ตอนที่แล้วจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 492
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 494

จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 493


บทที่ 493: การผ่าตัด

"ตามสบายเลย กินช้าๆและอย่าสำลักอาหารออกมาล่ะ" ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นมาและลูหลี่ก็ได้ถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกโล่งอก ผู้หญิงคนนี้ได้เข้ามานั่งข้างเตียงของลูซินและรู้สึกได้เลยว่าเธอต้องเป็นคนใจดีอย่างแน่นอน

ซึ่งลูหลี่ก็เดาได้แล้วว่าใครมาเยี่ยมพวกเขา

นามสกุลของพวกเขาคือ เม่ย และพวกเขาก็ต้องการที่จะเข้ามาพบกับลูซิน

ลูหลี่ไม่คิดเลยว่าจะมาพบกับครอบครัวผู้บริจาคแบบนี้ อารมณ์ของเขาในตอนนี้มันหลากหลายมาก

พวกเขานั้นยังคงทุกข์ใจอยู่กับตัวลูกสาวของพวกเขาที่กำลังใกล้จะตายแล้ว ดังนั้น เขาจึงต้องระวังในคำพูดของเขาด้วย ถ้าเกิดเขาพูดอะไรไม่เป็นเรื่องขึ้นมา แล้วลูกสาวของพวกเขาตายล่ะก็ สิทธิในการบริจาคก็สามารถถอดถอนโดยพวกเขาได้ตลอดเวลา ลูหลี่จึงต้องทำตัวดีๆ

มันไม่เหมือนกับการปลูกถ่ายอวัยวะส่วนอื่นๆ เพราะหัวใจจะต้องถูกผ่าออกมาในขณะที่มันกำลังเต้นอยู่ ไม่อย่างนั้นแล้ว มันจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและกลายเป็นไร้ประโยชน์ไป

จากมุมมองบางประการการนั้น การปลูกถ่ายหัวใจถือว่าผิดศีลธรรม เพราะหากหัวใจยังคงเต้นอยู่ คนๆนั้นก็ยังไม่ได้ถือว่าตาย

บางคนคิดว่าการเอาหัวใจออกมานั้นเปรียบเหมือนกับการฆ่าผู้บริจาค ดังนั้นแล้ว ครอบครัวของผู้บริจาคหัวใจจึงมักจะตัดสินใจยากมากสำหรับพวกเขาที่จะยอมรับถึงเรื่องนี้

ในตอนนี้ลูหลี่ได้แต่ขอบคุณครอบครัวของผู้บริจาคเท่านั้น

"ฉันเป็นพ่อของ เม่ย วูและนี่คือแม่ของเธอ เราได้ยินมาว่าพวกเธอเพิ่งจะมาถึงนะ "ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้พูดขึ้นมา หลังจากที่ทั้งห้องนั้นเงียบไปนานอยู่ช่วงหนึ่ง

"ขอบคุณมากคุณมากเลยครับ" ลูหลี่ต้องการที่จะแสดงความเสียใจกับลูกสาวของพวกเขา แต่เขาไม่แน่ใจว่าเขาควรพูดอะไรออกไปดี

"เธอพึ่งจะอายุ 21 ปีเท่านั้นเอง" คุณเม่ยกล่าวออกมาขณะที่เขาเช็ดน้ำตา เขาไม่กลัวเลยที่จะหลั่งน้ำตาออกมาต่อหน้าคนแปลกหน้า "เธอเป็นคนที่ดื้อรั้นมาก แต่ฉันก็ยังหัวแข็งให้เธอทำตามสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันลืมไปเลยว่าเธอพึ่งจะอายุแค่ 21 ปี ฉันกลับเข็มงวดกับเธอมาก ... "

เขากำลังพูดถึงเรื่องราวต่างๆออกมา ลูหลี่ไม่รู้เลยว่าเขาควรที่จะตอบไปยังไงดี

"ฉันไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ฉันเลี้ยงดูเธอมานานกว่า 20 ปี แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก "คุณเม่ยนั้นพูดเก่งมาก แต่ด้วยความที่เขาเจ็บปวดจากการเสียลูกสาวของตัวเอง มันจึงทำให้เขาทนไม่ได้

ส่วนคุณนายเม่ยก็กำลังปลอกแอปเปิ้ลให้กับซินซินพร้อมกับตัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยให้กับเธอ

มือของเธอดูนุ่มนวลและสง่างาม เห็นได้ชัดเลยว่าพื้นเพของเธอต้องมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยแน่

ลูซินในตอนแรกก็รู้สึกลังเล แต่เธอก็ไม่ได้หยาบคายกับพวกเขานัก แก้มของเธอกลายเป็นสีแดงและในขณะที่เธอกำลังกินแอปเปิ้ล เธอก็คล้ายกับตุ๊กตาเลย โรคที่เธอกำลังเป็นอยู่ไม่ได้ส่งผลต่อความน่ารักและการแสดงออกของเธอเลยสักนิด เธอมีความสุขเหมือนเด็กที่อยู่ในวัยเดียวกับเธอ

