จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 573
บทที่ 573: เอนชานท์
แฟรี่เองก็ได้มาเยี่ยม หลังจากที่ตัดสินใจจะมาสองสามวันแล้ว
ลูหลี่ไม่เคยเข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมแฟรี่น้ำถึงต้องการมาเยี่ยมน้องสาวตัวน้อยของเขา ทั้งๆที่ก็ไม่ได้สนิทชิดเชื้อกัน เขาได้แต่ตีความว่าคงเป็นเพราะแฟรี่น้ำต้องการสานความสัมพันธ์ระหว่างสมาคมดิสซี่คอสและสมาคมกฏแห่งดาบ
ลูหลี่เคยพยายามปฏิเสธคำร้องขอของเธอแล้ว ด้วยการบอกว่าน้องสาวของเขาไม่ต้องการให้ใครมาเยี่ยม
อย่างไรก็ตาม แฟรี่น้ำเองนั้นก็มีเหตุผลของตัวเองด้วย เธออาศัยอยู่ในจิงหนานและเธอควรจะไปเยี่ยมน้องสาวของเพื่อน ด้วยความที่เธออยู่ใกล้แล้วยิ่งอาการของลูซินตอนก่อนหน้านี้ก็ ...
นอกจากแฟรี่น้ำแล้ว ก็ยังมีคนระดับสูงของสมาคมมาด้วย
แม้ว่าลูหลี่จะไม่ได้ต้องการให้คนมาเยี่ยมลูซิน แต่คนในสมาคมต่างก็เป็นห่วงหัวหน้าของพวกเขากันทั้งนั้น ด้วยความที่พวกเขานั้นทำงานอยู่ภายใต้เขายังไงล่ะ
ยิ่งเป็นคนใกล้ชิดกับลูหลี่ ยิ่งมีเหตุผลมาเยี่ยมมากขึ้น
ดังนั้นแล้ว จึงได้มีกลุ่มคนมาเยี่ยมลูซินในตอนที่เธอย้ายออกมาจากห้องแยก
คนอื่นๆที่ไม่รู้เรื่องนี้ ต่างก็คิดว่ากำลังมีคนสำคัญมาพักอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้และยามมากมายต่างก็พยายามทำหน้าที่กันอย่างแข็งขัน
ซึ่งสแควรูทสามเป็นคนรับผิดชอบเรื่องต่างๆ งานต่างๆมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเขา แต่โชคดีสำหรับเขาที่กลุ่มระดับสูงของสมาคมมีแค่สองกลุ่มเท่านั้น หากเป็นสมาคมใหญ่ คงจะมีทีมร้อยคนหลายกลุ่ม บางทีตำรวจอาจจะมาที่นี้เลยก็ได้ด้วยความเป็นห่วงว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
ทีมร้อยคนทีมที่สองของสมาคมกฏแห่งดาบก็ได้ถูกจัดตั้งขึ้นมาแล้ว พวกเขาทั้งหมดต่างก็ประกอบไปด้วยสมาชิกที่มีความสามารถค่อนข้างที่จะดีกว่าค่าเฉลี่ย
ในเวลานี้ พวกเขาไม่ได้มีข้อกำหนดและกฏอะไรที่เข้มงวด คนที่ไม่สามารถย้ายเข้าเมืองจิงหนานได้ก็มีอยู่ ส่วนใหญ่ก็เนื่องจากเหตุผลด้านการศึกษาหรือการทำงาน ซึ่งเมื่อพวกเขามาที่จิงหนานกัน พวกเขาก็คงจะได้เซ็นสัญญา
นอกจากนี้แล้ว สมาคมยังเป็นคนรับผิดชอบในการออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วย
ลูหลี่และสแควรูทสามเองก็ไม่ได้มีทางเลือกในเรื่องนี้นัก ในตอนแรกพวกเขาวางแผนที่จะมีแค่กลุ่มระดับสูงที่ทำงานเต็มเวลาแค่กลุ่มเดียว ซึ่งด้วยวิธีนั้น พวกเขาก็จะมีประสิทธิมากขึ้นและยังเก็บความลับได้ดีอีกด้วย ซึ่งยิ่งสมาคมกฏแห่งดาบพัฒนาได้เร็ว รากฐานที่เป็นสิ่งสำคัญก็พัฒนาตามไปด้วย
แต่น่าเสียดายที่หากทำแบบนั้น เขาก็จะเสียสมาชิกที่มีคุณภาพบางคนไป
