จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 577
บทที่ 577: แท่นบูชา
หมอกหนาทึบในช่วงกลางคืน ทำให้สถานที่แห่งนี้ราวกับเป็นเมืองของเหล่าวิญญาณ
ลูหลี่เดินตามเรมูลัสเข้าไปในซากปรักหักพัง มีเพียงเสียงเท้าของพวกเขาเท่านั้นที่สามารถได้ยิน แต่เสียงเท้าที่เหยียบย่ำลงไปของพวกเขานั้นเหมือนกับว่ากำลังเหยียบย่ำซากศพอยู่ซะอย่างไงอย่างงั้น สถานที่แห่งนี้เป็นซากปรักหักพังของเขี้ยวเลือด ต้นกำเนิดของมนุษย์หมาป่าเขี้ยวเลือด
กลุ่มของมนุษย์หมาป่านั่งเงียบๆอยู่ภายใต้แสงจันทร์ ทุกๆคนที่เห็นพวกเขาเป็นครั้งแรก คงจะต้องตกใจและพูดไม่ออกแน่
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เล่นแล้ว พวกเขาเป็นเพียงฝูงมอนสเตอร์จากดันเจี้ยนที่กักเก็บเขี้ยวแห่งความมืด พวกเขาเป็นที่รู้จักกันในเรื่องที่โหดร้ายและไร้เหตุผล นอกจากนี้ยังถูกออกแบบให้ล่าและไล่ฆ่าโดยไม่มีเหตุผลด้วย เช่นนี้แล้ว มันจึงเป็นฉากที่หายากมากพอสมควร ที่ได้เห็นพวกเขานั่งเงียบๆและกำลังพักผ่อนกัน
"ดวงจันทร์คืนนี้ช่างสวยงามนัก" เรมูลัสกล่าวออกมา เสียงของเขาได้ทำลายความเงียบของค่ำคืนนี้ไป เขาไม่รู้สึกกระวนกระวายอะไรเลยและก็ได้เดินไปหาพวกเขาโดยไม่พิรี้พิไร
เขาเดินเข้าไปหามนุษย์หมาป่าที่ตัวใหญ่ที่สุด ซึ่งน่าจะเป็นผู้นำของพวกมันและมนุษย์หมาป่าทุกตัวต่างก็ทำท่าทีราวกับกำลังสูดดมกลิ่นกัน
ลูหลี่รู้ว่านี่เป็นประเพณีของพวกมัน นั่นหมายความว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันระหว่างทั้งสอง มันก็เหมือนกับการจับมือทักทายกันนั้นแหละ ถ้าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ดีพอและหากมนุษย์หมาป่าทุกตนนั้นดมกลิ่นล่ะก็ บางทีก็คงจะเกิดเรื่องจนทำให้เลือดตกยางออกได้
"มันไม่ได้สวยงามสำหรับเราอีกต่อไปแล้ว"
หนึ่งในมนุษย์หมาป่าได้ลืมตาของเขาขึ้นมาและดมกลิ่นของเรมูลัส
มนุษย์หมาป่าตนนี้มีดวงตาแตกต่างจากมนุษย์หมาป่าตนอื่นๆที่ลูหลี่เคยพบมาก่อน พวกหมาป่าจากที่กักเก็บเขี้ยวแห่งความมืดมีนัยน์ตาสีเลือดที่เต็มไปด้วยความหายนะและความสยดสยอง
อย่างไรก็ตาม มนุษย์หมาป่าตนนี้กลับมีดวงตาสีน้ำตาลที่มีริ้วสีเงิน
ลูหลี่ไม่แน่ใจว่าดวงตาของเขามีริ้วสีเงินหรือว่าเป็นแสงสะท้อนจากแสงจันทร์กัน ดวงจันทร์ในที่แห่งนี้สว่างและสวยงามยิ่งกว่าในป่าแสงจันทร์เสียอีก
"ใช่แล้ว ก็คงเพราะพวกเจ้าคุ้นเคยกับมันอยู่แล้ว" เรมูลัสถอนหายใจและเริ่มพูดออกมาอย่างจริงจัง "ลอร์ดเคิก ข้ามาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือ"
"โปรดอย่าเรียกข้าว่าลอร์ดอีก คนส่วนใหญ่ของข้าต่างก็ไม่อยากที่จะยุ่งกับไลล่าแล้ว "ลูหลี่เองก็ได้เห็นความโกรธและกระหายการแก้แค้นในสายตาของมนุษย์หมาป่า แต่พวกนั้นได้ก็เก็บความรู้สึกไว้อย่างรวดเร็ว
ไลล่า...
