การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 54 ความเกรี้ยวกราดขององค์ จักรพรรดิสวรรค์
ตอนที่ 54 ความเกรี้ยวกราดขององค์ จักรพรรดิสวรรค์
“เจ้ามีอะไรจะพูดต่อไหม หัวหน้ากรมทหาร!”
องค์ จักรพรรดิสวรรค์ กล่าวถาม หัวหน้ากรมทหาร ด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง เวลานี้ทุกอย่างมันเข้าข้างผมหมดแล้ว เพียงแค่กรมยุติธรรมเข้ามาช่วยเหลือข้อฟ้องร้องหัวหน้ากรมทหารก็หายไปจนหมด ขณะเดียวกัน เรมอน มอแกน ก็ตาขวางมองมาทางผมแบบอยากจะฆ่าผมให้ได้ ถ้าตอนนี้ไม่ได้อยู่ในพระราชวังและต่อหน้าองค์ จักรพรรดิสวรรค์ ผมคิดว่ามันคงกระโจนเข้ามาแล้ว แต่ยังหรอก… เรื่องของพวกเรามันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก
“ระ เรื่องถอนกำลังอาจเป็นความเข้าใจผิดของข้า แต่ว่า เรื่องที่แกรนด์ดยุกถอนกำลังออกมาเร็วเกินไปมันก็ไม่สมควรครับ ตามที่กรมทหารได้รับรายงานมา เหมือนว่าขุนนางส่วนมากในอาณาเขตทางเหนือจะไม่มีกำลังรบกันเท่าที่ควรซึ่งมันก็เพราะสงครามที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน เพราะ-”
“เจ้ากำลังบอกว่า กองอัศวินหลวงทั้งสองแสนของข้า ไม่ให้การช่วยเหลืองั้นเหรอ!!!”
องค์ จักรพรรดิสวรรค์ ตะโกนนำเสียงดังลั่นก่อนที่ หัวหน้ากรมทหาร จะได้พูดจบ
กองอัศวินหลวง! พวกนั้นถูกส่งออกไปเกือบสามเดือนได้แล้วตั้งแต่ที่ผมขอร้องไป การกล่าวหาว่าเหล่าขุนนางยังคงเจอกับสงครามที่ยาวนานมันเป็นข้อแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น ตามที่ผมขอไปเหมือนว่ากองอัศวินหลวงจะเข้าประจำชายแดนในดินแดนทางเหนือกว่า 50% ของทั้งหมด ด้วยกำลังรบขนาดนั้น มันมีเวลามากมายที่จะให้เหล่าขุนนางจะรวบรวมกำลังทหารและอัศวินของตัวเองอีกครั้ง
แต่ว่า พวกมันกลับไม่ทำและคิดว่าตัวเองจะโดนปกป้องตลอด หัวหน้ากรมทหาร พูดปกป้องขุนนางขยะพวกนั้นก็เท่ากับว่าเป็นการว่าร้ายกองอัศวินหลวงขององค์ จักรพรรดิสวรรค์ ในทันทีเช่นกัน
“ขะ ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้นครับ กองอัศวินหลวงทำหน้าที่ได้ดีมาก แต่ด้วยสงครามที่ยาวนานของอาณาเขตทางเหนือทำให้หาทหารมาเป็นกำลังรบได้ยาก…”
แปะ!
“แหกตาดูยอดเงินที่ตระกูล วอเตอร์ ส่งสนับสนุนพวกมันสะ!!!”