บางคนต้องรอจนกว่าพวกเขาจะจบการศึกษา เพื่อเข้าร่วมกลุ่มระดับสูงหรือแม้กระทั่งต้องลาออกจากงานไป อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำแบบนั้นได้
ผู้เล่นบางคนก็ประสบความสำเร็จในอาชีพ มันดูจะแปลกมากหากพวกเขาลาออกจากงาน เพื่อมาเล่นเกม
มีผู้เล่นโจรคนหนึ่งชื่อว่า ไบ เรนยู เขาเป็นนักการเมืองหนุ่มและเป็นลูกของนักการเมือง อย่างไรก็ตามเขายังมีทักษะการเล่นเกมที่ดีและยังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความคิดของลูหลี่กับสแควรูทสามเปลี่ยนไป
กลุ่มระดับสูงที่สองส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยสมาชิกสมาคมที่มีทักษะที่ดี แต่ยังไม่สามารถอาศัยอยู่ในเมืองจิงหนานได้ เนื่องจากเหตุผลบางประการ
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสองวัน เป็นช่วงเวลาที่พวกเขาเดินทางไปพร้อมกับเซ็นสัญญาในเมืองจิงหนาน ทันทีที่พวกเขาได้ยินว่าน้องสาวของลูหลี่อยู่ในโรงพยาบาล พวกเขาก็ตั้งใจที่จะมาเยี่ยมเยียน
ดอกไม้และของขวัญเต็มไปทั่วห้องพักในโรงพยาบาล
เห็นได้ชัดว่าช่อดอกไม้ทั้งหมดที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลได้ถูกขายไปหมดแล้ว
แน่นอนว่าลูหลี่ไม่ได้ปล่อยให้คนพวกนี้เดินเข้าผ่านประตูไปเยี่ยมลูซินแน่ แม้ว่าสภาพของเธอจะดีขึ้นแล้ว แต่ก็ไม่มีทางที่เธอจะมีแรงมากพอที่จะทักทายคนทุกคนที่เข้าไปเยี่ยมหรอก ทุกๆคนต่างก็เข้ามาเป็นกลุ่มเล็กๆและพูดคำสั้นๆ ก่อนที่จะให้ของฝากและจากไป
ซึ่งไม่มีใครเลยที่รู้สึกว่าตัวเองถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเลยสักคน พวกเขาแต่ละคนต่างก็รู้ดีเลยว่ามีคนอีกหลายคนที่อยากจะเป็นแบบพวกเขา
ลูหลี่เริ่มให้คนมาเยี่ยมตั้งแต่เวลา 9.00 น. ในตอนเช้าและการเยี่ยมเองก็ไม่ได้กินเวลาไปเกิน 2 =ั่วโมง แม้กระทั่งตัวลูหลี่เองก็รู้สึกเหนื่อยมากเลยทีเดียว กับการต้องมาคอยจัดการกับคนในสมาคม
ในตอนนั้นเอง แฟรี่น้ำก็ได้มาถึงแล้ว
ลูหลี่ได้แต่ใช้เวลาในการจินตนาการว่าแฟรี่น้ำจะปรากฏตัวขึ้นมาอย่างไร บางทีอาจจะมีรถลิมูซีนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นแถวคอยป้องกันเธอก็ได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาได้เห็นเธอในชีวิตจริง เขาก็ตระหนักว่าเขานั้นคิดมากเกินไปหน่อย
คนที่ร่ำรวยไม่ใช่ทุกคนที่จะอวดรวยเสมอไป แฟรี่น้ำสวมเสื้อผ้ากีฬาบางๆพร้อมกับกระเป๋าเป้สะพายหลัง มีผ้าพันคอสีขาวพันรอบคอเธอและมีเพียงหน้าผากกับดวงตาที่แสนสดใสของเธอเท่านั้นที่ไม่ได้ถูกซ่อนไว้
ไม่มีกลุ่มยามหรืออะไรอยู่รอบตัวเธอเลย มีเพียงแค่เด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งอยู่ข้างหลังเธอ
