จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 581
บทที่ 581:ซอลฟาแรค
"ยิ่งเจ้าสังหารจักรวรรดิเพลิงมากเท่าใด ความแข็งแกร่งในการอัพเกรดครั้งต่อไปย่อมมากขึ้นเท่านั้น ข้าจะส่งเจ้าไปยังป่าแสงจันทร์โดยไม่คิดค่าอะไร เพราะยังไงเจ้าก็เป็นพันธมิตรกับวงกลมเซนาเรียส ... "
คำพูดของเรมูลัสได้สะท้อนอยู่ในหูของลูหลี่ แต่ตอนเนี้เขาได้อยู่ในแกดเกดสันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เพื่อนร่วมทีมของเขากำลังรอเขาอยู่ที่นี่ เพราะพวกเขากำลังจะเริ่มเคลียร์ดันเจี้ยนซอลฟาแรคแล้ว พวกเขาต้องการที่จะเอาการเคลียร์ครั้งแรกของดันเจี้ยนนี้
อย่างไรก็ตาม ก่อนอื่นเลย พวกเขาต้องรับเควสที่เกี่ยวข้องกับดันเจี้ยนก่อน เควสแรกเป็นของคาเซกในหุบเขาเสตร็งเลทฮอน เขาเป็นผู้นำทางทรานเร็กสู่เมืองแกดเกดสัน ส่วนทรานเร็กก็เป็นคนส่งเปลือกแมลงปีกแข็งทุกๆงวด แต่ในคราวนี้เขากลับส่งล่าช้า
คาเซก: เขาเป็นพี่ชายของข้า ดังนั้นแล้ว ข้าจึงไม่ต้องการที่จะส่งคนเก็บหนี้ไปที่แกดเกดสันเลย ได้โปรดช่วยข้าทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับทรานเร็กกัน? เขาควรจะส่งพวกมันมาให้ข้าอย่างรวดเร็วสิ นี้มันทำให้ข้าประหลาดใจเสียจริง
ทั้งสองคนเป็นก็อบลินแสนทุจริตที่เข้าคู่กันอย่างสมบูรณ์แบบ
ใช่แล้ว ตัวทรานเล็กเองก็เป็นก็อบลินแสนขี้โกง
เขาบอกว่า เปลือกหอยที่เขาขายนั้นแข็งแรงพอที่จะขายเป็นวัสดุก่อสร้างได้ เนื่องจากเขาบอกว่ามันมีค่ามากขนาดนั้น ทำให้แมลงซแคแร็บถูกล่าอย่างกว้างขวางและเกือบจะสูญพันธุ์ไป
ซึ่งทรานเร็กเองก็บอกผู้เล่นว่ามีแมลงซแคแร็บอยู่ในดันเจี้ยนซอลฟาแรคจำนวนมาก
ภารกิจของพวกเขาคือการรวบรวมเปลือกหอยของแมลงซแคแร็บในสามวัน ไม่อย่างนั้น ทรานเร็กก็จะตีหัวของพวกเขา
มันไม่ใช่เรื่องตลกเลย หากพวกเขาล้มเหลวในภารกิจก็หมายถึงความตายที่ต้องสูญเสียค่าประสบการณ์ไป 5%
นอกจากเควสนี้แล้ว ก็ยังมีเควสอีกหลายเควสที่พวกเขาไปรับมา ไม่ว่าเควสพวกนี้จะมอบอุปกรณ์ ค่าประสบการณ์หรืออะไรก็ตาม ไม่มีทางเลยที่พวกเขาจะพลาดมันไปสักเควส
มีเส้นทางจากเมืองแกดเกดสันไปยังดันเจี้ยนซอลฟาแรคอยู่ แม้จะเป็นเส้นทางที่ไกลพอสมควร แต่หนอนทะเลทรายเองก็ไม่ค่อยได้ปรากฏตัวบ่อยนัก
ซึ่งนอกจากนี้เอาก็มีถนนไปสู่ดันเจี้ยนด้วย แม้ระยะทางจะใกล้ แต่มันก็เสี่ยงจนผู้เล่นส่วนมากไม่ใช้เส้นทางนี้กัน
ถนนสายนี้เป็นเส้นทางการขนส่งสำหรับพวกก็อบลินในทะเลทรายที่สำรวจซากปรักหักพังโบราณ หรือไม่ก็กำลังหาแหล่งแร่ พวกมันทำทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถทำเงินได้
ส่วนเรื่องหนอนทะเลทรายในเส้นทางนี้นั้น ถ้าคุณสังเกตุตรงพื้นรอบๆทะเลทรายดีๆ คุณจะมองเห็นอุปกรณ์ของพวกก็อบลินที่ติดตั้งไว้อยู่บนทะเลทราย
อุปกรณ์พวกนี้จะปล่อยเสียงอุลตร้าโซนิคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อหนอนทะเลทรายและเป็นการไล่มันออกจากพื้นที่
การต่อสู้ที่รุนแรงเกิดขึ้นอยู่ตลอดบนเส้นทางนี้ ซึ่งมันก็สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทเกมด้วย ตั้งแต่ที่เกมเปิดมา พื้นที่แห่งนี้เป็นสถานที่ๆเป็นศึกระหว่างฝ่ายพันธมิตรและฝ่ายเผ่าพันธุ์ที่ไม่สิ้นสุด
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ยังไม่ได้เกิดศึกอะไรแบบนั้นขึ้น
แน่นอนว่าลูหลี่และคนอื่นๆเองก็ไม่ทำตัวเด่นแน่ๆ เพราะถ้าเขาประกาศว่าตัวเองเป็นลูหลี่ คงจะมีคนมาหาเขาตลอดทั้งทาง ซึ่งย่อมต้องมีคนที่หวังจะฆ่าเขาด้วย
หากเขาถูกฆ่าไปล่ะก็ ไอเท็มที่เขาต้องดรอบลงไปนั้นก็ถือว่าเสียหายกับเขาพอควร
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคนที่แค้นก็เป็นแฟนคลับของซอวโรวเลสที่บูชาเขา พวกเขาเฝ้าดูคลิปของซอวโรวเลสเป็นสิบๆคลิป
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาถูกถามว่าทำไมเขาถึงต้องการที่จะฆ่าคนที่ฆ่าซอวโรวเลส คนๆนั้นคงตอบอย่างบริสุทธิ์ใจว่า "มีปัญหาอะไรกับการบูชาใครสักคนและฆ่าคนที่ฆ่าเขาเพื่อเอาไอเท็มด้วยงั้นเหรอ?"
หลังจากที่ผ่านผู้เล่นตัวปัญหาจำนวนหนึ่งที่อยู่ตามเส้นทางแล้ว ลูหลี่และคนอื่นๆก็เห็นทางเข้าดันเจี้ยนในไม่ช้า ในทางนั้นเอง ก็ได้มีก๊อบลินอยู่ที่นั่น ซึ่งพวกมันจะมอบบัพให้พวกเขาแลกกับสองเหรียญทอง
บัพแรกเป็นการลดความเสียหายจากวูดู -20%
มันเป็นอะไรที่แข็งแกร่งมาก เมื่อต้องต่อสู้กับโทรลและมันเรียกได้ว่าเป็นบัพที่ไว้ใช้รักษาชีวิตเลยก็ได้
แน่นอนว่ามันคงจะไม่ได้น่าเหลือเชื่อแบบลดความเสียหาย -20% ของโทรลทั้งหมดจริงๆ ไม่อย่างงั้นทีมอื่นๆก็คงจะสามารถไปถึงบอสตัวที่ 2 ได้อย่างง่ายดายแล้ว
"ระดับฝันร้ายเหรอ?"อาเซอร์ซีบรีสที่เป็นคนเลือกระดับความยากได้หันกลับมาและถามขึ้นมา
"ใช่ ความยากระดับฝันร้าย!"ลูหลี่พยักหน้าและยืนยัน
ซอลฟาแรคไม่ใช่ดันเจี้ยนที่ยากเป็นพิเศษ มีแค่บอสตัวที่สองและตัวสุดท้ายเท่านั้นที่ผู้เล่นจำเป็นต้องมีระดับอย่างน้อย 35 หรือสูงกว่าเพื่อกำจัดมัน
"ว้าว น่าสนุกดีหนิ" อาเซอร์ซีบรีสไม่กลัวความท้าทายและก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆ เมื่อมีลูหลี่อยู่ใกล้ๆตัว
ส่วนคนอื่นๆก็ไม่ได้กังวลอะไรเลย ตราบเท่าที่เขามีลูหลี่อยู่ในทีม ไม่ว่าอะไรพวกเขาก็จะสามารถผ่านมันไปได้หมด ส่วนเด็กสาวอีกคนที่กำลังยุ่งอยู่กับสัตว์เลี้ยงของตัวเอง ก็คงจะเป็นไปได้ว่าเธอคงจะไม่สามารถบอกได้ว่าความยากระดับสูงสุดกับความยากระดับฝันร้ายแตกต่างกันยังไง
"เฮ้ย ทีมที่เพิ่งเข้าไปตะกี้มันไม่ได้เลือกความยากระดับสูงสุด" นักเวทย์ในทีมที่อยู่ด้านหลังของพวกเขากล่าวขึ้นมาในขณะที่เขาเห็นอาเซอร์ซีบรีสเลือกระดับความยาก