ลูหลี่รู้สึกเหมือนเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน ถ้าไลล่าเป็นชื่อต้น แล้วนามสกุลล่ะ?
ไลล่า ซากปรักหักพังเขี้ยวเลือด ไลล่า เขี้ยวเลือด ...
ลูหลี่นำสองสามอย่างนี้มารวมกันแล้วก็จำได้แล้วว่าใครคือไลล่า เธอเป็นส่วนหนึ่งของนิกายดรูอิดโบราณที่มีชื่อเรียกว่า ดรูอิดแห่งไซทีออร์ และเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นคนที่ทำให้เขี้ยวเลือดล่มสลาย
หลายคนคิดว่า นักเวทย์อะรูเกิล คือผู้ที่ใช้มนต์ดำเพื่อเรียกมนุษย์หมาป่าและทำให้พวกเขาได้แพร่กระจายเป็นจำนวนมาก
แต่เขาเรียกมนุษย์หมาป่ามาจากไหนกันล่ะ?
ลูหลี่เคยอ่านหนังสือมันกล่าวไว้ว่า มนุษย์หมาป่าดั้งเดิมนั้นมีต้นกำเนิดจากดรูอิดในคัลโดไร ดรูอิดพวกนี้ใช้พลังของพระเจ้าหมาป่าโกริน ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าเพื่อปกป้องตนเองจากจักรวรรดิเพลิงได้
อย่างไรก็ตาม เพราะธรรมชาติและสันดานของหมาป่า ทำให้ดรูอิดพวกนั้นได้สูญเสียการควบคุมตัวเองไป จนบังคับให้มัลฟูเรียนต้องใช้ไอเท็มบางอย่าง เพื่อขับไล่พวกเขาเข้าไปยังความฝันมรกตพร้อมกับกักพลังงานของพวกเขาในเคียวแห่งอีลูน่า
หลายปีต่อมา ยูอาร์ นักเวทย์แห่งดาราลันก็ได้พบเข้ากับเคียวแห่งอีลูน่าและก็ได้ทำงานร่วมกับอะรูเกิล เพื่ออัญเชิญมนุษย์หมาป่าออกมา
หลังจากนั้นเอง ไลล่าก็ได้สร้างลัทธิของมนุษยหมาป่าเขี้ยวเลือดขึ้นมา มีหลายคนในเมืองกิลเนสทรยศต่อประเทศของตนเอง เพื่อเข้าร่วมกับลัทธิลับนี้ พวกเขาทำอะไรหลายๆอย่างลับหลังกษัตริย์ของตน จนกระทั่งคำสาปได้แพร่ไปทั่วผู้คนในเมืองแห่งนั้น
ความรู้สึกที่พวกเขารู้สึก ก็เหมือนกับตอนที่ลูหลี่เคยอ่านเรื่องนี้เป็นครั้งแรก
กลุ่มมนุษย์หมาป่าที่อยู่ต่อหน้าเขานี้เป็นพวกที่ไม่เห็นด้วยกับไลล่า
"ไม่ ยังไงเจ้าก็เป็นผู้นำของมนุษย์หมาป่าเขี้ยวเลือดตลอดไป ไลล่าในตอนนี้กำลังเดินบนทางของปีศาจร้ายและเจ้าจะต้องเป็นหนึ่งในคนที่หยุดเธอ "
"แล้วทำไมเจ้าถึงมาที่นี่ในวันนี้กัน? ข้าไม่มีอะไรเหลืออยู่อีกแล้ว นอกเสียจากแสงจันทร์ "เคิกถามขณะที่เขามองไปที่กรงเล็บของเขา
"ข้าจำเป็นต้องยืมแท่นบูชาของเจ้า" เรมูลัสกล่าวต่อ จากนั้นก็รีบพูดขึ้นมาก่อนที่เขาจะถูกปฏิเสธ "ข้าได้นำวัสดุบางอย่างที่เจ้าต้องการมาด้วย มันอาจจะไม่ได้มากนัก แต่ทั้งหมดนี้ได้ถูกเก็บรวบรวมมาโดยชายหนุ่มคนนี้ "
"สวัสดี ท่านผู้ภักดีต่อดวงจันทร์" ลูหลี่รู้ดีว่ามนุษย์หมาป่าพวกนี้ไม่ได้รับอันตรายจากคำสาป
