จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 490
บทที่ 490: เซอร์ไพร์ส
"อืม มีทางลัดจากทะเลทรายที่อยู่ในที่ราบสูงแฟลชของป่าศิลาเข็ม จุดมุ่งหมายของเควสตั้งอยู่ที่นั่นและฉันจะต้องเอาไข่ไปส่งให้กับเขา" ฮาชิจังกล่าวขณะที่เธออ่านรายละเอียดของเควส
"นั่นหมายความว่า เธอไม่จำเป็นที่จะต้องให้ฉันไปช่วยเธอทำเควสอีกแล้วใช่มั้ย?"ลูหลี่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยในความยากของเควสนี้
พาหนะมังกรวิญญาณหาง่ายๆแบบงี้เลยเหรอ? ทำไมเขาแทบจะไม่เคยเห็นมันเลยล่ะในชีวิตก่อนหน้านี้? หรือมันเกิดจากปรากฏการณ์ผีเสื้อขยับปีกกันน่ะ?
ดูเหมือนว่าลูหลี่จะให้เครดิตตัวเขามากเกินไปซะทีเดียว
นี่เป็นภารกิจแบบครั้งเดียว แต่พาหนะประเภทนี้ไม่ใช่พาหนะแบบเดียวในโลก แค่ว่าเควสนี้จะสามารถทำได้ครั้งเดียวเท่านั้นเอง
ซึ่งในเวลาเดียวกัน ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีไอเท็มแบบดวงตาแห่งการหลอกหลวงเหมือนกับเขา แม้ว่าคุณจะมีมัน แต่คุณจะขโมยไข่ยังไงล่ะ? นอกจากนี้แล้ว แม้คุณจะขโมยมันมาได้ แล้วคุณจะเอาตัวรอดยังไงล่ะ?
ทุกๆคนนั้นไม่ได้แข็งแกร่งและไม่ได้มีไอเท็มเหมือนกับเขา
ฮาชิจังนั้นกล่าวถูกที่ลูหลี่ควรจะได้รับรางวัลออสการ์ เขาเติบโตขึ้นมาในชนชั้นสังคมที่ต่ำที่สุดและมันทำให้เขามีทั้งความอ่อนน้อมถ้อมตนและแข็งแกร่ง รวมถึงความฉลาดแกมโกงที่คนส่วนใหญ่ไม่มีกันด้วย
ในชีวิตก่อนหน้านี้ของลูหลี่ คนที่ได้รับจิตวิญญาณมังกรจากภารกิจนี้คือเมเปิ้ลอันน่าจดจำจากสมาคมวัดมาจิน
เพื่อที่จะขโมยไข่มังกรจากโทเทมอันน่าหวาดกลัว เมเปิ้ลอันน่าจดจำจึงได้คิดแผนขึ้นมา เขานำผู้เล่นฝ่ายเผ่าพันธุ์และฝ่ายพันธมิตรให้ไปเจอกับเผ่าโทเทมอันน่าหวาดกลัว จากนั้นก็ให้พวกเขาได้พบกับความน่ากลัวของเผ่านี้ ด้วยคำหลอกลวงบางอย่าง เขาก็ได้สร้างเหตุการณ์ที่ผู้เล่นถูกถลกหนังในโทเทมอันน่าหวาดกลัวขึ้นมา
ผู้เล่นที่โกรธเกรี้ยวมากมายนั้นได้เข้าโจมตีแคมป์โทเทมอันน่าหวาดกลัว
เมเปิ้ลอันน่าจดจำก็ได้ฉวยโอกาสนั้นในการฉกไข่มังกรวิญญาณไป อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาใช้พลังงานไปอย่างมากในการเอาพาหนะนี้มา เขาก็แทบจะหมดคำพูดเลยเมื่อมันมาอยู่ในมือเขา
พาหนะนี้มีสีสันต์มากและเหมาะกับเด็กผู้หญิงมากกว่า มันคงจะดูไม่ดีเลยสักนิดถ้าเขาไปขึ้นขี่บนหลังของมัน
ถ้าเขาบินไปมาบนตัวของมัน มันคงจะทำให้เขาอับอายขายขี้หน้าแน่ เขารู้สึกผิดหวังกับพาหนะสักครู่หนึ่ง จากนั้น เขาก็ได้ปิดผนึกพาหนะมังกรจิตวิญญาณนี้ไป นี่เป็นเหตุผลที่ลูหลี่ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับคนที่มีพาหนะมังกรเลย มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเอฟเฟคผีเสื้อขยับปีกเลยซักนิด
