จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 560
บทที่ 560: ดวงตาปีศาจโบราณ
บางทีอาจเป็นเพราะสายฝนที่รบกวนเขา เขาจึงไม่รู้เลยว่าเขาได้หนังสือทักษะเล่มนี้มาตอนไหน นั้นทำให้เขาเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์เลย
ในที่สุดลูหลี่ก็สามารถออกจากหุบเขาเสร็งเลทฮอน ที่เขาไม่ค่อยชอบได้สักที
ทุกๆคนต่างก็มีสิ่งที่เกลียดกันอยู่ และสองสิ่งที่ลูหลี่เกลียดก็คือ ความจนและสายฝน บางทีอาจเป็นเพราะเขาจน เขาจึงเกลียดสายฝน [เปรียบสายฝนกับความทุกข์ยาก]
ตอนนี้เขาได้รับพัดลมใบมีดแล้ว เขาจึงได้ทิ้งแผนที่วางไว้ทั้งหมด เพราะเขาไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว
จากนั้นเขาก็ได้ใช้เวลาสองวันในการเพิ่มระดับ กลยุทธ์หลักของเขาคือการดึงมอนสเตอร์มาและให้นักเวทย์สี่คนใช้ทักษะพายุหิมะพร้อมกัน เมื่อมอนสเตอร์มี HP เลือดนิดเดียว เขาก็จะพุ่งเข้าไปพร้อมกับใช้ทักษะพัดลมใบมีด
ความเสียหายของทักษะพัดลมใบมีดค่อนข้างต่ำ ดังนั้นจึงถือว่าดีมากแล้วที่เขาสามารถฆ่ามอนสเตอร์ได้อย่างน้อยสิบตัว ในหมู่มอนสเตอร์ยี่สิบตัว
ในความเป็นจริง ลูหลี่ก็ค่อนข้างพอใจกับประสิทธิภาพของทักษะที่ระบบมอบให้มา ถ้าไม่มีทักษะพัดลมใบมีด เขาคงจะฆ่ามอนสเตอร์ได้เพียง 4-5 ตัว
ซึ่งนั้นทำให้นักเวทย์ก็ไม่ต้องรอลูหลี่ลาสมอนสเตอร์นานจนเกินไปด้วย
หลังจากเพิ่มระดับมาสักพัก ลูหลี่ก็ใกล้จะขยับจากระดับ 37 ไประดับ 38 อย่างช้าๆแล้ว ด้วยระดับในตอนนี้ เขาสามารถไปที่ซอลฟาแรคได้เลย แต่ระดับของเพื่อนร่วมทีมเขาเองก็ยังไม่สูงพอ
ซึ่งลูหลี่เองก็ได้สั่งสแควรูทสามหายาแก้พิษระดับประณีตจากร้านค้ามาเพื่อพวกเขาด้วย แต่ความคืบหน้าก็มีเพียงนิดเดียวเอง ถึงแม้ว่าจะผ่านมาหลายวันแล้วก็ตาม
เขาสามารถหาอุปกรณ์ที่ต้านพิษได้ แต่อุปกรณ์เสริมนั้นสิเป็นของที่ขาด ด้วยความที่อุปกรณ์ส่วนใหญ่จะมีค่าพลังป้องกันและการโจมตีที่ต่ำ พวกของใช้สิ้นเปลืองหรือก็คืออุปกรณ์เสริมนั้นจึงสำคัญมากยิ่งกว่า
หากจะไม่ใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ พวกเขาก็จำเป็นที่จะต้องมีระดับมากกว่านี้
ซึ่งแน่นอนว่าอย่างน้อยระดับของพวกเขาก็ต้อง 35 ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงจะไม่สามารถทนพิษจากพวกมอนสเตอร์โบราณได้
นั้นทำให้ไม่มีใครเลยที่กล้าจะท้าทายดันเจี้ยนซอลฟาแรค ในความเป็นจริงแล้ว ก็มีผู้เล่นอยู่หลายคนที่พยายามจะเคลียร์ซอลฟาแรค แต่แม้กระทั่งทีมระดับสูงบางทีมก็ยังแพ้บอสตัวแรกในความยากระดับสูงสุดเลย
ส่วนไอเท็มที่ได้รับมาจากการลูทนั้นก็มากมายเลยทีเดียว ทีมที่ลงดันไปคนแรกได้ถึงอุปกรณ์ทองระดับ 35
