จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 456
บทที่ 456: สมรภูมิ
ลูซินไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าพี่ของเธอใช้เงินชื้อที่ไปแล้ว เธอในตอนนี้ก็ยังคงเลือกชื้อบ้านที่ดูจะมีราคาถูกอยู่
"น้องสาว เรากำลังจะไปกันแล้วนะ" ลูหลี่พูดในขณะที่เขาโบกมือไปมา
"โอ๊ะ เราจะไม่ชื้อบ้านกันแล้วเหรอ?"ลูซินถามกลับมาอย่างระมัดระวัง เธอคิดว่าพี่ชายของเธออาจจะเปลี่ยนความคิดก็ได้ เพราะบ้านแต่ละหลังนั้นมีราคาแพงจนเกินไป นอกจากนี้แล้ว พี่น้องคู่นี้ยังมีอะไรที่คล้ายกันอีก นั้นก็คือเรื่องตระหนี่เรื่องเงิน
เธอรู้สึกโล่งใจ แต่ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูหลี่ได้ชื้อบ้านที่แพงที่สุดในเกมรุ่งอรุณไปแล้ว เขาได้จ่ายเป็นเงินสดและไม่ได้มีความลังเลอะไรเลย นั้นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาให้ความสำคัญกับน้องสาวของเขามากแค่ไหน
ซึ่งในที่สุดลูหลี่ก็เข้าใจเหตุผลเบื้องหลังที่บ้านพวกนี้มีราคาถูกแล้ว ที่ราคามันต่ำก็เพราะว่าเมืองหลักเพิ่งจะเปิดให้ผู้เล่นเข้ามาเอง อีกหนึ่งเดือนถัดไป นั้นก็คงจะเป็นเวลาที่ราคาของบ้านเพิ่มสูงขึ้น
หลังจากที่เขาได้จ่ายเงินไปแล้ว ดราก็ได้ให้กระดาษกับลูหลี่ ซึ่งนั้นก็คือหลักฐานของการชื้อบ้าน
ไอเท็มชิ้นนี้ไม่สามารถดรอบหรือสร้างความเสียหายได้ แต่มันสามารถที่จะแลกเปลี่ยนได้ นอกจากนี้แล้ว เจ้าของบ้านสามารถตั้งค่าตัวบ้านได้ด้วย ตั้งแต่ต่ำสุดจนไปถึงระดับที่ผู้เล่นคนอื่นๆไม่สามารถเข้ามาที่บ้านได้
ซึ่งตัวของลูหลี่ก็ได้ตั้งค่าอนุญาติให้น้องสาวของเขามีอภิสิทธิ์รอบๆบ้านและยังสามารถใช้เฮิสสโตนในการกลับมายังตัวบ้านของพวกเขาได้ด้วย
ก่อนหน้านี้ หากพวกเขาใช้เทเลพอร์ต พวกเขาจะกลับไปยังโรงแรงที่พวกเขาเคยพัก แต่ในตอนนี้ พวกเขาสามารถเลือกที่จะเทเลพอร์ตว่าจะกลับไปที่โรงแรมหรือบ้านของพวกเขาได้ ซึ่งนี้ก็คือบริการพิเศษที่จะโผล่ออกมา หลังจากที่ระบบได้อัพเดทไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ลูหลี่ก็ยังคงเลือกที่จะเดินไปกับน้องสาวของเขาอยู่ดี
สำหรับค่าธรรมเนียมของเทเลพอร์ตในเมืองนั้นฟรี หลังจากที่พวกเขาได้มาถึงห้องโถงของเมืองแล้ว พวกเขาสามารถเลือกที่จะเทเลพอร์ตไปยังตำแหน่งต่างๆของเมืองได้ พวกเขาใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นในการเดินทางจากทิศเหนือไปยังทิศใต้ของเมือง ซึ่งในอดีตก็เคยมีคนที่จะลองทดสอบวิ่งไปโดยใช้พาหนะที่มีความเร็วอยู่ที่ 60% ผลก็คือ หากไม่ใช้เทเลพอร์ตแล้วเดินทางไปเอง คุณจะต้องใช้เวลาถึงครึ่งชั่วโมงในการเดินทาง