มีเพียงอย่างเดียวที่คนที่กลับมาเกิดใหม่อย่างเขาทำได้ แม้ว่าเขาจะเปลี่ยนสิ่งต่างๆมากมายไปตามเส้นทางชีวิตของเขา แต่โลกก็ยังคงดำเนินไปแทบจะแบบเดิมเลย
หลังจากที่ฮาชิจังขอให้ลูหลี่ช่วยเธอเสร็จแล้ว เธอก็ได้โบกมือลาเขาและจากไป
ลูหลี่จึงใช้เวลาที่เหลือในการเพิ่มระดับของเขา
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถไปถึงระดับ 35 ได้ก่อนการแข่งขัน แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่เขาจะยังคงพักผ่อนเลย
การแข่งขันถ้วยเวทย์ฒนต์นั้นเป็นการแข่งขันระดับเล็ก มันจึงทำให้ผู้เล่นที่มีชื่อเสียงมากหน้าหลายตาไม่ได้เข้าร่วมด้วย แต่ทุกคนจะต้องเข้าร่วมการแข่งขันครั้งใหญ่ในปลายปีนี้แน่
แฟรี่น้ำเองก็ดูเหมือนจะพบเข้ากับจุดเพิ่มระดับดีๆ ดังนั้นแล้ว เธอจึงไม่ได้ติดต่อกับลูหลี่ให้มาเพิ่มระดับด้วยกันเลย ซึ่งลูหลี่ก็รู้สึกรำคาญเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้
ในขณะที่เขากำลังต่อสู้อยู่กับโคลน ก็ได้มีบางสิ่งบางอย่างสั่นสะเทือน ไม่ใช่จากในเกม มันคือการที่มีคนติดต่อเขามาหาเราจากในชีวิตจริง
เขาตรวจสอบบันทึกหมายเลขที่โทรมาและพบว่าเป็นหมอชราจากโรงพยาบาล ลูหลี่ออกจากเกมโดยไม่ได้เดินทางกลับไปที่เมืองก่อนเลย เขารีบออกจากระบบและหยิบโทรศัพท์โทรหาหมอในทันที
"ท่านครับ ผมลูหลี่นะ... "
"ไม่ต้องกังวลอะไร ฉันแค่มาแจ้งข่าวดีนะ" หมอชราเข้าใจถึงความรู้สึกของลูหลี่และสัมผัสถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างพี่น้อง ดังนั้นแล้ว เขาจึงพยายามทำให้เสียงของเขานุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้
"อ่าครับ พูดต่อได้เลยครับ"ลูหลี่รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย เขานึกว่าจะเจอปัญหาอะไรเกี่ยวกับโรคของน้องสาวเขาซะแล้ว
เขาไม่เคยกังวลมากขนาดนี้เลย แม้กระทั่งตอนที่ต้องเผชิญหน้ากับทอรัสนักขี่โคโด น้องสาวของเขาเป็นสีสันในชีวิตของเขา เธอจึงสำคัญกับเขามาก
"เราพบผู้บริจาคแล้ว!"หมอชราพูดออกมาอย่างมีความสุข
ลูซินเป็นเพียงหนึ่งในผู้ป่วยจำนวนมาก แต่เขานั้นจำเธอได้ดี หลังจากเดินทางไปทั่วประเทศจีนแล้ว เขาก็พบเข้ากับผู้บริจาคและติดต่อลูหลี่ทันทีที่เขากลับมา
"จริงๆเหรอครับ? อัตราการเข้ากันได้ของพวกเขาเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์ไหมครับ?"ลูหลี่ไม่อาจเชื่อในสิ่งที่เขาเพิ่งได้ยินได้เลย
เขารู้สึกดีใจมากจนไม่รู้เลยว่าจะแสดงออกมายังไง
พวกเขาพึ่งจะรอแค่ประมาณหนึ่งเดือนเท่านั้น แต่ความวิตกกังวลของเขาทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขารอมานานหลายปีแล้ว ตอนนี้ หัวใจของเขามันโล่งไปหมด มันเหมือนกับเขาจะสลบไปเพราะความปิติยินดีไปเสียแล้ว