องค์ จักรพรรดิสวรรค์ โยนกองกระดาษที่ได้จากกรมยุติธรรมเมื่อครู่ลงด้านหน้า หัวหน้ากรมบริการ ทันใดนั้นใบหน้าของมันก็มืดลงด้วยความสิ้นหวังและตกใจกับตัวเลขด้านหน้า จำนวนเงิน! จำนวนเงินที่ตระกูล วอเตอร์ ส่งให้พวกขุนนางมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แทบทุกเดือนในช่วงสามปีท่านผ่านมา แถมสามเดือนล่าสุดที่ได้รับการคุ้มครองจากกองอัศวินหลวงที่องค์ จักรพรรดิสวรรค์ ส่งไป มันยังเป็นตัวเลยที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเยอะมากๆ
ใบหน้าที่แสดงออกมาของมันคงไม่รู้เรื่องนั้นแน่ๆ พวกขุนนางอาณาเขตทางเหนือคงไม่ได้บอกเอาไว้ว่าหลังจากกองอัศวินหลวงเข้าคุ้มครอง พวกมันก็ขอเพิ่มเงินในการสนับสนุน โดยข้ออ้างก็ง่ายๆ ‘ต้องการเอาเงินไปซื้ออาหารและอุปกรณ์ให้กองอัศวินหลวง’ ซึ่ง!! ผมก็รู้นั่นแหละว่าที่พวกมันต้องการจริงๆ คือเงินไปใช้กันมากกว่าและคนสั่งก็น่าจะเป็นยัยร่านที่ควบคุมพวกมันอยู่ แต่ถึงจะรู้แบบนั้น ผมก็ให้เงินพวกมันไปเพราะคิดไว้ว่าจะใช้เรื่องพวกนี้จัดการพวกมันในสักวัน
และสักวันที่พูดถึงก็คือ วันนี้!! หึหึ!
“เจ้าเห็นไหมว่างบประมาณที่ส่งให้จากตระกูล วอเตอร์ มันเพิ่มมากมายขนาดไหน”
ระหว่างพูดองค์ จักรพรรดิสวรรค์ ก็หันมาทางผม
“แกรนด์ดยุก พวกมันบอกเจ้าว่าจะเอาเงินไปทำอะไร?!”
“ตามสิ่งที่ขอมา ขุนนางที่มีอาณาเขตติดกับพื้นที่รับผิดชอบกับกองอัศวินหลวงบอกว่าจะเอาเงินไปสนับสนุนและสร้างกองทัพเพื่อเตรียมพร้อมเอาไว้ครับ”
“ได้ยินเต็มสองหูแล้วใช่ไหม สามเดือน!!! พวกมันมีทั้งเงินและเวลาขนาดนั้น เจ้าคิดว่าจะสามารถหาทหารหรือกำลังรบยากขนาดนั้นอีกหรือไม่!?”
ถูกต้องแล้ว!
ระยะเวลา! จำนวนเงิน! พวกนั้นมันมีพร้อมหมด ถ้าทำกันจริงๆ คงได้กำลังทหารในการควบคุมไม่ต่ำกว่าคนละ 3,000 – 5,000 คน กำลังทหารขนาดนั้นสามารถต้านทานการบุกของเผ่าขนาดเล็กและประเทศขนาดเล็กได้สบายๆ เพราะยังไงสะถ้ากองทัพขนาดใหญ่เดินทางเข้ามากองอัศวินหลวงก็คงเคลื่อนพลเพื่อจัดการพวกมันอยู่ดี …ส่วนเหตุผลที่กองอัศวินหลวงไม่หยุดการโจมตีขนาดเล็กก็น่าจะเพราะจอมพล โรเจอร์ แมคซีออล ชายคนนั้นถึงจะเป็นยอดทหารแต่เรื่องการเมืองก็ไม่ใช่เล่นๆ
การถอนกำลังรบตระกูล วอเตอร์ ออกจากชายแดนของผม คงสร้างความไม่พอใจต่อชายคนนั้นไม่ใช่น้อยๆ ก็เลยตอบกลับโดยการไม่จัดการปัญหาเล็กๆ แบบนี้ให้ หึหึ! ไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ แต่การกระทำของท่านก็ช่วยข้าในเรื่องนี้มากอยู่ดี
“คือ…”
“พอ!! ครั้งนี้เจ้ายอมรับความผิดเรื่องตรวจสอบข้อมูลไปสะ ข้าเข้าใจว่าเจ้าคงโดนขุนนางเหล่านั้นปั่นหัวมาเช่นกัน”
องค์ จักรพรรดิสวรรค์ หันมาทาผมต่อทันทีหลังพูดจบ
“เจ้าเองก็ยกโทษในเรื่องครั้งนี้ด้วย เรื่องนี้ หัวหน้ากรมทหาร จะชดใช้ให้แน่นอน แต่ข้าขอคิดก่อนว่าจะให้ชดใช้ต่อเจ้ายังไง”
การที่องค์ จักรพรรดิสวรรค์ พูดออกมาแบบนี้คงกำลังจะสื่อว่า ‘ไล่หัวหน้ากรมทหารออกไม่ได้เด็ดขาด’ อย่างที่ผมบอกไป หัวหน้ากรมทหารและหัวหน้ากรมบริหารนั้นอำนาจแตกต่างกันมาก อำนาจการเงินหรือจะสู้อำนาจทางการทหาร มันสู้ไม่ได้แน่นอน แต่เรื่องมันยังไม่จบแค่นี้หรอก!