ลูหลี่ไม่แน่ใจว่าทำไมพวกเขาถึงเข้ามาเยื่ยมพวกเขา ขณะที่เขาฟังคุณเม่ยพูด สายตาของเขาก็จ้องมองไปที่ลูซินตลอดเวลา

พูดตามตรงเลย เขาแทบเกร็งตลอดเวลาที่คุณนายเม่ยหยิบมีดมาหั่นแอปเปิ้ล เขากลัวที่จะเสียน้องสาวของเขาไปมากเลย หากว่าคุณนายเม่ยเกิดทำอะไรที่คาดไม่ถึงขึ้นมา

โชคดีที่หลังจากหั่นแอปเปิ้ลเสร็จแล้ว เธอก็วางมันลงไป

"ฉันได้ยินมาว่าทั้งครอบครัวมีแค่เธอกับน้องสาวของเธอเท่านั้นเองเหรอ?"คุณเม่ยได้ถามขึ้นมา หลังจากที่เขาเล่าเรื่องของเขาทั้งหมดไปแล้ว

"ใช่ครับ พ่อแม่ของผมได้เสียชีวิตลงไปเมื่อตอนที่เรายังเล็กอยู่ และเราก็มีกันแค่สองคนนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา" ลูหลี่รู้ตัวดีว่าเขาไม่เคยถามหมอเลยว่า ต้องให้เงินชดเชยแก่ครอบครัวผู้บริจาคเป็นจำนวนเท่าไร ซึ่งมันเป็นเรื่องยากมากที่จะกำหนดราคาชีวิตของคน ลูหลี่เองก็ไม่ทราบเรื่องนี้เลยด้วย

ซึ่งการบริจาคอวัยวะจริงๆแล้วจะต้องไม่มีค่าใช้จ่ายในการบริจาคอะไร เพราะมันจะเป็นเหมือนการจ่ายเงินเพื่อชื้ออวัยวะผิดกฎหมาย

สิ่งที่จำเป็นต้องจ่ายมีแค่ค่ารักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น

"เธอยังมีญาติคนอื่นอีกไหม?"คุณเม่ยรู้สึกประหลาดใจมาก เพราะเมื่อตอนที่คุณหมอดอนพูดถึงผู้รับบริจาค เขาบอกว่าคนที่รับบริจาคจากลูกสาวพวกเขานั้นสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก นั้นทำให้พวกเขาคิดว่าลูหลี่นั้นจะต้องมีครอบครัวอื่นคอยอุปถัมภ์อยู่

"เท่าที่รู้ก็ไม่น่าจะมีครับ" แม้ว่าพวกเขาอาจจะมีญาติอยู่ แต่ลูหลี่ก็จำไม่ได้ซักคนเลย

บางทีญาติพวกเขาอาจจะยากจนเกินไปที่จะเลี้ยงดูพวกเขา พวกนั้นเลยปล่อยให้พวกเขาสองคนหาทางเลี้ยงดูตัวเอง

"ว้าว ... เธอดูแลน้องสาวของเธอด้วยตัวคนเดียวงั้นเหรอ? เธออายุมากกว่าน้องสาวของเธอเท่าไหร่เนี้ย?"คุณเม่ยและคุณนายนั้นไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นในการมาเยี่ยมเลย พวกเขาแค่อยากรู้จักตัวตนของลูหลี่และน้องสาวของเขาก็เท่านั้นเอง

พวกเขาต้องการที่จะเห็นว่าหัวใจของลูกสาวของพวกเขาจะถูกนำไปให้กับใครในอนาคต อยากจะเห็นถึงตัวคนที่รับบริจาค อยากจะเห็นถึงครอบครัวของคนที่รับบริจาค อยากรู้ว่าคนที่รับบริจาคนั้นมีเงินพอที่จะผ่าตัดหรือเปล่า พวกเขาไม่ต้องการให้หัวใจลูกสาวที่พวกเขารักจากไปโดยเสียเปล่า

แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นลูหลี่และลูซินแล้ว พวกเขาก็รู้สึกประทับใจมากเลย

เด็กสาวตัวน้อยสวยและน่ารักมาก เธอดูบริสุทธิ์เหมือนนางฟ้า เหมือนกับลูกสาวของพวกเขามากเลย

ส่วนพี่ชายของเธอก็ปฏิบัติกับเธอเป็นอย่างดี และจากสังเกตความใกล้ชิดระหว่างพี่น้องแล้ว พวกเขาดูสนิทชิดเชื้อกันมาก