"เราได้ทดสอบไปแล้ว และสถิติโดยพื้นฐานนั้นมีอัตราการเข้ากันได้ถึง 92% นี่คืออัตราความเข้ากันได้ที่หายากมากและในบรรดาการทำศัลยกรรมทั้งหมด การทำศัลยกรรมหัวใจที่มีคนรอดมาได้คือเด็กหนุ่มชาวอังกฤษ เขาได้รับการผ่าตัดหัวใจเมื่ออายุ 13 ปีและเสียชีวิตเมื่ออายุ 107 ปี ความเข้ากันได้ของเขาคือ 96% ... "หมอชราพยายามที่จะอธิบายให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
"เป็นไปไม่ได้เหรอครับที่จะพบอัตราความเข้ากันได้ 100%?"ลูหลี่ต้องการให้น้องสาวของเขานั้นได้สิ่งที่ดีที่สุด
"นั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นแบบนั้น" หมอชรากล่าว "พูดตามตรงเลยนะ ขอแค่มีกรุ๊ปเลือดตรงกัน ก็สามารถถ่ายโอนให้กันได้แล้ว อย่างไรก็ตาม การที่พบกับอัตราความเข้ากันได้ถึง 90% นี้เป็นโชคดีมากเลยนะ เธออาจจะไม่พบเลยก็ได้ในช่วงระยะเวลาสิบปี มีหลายคนที่เสียโอกาสนี้ไป เพราะการรอ เธอรู้ไหม "
"ผมเข้าใจ ว่าแต่มันจะมีโอกาสที่เกิดการปฏิเสธการถ่ายโอนไหมครับ?"ลูหลี่ยังคงรู้สึกกังวลอยู่
"แน่นอนว่ามี แต่มันก็แค่เล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลที่เราเน้นการฟื้นฟูสมรรถภาพหลังการผ่าตัดกัน เธอโชคดีมากเลยนะ หลังจากการผ่าตัดเสร็จสิ้นแล้ว น้องสาวของเธอจะสามารถมีชีวิตเหมือนคนปกติได้ หลังจากพักฟื้นสองหรือสามปี ซึ่งถ้าอัตราความเข้ากันได้ของเธอต่ำกว่านี้ น้องสาวของเธอคงจะต้องกินยาไปทั้งชีวิต "หมอชราบอก
เขาได้ใส่ใจกับผู้ป่วยคนนี้มาก ไม่เพียงแต่เขาจะไปหาผู้บริจาคที่เหมาะสมให้ แต่เขายังไปพูดคุยให้ผู้บริจาคให้ความร่วมมือด้วยอีก
"ขอบคุณมากครับ" ลูหลี่พูดออกไปด้วยความรู้สึกขอบคุณอย่างเต็มไป แต่เขานั้นแสดงออกไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่
"เธอเป็นเด็กน้อยที่น่ารักมากๆนะ มันน่าเสียดายที่เธอจะต้องจบชีวิตลงทั้งๆที่ยังเด็กอยู่ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เธอมีพี่ชายที่รักเธออย่างสุดซึ่้งอยู่ด้วย "
"แล้วเราจะผ่าตัดกันตอนไหนเหรอครับ?"ลูหลี่ถามออกไปพร้อมกับพยายามทำให้ตัวเองใจเย็นลง
"มีบางอย่างที่ฉันจะต้องถามเธอก่อน" หมอชรากล่าวออกมาอย่างเคร่งเครียด "ถ้าเธอต้องการที่จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดีที่สุด รายละเอียดต่างๆของการศัลยกรรมนั้นสำคัญมาก และค่าใช้จ่ายของมันก็จะสูงไปด้วย"
"ไม่ต้องกังวลหรอกครับ ผมจ่ายได้โดยไม่กังวลเรื่องราคาเลย" ลูหลี่ตอบกลับไป
เขามีเงินประมาณ 3-4 ล้านเหรียญในบัญชีธนาคารของเขาและยังสามารถโอนเงินส่วนหนึ่งมาจากสมาคมกฏแห่งดาบได้ ถ้ายังไม่พอ เขาจะขายตัวให้กับแฟรี่น้ำ ซึ่งเรื่องเงินคงจะไม่มีปัญหาสำหรับเธอ
สำหรับมิตรภาพระหว่างเพื่อนแล้ว เธอคงเต็มใจที่จะช่วยเหลือเขากระมั้ง