เด็กสาวที่อยู่ข้างหลังเธอนั้นสวยมาก แต่ก็ไม่อาจที่จะเทียบกับเธอได้เลย
มันง่ายมากที่จะบอกว่าผู้หญิงคนไหนคือแฟรี่น้ำ
แม้ว่าจะถูกผ้าพันคอบังไว้ส่วนหนึ่ง แต่ก็สามารถบอกได้เลยว่าแฟรี่น้ำเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์
ความสนใจจากทุกๆคนต่างก็มุ่งเป้าไปที่เธอ ไม่สนอายุและเพศ ทุกๆคนต่างก็หันไปที่เธอตั้งแต่ที่เธอเดินเข้ามายังโรงพยาบาล
ลูหลี่ไม่เคยที่จะถูกดูแลแบบนี้มาก่อนเลย คงเป็ฯเพราะเขาเป็นประเภทที่มักจะไม่สนใจอะไรและไม่ค่อยชอบฝูงชนเท่าไหร่นัก
แฟรี่น้ำโบกมือโดยเร็ว เมื่อเธอเห็นลูหลี่
เธอยืนนิ่งอยู่เพียงครู่เดียวเท่านั้น แต่ก็มีคนสี่ห้าคนเข้าไปขอเบอร์เธอแล้ว ทั้งหมดที่เธอทำก็แค่มองพวกเขาอย่างเย็นชาและพวกเขาก็ถอยหลังกลับไป
จริงๆแล้วลูหลี่ไม่ได้อยากเดินเข้าไปเลยสักนิด เขารู้สึกราวกับว่า ถ้าเขาเดินไปหาเธอ เธอจะเดินผ่านเขาไป
บางทีอาจเป็นเพราะแฟรี่น้ำมีสายตาที่เหมือนกับพูดได้ ลูหลี่ก็เข้าไปหาเธออย่างไม่รู้ตัว ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจ
ทุกๆคนต่างเห็นว่าหญิงสาวลึกลับแสนสวยกำลังยิ้มให้กับลูหลี่
ซึ่งรอยยิ้มของเธอก็ไม่ได้เห็นชัดนัก ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะผ้าพันคอที่ปกคลุมใบหน้าของเธออยู่
อย่างไรก็ตามทุกคนให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของเธอทุกฝีเก้าอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถบอกได้ว่าเธอกำลังยิ้มให้กับคนที่เดินไปหาเธอ
"เดี๋ยวก่อนนะ นั้นไม่ใช่ลูหลี่งั้นเหรอ?"คนที่พูดเป็นหนึ่งในสมาชิกสมาคมกฏแห่งดาบที่เพิ่งจะไปเยี่ยมลูซิน
ไม่ใช่ผู้เล่นทั้งหมดที่ไปเยี่ยมลูซินแล้วจะจากไปในทันที บางคนก็เดินไปมารอบๆจิงหนานเพื่อมองดูทิวทัศน์ ขณะที่บางคนก็รวมตัวกันที่ทางเข้าโถงพยาบาล เพื่อพูดคุยกัน พวกเขาพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นในเกมและต่างก็โม้เกี่ยวกับการผจญภัยของตัวเอง แต่หลังจากนั้น พวกเขาก็ได้เห็นผู้หญิงแสนสวยปรากฏตัวขึ้นมา แต่ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปใกล้เธอเลย ทั้งหมดที่พวกเขาทำได้คือการหัวเราะในความเงียบใส่พวกที่อาจหาญไปทักเธอ
จากนั้นเอง พวกเขาก็ได้เห็นบอสของพวกเขา
ไม่มีทางที่พวกเขาจะเข้าใจผิด นั่นต้องเป็นลูหลี่อย่างแน่นอน
พวกเขาเพิ่งจะพบกับลูหลี่และยังคุยกับเขาพักหนึ่งด้วย บางคนได้พูดกับเขาเพียงลำพังก็มี จึงไม่มีทางเลยที่พวกเขาจะจำผิด
"ไม่มีทาง บอสของเรารู้จักเธออย่างงั้นเหรอ?"มันเป็นเรื่องปกติเลยสำหรับพวกเขาที่จะต้องแปลกใจ แม้ว่าลูหลี่จะน่าอัศจรรย์ แต่มันก็แค่ในเกมเท่านั้น ความสำเร็จของเขานั้นไม่มีทางที่จะมากพอจนสร้างผลกระทบกับชีวิตจริงได้หรอกนะ