จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 572
บทที่ 572: ผู้พิทักษ์เทวลิขิต
หลังจากที่สงบลง ลูหลี่ก็ได้พยายามที่จะหาเหตุผลบางอย่างในการอธิบายถึงสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา เขามองอยู่พักหนึ่ง แต่ก็คิดได้แค่เรื่องหน่วยพิทักษ์เทวลิขิตและหน่วยหมาป่าอเวจีเท่านั้น มันไม่น่าจะเป็นหน่วยระดับสูงของจักรวรรดิเพลิง
ส่วนตรงกลางก็ดูเหมือนกับแท่นบูชา
แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะเข้าใกล้มันนัก ไม่เพียงแต่สุนัขอเวจีจะดูดกลืนมานาได้ แต่มันยังแข็งแกร่งมาก ถ้ามันเจอตัวเขา เขาก็คงจะไม่รอดหรอก แม้ว่าพวกจักรวรรดิเพลิงพวกนี้จะเป็นแค่กลุ่มสำรวจ
มีต้นไม้ที่ตายแล้ว แท่นบูชาอย่ตรงกลางและยังมีพวกพิทักษ์เทวลิขิตอยู่ที่นี้อีก ซึ่งสิ่งต่อไปนี้ก็เป็นสิ่งที่ลูหลี่คาดเดาไว้
ซาเจอรัสหรือคนของเขาอาจจะเคยอยู่ที่นี่ เพื่อฆ่าปีศาจจากอเวจีที่ต่อต้าน พวกเขาทำลายต้นไม้โลกและบังคับให้ชนเผ่าพื้นเมืองในโลกใบนี้ตามเขาไปขณะที่เขากำลังจะทำลายโลกใบอื่น
หน่วยพิทักษ์เทวลิขิตและหมาป่าอเวจีอาจจะอ่อนแอเกินกว่าจะหนีไปได้
อย่างไรก็ตามนี้มันไม่ถูกต้องเลย พวกมันเป็นถึงผู้รอดชีวิตนะ ไม่มีใครรู้อายุของสิ่งมีชีวิตพวกนี้ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่แน่ใจเลย
แต่ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังจะพยายามอัญเชิญบางอย่างที่ดูคล้ายกับบรรพบุรษของพวกมัน
เขาไม่รู้ว่าจะมีบอสอยู่ที่นี้หรือเปล่า แต่มอนสเตอร์ที่สามารถสร้างแท่นบูชาได้ไม่มีทางอ่อนแอ นอกจากนี้ การที่พวกมันมีจำนวนมากขนาดนี้จะไม่มีบอสก็คงจะเป็นไปไม่ได้
ลูหลี่สังเกตุอยู่รอบๆในขณะที่เขาเดินไปรอบๆต้นไม้ จนเขาพบเข้ากับผู้พิทักษ์เทวลิขิตที่ตัวใหญ่กว่าตัวอื่น
ได้มีการกล่าวกันว่า ผู้พิทักษ์เทวลิขิตสามารถวิวัฒนาการได้ เมื่อพวกมันแข็งแกร่งขึ้นมากพอ เป็นไปได้ว่าพวกเขาจะวิวัฒนาการเป็น เจ้าปีศาจ เห็นได้ชัดว่าผู้พิทักษ์เทวลิขิตนี้ยังไม่ได้พัฒนาเลยและลูหลี่ก็คาดว่าพวกนี้คงจะไม่ใช่บอสแบบเต็มๆ
ลูหลี่เดินไปรอบๆและหาผู้พิทักษ์เทวลิขิตตัวหนึ่งที่อยู่ไกลตัวอื่นๆ
เขาต้องการที่จะทดสอบความแข็งแกร่งของบอส แต่มีมอนสเตอร์อยู่รอบตัวมันมากเกินไป นอกจากนี้ หมาป่าอเวจียังเป็นมอนสเตอร์พิเศษอีก ซึ่งเขาเองก็ยังกังวลกับเรื่องระดับของบอสที่เขายังไม่รู้อยู่
ถ้าบอสแข็งแกร่งมากเกินไป เขาจะต้องเสียค่าประสบการณ์ 10% ไปในทันที
ในความเป็นจริง ผู้เล่นที่มีประสบการณ์มากนั้นสามารถคาดเดาระดับของบอสตามระดับมอนสเตอร์ที่อยู่รอบๆได้
ผู้เล่นบางคนคิดแค่ว่าถ้าบอสเป็นสายพันธุ์เดียวกับมอนสเตอร์ตัวนั้น บอสจะมีทักษะคล้ายกัน แต่จริงๆแล้วความแตกต่างของบอสนั้นขึ้นอยู่กับทักษะเฉพาะตัวที่ถูกระบบคัดสรรมาให้
ซึ่งลูหลี่เองก็เคยพบกับผู้พิทักษ์เทวลิขิตมาบ้างแล้ว
นอกจากนี้แล้วเขายังเลือกผู้พิทักษ์เทวลิขิตที่มีหมาป่าอเวจีตามมาด้วย ในจักรวรรดิเพลิง หน่วยเทวลิขิตเป็นหน่วยรบและบางส่วนของหมาป่าอเวจีก็จะทำหน้าที่เป็นสุนัขล่าเนื้อ
ลูหลี่วางแผนที่จะสตันผู้พิทักษ์เทวลิขิตก่อน จากนั้นก็จัดการหมปา่าอเวจี
แต่น่าเสียดายที่เขาถูกเจอตัวโดยหมาป่าอเวจี มอนสเตอร์ที่นี่ต้องมีระดับที่สูงแน่ ลูหลี่จึงทดสอบด้วยการเอาหน้าไม้ยิงไปที่ร่างของผู้พิทักษ์เทวลิขิต
-13
ความเสียหายที่สร้างได้ค่อนข้างต่ำ สาเหตุหนึ่งคงเป็นเพราะโจรไม่เหมาะกับการใช้หน้าไม้ แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะความต่างระหว่างระดับด้วย
หลังจากโจมตีไปแล้ว ลูหลี่ก็เห็นระดับของเป้าหมายและเลือด ผู้พิทักษ์เทวลิขิตเป็นมอนสเตอร์หัวหน้าระดับ 45 ขณะที่หมาป่าอเวจีมีระดับ 42 ตัวหนึ่งมีเลือด 12,000 จุด ส่วนอีกตัวหนึ่งมีเลือด 8,000 จุด
ทั้งสองตัวนี้ลูหลี่คงจะไม่สามารถจัดการมันได้ง่ายนักและเขาก็คงจะไม่มีเวลาพอ
ลูหลี่เปิดใช้งานเอฟเฟคของรองเท้าของเขา ซึ่งนั้นทำให้เขาโผล่ไปที่ข้างหลังของเขาในระยะ 8 หลา ก่อนที่เขาจะใช้ทักษะล่องหน นั้นทำให้เขาสามารถออกจากระยะการตรวจสอบของหมาป่าอเวจีได้
หมาป่าอเวจีหันจมูกไปรอบๆครู่หนึ่ง แต่มันก็ไม่สามารถหาตัวเขาได้
ผู้พิทักษ์เทวลิขิตโบกหอกสองหัวที่อยู่ในมือของเขาและอดไม่ได้ที่จะคำรามออกมา จากนั้นพวกผู้พิทักษ์เทวลิขิตตนอื่นๆก็มายังที่นี้และสำรวจพื้นที่รอบๆ แต่ลูหลี่ก็จากไปแล้ว สิ่งที่พวกมันพบมีแต่ความว่างเปล่า
ผู้พิทักษ์เทวลิขิตเหล่านี้สามารถเรียกพวกได้ ดังนั้นลูหลี่จึงไม่ได้ตัดสินใจที่จะสู้ด้วย
เนื่องจากมอนสเตอร์พวกนี้มีระดับประมาณ 45 บอสก็น่าจะมีระดับ 50 นอกจากนี้คงจะไม่มีมอนสเตอร์ตัวไหนอีกแล้วที่มีระดับเหนือกว่าพวกมัน เพราะพวกมันคงจะอยู่เหนือห่วงโซ่ของอาหารแล้วบนโลกใบนี้
ลูหลี่ได้แต่หวังว่าเขาจะสามารถพาผู้เล่นคนอื่นมาที่นี่ได้ ซึ่งถ้ามีเขาคนเดียวเขาก็คงจะทำอะไรได้ไม่มากนัก
อีกสิ่งที่เขากังวลคือ กอริลล่าที่อยู่ข้างนอกนั้น เขาไม่ต้องการที่จะถูกไล่ล่าเหมือนสุนัขอีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องฆ่ากอริลล่าด้วยกองกำลังหลักของสมาคมของเขา
บอสกอริลลามีระดับ 45 และมันยังขว้างหินได้อีก
ลูหลี่กลับเข้าสู่สถานะล่องหนเพื่อที่จะรอให้พื้นที่รอบๆปลอดภัย ก่อนที่จะใช้หินเทเลพอร์ต
เมื่อเขากลับมาที่ดานาซัสแล้ว โลกอันแสนจืดชืดก็กลับมาสดใสและเขาก็ได้รับข้อความจำนวนมหาศาล
"ลูหลี่รีบกำจัดบอสเร็ว พวกลิงเจอเรือของเราแล้วนะ ... "
"ถ้าคุณไม่มาเราจะต้องไป"
"ลูหลี่เกิดอะไรขึ้นกับนายงั้นเหรอ? ทำไมนายถึงไม่โผล่บนพื้นที่กัน?"