พวกเขาไม่รู้เลยสักนิดว่าทั้งคู่เป็นเด็กกำพร้ามาตั้งแต่เด็ก

"พี่ชายของหนูเลี้ยงหนูมาตั้งแต่ยังเด็กค่ะ เขาเต็มใจที่จะทำทุกๆอย่างเพื่อหนู ไม่ว่าจะเจ็บปวดหรือยากลำบากแค่ไหน พี่ก็จะคอยหาเงินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ในตอนนี้ พี่เขาก็เป็นนักเล่นเกมมืออาชีพที่มีผู้เล่นหลายพันคนคอยทำตามคำสั่งของเขาค่ะ "ลูซินกล่าวออกมาอย่างภาคภูมิใจ

ในสายตาของลูซิน พี่ชายของเธอคือคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต

เมื่อใดก็ตามที่ครูถามในชั้นเรียนว่าใครเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ บางคนอาจตอบคำถามนั้นอย่าง กษัตริย์และนักการเมือง ในขณะที่บางคนก็จะตอบว่านักวิทยาศาสตร์ อย่างไรก็ตาม คำตอบของลูซินมักจะเป็นพี่ชายของเธอเอง

"โอ้ ดีมากเลยนะ "คุณเม่ยพูดออกมาพร้อมกับถอนหายใจ

"อ่า... ผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ มีอะไรให้ผมช่วยไหม?"ลูหลี่ถาม

ในตอนนี้ลูหลี่ก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดีว่าทำไมครอบครัวผู้บริจาคถึงมาเยี่ยมพวกเขา พวกเขาควรจะอยู่ข้างลูกสาวของพวกเขาสิ เพราะเธอสามารถจากไปได้ทุกเมื่อ

พวกเขามองไปที่กันและกัน ก่อนที่คุณนายเม่ยจะเช็ดน้ำตาในขณะที่คุณเม่ยก็พูดออกมาว่า "ฉันแค่ต้องการมาดูว่าพวกเธอต้องการให้ช่วยอะไรหรือเปล่านะ ถ้าเธอไม่มีเงินพอ เราจะได้ให้พวกเธอยืมเงินก่อน ถ้าไม่มีอะไร เราก็แค่จะมาบอกให้เธอเตรียมพร้อมสำหรับการผ่าตัดนะ "

จากนั้น คุณนายเม่ยก็พูดอีกว่า "ฉันหวังว่าพวกเธอจะดูแลกันดีนะ อย่าให้หัวใจลูกสาวของฉัน ... "

เมื่อลูหลี่ได้เห็นถึงความเศร้าใจของพ่อและแม่ เขาก็ได้กล่าวออกมาอย่างหนักแน่น"ผมจะดูแลน้องสาวของผมและไม่มีวันที่จะทำให้เธอเสียใจแน่ครับ"

ซึ่งด้วยความที่ได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองแล้ว การผ่าตัดจึงดำเนินไปอย่างรวดเร็ว

สองเดือนผ่านไปหลังจากที่ลูหลี่กลับมาเกิดใหม่ ลูซินก็ได้เข้ามาอยู่ที่ห้องผ่าตัดภายใต้การดูแลของศัลยแพทย์หัวใจที่เก่งที่สุดในโลก เฮเลน สเวนฟอร์ดและทีมผู้เชี่ยวชาญ

หลังจากหลายชั่วโมงผ่านไป การผ่าตัดก็ประสบความสำเร็จ

"การผ่าตัดประสบความสำเร็จอย่างมาก ผู้ป่วยจะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูและขอแนะนำให้เธอไปพักฟื้นก่อนนะ ได้โปรดปฏิบัติตามแผนการจัดการอย่างรอบคอบและเคร่งครัดด้วย "

หมอเฮเลน สเวนฟอร์ดเหนื่อยมาก แต่เธอก็อธิบายถึงสิ่งต่างๆให้ลูหลี่ฟังอย่างอดทน

แพทย์ที่มีประสบการณ์คนอื่นๆทั้งหมดก็เห็นพ้องกันว่าการผ่าตัดทำได้ดีกว่าที่คาดหวังไว้

อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดของการปลูกถ่ายอวัยวะไม่ใช่การผ่าตัด แต่เป็นขั้นตอนฟื้นฟูหลังผ่าตัดต่างหาก ลูหลี่ต้องดูแลน้องสาวของเขาอย่างระมัดระวังมาก เพื่อไม่ให้หัวใจกับร่างกายของน้องสาวเขาปฏิเสธกัน

พวกเขายังชี้ให้เห็นอีกว่าลูหลี่ควรจะย้ายมาที่หนานจิงเป็นระยะเวลาหนึ่งก่อน เพื่อที่จะเข้าถึงโรงพยาบาลได้ง่ายและสะดวกขึ้นกว่าเดิม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด