จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 568
บทที่ 568: มอนสเตอร์ในแม่น้ำแม็กม่า
ถ้าเขาสามารถฟาร์มมอนสเตอร์ในโลกนี้ได้ เขาก็จะได้กำไรจากมันเยอะน่าดู
ลูหลี่ต้องการที่จะใช้หมาป่าสองหัวเป็นตัวทดลองดู ถ้าเขาสามารถเอาชนะมันได้ เขาก็คงจะสามารถฟาร์มในที่แห่งนี้ได้ แต่ถ้าเขาไม่สามารถเอาชนะมอนสเตอร์ในสถานที่ๆเขาเพิ่งค้นพบได้นั้น เขาคงจะได้แต่ลืมมันไป
หมาป่าสองหัวนั้นก็ไม่ได้ดูผิดปกติอะไร พวกมันสามารถพบได้ทั่วไปในอาเซรอธ บางตัวจะมีระดับอยู่ที่ 10-20 ส่วนตัวที่ระดับ 50-60 มักจะเป็นบอส
ลูหลี่แอบหายตัวไปเงียบๆข้างหลังของมอนสเตอร์ตัวนั้น
ก่อนที่เขาจะโจมตีไปที่มัน หางที่เหมือนงูของมันก็ได้ฟาดไปที่ตัวเขา ซึ่งมันน่าแปลกใจมากที่ลูหลี่ไม่คิดที่จะหลบมันเลย
อย่างไรก็ตาม หลังจากโดนโจมตีไปแล้ว ความกังวลของลูหลี่ก็ได้ลดลงไป
การโจมตีโจมตีของศัตรูสร้างความเสียหายเพียง 100 จุดเท่านั้น ความสามารถในการโจมตีของมันดูจะต่ำมาก
แม้กระนั้นก็ตาม หลังจากที่คิดถึงเรื่องพวกกอริลลาแล้ว เขาก็ได้แต่ลบมันออกจากหัวไป เขาไม่คิดที่จะประมาทพวกหมาป่าสองหัวแน่
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ระวังตัว แต่ลูหลี่ก็มั่นใจในความสามารถล่องหนของเขาพอสมควร
ดังนั้นแล้ว เขาจึงสรุปได้ว่า การล่องหนของเขาไม่มีผลกับมอนสเตอร์พวกนี้ เป็นไปได้ไหมว่าเพราะมันมีสองหัวจนทำให้การตรวจจับของมันดีกว่ามอนสเตอร์ตัวอื่น
หลังจากการล่องหนของเขาล้มเหลวแล้ว เขาก็ไม่ได้กลับไปและเลือกที่จะเข้าไปโจมตีแทน เขาแทงกริชเข้าไปในศีรษะของหมาป่าและสร้างความเสียหายมากกว่า 200 จุด
ในเวลาเดียวกันเอง เขาก็ได้เห็นระดับของหมาป่าด้วย จริงๆแล้วระดับของมันเพียงแค่ 32 เอง ซึ่งถือว่าต่ำกว่าลูหลี่ถึง 5 ระดับ
สำหรับมอนสเตอร์ธรรมดาๆที่มีระดับแค่นี้ แต่สามารถสร้างความเสียหายให้ลูหลี่ถึง 100 จุด ก็น่าแปลกใจพอควรแล้ว ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์พวกนี้จะค่อนข้างสูง ลูหลี่ได้แต่หวังว่าบอสคงจะไม่อยู่แถวนี้อะนะ
จากนั้น เขาก็ถอยหลังไปอีกสองก้าว เพื่อที่จะรอหมาป่าสองหัวก้าวมาข้างหน้า
เขาไม่ได้พยายามที่จะฆ่ามอนสเตอร์ เขานั้นต้องการที่จะสำรวจถึงการโจมตีต่างๆของมอนสเตอร์ในพื้นที่ลับนี้ก่อน
หมาป่าสองหัวคำรามออกมาด้วยความโกรธ ก่อนที่หัวสองหัวของมันจะส่ายไปมา ทันใดนั้นลูกไฟสองลูกก็ได้พุ่งไปหาลูหลี่จากปากของมัน
พวกมันไม่ได้ช้านัก แต่ลูหลี่มั่นใจว่าเขาสามารถหลบมันได้
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้หลบพวกมัน เขากลับปล่อยให้พวกมันโดนตัวเขาแทน
-245 -230
การโจมตีของมันค่อนข้างที่จะแข็งแกร่งและมากกว่าการโจมตีปกติถึงสองสามเท่า แต่ระยะเวลาการร่ายของมันแค่สองวินาทีและนั้นก็เพียงพอสำหรับลูหลี่ที่จะขัดจังหวะมันได้
ในที่สุดเขาก็สามารถมั่นใจได้แล้วว่า มอนสเตอร์พวกนั้นไม่ได้แข็งแกร่งกว่าเขานัก
ด้วยเหตุนี้ ลูหลี่จึงใช้ทักษะกรีดคอเพื่อเข้าหาหมาป่าสองหัว ก่อนที่จะใช้ทักษะเตะเพื่อขัดจังหวะทักษะ...
สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นเหมือนกับเรื่องตลก หลังจากมันถูกขัดจังหวะทักษะ หมาป่าก็ได้แต่กลืนบอลไฟเข้าไปในลำคอ จากนั้นมันก็ได้ระเบิดออกมา ซึ่งเลขความเสียหาย 300 จุดก็ได้โผล่บนศรีษะของมัน
นอกจากนี้ยังมีผลของการเผาไหม้สร้างความเสียหาย 20-30 จุดต่อวินาที
นี่เป็นปฏิกิริยาสะท้อนกลับของเวทย์มนต์ในตำนานอย่างงั้นเหรอ? ช่างน่าแปลกใจอะไรอย่างนี้
หลังจากฆ่าหมาป่าสองหัวแล้ว ลูหลี่ก็ได้รับเหรียญไม่กี่เหรียญและวัสดุแบบสุ่ม เขาไม่ได้อุปกรณ์สวมใส่อะไรเลย ซึ่งมันก็ไม่ได้น่าแปลกใจเท่าไหร่ด้วยความที่มันเป็นมอนสเตอร์ธรรมดา
น่าประหลาดใจที่มันให้ EXP เพิ่มขึ้นถึงสามเท่า เมื่อเทียบกับมอนสเตอร์ระดับ 35 แล้ว
ซึ่งเรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้ทำให้เขาประหลาดใจเท่าไหร่นัก
มอนสเตอร์ระดับ 30+ พวกนี้ก็ดรอบชิ้นส่วนของพวกปีศาจที่เป็นวัสดุและอุปกรณ์สวมใส่ทั่วไปด้วย ถึงแม้ว่าลูหลี่จะมีประสบการณ์การเกิดใหม่ แต่จริงๆเขาก็ไม่รู้ว่ามันจะเอาไปใช้ทำอะไรเหมือนกัน
ไอเท็มพวกนี้ดูเหมือนเงินและอัตราการดรอบของมันก็ไม่ได้สูงเท่าไหร่นัก มันจะดรอบลงมาทุกๆหนึ่งชิ้นต่อมอนสเตอร์สิบสองตัวที่เขาฆ่าไป
ลูหลี่เดาว่ามันคงจะเป็นสกุลเงินของอะไรบางอย่าง บางทีมันอาจจะเป็นประโยชน์หลังจากที่เขาออกจากสถานที่แห่งนี้ไป แต่เขาเองก็ไม่เคยศึกษาเรื่องพวกนี้มาก่อนในชีวิตก่อนหน้า นั้นทำให้เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลยจริงๆ
หลังจากนั้นพักหนึ่ง เขาก็พบกับมอนสเตอร์ตัวที่สอง มันเป็นมอนสเตอร์ลาวาที่ปกคลุมไปด้วยก้อนหินสีแดง มันโจมตีเป็นกายภาพ แต่การโจมตีมาพร้อมกับเอฟเฟคเผาไหม้ ซึ่งมีผลอย่างมากกับเกราะหนังของโจร
นอกจากนี้ ด้วยความที่ร่างกายของมันปกคลุมไปด้วยหิน การโจมตีของลูหลี่จึงถูกลดทอนลงไป บางครั้งความเสียหายของเขาก็สะท้อนกลับมาด้วย
โชคดีที่มอนสเตอร์ตัวนี้ไม่ได้มีทักษะอะไรเลย ดังนั้นแล้ว ตราบเท่าที่เขาไม่ได้วิ่งไปที่มันฝูงใหญ่ เขาก็สามารถที่จะจัดการมันได้
นั้นทำให้ลูหลี่ยิ่งเชื่อมากขึ้นว่าพื้นที่ลับแห่งนี้คือ โลกที่ถูกทอดทิ้ง เขาไม่เห็นแม้แต่มอนสเตอร์สองตัวที่อยู่ด้วยกัน ไม่ต้องพูดถึงมอนสเตอร์กลุ่มใหญ่เลย ลูหลี่ในตอนนี้อยากที่จะฟาร์มในที่แห่งนี้ แต่บางทีนั้นอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดก็ได้
พอพูดถึงเรื่องไอเท็มแล้ว บางครังมอนสเตอร์พวกนี้ก็จะดรอบ ศิลาเสริมแกร่ง ด้วย