พวกเขาต้องใช้แสงจันทร์เพื่อลบล้างความรุนแรงและป่าเถื่อนในเลือดของพวกเขา ซึ่งนั้นเป็นเหตุให้พวกเขาได้มารวมกันในที่แห่งนี่ การเรียกพวกเขาว่าผู้ภักดีต่อดวงจันทร์นั้นเหมาะสมมาก
ซึ่งพวกเขาเองต่างก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ถูกกล่าวเช่นนี้ เคิกเอื้อมมือที่มีกรงเล็บของเขาวางไว้บนบ่าของลูหลี่
ลูหลี่นำเอาวัสดุที่เขารวบรวมมาทั้งหมดกับคทาระดับทองขึ้นมา ของทั้งหมดมี 16 ชิ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เรมูลัสได้สั่งไว้ รวมถึงเลือดของบอสที่เขาสังหารมาก่อนหน้านี้ด้วย ซึ่งมันมีกว่า 40 หยดเลย
เขาไม่คิดเลยว่าจำเป็นต้องไปเก็บเลือดจากบอสที่มีระดับสูง เพราะมันเสียเวลามาก
ซึ่งบอสจากจักรวรรดิเพลิงก็คงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยสำหรับเขาในตอนนี้
เมื่อวานนี้เขาก็ได้เห็น ปีศาจทัพหน้าด้วย ซึ่งมันเป็นมอนสเตอร์ที่อ่อนแอที่สุดในดันเจี้ยน แต่ลูหลี่ก็ไม่กล้าเลยที่จะไปท้าทายมัน
มนุษย์หมาป่าทุกตนต่างเบิกตากว้างขึ้นรวมทั้งเคิกด้วย นอกจากนี้ลูหลี่ยังเห็นรอยแดงจางๆบนดวงตาของพวกเขาอีก
เห็นได้ชัดว่ามนุษย์หมาป่าพวกนี้ต้องอดทนอย่างมาก เพื่อต่อต้านสันดานดิบของตัวเอง
"วัสดุพวกนี้สำคัญมากสำหรับข้า อีกทั้งข้ายังไม่สามารถสูญเสียคนของข้าได้อีก "เคิกถอนหายใจขณะที่เขารับของทั้งหมดไป
ด้วยความที่เรมูลัสอยู่รอบๆ ลูหลี่จึงไม่กลัวเลยว่าจะถูกหลอกหลวง
เคิกกับมนุษย์หมาป่าอีกสี่ตนได้นำทางลูหลี่และเรมูลัสไป
"ลอร์ดเคิก บางทีเจ้าอาจจะมอบภารกิจให้กับเจ้าหนุ่มคนนี้ก็ได้นะ เขาเป็นเด็กฉลาดและกล้าหาญ "
เรมูลัสเริ่มแนะนำและยกย่องลูหลี่ที่เป็นนักผจญภัย
ลูหลี่ต้องทำภารกิจให้สำเร็จก่อน เพื่อสร้างความไว้วางใจและชื่อเสียงในพื้นที่ของหุบเหวนรกอันมืดมิด
"เขา?"เคิกเหลือบมองไปที่ลูหลี่ สิ่งที่เคิกเห็นก็มีเพียงแค่โจรตัวเล็กๆแสนจะอ่อนแอ
"อย่าตัดสินอะไรจากหน้าหนังสือสิ เคิก เจ้าไม่เห็นจะมีอะไรขาดทุนเลยนะ "เรมูลัสกล่าวออกมาพร้อมกับยิ้ม
"เพื่อขอบคุณเขี้ยวเลือดที่ได้ให้ข้ายืมแท่นบูชา ถ้ามีอะไรที่ท่านต้องการให้ข้าทำ ข้าก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยท่าน ข้ายังมีเพื่อนคนอื่นๆอีกมากมายที่สามารถช่วยข้าได้ "ลูหลี่ได้เสนอตัวเอง
เคิกคิดถึงเรื่องนี้อีกทีและสรุปได้ว่านี่ก็เป็นความคิดที่ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก
เขารู้สึกประทับใจกับทัศนคติที่แสนจะอ่อนน้อมถ่อมตนของตัวลูหลี่