ตอนที่แล้วจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 468
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 470

จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 469


บทที่ 469: การทดแทนที่แสนแข็งแกร่ง

มู่ฉีนั้นเลือกสโมสรอย่างรอบคอบ

เขาไม่มีทางเลือกสโมสรที่ไม่มีอนาคตอย่าง สโมสรสตาร์มูนหรือสโมสรหน่วยสืบราชการลับอิมพิเรียลแน่นอน นั้นเพราะเขายังคงหวังว่าจะได้กลับมาแข่งขันอีกครั้ง

ส่วนสโมสรของสมาคมดิสซี่คอส มู่ฉีก็ไม่ได้หวังที่จะให้แฟรี่น้ำเซ็นต์สัญญากับเขาหรอก เพราะทุกๆคนต่างรู้ดีว่าสโมสรนี้รับแต่ให้ผู้หญิงแข่ง

เห็นได้ชัดเลยว่า สายฟ้าสีเงินจากอาเซอร์การ์ดเองก็พยายามที่จะเข้าร่วมกับกลุ่มสาวในอดีตเหมือนกัน แต่เขาก็ถูกปฏิเสธไป พวกเธอบอกให้เขาไปที่ประเทศไทยก่อน และจะรับเขามาถ้าเขาไป"ทำความสะอาด" อย่างเหมาะสมแล้ว เมื่อเขากลับมา ...

เมื่อมู่ฉีได้รับการติดต่อจากแฟรี่น้ำให้มาหา เขาก็พบกับคนจากสมาคมกฏแห่งดาบด้วย

ไม่ใช่ว่าทุกคนก็บอกว่าพวกเขาทั้งคู่เป็นแฟนกันใช่ไหม? การจะทำสิ่งต่างๆด้วยความช่วยเหลือของแฟรี่น้ำคงจะช่วยให้ง่ายขึ้นสินะ

แฟรี่น้ำได้ทำตามสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ ในที่สุดมู่ฉีก็ได้มาหาลูหลี่เพื่อพูดคุย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เชิญคนให้มาคุยด้วยที่บ้าน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับการพบปะกันในบาร์แล้ว นี่เป็นเหมือนกับการแสดงความจริงใจของเขาออกมาจริงๆ

วันนี้แฟรี่น้ำนั้นว่างมาก เธอจึงมาด้วยเพื่อฆ่าเวลา

เมื่อเธอได้เห็นบ้านของลูหลี่ เธอจึงเอ่ยปากถามออกมา"ราคาเท่าไหร่เนี้ย?"

ลูหลี่ถอนหายใจออกมาอย่างสุขุม เขาไม่เหนื่อยหรอกที่จะพูดคำๆเดิมซ้ำไปซ้ำมา ในตอนนี้เขาแค่อยากรู้ว่าครอบครัวแบบไหนที่ให้กำเนิดผู้หญิงสาวที่แสนสวยงามคนนี้ขึ้น ไม่สิต้องสาวสวยที่แสนประหลาด

ไม่ต้องสงสัยเลย แฟรี่น้ำใช้ความงดงามของเธอเป็นอาวุธ มันจึงเป็นการยากที่จะมีคนเกลียดเธอ

หลังจากที่เธอได้เหยียบลงบนเกาะแล้ว แฟรี่น้ำก็เหมือนกับต้องการที่จะได้พื้นที่นี้มาอยู่ในการครอบครอง เธอใช้เหรียญทองไปกว่า 6000 เหรียญเพื่อชื้อปราสาทเล็กๆของเธอในเมืองลมวายุ ซึ่งมันดูสิ้นเปลืองมากและมันก็ยังไม่สามารถเทียบกับเกาะนี้ได้เลย

"ฉันซื้อให้น้องสาวของฉันนะ" เพียงประโยคเดียวของลูหลี่ ความต้องการของแฟรี่น้ำก็ได้หายไปในทันที

ในไม่ช้านั้นเอง แฟรี่น้ำก็ได้เห็นน้องสาวที่ลูหลี่พูดถึง เธอเป็นเด็กสาวตัวน้อยๆและในตอนนี้ก็มีกลุ่มเด็กข้างหลังของเธอที่กำลังไล่จับแฟรี่อยู่

แฟรี่น้อยคือ "สมบัติแห่งชาติ" ของดานาซัส ผู้เล่นโดยทั่วไปมักจะหลีกเลี่ยงไปจากมันเสมอ

อย่างไรก็ตาม แฟรี่ที่ถูกวิ่งไล่ไปมาไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรเลย มันหลบหลีกไปมาทั้งช้าและเร็ว ราวกับกำลังหยอกล้อเด็กน้อยอยู่

"ไม่มีทาง! นายมีพี่น้องหลายคนงั้นเหรอ?แฟรี่น้ำรู้สึกประหลาดใจ

เธอเป็นลูกคนเดียวและพ่อแม่ของเธอก็อยากให้เธอเป็นลูกคนเดียว แม้แต่ปู่ย่าตายายของเธอก็ยังไม่ได้มีพี่น้องมากมายขนาดนี้เลย

"ฉันมีพี่น้องแค่คนเดียวแหละ นี้น้องสาวของฉัน" ลูหลี่เองก็พูดออกมาด้วยความตกใจมากเหมือนกัน

เขาจำได้ว่าเขาออกไปในตอนบ่าย เขาทิ้งน้องสาวของเขาให้อ่านหนังสือหรือปลูกดอกไม้ในยามที่เธอเบื่อ เขาหายไปประมาณแค่ครึ่งวันเอง แล้วบ้านของเขามันกลายเป็นบ้านเด็กกำพร้าได้ไงฟ่ะ?

ใช่แล้ว เด็กพวกนี้คือเด็กกำพร้า

ลูหลี่จำบางคนได้ เบ็คกี้น้อยจากเมืองหวาย เธอกระโจนไปข้างหน้าเพื่อที่จะจับแฟรี่ที่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ โชคไม่ดีที่แฟรี่ได้หลบจากเธอไป ถึงแม้ว่าเธอจะล้มลงกับพื้น แต่เธอก็ไม่ได้ร้องไห้และลุกขึ้นมาพร้อมกับหัวเราะอีกครั้ง

ลูหลี่เคยพูดเรื่องเด็กกำพร้ากับน้องสาวของเขามาก่อน เขาบอกว่าพวกเขานั้นน่าสงสารมาก

เขาไม่เคยคิดเลยว่า ลูซินจะพาพวกเขาจากเมืองลมวายุมาเที่ยวเล่น

"งั้นพวกเขาก็เป็นเด็กกำพร้าสินะ น้องสาวของนายใจดีมากเลย "แฟรี่น้ำได้ยอมรับในตัวของเด็กพวกนี้อย่างรวดเร็ว เพราะยังไงพวกเขาก็เป็นมนุษย์เหมือนๆกัน

"ซินซิน!ลูหลี่ได้ตะโกนออกมา

ลูซินที่ได้ยินดังนั้นก็หันศีรษะไปหาพี่ชายของเธอ เธอกำลังจะกระโดดเข้าไปในตักของพี่ชายของเธอ แต่หลังจากที่เธอได้เห็นแฟรี่น้ำและมู่ฉี เธอก็ได้เปลี่ยนความคิดของเธอและเดินไปหาเขาเหมือนกับเด็กสาวทั่วไป

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นลูหลี่พาเพื่อนผู้หญิงมาที่บ้านด้วย

"นี่คือ มู่ฉี ส่วนนี่ก็คือแฟรี่น้ำ ... " ลูหลี่แนะนำตัวพวกเขาในขณะที่เขาแตะตัวน้องสาวของ ดูเหมือนว่าเธอจะดูสนอกสนใจมากเลยทีเดียว

"น้ำ ...แฟรี่น้ำ ... ถ้างั้นแล้วที่คนอื่นๆพูดก็เป็นเรื่องจริงสินะคะ? พวกพี่กำลัง... "ลูซินพึมพำก่อนที่จะปิดปากตัวเองด้วยความตกใจ

พวกเรากำลังทำอะไรงั้นเหรอ?

ลูหลี่และแฟรี่น้ำรู้สึกสับสน ทั้งสองคนเป็นผู้เล่นที่บล็อคช่องทางการติดต่อมากที่สุดในเกมและสนใจแค่การเล่นเกมเท่านั้น มันจึงทำให้ข่าวซุบซิบต่างๆไม่เคยเข้าหูพวกเขาเลย

สำหรับลูซินแล้ว การอยู่คนเดียวมันน่าเบื่อมาก

ความหลงใหลในการทำงานร้านขายยาของเธอมันหมดไปแล้ว และเธอก็ยังถูกห้ามจากลูหลี่ไม่ให้ทำกิจกรรมอะไรที่หนักๆด้วย ทั้งหมดที่เธอสามารถทำได้คือการอ่านหนังสือและปลูกดอกไม้ แต่ในเวลาว่างเธอก็ชอบดูฟอรัมข่าวเหมือนกัน

ถ้ามีข่าวเกี่ยวกับตัวของลูหลี่ เธอจะให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

เพราะเรื่องแผนที่สมบัติในอดีต จึงทำให้เรื่องของคู่รักของลูหลี่เข้าหูเธอ เธออยากจะพบกับแฟรี่น้ำมานานมากแล้ว แต่เธอไม่คิดเลยว่าเธอจะได้พบกับแฟรี่น้ำตัวเป็นๆ

พวกพี่กำลัง...? แน่นอนว่าเธอกำลังจะถามว่าพวกเขาเดทกันอยู่หรือเปล่า

ลูหลี่ได้พาแฟรี่น้ำมาที่บ้านแล้ว พวกเขาไปถึงขั้นไหนกันแล้วเนี้ย?