ศิลาพวกนี้สามารถเพิ่มคุณภาพของอุปกรณ์ได้ ลูหลี่ได้เก็บรวบรวมพวกมันมา 20-30 ก้อนแล้ว แต่เขายังไม่มีโอกาสที่จะใช้มันเลย
ส่วนวิธีการต่อสู้กับมอนสเตอร์ลาวาสมบูรณ์แบบที่สุด ก็คงเป็นตอนที่ลูหลี่ได้ใช้แทงหลังด้วยหลังมืออย่างคุ้นเคยและจากนั้นมอนสเตอร์ลาวาก็หยุดนิ่ง ทันใดนั้นร่างกายของมันก็แตกกระจายไปตามพื้น
ลูหลี่หยิบศิลาเสริมแกร่งขึ้นมาจากร่างลาวาและพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
EXP ที่ได้มาก็ค่อนข้างดีและยังมีศิลาเสริมแกร่งอีก การเดินทางครั้งนี้คุ้มค่าอย่างแน่นอน
ทุกครั้งที่ลูหลี่หยุดเดิน เขาก็จะทำเครื่องหมายไว้ เพื่อที่เขาจะได้ไม่หลง
"ดูเหมือนว่าพื้นที่ลับแห่งนี้จะไม่เล็กเลย ใครจะรู้กันว่าฉันจะสามารถใช้ลูกประคำมายังที่นี้ได้กี่ครั้งกันนะ? ถ้าเข้าได้แค่ครั้งเดียวมันก็คงจะไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ "ลูหลี่รู้ว่าสถานที่แห่งนี้คงไม่ง่ายนัก มอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้ประตูทางเข้าควรจะอ่อนแอที่สุดและความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ก็จะเพิ่มขึ้นไปตามทาง ซึ่งมันคงจะมีแม้กระทั่งบอสในที่แห่งนี้เหมือนกับในดันเจี้ยน
ปรากฏว่ามีแม้แต่แม่น้ำในโลกใบเล็กที่ถูกทอดทิ้งแห่งนี้
มันยากที่จะพบมัน แต่ลูหลี่ก็พอจะได้ยินเสียงของน้ำไหล
ลูหลี่ที่ถูกกระตุ้นด้วยเสียง ก็ตั้งใจที่จะมายังที่แห่งนี้ ไม่มีลม ไม่มีเสียงนก ไม่มีต้นไม้และยังไม่มีหญ้าอีก เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะทนเอาชีวิตอยู่ได้ยังไงกับสถานที่แบบนี้
อย่างน้อยที่สุด แม่น้ำมันก็คงจะทำให้เขามีแรงขึ้นมาอยู่
"บ้าเอ้ย!"
เมื่อลูหลี่มาถึงแม่น้ำ คลื่นความร้อนก็ได้ปะทะเข้ากับตัวเขา จนทำให้เขาต้องเดินหนีเลย ทั้งแม่น้ำเต็มไปด้วยแม็กม่าและไม่มีทางใดเลยที่เขาจะเข้าใกล้มันได้
อุณหภูมิมันสูงมากจนใครก็ตามที่เข้าไปใกล้ ก็อาจจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน
อากาศเต็มไปด้วยกำมะถันและลูหลี่ก็ทนไม่ได้ที่จะก้มตัวพร้อมกับไอออกมา
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็รู้สึกดีขึ้น แต่หลังจากนั้นลูหลี่ก็เห็นเงาที่คืบคลานอยู่รอบตัวของเขา เขาไม่มีทางที่จะรอดูแน่ว่ามันคืออะไร เขาจึงได้รีบเร่งฝีเท้าและหนีไปโดยเร็วพลัน
อย่างไรก็ตาม เงานั้นค่อนข้างที่จะคล่องแคล่วและมันก็จับตัวลูหลี่ได้อย่างรวดเร็ว
เย็น!
ความรู้สึกเย็นยะเยือกจากเงา มันทำให้ลูหลี่ทนไม่ไหวจนได้แต่สั่น