จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 576
บทที่ 576: มนุษย์หมาป่าเขี้ยวเลือด
เดือนธันวาคมได้มาถึงแล้ว แต่อากาศก็ไม่ได้หนาวมากนัก โดยเฉพาะเขตทางใต้ ลูหลี่แทบจะไม่เห็นหิมะเลยในชีวิตของเขา บางทีก็คงจะเป็นเพราะผลจากภาวะโลกร้อน
ซึ่งลูหลี่ก็ไม่ได้ห่วงเรื่องนี้เท่าไหร่ นอกจากนี้แล้วเขายังเพิ่มเตียงอีกเตียงหนึ่งในห้องพัก เพื่อที่เขาจะได้เล่นเกมได้
พวกเขานั้นทั้งใช้ชีวิตร่วมกันทั้งช่วยเหลือกันและพวกเขาก็ยิ่งรู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เมื่อได้อยู่ใกล้ๆกัน
"ไอเท็มพวกนี้คือ โพชั่นเลือดระดับสูง ส่วนนี้คือโพชั่นแก้พิษ โพชั่นเพิ่มความคล่องตัว โพชั่นร่างกายและโพชั่นสติปัญญา ฉันเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันคิดว่ามันจำเป็นสำหรับที่นายจะใช้ไว้แล้ว "สแควร์รูทสามกล่าวขณะที่เขาส่งไอเท็มให้ลูหลี่ เขาเป็นเหมือนคนที่คอยจัดหาอะไรต่างๆที่น่าเชื่อถือได้มากเลยทีเดียว
เมื่อเทียบกับสมาคมที่เขาเคยอยู่ก่อนหน้านั้น ตำแหน่งของเขาในสมาคมกฏแห่งดาบถือได้ว่าสูงเลยทีเดียว
ลูหลี่ไม่รู้ว่าจะทำหน้าที่ของหัวหน้าสมาคมให้เหมาะสมได้ยังไง สแควรูทสามจึงได้รับหน้าที่นั้นไปแทน นั้นทำให้เขากลายเป็นผู้นำระดับสูงสมาคมที่ซื่อตรงต่อหัวหน้าสมาคม
แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้มีเวลาว่างพอจะผ่อนคลายเลยสักนิด เขาแทบจะต้องเหน็ดเหนื่อยมากกว่าเดิม เพื่อทำหลายๆสิ่งหลายๆอย่างให้กับสมาคม
"ขอบคุณนายมากที่ทำงานอย่างหนัก" ลูหลี่กล่าวขณะที่เขาแตะไหล่ของสแควรูทสามด้วยความสงสาร ก่อนที่เขาจะพูดต่ออีกว่า "เกี่ยวกับเรื่องการเคลียร์ครั้งแรกในคราวนี้ ... "
"ไม่ต้องกังวลหรอกน่า ยังไงเราก็ต้องได้มันมาอยู่แล้ว "สแควรูทสามหัวเราะขณะที่เขาหัวเราะขณะที่ยิ้มออกมา
"อย่าล้อเล่นสิ ฉันจะใช้เงินทุนของสมาคมไปกับเรื่องส่วนตัวของฉันนะ นี่มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันควรทำเลยสักนิด "ลูหลี่ส่ายหัวพร้อมกับหัวเราะอย่างขมขื่นและต้องการที่จะขอโทษ
มันไม่ถูกเลยสักนิดสำหรับเขา ที่จะไม่ขอโทษและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าสแควรูทสามดันรู้สึกเหมือนกับว่าลูหลี่นั้นปล่อยการเคลียร์ครั้งแรกไป เพื่อที่ตัวเองจะได้รับความพึงพอใจจากสาวๆ?
ทั้งๆที่พวกเขาได้ตกลงที่จะทำงานร่วมมือกัน เพื่อสร้างสโมสรและทำให้มันกลายเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเกม เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตเป็นอยู่ของทุกคนในสมาคม
ถ้าหากหัวหน้าสมาคมไม่มีความสุข คนอื่นๆก็คงไม่มีความสุขด้วย ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทรยศเขาเดี๋ยวนี้ แต่นี้อาจเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งความโกลาหลที่เติบโตขึ้นในอนาคตก็เป็นได้
"จริงๆแล้วมันไม่ได้เป็นอะไรเลยนะ มันก็แค่การเคลียร์ครั้งแรกครั้งหนึ่งในดันเจี้ยนเอง เราก็มีมันตั้งเยอะแยะแล้วไม่ใช่เหรอ"ก่อนที่สมาคมกฏแห่งดาบจะถูกก่อตั้งโดยลูหลี่ เขานั้นก็เก็บเคลียร์ครั้งแรกมาตั้งหลายครั้ง ซึ่งในตอนนี้สิ่งเหล่านั้นก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสมาคมแล้ว
ในแง่ของการเคลียร์ครั้งแรก สมาคมกฏแห่งดาบถือได้ว่าเป็นที่หนึ่ง
"อย่ารวมเรื่องส่วนบุคคลกับเรื่องของส่วนร่วมสิ" ลูหลี่เองก็รู้สึกเห็นได้กับสแควรูทสามอยู่ มันก็ถูกอยู่ที่หัวหน้าสมาคมมีอำนาจพอที่จะทำแบบนั้น แต่มันไม่ถูกต้องเลยสักนิดที่เขาจะเอาอำนาจแบบนั้นไปใช้ในทางที่ผิด
"มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่าที่นายคิดหรอกนะ ยังไงฉันก็คิดว่ามันดีแล้วที่ให้การเคลียร์ครั้งแรกกับสมาคมดิสซี่คอส" สแควร์รูทสามกล่าวพร้อมกับยิ้ม
"... " ลูหลี่ไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดถึงอะไรอยู่
"คิดเกี่ยวกับมันดูสิ" สแควลูทสามจับไหล่ของลูหลี่และพร้อมกับอธิบายว่า "มองดูสมาคมใหญ่ๆสมาคมอื่นสิ บางสมาคมก็ใช้เวลาสองวันในการเคลียร์ดันเจี้ยนสำเร็จแล้ว ซึ่งถ้าสมาคมดิสซี่คอสที่เป็นพันธมิตรเราได้การเคลียร์ครั้งแรกไปคงจะมีผลกระทบมากเลยทีเดียว "
บอสตัวแรกเป็นอะไรที่ฆ่าได้ง่ายมาก แต่คนส่วนใหญ่มักจะติดอยู่กับบอสตัวที่สอง
มีผู้คนมากมายที่อยู่ตามสมาคมใหญ่ๆ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้กลัวเสียเวลาอะไรเลย พวกเขาต่างผลัดกันส่งทีมระดับสูงไปสำรวจดันเจี้ยนกัน แต่ความพยายามในสองวันกลับไม่มีหนทางในการเคลียร์ดันเจี้ยนเลย แม้แต่ซอวโรวเลสที่เข้าไปในดันเจี้ยนเองก็ไม่ต่างกัน เขาก็กลับมามือเปล่าเหมือนกัน
"อ่า การเคลียร์ครั้งแรกถ้าไม่ได้เป็นของเรา นายไม่คิดว่านี่จะส่งผลต่อชื่อเสียงของเราเหรองั้นเหรอ?"ลูลี่ถาม
"ก็คงมีบ้าง แต่ไม่ได้มากอะไรขนาดนั้น" สแควรูทสามพูดออกมาอย่างมั่นใจ"ฉันจะบอกนายเกี่ยวกับบางอย่างนะ นับตั้งแต่ที่เราได้เป็นพันธมิตรกับสมาคมดิสซี่คอส คำร้องขอเข้าสมาคมเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละสามสิบต่อวัน"
"ทำไมถึงเป็นงั้นกันล่ะ? สมาคมดิสซี่คอสส่งผลขนาดนั้นเลยเหรอ?"ลูหลี่รู้สึกสับสน
การเป็นพันธมิตรในเกมเป็นแค่การรวมกันของสองหรือหลายๆสมาคมรวมกัน อย่างไรก็ตาม ในบางสถานการณ์ที่หมดหวัง พันธมิตรก็เป็นแค่คำพูดที่เปรียบได้กับเส้นไหมบางๆที่พร้อมฉีกขาดทุกเมื่อ
"สมาคมดิสซี่คอสนั้นเต็มไปด้วยผู้หญิง ไม่ใช่แค่จะมีผู้หญิงจำนวนมาก แต่พวกเธอส่วนใหญ่ก็ยังสวยอีก อย่าดูถูกเรื่องพวกนี้เลย มันเป็นสิ่งที่สุดยอดที่สุดเลยในเกมนะ "สแควรูทสามอธิบายขณะที่ดวงตาของเขาสว่างวาบขึ้น จนมันแทบจะทำให้ลูหลี่นั้นคิดว่าเขาเป็นพวกบ้าผู้หญิงไปเลย