“ยกโทษการฟ้องร้องข้าไม่มีปัญหา แต่ว่า ข้าอยากรายงานอีกเรื่องต่อท่านครับ”
“เชิญ!!”
“ระหว่างที่ข้าสู้กับกลุ่มโจร ไนน์เดมอน พวกมันมีม้าศึกใช้กันจำนวนนับ 1,000 ตัว ซึ่งก่อนที่ข้าจะเดินทางไปก็ให้คนตรวจดูแล้วว่าพวกมันแทบไม่มีม้าใช้กันเลย …และม้าศึกนะ-”
ตุ๊บ!!!
ฝ่ามือขององค์ จักรพรรดิสวรรค์ ทุบลงยังที่พักแขนในทันที พร้อมกับไอพลังปราณจำนวนมากที่ปล่อยออกมา ดูจากใบหน้าที่พระองค์กำลังแสดงออกมาตอนนี้คงโกรธจริงๆ แล้วละ ตั้งแต่เริ่มการฟ้องร้องมามันคงเป็นการแสดงไม่พอใจให้มันสมบทบาทองค์ จักรพรรดิ ที่โดนก่อกวนเพราะเรื่องการตีกันของขุนนางเพียงเท่านั้น ทว่า เรื่องม้าศึกที่ไปปรากฏตัวกับกลุ่มโจรนั้นต่างออกไป
ถ้าข่าวเรื่องนี้หลุดออกไป จักรวรรดิ คงได้กลายเป็นตัวตลกให้ประเทศรอบข้างหัวเราะกันแน่ ม้าศึก 1,000 ตัว มันไม่ใช่จำนวนที่จะมองข้ามไปได้ง่ายๆ ถ้า 1 หรือ 10 มันยังพอไปได้ แต่จำนวนขนาดนี้เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่โจรจะสามารถจัดหากันเองได้ แถมยังจัดหาได้ในเวลาอันสั้นอีก ตอนนี้ต่อให้เป็นคนที่โง่ที่สุดในห้องก็รู้ได้ทันทีว่ามันเป็นฝีมือของขุนนาง!!