"ทำหน้ามุ่ยทำไหมห๊ะ?"ลูหลี่พูดขณะที่เขาบีบแก้มของน้องสาว" เอาผลไม้กับไวน์มาให้แขกของเราหน่อยสิ "

ลูซินที่ได้ยินแบบนั้นก็วิ่งไปที่ชั้นใต้ดินเพื่อนำเครื่องดื่มและขนมหวานบางอย่างมาด้วย ในขณะที่ลูหลี่ก็นำมู่ฉีและแฟรี่น้ำไปยังบ้านพักตากอากาศที่ตั้งอยู่กลางเกาะ ซึ่งนี้ก็เป็นที่ๆเขาจะพูดคุยกัน

"ฉันได้ยินจากเธอมาว่านายสนใจที่จะเข้าร่วมกับสมาคมกฏแห่งดาบใช่ไหม?"

ลูหลี่ไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาถามออกไปอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งมันแตกต่างไปจากตัวของสแควรูทสามมาก เขามักจะคอยกังวลกับสิ่งต่างๆเสมอ

"นั่นมันขึ้นอยู่กับความจริงใจของสมาคมกฏแห่งดาบ ฉันจะได้รับตำแหน่งอะไร หลังจากที่ฉันเข้าร่วมกับสมาคมกฏแห่งดาบล่ะ? แม้ว่าฉันจะอายุยี่สิบห้าปีในปีนี้ แต่ฉันก็ไม่สนใจที่จะเป็นโค้ช คู่ซ้อมหรือผู้ฝึกสอนผู้เล่นหรอกนะ "มู่ฉีกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว" สมาคมเปียเรสซิตี้เคยขอให้ฉันไปเป็นคู่ซ้อมด้วยราคากว่าสองล้าน แต่ฉันก็ปฏิเสธไป "

สองล้านสำหรับการดึงตัวผู้เล่นที่มีชื่อเสียงมาเป็นคู่ซ้อม ดูเหมือนว่าข่าวลือจะเป็นเรื่องจริง ที่สมาคมเปียเรสซิตี้ได้ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อการนี้

พวกเขาอาจจะไม่ประทับใจกับตำแหน่งของพวกเขาในปัจจุบันและยังต้องการที่จะเป็นแชมป์ในการแข่งขันอยู่

"สโมสรของเราเพิ่งสร้างขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เอง ในตอนนี้ มีเพียงฉัน มูนไลท์และมาสเรนที่ถือว่าเป็นนักแข่งมืออาชีพ เรามีผู้เล่นใหม่เข้าร่วมกับเราสองคน ดังนั้นแล้ว จึงไม่มีที่ว่างเลยในทีมหลัก อย่างไรก็ตาม ถ้านายเข้าร่วมกับเรา นายจะได้เป็นผู้เล่นตัวสำรองสุดแข็งแกร่ง"ลูหลี่กล่าวความตั้งใจของเขาออกมา

"แค่ตัวสำรองงั้นเหรอ?"

มู่ฉีไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนี้เลย เพราะเขาคิดว่าสมาคมกฏแห่งดาบคงจะมีผู้เชี่ยวชาญไม่พอ

ทำไมลูหลี่ถึงคิดว่ามาสเรนจะทำหน้าที่รักษาได้ดีกว่าตัวเขากัน? แม้ว่าตัวเขาจะไม่สามารถเอาตัวเขาไปเปรียบเทียบกับมาสเรนได้ เพราะเธอเป็นถึงแชมป์ของการแข่งขันถ้วยเงา แต่ยังไงเธอก็เป็นแค่ผู้เล่นใหม่ใช่ไหมล่ะ?

แน่นอน ว่าเขานั้นเคารพต่อตัวตนอันเป็นตำนานอย่างมูนไลท์ดี

มู่ฉีนั้นเป็นผู้เล่นยุคเดียวกับมูนไลท์ เมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ พวกเขาได้เล่นเกมพร้อมๆกันและพยายามอย่างหนักในการสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง

อย่างไรก็ตาม มูนไลท์เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญระดับสูง ส่วนเขาเป็นแค่ผู้เชี่ยวชาญระดับสองเท่านั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด