต่างๆ ของร่างกายมันไม่ได้แข็งแกร่งไปด้วย
ในชาติก่อน ผมลองวิธีนี่มาแล้วและมันก็ได้ผลจริงๆ เพราะงั้นการจะเพิ่มระดับพลังตัวเองให้ไปถึงระดับพระเจ้าแบบเดิมก็ต้องฝึกร่างกายภายนอกไปด้วย ต่อไปหลังจากจัดการเรื่องดาบเรียบร้อยก็คงต้องเป็นเรื่องของระดับพลังให้เข้าขั้นราชาแท้จริง
จากนั้น ก็เตรียมการอะไรนิดหน่อยแล้วเดินทางไปอาณาเขตทางเหนือ พร้อมกับเหล่าทหารทั้งสองแสนคนที่มีพลังระดับ ราชานักรบ ตามจริงผมก็อยากไปตอนนี้อยู่หรอก แต่ตอนนี้ทหารที่อยู่ในเส้นทะเลลมปราณคงมีระดับพลัง ราชานักรบ ไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ การเดินทางไปแบบไม่พร้อมก็ไม่ต่างอะไรจากการฆ่าตัวตาย เพราะการกลับไปครั้งนี้ไม่ใช่ไปปกครอง แต่เป็นการไปยึดครองแบบเบ็ดเสร็จ
ระหว่างกำลังยืนคิดเพื่อพักเหนื่อยอยู่ ด้านข้างของผมเซบาสก็เดินเข้ามาหา เห็นแบบนั้นผมก็ถามออกไปทันทีว่า
“มีเรื่องอะไร มันยังไม่ถึงเวลาอาหารเช้าไม่ใช่หรือไง”
“ข้ามารายงานเรื่องงานวันเกิดของท่านอลิสครับ อีกสามวันก็จะถึงวันเกิดแล้ว ท่านแกรนด์ดยุกต้องการเชิญใครเป็นพิเศษหรือไม่?”
สามวัน!
เรื่องขาของอลิสคงไม่ต้องเป็นห่วงเพราะโอสถนั่นมันดีอยู่แล้ว เธอคงเดินได้ภายในวันนี้ด้วยซ้ำ แล้วการที่เธอกลับมาเดินได้ในครั้งนี้คงทำให้สังคมชั้นสูงแห่งจักรวรรดิปั่นป่วนเป็นแน่ เลดี้พิการแห่งตระกูล วอเตอร์! ชื่อของเธอรู้จักกันในสังคมขุนนางจักรวรรดิเช่นนั้น แต่ว่า นอกจากเรื่องขาของเธอแล้วความสวยของเธอก็ไม่ใช่เล่นๆ ด้วยอิธิพลที่เพิ่มขึ้นมาอย่างมากของตระกูล วอตอร์ และจำนวนเงินที่ตระกูล วอเตอร์ ครอบครองอยู่
คงได้มีพวกมดพวกแมลงจำนวนมากเข้าหาเธอแน่ๆ เหอ! คิดแล้วก็รู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ พวกมันคงเข้ามาเพื่อใช้น้องสาวของผมเป็นสะพานเพื่อเพิ่มอำนาจของตัวเองกันนั่นแหละ แต่ว่า เรื่องแบบนี้มันก็ปกติของสังคมชนชั้นสูงอยู่แล้ว และ อลิส ก็ไม่ได้โง่จนโดนพวกมันหลอกใช้ง่ายๆ กันหรอก… ไม่สิ! ต้องพูดว่าพวกมันคงไม่โง่พอจนกล้ามาหลอกใช้น้องสาวผมกันหรอก ถ้าพวกมันกล้ากันจริงๆ ก็คงต้องเกิดเรื่องแบบเดียวกับตระกูล มอแกน กลับตระกูลของพวกมันกันแน่ หึหึ!
เงียบได้สักพัก ผมก็ถามออกไปอีกว่า
“เจ้าส่งบัตรเชิญไปยังตระกูล กริฟฟอน หรือยัง?”
“แน่นอนครับ! ข้าส่งไปแล้วและทางนั้นก็บอกว่าจะให้ท่าน ลิเลน่า กริฟฟอน เดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้ แล้วข้าก็ส่งไปยังตระกูล แกรนด์ดยุก อีกทั้งสองตระกูลแล้วเช่นกัน แต่ว่า พวกนั้นยังไม่ตอบกลับอะไรมาเลยครับ”
หึ! ดูเหมือนว่าตระกูล กริฟฟอน คงเป็นตระกูลเดียวสินะที่มีสมองคิดได้ แต่เรื่องการตอบรับคงเป็นเพราะทางนั้นคิดว่าผมสนับสนุนองค์ชาย ซิคฟรีส อยู่แน่ๆ เพราะจากความทรงจำของผมในชาติก่อนตระกูล กริฟฟอน เหมือนว่าจะประกาศตัวออกมาสนับสนุนองค์ชาย ซิคฟรีส ทันที หลังองค์ จักรพรรดิสวรรค์ ตายไป การตอบรับคำเชิญครั้งนี้คงเป็นสัญญาณแสดงมิตรไมตรีต่อกัน
แต่เรื่องสงครามองค์ชาย หรือองค์หญิงก็ช่างพวกมันเถอะ เพราะยังไงสะถ้าใครได้ขึ้นเป็นองค์ จักรพรรดิ คนต่อไป ผมก็ไม่สนใจเรื่องนั้นอยู่ดี แต่ถ้าเกิดมีใครที่พยามทำลายหรือต่อต้านผมแบบยัยร่าน ก็คงต้องทำให้พวกนั้นรู้จุดยืนตัวเองเอาไว้กันบ้าง
“ดีมาก! ถ้าพวกนั้นไม่ตอบรับก็ไม่ต้องสนใจ แล้วถ้าพวกมันปรากฏตัวมาก็ให้อัศวินไล่กลับไปได้เลย ตระกูล วอเตอร์ ไม่ต้องการให้พวกไร้มารยาทเข้างาน”
“ครับ… แล้วก็มีอีกเรื่องที่ข้าต้องแจ้งท่านไว้!!”
“ว่ามา”