ทางใต้ของเมืองนั้นไม่ได้สิ่งก่อสร้างดีๆอะไรนัก แต่ที่นั่นกลับมี NPC ดีๆมากมาย อาทิเช่น ผู้ฝึกทักษะนักบวช ผู้ฝึกทักษะเล่นแร่แปรธาตุ นักเก็บสมุนไพร ผู้ฝึกสัตว์ นอกจากนี้แล้ว ลานประมูลยังอยู่ที่ทางด้านใต้ของเมือง มันจึงทำให้มีไอเท็มมากมายอยู่ที่นี้
ซึ่งหากเดินไปอีกเล็กน้อย คุณก็จะได้พบเข้ากับสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองดานาซัส อารามของเทพธิดาแห่งดวงจันทร์
ในฐานะที่เป็นเทพธิดาแห่งอาเซรอธเพียงคนเดียว อีลูน่าจึงมีชื่อเสียงไปทั่วทุกเผ่าพันธุ์
ซึ่งตัวของอารามของเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ก็ไม่ใช่อะไรที่จะได้เข้าไปง่ายๆ เพราะมีคนจำนวนมากที่อยู่รอบๆพื้นที่นี้ ส่วนใหญ่ก็จะมาเยี่ยมชมสวน เพราะนี้คือสวนสมุนไพรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเหล่าไนท์เอลฟ์
หลังจากผ่านสวนสมุนไพรไปแล้ว ก็จะมีทะเลสาบอยู่
เมื่อมองข้ามผ่านพุ่มไม้และหญ้าที่อยู่ไปทั่ว คุณก็จะเห็นสะพานเล็กๆที่เชื่อมไปยังทะเลสาบ ในบางครั้ง ก็จะมีเหล่าแฟรี่คอยมาเล่นด้วย บางครั้งก็มาร้องเพลงทำให้คนที่ฟังอยู่นั้นจิตใจสงบขึ้น
และมันคงจะไม่ฉลาดเลยหากไปทำร้ายแฟรี่ตัวน้อยพวกนั้น
พวกเธอนั้นเป็นเหมือนกับส่วนสำคัญของเหล่าเอลฟ์ชั้นสูงที่ตายไปจากสงครามของเผ่าพันธุ์ หากคุณเข้าไปทำร้ายพวกเขาล่ะก็ กองทหารเอลฟ์ที่ซ่อนอยู่ในพุ่มไม้จะเข้าโจมตีคุณในทันที
"บ้านของเราอยู่ในน้ำงั้นเหรอ?"ระหว่างทางนั้นลูซินได้ถามคำถามมากมายเลยทีเดียว เราชื้อบ้านที่ไหนงั้นเหรอ เราถึงหรือยัง เราถึงหรือยัง...
ความคิดของเธอในตอนนี้เหมือนกับคนเร่ร่อนที่ไม่ได้กลับบ้านมาแสนนานเลย ด้วยความที่เธอเป็นเด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน การที่เธอกำลังจะได้ย้ายเข้าไปยังบ้านหลังใหม่จึงถือว่าเป็นครั้งแรกของเธอ มันเป็นเรื่องยากสำหรับคนทั่วไปเลยที่จะสามารถจินตนาการถึงความรู้สึกของเธอในตอนนี้ได้
ลูหลี่จับมือน้องสาวของเขาขณะที่พวกเขาเดินขึ้นไปบนสะพาน พวกเขาใช้เวลาเดินไม่นานนัก ก็ได้เห็นกับเกาะใบไม้แดงผ่านสายตา
ชื่อของมันไม่ได้เหมือนกับที่จินตนาการนัก แต่มันก็อธิบายถึงภาพลักษณ์ของเกาะได้ดี หากมองจากระยะไกลแล้ว มันเป็นเกาะที่ถูกปกคลุมด้วยใบไม้สีแดงที่ตั้งอยู่บนน้ำที่ใสกระจ่าง ดูแล้วให้ความรู้สึกทั้งสงบและเฉื่อยช้าเลยทีเดียว
"นี่แหละ ทั้งเกาะนี้เลย" ลูหลี่พูดออกมาด้วยความรู้สึกผสมปนเปเล็กน้อย
"แต่ แต่ ... " เด็กสาวตัวเล็กๆเกือบจะน้ำลายไหลลงไป แต่เธอก็ได้คิดถึงประเด็นสำคัญได้ในทันที
"ราคาเท่าไหร่กันคะเนี้ย!"
"พี่เป็นคนแรกเลยที่ชื้อบ้าน ระบบจึงขายให้พี่แค่หนึ่งพันเหรียญทองนะ" ลูหลี่ได้กล่าวโกหกกับน้องสาวของเขา สำหรับน้องสาวของเขาแล้ว การที่ทำให้น้องสาวของเขาไม่คิดมากเกินไปคงเรื่องดีที่สุด ซึ่งตะกี้เขาเกือบจะบอกว่าเป็นรางวัลที่ชนะการแข่งขันถ้วยเงาไปแล้ว
ลูซินนั้นไว้ใจพี่ชายของเธอมาก เธอจึงคิดว่าพี่ชายของเธอไม่มีทางที่จะโกหกเธอ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอไม่ได้ห่วงเรื่องเงิน 1,000 เหรียญทองหรอกนะ
"นี่เป็นเกาะที่ทั้งใหญ่และก็สวยด้วย ตราบเท่าที่เกมยังเปิดอยู่ เราก็ยังสามารถที่จะอยู่ที่นี้ได้ตลอด เราไม่ได้เสียเงินเปล่าหรอกนะ "ลูหลี่กล่าวขณะที่เขาแตะไหล่ของน้องสาวของเขาและพาเธอไปรอบๆเกาะ
ลูซินรู้สึกทึ่งกับความสวยงามของเกาะและเริ่มอยากที่จะสำรวจที่นี้มากขึ้น
"บอสครับ คุณเสร็จธุระหรือยังครับ? เราทุกคนกำลังรออยู่ "
มีข้อความได้ถูกส่งมาในช่องแชทและมันก็ได้ขัดจังหวะของลูหลี่ จนทำให้เขาต้องหยุดสิ่งที่เขากำลังทำอยู่
"ลิง พวกนายเล่นโดยไม่มีฉันไม่ได้หรือไง? ฉันกำลังยุ่งอยู่นะ "ลูหลี่รู้สึกไม่ประทับใจเลย
"คุณกำลังยุ่งอยู่กับอะไรกัน? เราทุกคนรู้ว่าคุณอยู่ในเมือง พิกัดของคุณได้ถูกตรวจสอบตลอดเวลาเลยนะ ไปเข้าสมรภูมิกับเราเถอะ มันสนุกมากทีเดียว แต่เรามีคนไม่พอ ถ้าคุณมา แน่นอนว่าเราจะต้องชนะรวด"
ลิงอ้วนในตอนนี้อยู่ในสนามรบพร้อมกับคนอื่นๆจากสมาคม
ซึ่งเขาไม่ได้อยู่ในสนามรบของหุบเขาสีเทา เขากำลังอยู่ในสนามรบใหม่อยู่
ในแต่ละทีมจะมีผู้เล่น 10 คนและแย่งธงกัน ชัยชนะจะถูกประกาศก็ต่อเมื่อ มีทีมใดทีมหนึ่งสามารถขโมยธงไปครบสามธงได้
ลิงอ้วนนั้นเป็นคนที่กระตือรือร้นมาก เขาหลงใหลในการเล่นเกมและเขาก็พยายามที่จะเล่นในสนามรบใหม่ตลอดเวลา
แต่ช่างน่าสงสารนัก เขากลับไม่เคยเจอทีมที่ดีเลยสักครั้ง ครั้งแรกที่เขาเข้ามา ทีมของเขามีคนแค่แปดคนเท่านั้น มันเป็นการรุมยำอยู่ฝ่ายเดียว พวกเขาไม่สามารถแย่งธงได้เลยสักธง
หลังจากประสบการณ์ที่แสนเจ็บปวดได้เกิดขึ้นกับตัวของเขา นักเวทย์ไฟผู้ยิ่งใหญ่จึงได้เรียนรู้จากบาทเรียนนั้น โดยการหาคนจากสมาคมของตัวเองและเข้าไปในสนามรบนั้นอีกครั้ง