ในความยากระดับสูงสุดนั้น อุปกรณ์ระดับทองถึงว่าหาดรอบได้ยากเลยทีเดียว
ซึ่งด้วยเหตุนี้แล้ว จึงมีผู้เล่นหลายพันคนพร้อมใจลงไปในดันเจี้ยน เพื่อของพวกนั้น
แม้แต่สมาคมใหญ่ๆเองก็ไม่สามารถทนได้ พวกเขาจัดทัพและได้ตั้งเป้าหมายของสมาคมว่า ซอลฟาแรค จะเป็นเป้าหมายดันเจี้ยนของพวกเขาในตอนนี้
คงจะมีเพียงสมาคมกฏแห่งดาบที่สมาชิกแทบทุกๆคนยังคงฟาร์มอยู่
ตามสิ่งที่ลูหลี่ได้บอกกับสแควรูทสาม พวกเขาไม่จำเป็นที่จะต้องลงดันเจี้ยนเลย ถ้าพวกเขายังไม่ระดับ 35 หรืออย่างน้อยที่สุดก็ต้องมียาแก้พิษ
ในตอนที่เขาว่าง ลูหลี่ก็จะแวะไปที่ห้องโถงทหารรับจ้าง
เนื่องจากบอสตัวแรกได้ถูกเอาชนะไปแล้ว คงจะมีบางทีมแน่ที่มีวัสดุหายากดวงตาปีศาจโบราณ นั้นทำให้เขาได้แต่หวังว่าเขาจะสามารถอัพเกรดแหวนได้ ก่อนที่พวกเขาจะลงดันเจี้ยนกันไป
ซึ่งวัสดุที่เขาต้องการก็ไม่ใช่ของธรรมดาเลย ในตอนนี้มันอาจจะมีราคา 1-2 ล้านเหรียญดอลลาร์
สำหรับคนที่ร่ำรวยแล้ว เงินแค่นี้คงไม่พอสำหรับชุดที่สวมใส่อยู่ แต่สำหรับคนยากจนแล้ว มันเป็นเงินที่เพียงพอสำหรับอยู่ตลอดชีวิตเลย
ห้องโถงทหารรับจ้างเองก็ดูครึกครื้นกันน่าดู
ในชีวิตที่ผ่านมาของเขา ลูหลี่มักจะชอบมาที่นี่และคุยกับทหารรับจ้างที่จะอยู่ที่มุมห้อง
พวกเขาจะนั่งอยู่รอบๆและคอยมองหาผู้เล่นที่ต้องการอะไรอย่าง จากนั้นพวกเขาก็จะพยายามขายตัวเอง เพื่อที่ผู้เล่นพวกนั้นจะได้จ้างพวกเขา
เกมนี้ก็เป็นเหมือนกับสังคมในโลกจริงด้วยเหตุผลหลายประการ หนึ่งในนั้นคงเป็นเพราะผู้เล่นหลายคนต่างก็อยู่ในด้านล่างของบันไดเศรษฐกิจ [เปรียบกับชนชั้นฐานะมั้งครับ]
"พี่ชาย นายต้องการให้ใครมาฟาร์มช่วยหรือเปล่า? ฉันมีปาร์ตี้สี่คน 3 นักเวทย์และ 1 นักรบ นายจะเพิ่มระดับอย่างต่อเนื่องเลยนะ จากนั้นนายก็จะได้ตามคนอื่นๆทันไง "นักรบกล่าวพร้อมกับพยายามดึงลูหลี่
ส่วนทหารรับจ้างคนอื่นๆที่ไม่ไวพอ ต่างก็ต้องถอยกลับไปอย่างไม่มีทางเลือกนัก
ซึ่งทหารรับจ้างพวกนี้ก็ไม่ได้จะชักมีดออกมาหรอกนะ ถึงแม้ว่าลูหลี่จะปฏิเสธไป ด้วยความที่พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ปลอดภัย นอกจากนี้แล้ว หากพวกเขาทำตัวเป็นมิตร ยังไงมันก็ดีกว่าทำตัวไม่ดีอยู่แล้ว
"ขอโทษทีนะ ฉันไม่ได้อยากจะฟาร์มหรอกนะ" ลูหลี่ส่ายหัวขณะที่เขาตอบเสียงดัง
เขารู้ว่าผู้เล่นพวกนี้เป็นมิตรและพวกเขาก็ทำเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอด ดังนั้นแล้วจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับลูหลี่ที่จะปฏิเสธ