"ลูหลี่ ... "
"ลูหลี่ ... "
ข้อความส่วนใหญ่มาจากหัวเราะไปยังสวรรค์และฮาชิจังที่สงสัยว่าทำไมเขาถึงยังไม่กลับมา พวกเขาถามว่าเขาไปที่ไหนและทำไมพวกเขาถึงไม่สามารถติดต่อเขาได้ ก่อนที่จะถามเรื่องระดับของเขา
ลูหลี่เองก็นึกถึงเรื่องระดับได้ก็เปิดบอร์ดจัดอันดับ เขาเป็นคนแรกในรายชื่อและเป็นผู้เล่นระดับ 38 เพียงคนเดียว
เขาอาจจะเป็นคนที่นำอยู่ในตอนนี้ แต่คนอื่นๆก็คงจะพยายามเพิ่มระดับด้วยการใช้คนหลายคนอยู่ แต่ลูหลี่ก็อดไม่ได้ที่เพิ่มระดับตัวคนเดียว ดันแซงหน้าพวกนั้นได้
'พวกนายไปก่อนเลย ฉันมีอะไรต้องทำก่อน'
ทั้งสองคนที่เห็นข้อความนี้ต้องมีคำถามมากมายแน่ ลูหลี่เองก็กำลังหาข้อแก้ตัวก่อนที่มันจะสายไป ซึ่งมันต้องใช้ในการอธิบายนานมากพอสมควร มันคงจะดีกว่าหากเขาเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ
เขาขอให้หัวเราะไปยังสวรรค์เก็บเรื่องเกาะกอริลลาไว้เป็นความลับ ด้วยความกลัวที่จะมีใครบางคนแย่งบอส
แน่นอนว่าหัวเราะไปยังสวรรค์ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเขาได้ช่วยชีวิตเจ้าหญิงไปแล้ว ลูหลี่และฮาชิจังเองก็ได้รับ EXP จากการช่วยเขา แต่เขานั้นได้รับค่าประสบการณ์ คะแนนทักษะ อุปกรณ์สวมใส่ระดับทองและหนังสือทักษะ มันเป็นผลการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ของเขาเลย
เขาเสนอที่จะมอบอุปกรณ์และหนังสือทักษะให้กับลูหลี่ ด้วยความที่ลูหลี่นั้นเป็นทั้งคนหาเรือและยังล่อบอสอรก
อย่างไรก็ตาม ลูหลี่ปฏิเสธข้อเสนอไปโดยไม่ลังเล
เขาแค่อยากได้ดวงตาเวทย์มนต์ปีศาจและตอนนี้เขาได้มันมาแล้ว เขาจึงไม่ต้องการอะไรที่ไม่ใช่ของเขา เขาไม่ได้เป็นพวกโอ้อวด แต่เขาแค่มีจรรยาบรรณวิชาชีพขั้นพื้นฐานเท่านั้นเอง
นอกจากนี้ อุปกรณ์ที่เขามีอยู่ก็ดีกว่าที่เสนอมา สำหรับคนอย่างลูหลี่แล้ว มันไม่เหมาะสำหรับเขาเลยสักนิด ซึ่งหนังสือทักษะของดรูอิดเล่มนั้นก็ไม่ได้ถือว่าหายากอะไรนัก
นอกจากนั้นแล้ว ลูหลี่ยังได้รับข้อความแสดงความยินดีเป็นอย่างมากนับไม่ถ้วนจากคนรู้จักของเขา แม้แต่ข้อความของแฟรี่น้ำก็ด้วย
ผู้เล่นนักธุรกิจสาวคนนี้ไม่อ้อมค้อมและถามตรงประเด็นในทันที เธอต้องการที่จะจ่ายเงิน เพื่อที่ลูหลี่จะได้แบ่งปันวิธีเพิ่มระดับของเขา
ลูหลี่เองก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย แม้ว่าเขาจะต้องการพาเธอไปด้วย แต่เขาก็ต้องรอจนกว่าเขาจะพร้อมที่จะกลับไปยังพื้นที่ลับแห่งนั้นก่อน
อย่างไรก็ตามแฟรี่น้ำยังมีวัตถุประสงค์อื่นในการส่งข้อความอีก เธอบอกว่าเธอจะไปเยี่ยมลูซินพรุ่งนี้ที่โรงพยาบาล นั่นหมายความว่าลูหลี่จะได้เห็นแฟรี่น้ำในตำนานในชีวิตจริงๆ
เขาไม่รู้สึกตื่นเต้นอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเขาไม่สนใจเรื่องนี้นัก อย่างไรก็ตามเขาก็อยากรู้อยากเห็นอยู่เหมือนกัน แฟรี่น้ำจะสวมหน้ากากในชีวิตจริงเหมือนกับในเกมหรือเปล่านะ?