รูนที่แสดงบนดันเจี้ยนจะแสดงสิ่งที่แตกต่างกันขึ้นมา ระหว่างความยากระดับฝันร้ายและความยากระดับสูงสุด
นอกจากความยากระดับฝันร้ายและระดับสูงสุดแล้ว ยังมีระดับวีรบุรุษอีก ผู้เล่นส่วนใหญ่กำลังพยายามจะเคลียร์ดันเจี้ยนในความยากระดับสูงสุดในขณะที่ผู้เล่นบางจำพวกก็พยายามเคลียร์ความยากในระดับธรรมดาอยู่
เมื่อพวกเขาเห็นว่ามีคนเลือกความยากระดับฝันร้าย พวกเขาก็ตกใจเป็นอย่างมาก
"ไม่มีทาง! คนสามพวกเขากล้าเลือกความยากระดับฝันร้ายได้ยังไงกัน?"พาลาดินที่ถือดาบใหญ่พูดขึ้ันมาอย่างไม่เชื่อเลยสักนิด
"ฉันเห็นมันด้วยตาตัวเองเลยนะ ฉันไม่มีทางดูผิดแน่" นักเวทย์พูดขึ้นมา "ฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของรูนหน้าดันเจี้ยนและฉันก็รู้ว่าสิ่งที่มันแสดงออกมา มันต้องเป็นความยากระดับฝันร้ายแน่"
รูนเป็นทักษะอาชีพที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกไวต่อรูนที่หน้าทางเข้าของดันเจี้ยน
"บางทีพวกเขาอาจจะเลือกความยากระดับฝันร้ายเพื่ออวดเราก็ได้ ฉันเองก็เลือกความยากระดับฝันร้ายได้เหมือนกันแหละ "พาลาดินยังคงปากแข็งและดันทุรังที่จะไม่เชื่อ
ทุกๆคนต่างก็คิดว่าตัวเองนั้นเป็นตัวเอกในโลกจินตนาการของตัวเองกันทั้งนั้น
พวกเขาจะเลือกความยากระดับสูงสุดได้ยังไง ถ้ามีคนกล้ามาเลือกความยากระดับฝันร้ายต่อหน้าต่อตาเขา
"นั้นนะลูหลี่ อาเซอร์ซีบรีสและคนอื่นๆ พวกเขาอยู่ในกลุ่มทหารรับจ้างซินซิน ดูเหมือนว่าสมาคมกฏแห่งดาบคงกำลังจะมาเคลียร์ดันเจี้ยนซอลฟาแรคสินะ "ในที่สุดก็ได้มีคนหนึ่งที่ตระหนักว่าคนที่ผ่านไปก่อนพวกเขานั้นเป็นใคร
การที่จะเคลียร์บอสป่าได้นั้น สมาคมส่วนใหญ่มักจะใช้ 80% ของเวลาทั้งหมดในการจัดการมัน บางทีหากพวกเขาโชคดีพวกเขาก็จะสามารถจัดการมันได้
ส่วนเรื่องของการเคลียร์ดันเจี้ยนส่วนตัว มันยิ่งต้องใช้โชคมากกว่าการเคลียร์บอสป่าเสียอีกห
ในทางกลับกันแล้ว ดันเจี้ยนสาธารณะนั้นต่างกันออกไป สมาคมกฏแห่งดาบได้ยึดครองการเคลียร์ครั้งแรกของดันเจี้ยนสาธารณะไปหลายดัน ตั้งแต่ถ้ำแม่งมุม เหมืองแห่งความตาย ถ้ำโหยหวน... พวกเขาได้เคลียร์ดันเจี้ยนสาธารณะมาตั้งหลายครั้ง
"ลูหลี่กำลังจะไปเคลียร์ดันเจี้ยน!"
ข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปทั่ว
ไม่เกี่ยวเลยว่าพวกเขาจะเป็นฝ่ายพันธมิตรและฝ่ายเผ่าพันธุ์ พวกเขาทุกคนต่างทิ้งสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่และคุยกันเรื่องนี้กัน เพื่อหาทางแก้ไขอะไรบางอย่าง
"สมาคมกฏแห่งดาบจะต้องไม่ได้รับการเคลียร์ครั้งแรกอีกครั้ง" มังกรฝุ่นผู้เป็นหัวหน้าของสมาคมธงสงครามสีเลือดได้ประกาศออกมา
"ฉันจะเชื่อนายล่ะกัน" ซอวโรวเลสผู้เป็นหัวหอกของการเคลียร์ดันเจี้ยนของสมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศพูดขึ้นมา