"งั้น... นายต้องการที่จะทำเควสให้สำเร็จหรือเปล่า?"นักรบรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย วัตถุประสงค์หลักของปาร์ตี้ของเขาคือการฟาร์ม สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือพาผู้ว่าจ้างไปฟาร์ม มันค่อนข้างไม่มีความเสี่ยงและยังได้รับค่าประสบการณ์บางส่วนด้วย
นอกจากนี้แล้ว เควสส่วนใหญ่ของเกมรุ่งอรุณมักจะมีความยาก จนไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะสำเร็จสมบูรณ์ได้
ซึ่งหากพวกเขาไปเจอนายจ้างที่ไร้เหตุผล นอกจากที่พวกเขาจะไม่ได้เงินค่าจ้างแล้ว พวกเขายังต้องถูกตักเตือนจากสมาคมทหารรับจ้างอีก
ผู้เล่นที่นี่สามารถดูบันทึกการจ้างงานของผู้เล่นคนอื่นได้ ดังนั้นแล้ว หากประวัติของคุณมันไม่ดี ก็คงจะมีผู้เล่นจำนวนน้อยมากที่จะกล้าจ้างคุณ แต่หากคุณลดราคาค่าจ้างลงไป บางทีมันก็อาจจะไม่เพียงพอสำหรับโพชั่นที่ใช้ไปเลยด้วยซ้ำ
"ไม่ๆ ฉันแค่จะไปดูภารกิจเฉยๆว่ามีใครรับมันไปแล้วหรือยัง" ลูหลี่กล่าวขณะที่ชี้นิ้วไปที่ด้านใน
นักรบได้แต่ปล่อยเขาไปอย่างไม่เต็มใจและคอยมองหาเป้าหมายคนต่อไป สาเหตุหนึ่งก็คงเป็นเพราะ พวกเขาคงจะไม่สามารถช่วยเหลือคนที่สามารถใช้เงินถึง 20 เหรียญทองในการเข้าไปดูเควสในห้องโถงหลังได้หรอกนะ
ลูหลี่ได้เข้าไปยังห้องโถงและเริ่มมองจอมอนิเตอร์
มีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่เขาค้นหา ลูหลี่ได้แต่รอเควสของเขาโผล่ขึ้นมา เขาไม่ได้หวังหรอกนะว่าจะมีคนรับมา แต่เขาก็รู้สึกประหลาดใจที่มีปีกสีทองบนตัวเควสของเขา
นั่นหมายความว่า มีใครบางคนได้ทิ้งข้อความไว้
บางทีอาจจะมีคนได้รับดวงตาปีศาจโบราณมาจริงๆก็ได้!
ไม่ใช่ผู้เล่นทุกคนที่จะฝากข้อความได้ คุณจำเป็นที่จะต้องมีไอเท็มที่นายจ้างต้องการหรือข้อมูลที่มีประโยชน์บางอย่าง ซึ่งมันจะได้รับการตรวจสอบโดยสมาคมทหารรับจ้าง ก่อนที่นายจ้างจะได้เห็นมัน
ความถูกต้องของข้อมูลแบ่งออกเป็น 3 ระดับคือ สีแดง สีเทาและสีทอง
สีแดงหมายถึงความไม่น่าเชื่อถือ สีเทาหมายถึงว่าน่าเชื่อถือ แต่ก็ยังไม่ได้รับการยืนยัน ส่วนสีทองหมายถึงว่ามีไอเท็มอยู่บนมือของคนๆนั้น
ลูหลี่ได้เข้าสู่ระบบกับตัวเครื่องและหลังจากที่ได้รับการตรวจสอบตัวตนแล้ว เขาก็เห็นข้อความนั้นอย่างรวดเร็ว
หัวเราะไปยังสวรรค์ ช่างเป็นชื่อที่แปลกอะไรอย่างนี้ ลูหลี่ขมวดคิ้วในขณะที่เขาพยายามส่งข้อความไปหาเขาคนนี้ ตราบเท่าที่เขามีไอเท็มชิ้นนี้อยู่ เขาก็ไม่สนใจแล้วว่าคนๆนั้นจะมีชื่อยังไง
ระบบ: ขออภัยด้วย ข้อความของท่านถูกปฏิเสธ
บ้าเอ้ย ลูหลี่หมดคำจะพูด เขาไม่เคยถูกปฏิเสธมาเป็นเวลานานแล้ว ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องผิดปกติมาก เมื่อเขาได้ยินข้อความแบบนี้ ผู้เล่นคนนี้กำลังทำอะไรอยู่กัน? เขากำลังจะต้องคิดไม่ซื่อแน่h