แต่สนามรบกลับถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วนตามระดับ ซึ่งตัวของเขาสามารถที่จะเข้าร่วมได้กับแค่ผู้เล่นที่มีระดับ 30-34 เท่านั้น
สมาคมกฏแห่งดาบนั้นมีผู้เล่นระดับสูงน้อยมาก หากเทียบกับสมาคมอื่นแล้ว
นอกจากนี้แล้ว ผู้เล่นส่วนใหญ่ก็มีทีมของตัวเองแล้ว ดังนั้น จึงมีคนไม่มากนักที่จะมาเล่นกับเขา
ในทางกลับกัน เมื่อลูหลี่ได้ถามชื่อของสมาชิกทีมของเขาที่ไป กลับมีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มา ซากุระ มาสเรนและมูนไลท์ พวกเขาทั้งหมดเป็นสมาชิกที่กำลังจะไปแข่งในการแข่งขันหน้า จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมพวกเขาถึงมากัน
อาเซอร์ซีบรีสเองก็บอกว่าไม่มีใครที่จะสามารถเอาชนะเขาได้ เขาจึงได้มายังสนามรบแห่งนี้เพือโชว์ศักยภาพของพลังป้องกันของเขา
ส่วนคนอื่นๆอย่าง ดอกไม้อ้างว้างและลูกชิ้นงาก็ไม่ต้องการที่จะเปิดเผยจุดอ่อนของตัวเอง พเนจรก็กำลังยุ่งอยู่กับการดื่มในบาร์ ส่วนความฝันที่เหลืออยู่ก็ได้พาสัตว์เลี้ยงของเธอไปเดินเล่นและฮาชิจังก็ยุ่งอยู่กับการฟักพาหนะวิญญาณมังกร ซึ่งใครก็ตามที่กล้ายุ่งกับเธอในตอนนี้ คงไม่พ้นที่จะถูกเธอสาปแช่งแน่นอน
ทีมของพวกเขาในตอนนี้มี อาเซอร์ซีบรีส มาสเรน มูนไลท์และลิงอ้วน มันช่างเป็นทีมที่ดูแข็งแกร่งจริงๆ ซึ่งในตอนนี้ พวกเขาต้องการผู้เล่นอีกไม่กี่คนเท่านั้นที่จะทำให้ทีมครบ
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีลูหลี่เข้ามาร่วมทีมแล้วล่ะก็ ความมั่นใจในชัยชนะของพวกเขาแทบจะไม่มีอยู่เลย นั้นจึงเป็นเหตุผลที่พวกเขาได้ส่งข้อความไปหาเขา
"พี่ควรจะไปนะ หนูเล่นอยู่ที่นี่รอก็ได้" ลูซินเป็นเด็กดีและพยายามที่จะให้พี่ชายของเธอไปร่วมกิจกรรมกับเหล่าเพื่อนๆ
"โอเค งั้นถ้าน้องต้องการจะชื้ออะไรล่ะก็ เขียนชื่อแต่ละอย่างไว้เลย พี่จะชื้อทุกๆอย่างในตอนที่กลับมาเอง หรือไม่ก็ น้องส่งข้อความไปหาสแควรูทสาม เขาจะหาทุกอย่างมาให้น้องได้อย่างแน่นอน" ลูหลี่พูดแบบนี้ออกมา เพราะเขารู้แล้วว่าเขาคงจะปฏิเสธไม่ได้ เพราะสนามรบนั้นเป็นที่ๆดีสำหรับการฝึก มันจึงเป็นเรื่องดี หากเขาได้ไปยังที่นั่น
ดังนั้นแล้ว แผนที่เขาจะใช้เวลาไปกับน้องสาวในบ้านหลังใหม่จึงเป็นอันสิ้นสุดไป