ทางด้านตัวแทน แกรนด์ดยุก ทั้งสาม พวกนั้นทั้งสามคนต่างทำหน้าซีดลงทันทีเมื่อเห็นการตอบกลับขององค์ จักรพรรดิสวรรค์ ในตอนนี้เรื่องม้าศึก 1,000 ตัว พวกที่จะโดนสงสัยเป็นพวกแรกก็คงเป็นเหล่าตระกูล แกรนด์ดยุก ที่มีอำนาจกันก่อนอยู่แล้ว อีกอย่าง พวกนั้นถึงอนาคตอาจจะกลายเป็นแกรนด์ดยุกแต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เป็นแกรนด์ดยุก ถ้าให้เปรียบตอนนี้ก็เหมือนลูกเสือที่กำลังจะเติบโต มาโดนคนที่เปรียบได้ดังกับสิงโตอย่างองค์ จักรพรรดิสวรรค์ ข่มขู่แบบนี้ ก็ต้องแสดงความหวาดกลัวออกมาเป็นธรรมดา
อย่าว่าแต่พวกนั้นเลย ต่อให้ผู้นำตระกูลมาเองก็คงหวาดกลัวกับสถานการณ์แบบนี้เช่นกัน ผมก็ไม่รู้หรอกว่าเหล่าตระกูล แกรนด์ดยุก ทั้งสามตระกูลจะร่วมมือในครั้งนี้หรือเปล่า อีกอย่างเรื่องครั้งนี้ผมไม่ได้ต้องการมีปัญหากับพวกนั้นแต่ต้องการจัดการตระกูล มอแกน และ หัวหน้ากรมทหาร ต่างหาก สัมผัสถึงแรงกดดันได้ไม่นานผมก็พูดออกไปว่า
“เรื่องนี้คงต้องสอบถาม หัวหน้ากรมทหาร ครับ ตระกูลที่จัดสรรม้าให้ข้าก็ไม่รู้ว่าเป็นตระกูลไหนในจักรวรรดิเพราะพวกมันคงทำลายหลักฐานไปหมดแล้ว แต่ว่า การเคลื่อนพลของจำนวนม้าศึกทั้ง 1,000 ตัว กรมทหารต้องอธิบายเรื่องนี้ได้แน่นอน”
องค์ จักรพรรดิสวรรค์ มองผมแบบไม่พอใจ แต่ไม่นานพระองค์ก็เหมือนจะสงบลงได้ แล้วหันไปทางหัวหน้ากรมทหาร
“เจ้ามีอะไรจะพูดไหม หัวหน้ากรมทหาร หวังว่าเจ้าคงพูดอะไรที่เข้าหูข้าออกมาได้ ถ้าไม่เช่นนั้น ก็อย่าหาว่าข้าไร้เหตุผลถ้าเกิดมีการสั่งประหารเกิดขึ้น!!”
ใบหน้า หัวหน้ากรมทหาร เต็มไปด้วยความหวาดกลัวทันทีหลังฟังจบ คิดว่าตอนนี้องค์ จักรพรรดิสวรรค์ คงไม่สนใจเรื่องขั้วอำนาจอีกต่อไปแล้ว การมอบม้าศึกให้โจรมันเกินรับได้เกินไป …คงถึงเวลาที่จะเอาตัวเอกขึ้นมาบนเวทีแล้วละ หึหึ! เมื่อคิดได้ผมก็พูดออกไปว่า
“ข้ารู้ว่าท่านไม่ได้เป็นคนส่งไป แต่ท่านควรบอกความจริงต่อองค์ จักรพรรดิสวรรค์ ได้แล้ว ใครเป็นคนสั่งท่าน! คนมีอำนาจคนไหนชักใยในการฟ้องร้องครั้งนี้! และ ใครคือคนที่มีอำนาจจนขนาดปิดเรื่องการขนส่งม้าศึกนับพันเช่นนี้! ท่านควรกล่าวมันออกมาสะ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้พูดอะไรอีก”
หัวหน้ากรมทหาร หันมองมาทางผมทันทีด้วยสีหน้าตกใจ มันคงคิดว่าผมไม่รู้นั่นแหละว่าใครอยู่เบื้องหลังทั้งหมดในครั้งนี้ คนที่อยู่เบื้องหลังในครั้งนี้ปิดบังตัวตนได้อย่างดี ถ้าไม่รู้แก่ใจผมก็คงไม่สังเกตเห็นหรอกว่าเป็นใคร
ถ้าสถานการณ์ปกติคงคิดว่าเป็น 1 ใน 3 ตระกูล แกรนด์ดยุก แต่ว่า นั่นมันเป็นเพียงตัวล้อให้สับสนเท่านั้น กรมบริหาร! กรมทหาร! ตระกูลมอแกน! และเหล่าขุนนางอีก 88 ตระกูล พวกนั้นก็เพียงแค่หมากที่ยัยนั้นใช้งานเท่านั้น หึหึ! …องค์หญิง เนร่า คงได้เวลาที่เธอจะออกมารับกรรมที่ทำแล้วละ!!