"โอเคๆ เลิกพูดเรื่องพวกนี้ได้แล้ว" ลูหลี่กล่าว"ฉันมีอะไรที่จะต้องทำอยู่ ฉันคงต้องไปก่อนแหละ"
"จะลงไปเคลียร์ดันเจี้ยนตอนนี้เลยงั้นเหรอ?"สแควร์รูทสามรู้สึกสับสน เพราะผู้เล่นบางส่วนของกลุ่มทหารรับจ้างซินซินยังออนไลน์ไม่ครบเลย ซึ่งมันคงจะต้องใช้เวลาอีกสักพักที่ความฝันที่เหลืออยู่และฮาชิจังจะล็อคอินเข้าสู่ระบบ
"ดันเจี้ยนต้องใช้สิบคนในการเคลียร์ แต่เพราะฉันมีเรื่องส่วนตัวที่ต้องไปจัดการก่อนนะ" ลูหลี่ไม่ได้รีรอให้สแควรูทสามถามอะไรอีกเพิ่มเติมอีก เขารีบบอกลาและจากไปในทันที
เขาใช้คำอวยพรจากนักบวชที่อยู่บนบ่าของเขา เพื่อที่จะเทเลพอร์ตไปยังป่าแสงจันทร์
ด้วยความที่ที่แห่งนี้เป็นบ้านของเซนาเรียสแล้ว สถานที่แห่งนี้จึงอาบแสงจันทร์ชั่วนิรันดร์ มันสวยงามมากเท่าที่มันจะสวยได้ที่สุดและยังเงียบมาก จนบางคนคิดว่าพวกเขากำลังเดินอยู่ในความฝันของตัวเอง
ลูหลี่รู้สึกเหมือนกับว่าถ้าเขานอนลงบนพื้นหญ้าในที่แห่งนี้ บางทีเขาคงจะไปโผล่ยังโลกความฝันมรกตในตำนานได้
ด้วยคำอวยพรจากนักบวช เขาจึงสามารถใช้มันเป็นใบเบิกทางไปสู่เรมูลัสได้ ซึ่งแม้ว่าลูหลี่จะรู้ว่าเรมูลัสอยู่ที่ไหน แต่มันคงเป็นการไม่ดีเท่าหร่ที่เขาจะเดินไปรอบๆและบุกรุกสถานที่อันแสนทรงเกียรตินี้ไป
"ยินดีที่ได้พบกับเจ้าอีกครั้ง" เรมูลัสในครั้งนี้ไม่ได้นอนเหมือนกับคราวที่เขาเจอกันในครั้งก่อน
"ข้าเองก็ดีใจที่เจอท่าน บุตรแห่งเซนาเรียส ในครานี้ข้ามาเพื่อพัฒนาแหวนของข้า "ลูหลี่กล่าวขณะที่เขาก้มลงเพื่อแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจที่สุดที่ตัวตนอันแสนยิ่งใหญ่ช่วยเหลือเขา ซึ่งลูหลี่เองก็พยายามที่จะแสดงให้เห็นว่าเขาพยายามอย่างหนักแค่ไหน
"อย่าพึ่งดีใจเกินไปเจ้าหนุ่ม เส้นทางของเจ้ายังอีกยาวไกล "เรมูลัสพูดพร้อมกับยิ้ม
"ขอโทษที ข้าแค่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนะ แต่ข้าเดาว่าท่านมัลฟูเรียนเองก็คงทำตัวเหมือนกัน" ลูหลี่กล่าว
"ฮ่าๆ ก็คงจะเป็นอย่างที่เจ้าว่านั่นแหละ ... " เรมูลัสพูดขึ้นมา ด้วยความที่เขาเองก็คิดแบบเดียวกัน
ตัวเขาไม่ได้อยู่ในจุดนั่นเมื่อมัลฟูเรียนได้อัพเกรดวงแหวนของเขา แต่ก็คงเป็นไปได้ว่า ตัวของอาร์คดรูอิดคงจะรู้สึกตื่นเต้นน่าดู ที่เมล็ดพันธุ์ที่เขาหว่านได้ผลิดอกออกผลแล้ว
"ตามข้ามา เจ้าหนู" เรมูลัสพูดขึ้นมาในขณะที่เขาพาลูหลี่ไปยังประตูทางเข้าอาราม
อารามของเรมูลัสดูเรียบง่ายมาก ด้านในเองก็มีโทเทมแปลกๆจำนวนหนึ่งอยู่ ตรงกลางของวิหารเป็นต้นไม้ยักษ์ที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับเรมูลัส ซึ่งดูเหมือนกับว่ามันกำลังยิ้มให้กับลูหลี่อยู่
เรมูลัสนำลูหลี่ไปยังหน้าต้นไม้ใหญ่ ก่อนที่จะร่ายมนต์ในทันใด
จากนั้นเอง ซากปรักหักพังก็ได้ปรากฏอยู่ต่อหน้าพวกเขา
"สถานที่นี้เป็นของมนุษย์หมาป่าเขี้ยวเลือด บางทีเจาอาจจะเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน เรากำลังจะไปแลกเปลี่ยนอะไรบางอย่างกับพวกเขา "
เรมูลัสเดินนำเข้าไปในขณะที่ลูหลี่ก็ได้แต่ตามเขาไปเช่นกัน